#17เพจสู่สรุปให้
.
17 เพจที่เซ็นเซแป๊ะเคยลองทำมา มีเพจที่ลงมือทำจริงจังและต่อเนื่องจริงๆ ประมาณ 3-4 เพจเท่านั้น เพจหลักพัน 1 เพจ และหลักหมื่นอีก 1 เพจ และเพจหลักแสนอีก 1 เพจ นั่นหมายความว่า ถ้ามีอะไรที่อยากทำ ให้ทำเลย ถ้าสิ่งนั้นทำให้ตัวเองดีขึ้น ทำให้สังคมดีขึ้น และไม่ได้กระทบใคร อย่าไปคิดนาน เซ็นเซแป๊ะก็เลยเปิดเพจเพิ่มตลอด เขาได้เรียนรู้ว่ามันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ไม่ต้องไปอายถ้าไม่มีคนติดตาม เพราะถ้าไม่ลองทำ ยิ่งน่าอายกว่า
.
เซ็นเซแป๊ะชอบคำพูดของคนญี่ปุ่นประโยคหนึ่งว่า “ถ้าคุณถาม 1 ครั้ง คุณจะอายแค่ครั้งเดียว แต่ถ้าคุณไม่ถามไม่ลองทำคุณจะอายอยู่อย่างนั้นไปตลอดชีวิต” และ 17 เพจนั้นก็ได้สอนเซ็นเซว่าการทำเพจนั้นไม่มีสูตรสำเร็จ ต้องลองทำ และเรียนรู้ และลองทำไปเรื่อยๆ
.
ปัจจุบันเซ็นเซแป๊ะทำเพจหลักอยู่เพจเดียวคือเพจ “สรุปให้” เพราะเขาอยากโฟกัส ไม่ได้มีทีมเยอะ และการทำเพจให้สม่ำเสมอต้องใช้เวลา เขาเคยลองทำสองเพจพร้อมกันแล้วกลายเป็นว่าทำได้ไม่ดีทั้งสองเพจ จึงตัดออกเหลือแค่เพจที่คิดว่าน่าจะสร้างคุณค่าให้สังคมได้เยอะที่สุดดีกว่า
.
.
#เคยอยากเลิกทำสรุปให้ไหม?
.
เซ็นเซแป๊ะเคยอยากเลิกทำเพจบ่อยมาก บางครั้งก็ท้อมาก แต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะต้องเจอ เซ็นเซแป๊ะเล่าว่าคอนเท้นไหนที่เป็นกระแสมากๆ คนที่มาเห็นจะมีหลายประเภทมาก บางทีเขาไม่ได้มองสิ่งนั้นในมุมเดียวกับเรา ทำให้โดนกระแสตีกลับค่อนข้างรุนแรง
.
มีครั้งหนึ่งช่วงโควิดแรกๆ เซ็นเซแป๊ะออกมาแชร์มายด์เซ็ทเกี่ยวกับ Entrepreneurship หรือความเป็นผู้ประกอบการ เซ็นเซแป๊ะอยากถ่ายทอดว่าตอนเป็นผู้จัดการต้องคิดอะไรและทำยังไง แล้วพอออกมาทำอาชีพอิสระต้องทำยังไงให้รอดทั้งสองฝั่ง มันมีแก่นอะไร วิธีคิดอะไรที่พอมาแชร์กันได้และจะทำให้ไม่ตกงาน แต่เนื่องจากคำพาดหัวอาจจะฟังดูรุนแรงเกินไป หลายคอมเมนต์ก็ไปในทางไม่พอใจว่า “คุณไม่ใช่ผมไง คุณจะเข้าใจอะไร สอนคนอื่นเก่งนักแหละตัวเองทำได้ไหมล่ะ” ตัวเซ็นเซแป๊ะเองก็พยายามไม่ตัดสินคน ใครทำไม่ได้ก็พยายามให้กำลังใจกัน
.
“ยิ่งเพจเราโตมากเท่าไรเรายิ่งเจอแบบนี้เยอะ และเรายิ่งต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น ถามว่าเลิกไหม บอกเลยว่าคิดบ่อยมาก แต่ก็เลิกไม่ได้ ให้เรานึกว่าเวลาเราโดนด่าครั้งหนึ่ง แต่ก็มีคนที่ชอบคนที่รู้สึกขอบคุณและรู้สึกมีประโยชน์มากกว่าคนที่เกลียด เราก็มองตรงที่เป็นประโยชน์ดีกว่าแล้วก็ทำต่อไป”
.
.
#เคล็ดลับของเพจสรุปให้
.
เคล็ดลับที่เพจประสบความสำเร็จและยืนยาว คือการมีพาร์ทเนอร์ที่ดี พาร์ทเนอร์ที่ดีจะช่วยเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ช่วยแบ่งเบางานและคงไว้ซึ่งความสม่ำเสมอ ตอนนั้นเซ็นเซแป๊ะได้เจอเซ็นเซเล็กจากการเป็นวิทยากรด้วยกันที่โตโยต้า ตอนนั้นต่างคนต่างทำเพจเกี่ยวกับเรื่องลูก ก็เลยชวนมาทำเพจร่วมกัน แม้ว่าปัจจุบันเซ็นเซเล็กจะเปลี่ยนเส้นทางการไปสู่การเป็นที่ปรึกษาระดับประเทศแล้ว แต่จนถึงตอนนี้เขาก็เป็นพาร์ทเนอร์คนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง
.
นอกจากนี้เมื่อก่อนเซ็นเซแป๊ะมีเพจหลักหมื่นอยู่เพจหนึ่ง แล้วเวลาลงโพสต์สรุปหนังสือกระแสตอบรับจะดีตลอด เซ็นเซแป๊ะเลยลองสร้างเพจแยกออกมา กลายมาเป็นเพจ “สรุปให้” ซึ่งเป็นเพจที่มีจุดประสงค์ชัดเจนมากว่าเป็นเพจสรุปหนังสือ เพื่อคนที่รักการเรียนรู้ และสามารถช่วยประหยัดการเรียนรู้ให้พวกเขาได้ พอจุดประสงค์ชัดเจน เพจก็จะสามารถเติบโตต่อไปได้ง่าย บางช่วงก็มีผู้ติดตามเพิ่มวันละพันคน เพราะมีอินฟลูเอนเซอร์มาช่วยแชร์ให้อย่าง พี่หนุ่ม จักรพงษ์ เมฆพันธ์ หรือ พี่บอย วิสูตร ซึ่งเซ็นเซแป๊ะคิดว่าการที่มีเพจใหญ่ที่มีผู้ติดตามมากขนาดนั้นเลือกที่จะแชร์คอนเทนต์ของเขาแปลว่าโพสต์ที่ทำไปมันมีคุณค่ามากพอที่จะเพจเหล่านั้นจะแชร์ให้ฐานผู้ติดตามได้อ่านได้
.
เมื่อก่อนเพจแรกๆ ของเซ็นเซแป๊ะกว่าจะโตได้ 4-5 หมื่นใช้เวลา 4 ปี แต่สรุปให้กลับใช้เวลาเพียงแค่ 4 เดือน ดูจากตัวเลขก็น่าจะบอกได้แล้วว่าเพจนี้น่าจะเป็นเพจที่สร้างคุณค่าให้สังคมได้เยอะ ดังนั้นจึงโฟกัสการทำเพจนี้มากเป็นพิเศษ
.
.
#ความสำคัญของการสรุป
.
เซ็นเซแป๊ะมองว่าการสรุปเป็น Future Skill เพราะเป็นทักษะที่ AI ยังทำแทนไม่ได้ คนที่สามารถตกผลึกอะไรที่ซับซ้อนแล้วมาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจได้ง่ายจะเป็นคนที่องค์กรต้องการมาก นอกจากนี้ยิ่งโลกมีข้อมูลมากขึ้นเท่าไร ทักษะการสรุปยิ่งจำเป็นมากขึ้นเท่านั้น ปัจจุบันข้อมูลนั้นเยอะมากจนล้นโลก ใครที่สรุปเก่ง และช่วยประหยัดเวลาชีวิตคนฟังได้ แปลว่าคุณกำลังทำให้คนอื่นๆ มีเวลาชีวิตที่มากขึ้น ยังไงคนก็รักคุณ เพราะฉะนั้นทักษะสรุปจึงจำเป็นกับทุกคน เดี๋ยวนี้ทุกอย่างในโลกสั้นลง ทั้งเพลง ยูทูบ พอดแคสต์ ทุกอย่างสั้นลงทุกวันเพราะคนชอบอะไรที่สั้นและประหยัดเวลา
.
.
#เป้าหมายในอนาคต
.
เซ็นเซแป๊ะเจอ Ikigai (ความหมายของการมีชีวิตอยู่) ของตัวเองแล้วซึ่งก็คือการเขียนหนังสือ ในระยะ 10 ปีที่จะถึงจึงอยากให้เป็นช่วงที่คืนประโยชน์ให้สังคม และเร็วๆ นี้ก็จะมีแอปพลิเคชั่นสรุปให้ เพื่อเป็นแพล็ตฟอร์มสรุปสิ่งที่มีประโยชน์ และะให้ทุกคนเข้าไปเรียนรู้ได้ในต้นทุนที่ต่ำมาก ส่วนความฝันสูงสุดคืออยากเป็นนักเขียนล้านเล่ม ซึ่งต้องทำไปเรื่อยๆ และอยากทำไปจนเกษียณ
.
การที่สรุปให้โตได้ขนาดนี้ไม่ได้เกิดจากการทำคอนเทนต์ของคนเพียงคนเดียวแต่เกิดจากการเชิญชวนคนที่อยากแบ่งปันความรู้และชอบการอ่านเข้ามาช่วยทำเพจผ่านการเรียน โดยเซ็นเซแป๊ะจะสอนทักษะการสรุปให้ เป็นคอร์สเรียนที่มีค่าคอร์สปกติ แต่มีลูกเล่นคือถ้าผู้เรียนสรุปหนังสือได้ครบ 5 เล่ม ถือว่าได้คืนคุณค่าให้กับสังคมแล้ว เซ็นเซแป๊ะก็จะคืนเงินค่าคอร์สให้ทั้งหมดพร้อมแถมเสื้อสรุปให้ ซึ่งคนที่เรียนจบคอร์สก็จะได้ทั้งความภูมิใจในตัวเอง ได้เห็นคอนเทนต์ตัวเองบนเพจสรุปให้ บางโพสต์มีคนเห็นมากเป็นล้านก็มี เซ็นเซแป๊ะอยากเชิญชวนทุกคนที่สนใจมาสมัคร รุ่นที่ 6 ที่กำลังจะเปิดรับสมัครในเดือนกรกฎาคมนี้
.
.
#สรุปประสบการณ์ชีวิต
.
ถ้าจะแทนตัวเซ็นเซแป๊ะด้วยประโยคเดียวเพื่อสรุปเรื่องราวของทั้งชีวิต เซ็นเซแป๊ะขอแทนตัวเองด้วยประโยคที่ว่า “เล็กน้อย สม่ำเสมอ เท่ากับมหาศาล” คือการลงมือทำเล็กๆน้อยๆแต่มีวินัยในการลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ จะได้ผลลัพธ์ออกมามหาศาล 3 สิ่งนี้ประกอบขึ้นมาเป็นตัวตนของเซ็นเซ นอกจากนี้เซ็นเซยังฝากถึงทุกคนว่าการลงมือทำคือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ การคิดเก่งก็ดี แต่การทำเยอะอาจจะดีกว่า
.
.
#careerfact #cariber
………………
Career Fact เพราะทุกอาชีพ... มีเรื่องราว
เรียนรู้จากคนที่ประสบความสำเร็จในแต่ละแวดวงได้ที่ https://www.cariber.co/ แพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงความรู้และประสบการณ์จากผู้นำองค์กรและผู้เชี่ยวชาญในทุกแวดวง ไร้ข้อจำกัดด้านสถานที่และเวลา