22 ก.ค. 2021 เวลา 02:59 • ความคิดเห็น
“ การผัดเพี้ยนต่อมัจจุราชผู้มีเสนาใหญ่ ย่อมไม่มีแก่เรา ”
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสุดท้ายยังเสด็จดับขันธปรินิพพาน เพราะเมื่อสังขารร่วงโรย กายมนุษย์หมดสภาพก็ต้องทิ้ง เสมือนคนทิ้งเรือนหลังเก่าไปหาเรือนหลังใหม่เป็นที่อาศัยพักพิง ถ้าถามว่าตายแล้วเราจะเอาทรัพย์สมบัติอะไรในโลกนี้ไปได้บ้าง คำตอบคือ ๆไม่มี
มีแต่บุญบาปที่จะติดตัวไป เพราะฉะนั้น วิธีเตรียมตัวก่อนตายที่ดีที่สุดคือ การหมั่นสร้างบุญสร้างกุศล
เคยมีคำสอนที่น่าสนใจถูกเขียนไว้ใต้โครงกระดูกให้เราได้คิดว่า
“ แต่ก่อนเราก็เคยเป็นเหมือนท่าน อีกหน่อยท่านก็ต้องเป็นเหมือนเรา ”
จริงไหม ที่แต่ก่อนโครงกระดูกนี้เคยมีเนื้อหนัง เคยเป็นหนุ่มสาว เคยแข็งแรงเหมือนกันกับเรา แต่อีกไม่นานตัวเราเองก็ต้องเป็นเหมือนโครงกระดูก รู้หลักความจริงของชีวิตอย่างนี้แล้ว ใครเตรียมตัวได้เร็วยิ่งได้เปรียบ ส่วนใครประมาทย่อมเสียเปรียบ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า
“ ความเป็นอยู่ของบุคคลผู้ไม่ประมาทแม้เพียงวันเดียว ประเสริฐกว่าความเป็นอยู่ของบุคคลผู้มีชีวิตอยู่ด้วยความประมาทนับร้อยปี ”
บุคคลผู้อยู่ด้วยความไม่ประมาท คือ คนที่รู้จักสร้างบุญสร้างกุศล สร้างที่พึ่งให้ตัวเอง ถึงคราวที่มัจจุราชมาเมื่อใดก็กลายเป็นบุคคลผู้ยิ้มเยาะมัจจุราชได้อย่างไม่กลัวเกรง ส่วนบุคคลที่อยู่ด้วยความประมาทคือ คนที่มักจะกระทำอะไรตามใจ หลงผิด สร้างบาปสร้างกรรม ไม่หมั่นสร้างบุญกุศลจึงมีบุญน้อย ยิ่งอยู่นานบาปยิ่งติดตัวมาก
ถ้าใครได้เรียนรู้เรื่องกฎแห่งกรรมจะรู้ว่า วิบากกรรมแต่ละชนิดก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้แตกต่างกันไป
หากมองในแง่ของภาพรวมโดยที่เรารู้แล้วว่า โรคร้ายเกิดจากวิบากกรรมในอดีตชาติ บวกกับกรรมที่ทำในปัจจุบัน เช่น คนที่เล่นเกมจนอดหลับอดนอน หรือมัวไปเที่ยวเตร่สรวลเสเฮฮา ดื่มเหล้าดูหนังฟังเพลง จมอยู่กับอบายมุขมันก็ป่วยเร็ว เรียกว่ากรรมปัจจุบันไปหนุนกรรมในอดีต
ทางแก้คือให้ปรับวิถีการดำเนินชีวิตในปัจจุบันให้พอเหมาะพอสม และต้องหมั่นสร้างบุญเข้าช่วย เช่น ทำบุญถวายภัตตาหารพระภิกษุสามเณร เป็นต้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “ ผู้ให้ข้าวชื่อว่าให้กำลัง ”
เราถวายข้าวปลาอาหารแด่พระภิกษุสามเณร ท่านบริโภคแล้วมีกำลังไปบำเพ็ญสมณธรรม ผู้ถวายก็ได้บุญได้กำลัง ผลบุญส่งให้มีร่างกายแข็งแรง หรือจะทำบุญถวายยารักษาโรค คิลานเภสัชให้กับพระภิกษุ พยาบาลพระภิกษุผู้ป่วยไข้ก็ได้บุญมาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
“ ถ้าผู้ใดปราถนาอุปัฏฐากเราตถาคต ให้อุปัฏฐากพระภิกษุไข้เถิด ”
สำหรับคนที่ไม่ประมาทเตรียมตัวพร้อมก็จะไม่ค่อยมีปัญหา แต่คนที่โรคภัยไข้เจ็บมาเยือนอย่างไม่ทันได้เตรียมตัวก็จะลำบากหน่อย สิ่งที่ควรทำคือ เราควรรักษาร่างกายให้ดีที่สุดเท่าที่มีกำลังจะทำได้ อาศัยตัวช่วย เช่น สวัสดิการค่ารักษาพยาบาลต่างๆ ของรัฐที่มีให้
ที่สำคัญรักษาใจเราไว้ให้ดี คือ เอาใจตรึกระลึกนึกถึงพระรัตนตรัยอย่างจริงจัง ซึ่งอาจจะยากหน่อยสำหรับคนที่ไม่ได้ฝึกเอาใจระลึกนึกถึงพระรัตนตรัยอยู่เป็นเนืองนิตย์แต่โรคภัยมาถึงตัวแล้วจึงต้องยอมทุ่มสู้เท่านั้น
เพราะฉะนั้น พวกเราส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังมีกำลังอยู่ ยังไม่เจ็บไข้ได้ป่วยจนอาการหนักหนาสาหัส ก็ไม่ควรประมาทท ช่วงเตรียมตัวรับมือกับความเจ็บป่วยนี่ล่ะสำคัญมากๆ อย่าคิดว่าเรื่องเจ็บป่วยเป็นเรื่องไกลตัว รวมทั้งต้องเรียนรู้ที่จะฝึกฝนตัวเองด้วยว่า ทำอย่างไรเราถึงจะป่วยช้าๆ ป่วยน้อยๆ
 
ทบทวนหลักปฏิบัติโดยย่อ คือ บำรุงร่างกายด้วยอาหารที่ถูกสุขลักษณะ กินให้เป็นเวลา พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และมีสภาพจิตที่ดี มีอารมณ์เบิกบาน ที่สำคัญต้องตั้งมั่นอยู่ในบุญหมั่นสร้างบุญสร้างกุศล รักษาอารมณ์ของเราให้ผ่องแผ้วอยู่เป็นเนืองนิตย์ เราจะเป็นคนมีร่างกายดี ที่ป่วยไข้ไม่สบายบ้างก็หายเร็ว กลายเป็นคนที่มีความสุขทั้งภพนี้ภพหน้าตลอดไป
ช่วงนี้ โควิด 19 กำลังระบาด ขอให้ทุกท่านหมั่นรักษาร่างกายให้แข็งแรง เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย อย่าประมาท ให้ยึดหลักพระพุทธศาสนา คือ ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ทุกท่านก็จะปลอดภัย
สุดท้ายนี้ ขออุทิศส่วนกุศล แด่ผู้สูญเสีย ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ขอเป็นกำลังใจให้กับ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่เสียสละตนเองเพื่อมาปกป้องชีวิตประชาชนทุกท่าน และเป็นกำลังใจให้กับทุกๆ ท่าน ที่กำลังเผชิญกับโรควิด 19 ขอให้ปลอดภัย
เจริญพร
โฆษณา