25 ก.ค. 2021 เวลา 06:28 • นิยาย เรื่องสั้น
นิวยอร์ก ห อกหัก
บทสรุป
ค่ำคืนหนึ่ง ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง มีชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่เพียงลำพัง
ชายคนนั้น คือผมเอง ผมมานั่งรอใครคนหนึ่ง คนคนนั้นคือเพื่อนของผม
มันชื่อโอ๊ต
เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ผมไม่ได้เจอกับมันคนนี้
จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกัน...
ตอนนั้น ก่อนที่ผมจะเดินทางไปนิวยอร์ก
และระหว่างที่ผมกำลังเพลิดเพลินกับการรอคอย เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลังของผม
“เฮ้ย โทษทีว่ะ รถแม่งโคตรติดเลย” มันก็คือโอ๊ต เพื่อนที่ผมกำลังรออยู่ “เดี๋ยวไอ้หนึ่งกำลังตามมา”
“อ้าว ไอ้หนึ่งมาได้เหรอ กูโทรไปชวนแม่งบอกว่าติดงานด่วน” ตอนแรกผมโทรชวนเพื่อนหลายคน แต่วันนี้ดูเหมือนทุกคนจะยุ่งกันหมด
“เออ แต่พอกูบอกว่ามึงเลี้ยง มันเลยรีบว่างเลย” โอ๊ตพูดจบก็หัวเราะชอบใจ
“กูว่าแล้ว ไอ้ระยำ” ผมสบถด่าเพื่อนสุดที่รักเบาๆ
“น้อง ขอแก้วใบนะ” โอ๊ตหันไปสั่งกับเด็กเสิร์ฟ “แหม แต่ช่วงหลังนี้มึงหายไปเลยนะเนี่ย”
“เออ ก็ต้องทำงานสิวะ และก็ต้องประหยัดหน่อย เงินเก็บแม่งแทบไม่เหลือแล้ว” เงินเก็บเกือบทั้งหมด ที่ผมได้ขนเอาไปทิ้งที่นิวยอร์กเรียบร้อย
“เหรอ กูนึกว่ามึงยังทำใจไม่ได้” โอ๊ตรินเหล้าใส่แก้ว แล้วหันมาส่งยิ้มหวานๆ ให้ผม
“ทำใจไม่ได้อะไร ระดับกู เดี๋ยวนี้กูแกร่งแล้วโว้ย”
“แกร่งเหรอ นี่แน่ะมึง” ...ผัวะ !!!
วัตถุรูปพรรณคล้ายฝ่ามือฟาดลงบนหัวของผม ด้วยน้ำหนักที่พอเหมาะ ผมหันกลับไปดู
“ไอ้เหี้ยหนึ่ง สัด เจ็บนะโว้ย” เป็นหนึ่งที่ตามมาเติมเกม
“อ้าว ไหนมึงบอกว่าเดี๋ยวนี้มึงแกร่งไง” หนึ่งกับโอ๊ตหัวเราะชอบใจ
“ห่า ให้เวลากูเตรียมแกร่งก่อน อย่าเล่นทีเผลอดิวะ กูยังไม่พร้อม” ผมพูดพร้อมจับหัวของตัวเอง หนึ่งมันตบแรงใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย
“งั้นถ้าพร้อมเมื่อไหร่บอกพี่ด้วยนะ รอตบอยู่เหมือนกัน”
“พี่แอน” เจ้าของประโยคก่อนหน้านี้คือพี่แอน “ไหนบอกว่าวันนี้ต้องพาลูกค้าไปเลี้ยงไง”
“ใครบอก คนอย่างพี่ ไม่ชอบเลี้ยงใคร แต่ชอบให้มึงเลี้ยงพี่” พี่แอนตอบยิ้มๆ
“โห นี่กะแดกฟรีกันทุกคนเลยเหรอนี่” เพื่อนรักกันทั้งนั้น
และหลังจากนั้นก็มีเพื่อนคนอื่นๆ ทยอยตามกันมาเรื่อยๆ ซึ่งก็เป็นผลงานของหนึ่งกับโอ๊ตตามมาทั้งนั้น
“เฮ้ย มึงรีบมาเลย ไอ้อาร์มมันเลี้ยง”
“เออ เต็มที่เลยนะพวกมึง...สัด ” ผมเริ่มทำใจกับเหตุการณ์ที่กำลังตามมา “แต่กูมีทั้งตัวสองร้อยนะ เต็มที่เลย ระยำ”
1
ดีเหมือนกัน นานแล้วที่เพื่อนๆ ไม่ได้รวมกันเยอะอย่างนี้
“เฮ้ย ไอ้อาร์ม มึงดูน้องเด็กเสิร์ฟคนนั้นเดะ” โอ๊ตชี้ให้ผมดูเด็กเสิร์ฟที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งของร้าน “กูดูเค้ามานานแล้ว เห็นเค้าแอบดูมึงบ่อยๆ กูว่าเค้าชอบมึง” โอ๊ตมามุกเดิมอีกแล้ว
“เออ ใช่พี่ก็เห็น เค้าชอบมึงแน่ๆ เชื่อพี่ ผู้หญิงด้วยกันดูออก” พี่แอนก็มามุกเดิมอีกคน
“มึงเข้าเลย มึงเข้าเลย” หนึ่งเข้ามาบวกอีกแรง
“ไม่เอาอ่ะ” ผมพยายามปฏิเสธ “ไม่รู้จะเข้าไปคุยอะไร”
“แหม จริงๆ มึงก็อยากใช่มั้ยล่ะ” โอ๊ตหันมาแซว
“บ้า... สัด” ผมด่าแบบเขินๆ... จริงๆ แล้วน้องเค้าก็น่ารักดีนะครับ
“เอาอย่างนี้ มึงเข้าไปขอยืมไฟแช็คให้พี่หน่อย” พี่แอนเสนอแผน
“เฮ้ย ไฟแช็คผมมี” หนึ่งยื่นไฟแช็คให้พี่แอน
“เสือกเลย ไอ้หนึ่ง จะให้ไอ้อาร์มมันเข้าไปคุยกับน้องเค้า” พี่แอนโวยหนึ่ง แล้วหันมาคุยกับผมต่อ “ไปเลย เชื่อพี่ เค้าชอบมึง ผู้หญิงด้วยกันดูออกจริงๆ...เอาอย่างนี้ ถ้ามึงเข้าไป แล้วไปขอถ่ายรูปคู่กับน้องเค้าได้นะ คืนนี้...พี่เลี้ยงเอง”
คำประกาศของพี่แอนครั้งนี้ ช่วยเสริมสร้างกำลังใจให้ผมอย่างมาก สบายแล้วเรา เพื่อนๆ คนอื่นก็เฮกันลั่น
“ได้เลยพี่” ผมบอกพี่แอน แล้วหันไปหาเพื่อนๆ คนอื่น “เดี๋ยวพวกมึงคอยดู”
งานง่ายๆ สบายๆ ตอนนี้เริ่มเมาได้ที่แล้วด้วย ความกล้าเริ่มพอกพูน ผมเดินตรงเข้าไปขอไฟแช็ค แล้วก็พูดคุยกับน้องเค้านิดหน่อย น้องเค้าชื่อน้องจูน เพิ่งมาทำงานที่นี่ได้ไม่นาน
“มิน่า พี่ไม่เคยเห็นเลย” จริงๆ ก็สมควรที่จะไม่เคยเห็นล่ะ เพราะครั้งสุดท้ายที่ผมมาที่ร้านนี้ ก็ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว ก่อนที่ผมจะไปนิวยอร์ก “เดี๋ยวพี่ขอถ่ายรูปคู่ด้วยได้มั้ย”
ทุกอย่างง่ายราวปลอกกล้วยเข้าปากช้าง น้องจูนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ภารกิจสำเร็จ ผมเดินกลับมาที่โต๊ะเพื่อรับรางวัล และเมื่อกลับมาถึง สิ่งที่อยู่บนโต๊ะ นั่นก็คือเค้กก้อนใหญ่ที่เพื่อนๆ เตรียมเอาไว้ให้ที่หน้าเค้กมีเทียนปักรอแค่ไฟมาจุดเท่านั้น
“แฮปปี้เบิร์ทเดย์โว้ย!!!!”
วันนี้คือวันที่ 10 เดือนมีนาคม ทุกคน...ยังไม่ลืมวันเกิดของผม
...
เวลาผ่านไป...บรรยากาศบนโต๊ะตอนนี้เริ่มเบาบางความคึกคักลงไป หนึ่งหลับไปแล้ว และท่าทางโอ๊ตกำลังจะตามไปติดๆ บางคนก็ขอตัวกลับบ้านไปบ้าง ส่วนพี่แอนยังนั่งยิ้มสลับนั่งจิบแบบสบายๆ ผมเพลาอัตราการดื่มให้ช้าลง แล้วเปิดโทรศัพท์เล่นไปเรื่อยเปื่อย
ในเฟซบุ๊กตอนนี้มีเพื่อนๆ หลายคนที่ทยอยเข้ามาอวยพรวันเกิดให้ผม หนึ่งความสวยงามของโลกโซเชียลมันก็คงเป็นตรงนี้นี่แหละ หลายคนที่ไม่รู้จักกัน ไม่เคยพบหน้า ไม่เคยพูดคุย แต่ก็มีกะใจแวะเวียนเข้ามาอวยพรวันเกิดให้ผม ผมไล่กดไลค์ขอบคุณแต่ละคนไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง...
'แฮปปี้เบิร์ทเดย์นะ ขอให้เธอมีความสุขมากๆ นะ ตาบ๊อง'
ข้อความที่แสนธรรมดา แต่มันกระแทกใจผมอย่างแรง มันเป็นข้อความที่ถูกส่งมาจาก View Wow
ตั้งแต่กลับจากนิวยอร์กผมไม่เคยติดต่อไปหาเธอเลย และเธอก็ไม่เคยติดต่อมาหาผม จนกระทั่งวันนี้
เวลาที่ผ่านมาผมพยายามเยียวยาตัวเองจนกระทั่งตอนนี้อาการของผมดีขึ้นมาก ผมทำใจได้ไปหลายระดับ แล้วได้กลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง... ส่วนเธอล่ะ ตอนนี้เธอจะเป็นยังไงบ้าง
ผมตัดสินใจกดเข้าไปดูที่หน้าเฟซบุ๊กของเธอ
ภาพแรกที่เห็นคือภาพที่เธอกำลังกินสลัดกับเพื่อนๆ มีเอ๋กับเปิ้ลอยู่ในภาพด้วย
ภาพที่สองคือภาพตอนที่เธออยู่ที่ทำงาน เธอยังทำงานที่ร้านเดิม
ภาพต่อมาคือภาพตอนที่เธออยู่ที่ห้อง ห้องใหม่ของเธอ เธอย้ายไปอยู่ห้องใหม่ และฟูกที่อยู่ด้านหลังนั้นก็คงเป็นฟูกที่ผมซื้อให้เธอ
ทุกๆ ภาพที่เห็น เธอก็ยังดูเหมือนเดิม แต่รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้านั้น ดูเธอมีความสุขมากกว่าตอนที่ผมอยู่ที่นั่น...
แต่เดี๋ยวก่อนนะ...
ผมเพิ่งสังเกตว่าทุกๆ ภาพนั้น มันมีอะไรบางอย่างที่เหมือนกัน โพสต์รูปของเธอมีการติดแท็คใครบางคนตลอด with Ton Mai Yai ...มันเหมือนเป็นภาพคุ้นตา เพียงแต่เมื่อก่อนที่ตรงนี้มันเป็นชื่อ Arm strong ซึ่งนั่นเป็นชื่อของผม แต่วันนี้ มันกลายเป็น Ton Mai Yai…
Ton Mai Yai มันเป็นใครตอนที่ผมไปนิวยอร์กเคยเจอมันมั้ย ความอยากรู้ช่างมีพลังเกินห้ามใจ ผมกดเข้าไปดูที่หน้าเฟซบุ๊กของมัน อยากขอดูหน้าซักหน่อย
ในหน้าเฟซบุ๊กของ Ton Mai Yai ใช้รูปโฟร์ไฟล์ไม่ตรงปกอีกแล้ว แต่นี่ไม่ใช่แนวบ้าดาราเกาหลีแบบดุ่ย มันเป็นพวกคลั่งไคล้ในธรรมชาติ เข้าไปในอัลบัมภาพโปรไฟล์มีรูปต้นไม้ใหญ่เต็มไปหมด สมกับชื่อของมันจริงๆ
ว่าแล้วผมก็เลยหันไปส่องทางโพสต์ของมันแทน หน้าเฟซบุ๊กของมันไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว ท่าทางจะไม่ใช่คนที่ชื่นชมโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คซักเท่าไหร่ ผมไล่สายตาย้อนกลับไปเรื่อยๆ จากเดือนมีนาคม เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ แล้วเลยมาถึงเดือนมกราคม ส่วนใหญ่จะเป็นคนอื่นที่แท็คมันเข้ามาทั้งนั้น
และส่วนใหญ่ของส่วนใหญ่ก็เป็นโพสต์ของ View Wow
ผมไล่มาจนถึง วันที่ 1 มกราคม 2013
นั่นเป็นวันที่ผมเดินทางกลับประเทศไทย แล้วผมก็ได้เจอกับโพสต์ที่น่าสนใจอันหนึ่ง หัวข้อของโพสต์นี้คือ
Countdown Times square ซึ่งนั่นก็เป็นโพสต์ที่คนอื่นแท็คเข้ามาอีกที ผมกดเข้าไปดู...
ภาพในจอโทรศัพท์เริ่มเคลื่อนไหว เสียงโห่ร้องกึกก้องดังสวนออกมา หน้าของผู้ชายคนหนึ่งปรากฏที่หน้าจอ เป็นคนที่ผมไม่รู้จัก และไม่เคยเห็นหน้า แล้วเขาก็พูดกับกล้อง...
“ตอนนี้เราอยู่ที่ไทม์สแควร์นะฮะ เดี๋ยวก็จะข้ามปีแล้ว เรามานับถอยหลังพร้อมกันนะฮะ” แล้วเขาคนนั้นก็หันไปคุยกับผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ “เดี๋ยวพอข้ามปีแล้วเราต้องจูบกันนะ มันเป็นธรรมเนียมที่นี่”
ท่าทางผู้หญิงคนนี้ คงเป็นแฟนกับคนที่ถือกล้องอยู่ ซึ่งผมก็ไม่รู้จักเธอคนนี้เช่นกัน
ภาพในจอเคลื่อนไหวไปจนกระทั่งถึงช่วงเคาท์ดาวน์
“5…4…3…2…1…เฮ้......” เสียงโห่ร้องที่ดังออกมากึงก้องยิ่งกว่าเดิม
“มาเธอขอจูบหน่อย ขอจูบหน่อย” คนถือกล้องพยายามเข้าไปจูบผู้หญิงคนเดิม
“ไอ้บ้า” แต่ผู้หญิงปฏิเสธ ทว่าเธอก็หัวเราะชอบใจอยู่
หลังจากพยายามไม่สำเร็จ ผู้ชายที่ถือกล้องก็เลยหันกล้องมาอีกด้าน เห็นผู้ชายอีกคนหนึ่งยืนอยู่ คนนี้ผมว่าหน้าคุ้นๆ นะ เหมือนเคยเจอที่ไหนแต่ผมจำไม่ได้
“เป็นไงบ้างครับ บรรยากาศวันนี้” ผู้ชายคนถือกล้องถาม
“สุดยอดครับ” ผู้ชายคนที่อยู่ในกล้องตอบ
“แล้วทางนี้ละครับเป็นยังไง” ผู้ชายคนที่ถือกล้องถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ กล้องค่อยแพนไป
“ดีค่ะ”...
และเธอคนนั้น คือวิว...
คืนวันที่ 31 ธันวาคม คืนที่ผมอยู่นิวยอร์ก คืนที่ผมนั่งรอเธออยู่ที่หน้าบ้าน คืนที่ผมชวนเธอไป Times square แต่เธอปฏิเสธ เพราะบอกว่าคืนนั้นเธอต้องไปทำงาน
แต่ผู้หญิงคนที่ในจอโทรศัพท์ตอนนี้ คือเธอ... เธอไปอยู่ที่นั่น
“ต้น มึงจูบเลย ข้ามปีใหม่เค้าต้องจูบกัน” ไอ้ที่ถือกล้องตะโกนเชียร์...
ต้น...
เดี๋ยวนะ ผมนึกออกแล้ว มันคือผู้ชายที่ผมเจอวันที่ผมเอาดอกไม้ไปให้วิวที่ร้านนั่นเอง ผมเคยเจอมัน วันนั้น มันกวาดพื้นอยู่ที่หน้าร้าน และผมก็ได้คุยกับมัน ที่แท้ก็เป็นมัน
ภาพบนหน้าจอหยุดอยู่แค่ตรงนั้น ผมไม่รู้ว่าสรุปแล้ว ไอ้ต้นมันจะจูบวิวรึเปล่า แต่ถึงรู้ตอนนี้มันก็ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว
...
หลังจากที่ได้ดูคลิปนั้นแล้ว ผมรู้สึกสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่าผมคิดยังไงกับคลิปที่เพิ่งได้ดู
มันมีความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเปเต็มไปหมด มันอาจจะเป็นความรู้สึกแค้น ผสมเจ็บใจนิดหน่อย และแอบโกรธอยู่ไม่น้อย แต่ทุกความรู้สึกที่มีนั้น กลับไม่มีความรู้สึกเศร้าเสียใจใดๆ อยู่เลย
แม้จะบอกว่าเวลาที่ผ่านมาผมพอทำใจได้แล้ว แต่ทุกครั้งที่ผ่านมานั้น มันไม่เคยง่ายดายอย่างนี้ ตอนที่เลิกกับแก้วผมช้ำเป็นปี กับพลอยก็หลายเดือน ขนาดฝนที่เคยคบกันได้ไม่นานสุดท้ายก็ฟูมฟายอยู่พักใหญ่...
แต่สำหรับวิว คนที่ผมจริงจัง คิดว่าเป็นคนที่เราอยากจริงใจ คิดว่าเธอเป็นคนที่ใช่ ขนาดนั้นแล้ว ทำไมตอนนี้ผมไม่รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย หรือว่ามันเป็นเพราะความชินชา เพราะเจ็บช้ำมาตั้งหลายครั้ง
บทเรียนที่ผ่านมาทำให้ร่างกายเลยเริ่มมีการสร้างภูมิต้านทาน มันคงเรียนรู้แล้วว่าเมื่อมีพบก็ต้องมีจาก แล้วสุดท้ายก็จะมีใครคนใหม่เข้ามาในชีวิต ทุกอย่างยังคงวนเวียนอย่างนี้เรื่อยไปไม่จบสิ้น
วันที่ฝนทิ้งผม ไม่นานพลอยก็เข้ามา แล้วเมื่อพลอยอำลา ก็มีคนใหม่มาเป็นแก้ว แล้วหลังจากแก้วก็มาถึงวิว จนกระทั่งวิวจากไป และต่อจากนี้ผมก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโชคชะตาที่จะนำพาใครเข้ามาอีกครั้ง ซึ่งไม่แน่ก็อาจจะเป็นน้องเด็กเสิร์ฟที่อยู่ข้างหน้าผมตอนนี้ก็ได้
“แน่ะ มองเค้าใหญ่เลยนะมึง เอาเลย เค้าชอบมึง เชื่อกู ผู้หญิงด้วยกันเค้าดูกันออก” พี่แอนยังคงนั่งดริ๊งค์อย่างแข็งขัน ผมได้แต่ยิ้มมองพี่แอนด้วยความเอ็นดู
...
ตึงตึ้ง
เสียงเตือนว่ามีข้อความใหม่ที่เพิ่งเข้ามา เป็นข้อความจากใครบางคนที่ผมคาดไม่ถึง
'พี่อาร์ม'
มันคือข้อความจาก ต๊ง หม่ง เหมียว ขื่อ
ชื่ออาจจะดูแปลก แต่คราวนี้ดูรูปโปร์ไฟล์ ผมก็รู้ได้ทันที ใช่ครับเป็นข้อความจากเหมียวที่ส่งเข้ามา
เหมียว...เธอคือนคนที่ผมเจอที่นิวยอร์ก
'เฮ้ย เป็นไงบ้าง' ผมส่งข้อความกลับไปทันที...
ต๊ง หม่ง เหมียว ขื่อ...ลอตโต้ที่ซื้อมันไม่ถูกนะ
Arm strong...โกหกป่าว ถูกแล้วแต่เธออมเงินไปใช่มั้ย
ต๊ง หม่ง เหมียว ขื่อ...บ้า ถ้าถูกเหมียวไม่ติดต่อมาหรอกย่ะ
Arm strong...แล้วติดต่อมาทำไมล่ะ
ต๊ง หม่ง เหมียว ขื่อ...ตอนนี้เรากลับมาเมืองไทยแล้วนะ
Arm strong...แล้วไง
ต๊ง หม่ง เหมียว ขื่อ...ว้ะ ก็พี่บอกว่าถ้ากลับมา จะพาไปเลี้ยงเนื้อย่างไม่ใช่รึ
Arm strong...ใครบอก เปล่าซักหน่อย
ต๊ง หม่ง เหมียว...ขื่อ โห ไรว้า
...
บางทีโชคชะตาอาจจะกำลังทำงานของมันอยู่
Arm strong...เออก็ได้ จะไปกินวันไหนล่ะ
ต๊ง หม่ง เหมียว ขื่อ...พรุ่งนี้พี่ว่างมั้ย
...
ขอเพียงเราอย่าปิดกั้นมัน
Arm strong...ก็ได้
ต๊ง หม่ง เหมียว ขื่อ...เย้
...
แล้วปล่อยให้มันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น
ต๊ง หม่ง เหมียว ขื่อ...พี่อาร์ม
Arm strong...หือ
ต๊ง หม่ง เหมียว ขื่อ...แฮปปี้เบิร์ทเดย์นะ
...
จบตั๊ก (บริบูรณ์)
ขอบคุณ​สำหรับการติดตามครับ
... ท่านโอ๊ต
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา