26 ก.ค. 2021 เวลา 08:00 • กีฬา
ไขข้อสงสัย : ทำไม “เทควันโด” จึงอยู่ในโอลิมปิกได้นานกว่า 20 ปี และไม่ผูกขาดแค่ชาติเดียว | MAIN STAND
กระแสเหรียญทองประวัติศาสตร์ของ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดสาวทีมชาติไทย ยังร้อนแรงและเป็นที่พูดถึงอย่างต่อเนื่อง จากการพลิกแซงชนะ อาเดรียนา เซเรโซ อิเกลเซียส คู่แข่งวัย 17 ปีจากสเปน ในช่วง 7 วินาทีสุดท้าย
หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่าแล้วนักกีฬาเกาหลีใต้ ชาติต้นกำเนิดของกีฬาชนิดนี้หายไปไหน ? ทำไมมีชาติอื่น ๆ ที่ดูแล้วไม่น่าจะเก่งกีฬาชนิดนี้มากไปกว่าพวกเขาถึงก้าวขึ้นมาท้าชิงได้
แล้วทำไมกีฬาพื้นเมืองแบบนี้ถึงได้กลายเป็นกีฬายอดนิยมและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ถูกบรรจุอยู่ในมหกรรมโอลิมปิกเกมส์มาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 2 ทศวรรษ ผิดกับกีฬาอีกหลายชนิดที่ได้รับความนิยมเช่นกันแต่กลับไม่ได้รับเลือกให้อยู่ในลิสต์โอลิมปิก
1
เรื่องราวทั้งหมดเป็นเช่นไร สามารถหาคำตอบได้ที่ Main Stand
ต้นกำเนิดก่อนคริสตกาล
เทควันโด เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวโดยไม่ใช้อาวุธของชาวเกาหลี คำว่า "เท" (태; แท) แปลว่า เท้าหรือการโจมตีด้วยเท้า; "ควัน" (권; ควอน) แปลว่า มือหรือการโจมตีด้วยมือ; "โด" (도; โท) แปลว่า วิถีหรือสติปัญญา
เมื่อทั้ง 3 สิ่งนี้ผนวกเข้าด้วยกัน เทควันโดจึงไม่ใช่เพียงการต่อสู้ด้วยพละกำลังเท่านั้น แต่ยังหมายถึงจิตวิญญาณที่อยู่ภายในกีฬาชนิดนี้ด้วย
1
ต้นกำเนิดของเทควันโดนั้นไม่ต่างจากกีฬาพื้นบ้านชนิดอื่น ๆ ที่ไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัดว่าใครเป็นผู้คิดค้นหรือเริ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่ โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเล่า หรือตำนานที่สืบทอดต่อกันมา ตลอดจนการเชื่อมโยงกับภาพวาดในถ้ำโบราณที่ถูกค้นพบ
ประวัติศาสตร์ของเทควันโดนั้น มีตำนานเชื่อกันว่าเกิดขึ้นในยุค "สามอาณาจักรของเกาหลี" ซึ่งเป็นยุคแรกเริ่มของอารยธรรมเกาหลี ตั้งแต่ 50 ปีก่อนคริสตกาล ประกอบด้วย อาณาจักรโคกุลเยอ ทางภาคเหนือ, อาณาจักรแพ็กเจ ทางใต้ และอาณาจักรชิลลา อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ที่ต่างสู้รบกันเพื่อชิงความเป็นใหญ่ จึงพยายามเสริมสร้างกำลังกองทัพและฝึกฝนทหารของตนให้มีความเข้มแข็งอยู่เสมอ
2
Photo : www.timetoast.com
อาณาจักรซิลลา ซึ่งเดิมทีเป็นอาณาจักรเล็กที่สุดได้ร่วมมือกับอาณาจักรแพ็กเจ เพื่อแลกเปลี่ยนวิทยายุทธในการฝึกฝนทหาร โดยในสมัยกษัตริย์จินฮึง กษัตริย์องค์ที่ 24 ของอาณาจักรซิลลา ได้สร้างกองทัพนักรบหนุ่มขึ้นเรียกว่า "ฮวารังโด" หรือที่แปลว่า "อัศวินดอกไม้งาม" ด้วยการรวบรวมชายหนุ่มรูปงาม และลูกหลานของชนชั้นสูง มาฝึกฝนทักษะทางการทหารและการสู้รบแบบไม่มีอาวุธ ซึ่งมีการฝึกฝนการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่เรียกว่า "ซูบัก" (Subak) ที่เน้นการใช้ทักษะของมือเป็นหลัก นอกจากนี้ทหารเหล่านั้นยังได้ร่ำเรียนศิลปะ ปรัชญา ศาสนา และประวัติศาสตร์ จนเป็นที่มาของการฝึกฝนด้านวินัยและจิตใจของเทควันโดยุคปัจจุบัน
ขณะที่ อาณาจักรโคกุลเยอ มีการฝึกฝนทหารเช่นกัน โดยใช้รูปแบบที่แตกต่างกันในชื่อ "เทคเคียน" (Taekkyeon) ซึ่งมีลักษณะเด่นที่การใช้เท้าเตะ เนื่องจากการขี่ม้าจะต้องใช้มือควบคุมสายบังคับม้า ถืออาวุธ และธนู จึงเน้นการใช้เท้าที่ว่างอยู่ในการต่อสู้และช่วยในการทรงตัว
ศิลปะการต่อสู้ของทั้ง 2 อาณาจักรนี้มีต่างมีปรากฎเป็นหลักฐานสืบทอดมาจนถึงยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นยักษ์เฝ้าประตู ภายในวัดพุลกุกซา ในเมืองคย็องจู อันเป็นยุคทองของศิลปะทางพุทธศาสนาในอาณาจักรชิลลา ซึ่งมีลักษณะท่ามือที่คล้ายคลึงกับเทควันโดในปัจจุบัน รวมถึงภาพวาดตามฝาผนังในสุสานโบราณหลายแห่งแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้และทักษะต่าง ๆ ของเทคเคียน
3
ความเก่งกาจของกองทัพฮวารังโด ได้ช่วยให้อาณาจักรซิลลามีความแข็งแกร่งมากกว่าอาณาจักรอื่น ๆ และสามารถรวมอาณาจักรในคาบสมุทรเกาหลีเป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จในปี ค.ศ.676 และคงความเป็นปึกแผ่นไว้ได้นานเกือบ 300 ปี จนทำให้ศิลปะการต่อสู้ทั้ง "ซูบัก" และ "เทคเคียน" ได้เริ่มผสมผสานกลมกลืนเข้าด้วยกัน และได้กลายเป็นศิลปะการต่อสู้ของเกาหลีเรื่อยมา โดยใช้ในการฝึกฝนทหาร ตลอดจนบริหารร่างกาย และจัดประลองกันในโอกาสต่าง ๆ
Photo : taekwondotimes.com
กระทั่งเกาหลีถูกยึดครองโดยญี่ปุ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี 1910-1945 ศิลปะการต่อสู้ของเกาหลีได้กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยมีอิทธิพลกีฬาคาราเต้ และยูโดของญี่ปุ่นเข้ามาแทนที่ ทำให้ปรมาจารย์ซูบักและเทคเคียนต้องหลบซ่อนหรือเดินทางไปต่างประเทศ
ภายหลังจบสงคราม เกาหลีที่ได้รับอิสรภาพได้เริ่มฟื้นฟูศิลปะการต่อสู้ของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง มีโรงเรียนแทคยอนและซูบักเปิดขึ้นหลายแห่งในกรุงโซล แต่ส่วนใหญ่ได้นำอิทธิพลของคาราเต้และกังฟูเข้ามาผสมผสาน จนถึงในปี 1955 นายพลชเว ฮอง ฮี (Choi Hong Hi) ได้รวบรวมศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดเพื่อใช้ในการฝึกฝนทหาร และได้ก่อตั้งสมาคมเทควันโดแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (KTA) ขึ้นมา โดยเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สร้างขึ้นใหม่ มีความแตกต่างและสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน พร้อมทำให้เขาถูกยกย่องให้เป็น "บิดาแห่งเทควันโด" ในภายหลัง
1
แพร่หลายสู่นานาชาติ
เทควันโด ได้กลายเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเกาหลี นอกจากใช้ฝึกการต่อสู้ระยะประชิดให้กับทหารแล้ว ยังมีการจัดการแข่งขันทั้งในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และระดับมหาวิทยาลัย ทั้งชายและหญิง โดยจุดเด่นของเทควันโดนอกจากจะเป็นการฝึกฝนพละกำลังทั้งร่างกายและจิตใจ ยังเป็นการเสริมสร้างและพัฒนาบุคลิกภาพให้แก่เยาวชนอีกด้วย
1
เมื่อเป็นที่นิยมมากขึ้น นายพลชเว ฮอง ฮี ได้ส่งทีมจากเกาหลีไปสาธิตการเล่นกีฬาชนิดนี้ยังส่วนต่างๆ ของโลก ทั้งในด้านกีฬาและการฝึกทหาร พร้อมก่อตั้งสมาคมสหพันธ์เทควันโดระหว่างประเทศ (ITF) ในปี 1966 ร่วมกับสมาคมในเวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ เยอรมนีตะวันตก สหรัฐอเมริกา ตุรกี อิตาลี สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ และเกาหลี
1
Photo : alchetron.com
อย่างไรก็ตามหนึ่งในประเทศที่ นายพลชเว ส่งผู้เชี่ยวชาญไปร่วมโชว์ศิลปะเทควันโดนั้นคือ เกาหลีเหนือ ทำให้โดนรัฐบาลเกาหลีใต้คัดค้านและโดนปลดออกจากตำแหน่งในที่สุด ถึงขนาดต้องลี้ภัยไปตั้งรกรากที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา ในปี 1972 แต่ความรักที่มีต่อเทควันโดของเจ้าตัวก็หาได้เสื่อมคลายลง เขาได้เดินหน้าจัดตั้งสมาคมสหพันธ์เทควันโดระหว่างประเทศ (ITF) แห่งใหม่ขึ้นที่แคนาดา ในปีถัดมา โดยมีตัวเองเป็นประธาน
6
ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้ก็ได้มีการตั้งองค์กรเทควันโดขึ้นมาใหม่ในชื่อ สหพันธ์เทควันโดโลก (WTF) ในปี 1973 เช่นเดียวกัน โดยมี คิม อัน ยอง (Kim Un-yong) เป็นประธาน พร้อมด้วยสมาชิกก่อตั้ง 35 ประเทศ ก่อนจะเปลี่ยนตัวย่อเป็น WT ในปัจจุบัน
2
ทั้งสององค์กรนี้มีความแตกต่างกันในเรื่องการฝึกใน โดย ITF มุ่งเน้นไปที่รูปแบบการต่อสู้แบบดั้งเดิมที่เน้นการจู่โจม และไม่มีเครื่องป้องกันอื่น ๆ สวมเพียงถุงมือเท่านั้น ส่วน WT เน้นในเรื่องการฝึกซ้อมเพื่อใช้เป็นศิลปะป้องกันตัว และมีการสวมอุปกรณ์ป้องกัน จนมีความเป็นกีฬามากกว่า และได้จัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกขึ้นที่กรุงโซลในปีเดียวกับที่ก่อตั้ง
แม้ทั้งสององค์กรนี้จะเดินคู่ขนานกัน แต่ต่างก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้กีฬาเทควันโดแพร่หลายไปสู่นานาชาติ โดยปัจจุบัน ITF มีสมาชิก 128 ประเทศ มีการจัดแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ส่วน WT มีสมาชิก 210 ประเทศ และมีการจัดแข่งขันชิงแชมป์โลกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมควบคุมดูแลการจัดตั้งสหพันธ์เทควันโดแห่งเอเชียและทวีปอื่น ๆ
1
ขณะที่ในประเทศไทย เริ่มรู้จักกีฬาเทควันโดเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2508 โดยคณาจารย์จากสาธารณรัฐ เกาหลีจำนวน 6 คน ได้เดินทางมาทำการสอนเทควันโดให้กับทหารสหรัฐอเมริกา ซึ่งตั้งฐานทัพอยู่ในประเทศไทยในเวลานั้นเพื่อทำการรบในสงครามเวียดนาม อาจารย์เหล่านั้นยังได้เปิดสอนเทควันโดให้กับประชาชนทั่วไปด้วย บางท่านได้มาทำการสอนอยู่ที่ราชกรีฑาสโมสร และโรงยิมหลังโรงหนังลิโด สยามสแควร์
1
Photo : blackbeltmag.com
ก่อนที่ พ.ศ. 2516 สมาคมเทควันโดแห่งสาธารณรัฐเกาหลี จะส่งผู้ฝึกสอนชื่อ ซองคิยอง มาเปิดสอนและเปิดสำนักขึ้น พร้อมได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรยังสถาบันหลายแห่ง เช่น โรงเรียนนายร้อย พระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ และโรงเรียนช่างฝีมือทหาร
2
ขณะนั้นมีผู้ฝึกวิชาเทควันโดรวมกัน ประมาณ 5,000 คน ในปี พ.ศ. 2521 จึงได้ก่อตั้ง สมาคมส่งเสริมศิลปะป้องกันตัวเทควันโด โดยมี สรยุทธ์ ปัทมินทรวิภาส เป็นนายกสมาคมฯ คนแรก ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็นสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2528 พร้อมเข้าเป็นสมาชิกสหพันธ์เทควันโดโลก สหพันธ์เทควันโดเอเชีย และสหพันธ์เทควันโดอาเซียน ตามลำดับ
ก้าวสู่โอลิมปิก
1
แม้จะเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่การจะได้บรรจุในโอลิมปิกเกมส์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีหลักเณฑ์ในการเข้าร่วม โดยต้องผ่านเกณฑ์สำคัญทั้งหมด 54 ข้อใน 8 หมวด อาทิ ต้องผ่านการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC), ต้องมีองค์กรระดับนานาชาติที่กำกับดูแลกีฬา ฯลฯ
2
สำคัญคือ "ต้องเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมระดับสากลที่เพียงพอ"
Photo : www.stereoviews.com
ความนิยมในระดับนานาชาติของกีฬาที่สามารถถูกบรรจุเข้าแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ได้นั้น จะต้องเป็นกีฬาที่มีคนฝึกฝนกันทั่วโลก ไม่ใช่แค่พื้นที่เดียว โดยปัจจุบันมีการกำหนดมาตรฐานว่ากีฬาในโอลิมปิกฤดูร้อน ต้องมีประชากรที่เล่นกีฬาชนิดนี้ใน 75 ประเทศ และกระจายใน 4 ทวีปเป็นอย่างน้อย (สำหรับผู้ชาย) และ 40 ประเทศ ใน 3 ทวีป (สำหรับผู้หญิง)
2
กฎนี้แค่ข้อเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้กีฬาหลาย ๆ ชนิดไม่ถูกบรรจุเข้าแข่งขันในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกรายการนี้ เนื่องจากหลายกีฬาแม้จะได้รับความนิยมแต่ก็ไม่มีการเล่นกันอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น มวยไทย หรือศิลปะการต่อสู้แบบผสม (MMA) กีฬาเหล่านี้ได้รับความนิยมทั้งในประเทศต้นกำเนิดและในสหรัฐอเมริกา แต่อีกหลายแห่งในโลกไม่เป็นเช่นนั้น
1
"เวิลด์เทควันโด" (WT) ได้พยายามผลักดันสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น การส่งผู้เชี่ยวชาญไปฝึกสอนยังต่างแดน ซึ่งหลายชาติเป็นที่นิยมมาก่อนแล้วตั้งแต่สมัยนายพลชเว ฮอง ฮี, จัดแข่งขันชิงแชมป์โลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผลักดันเข้าแข่งขันในเอเชียนเกมส์ มาตั้งแต่ปี 1974
1
พร้อมควบคุมดูแลการจัดตั้งสหพันธ์เทควันโด ครอบคลุมทั้ง 5 ทวีป ได้แก่ สหพันธ์เทควันโดแอฟริกา (AFTU) สมาชิก 52 ชาติ, สหพันธ์เทควันโดยุโรป (ETU) สมาชิก 51 ชาติ, สหพันธ์เทควันโดแพนอเมริกัน (PATU )สมาชิก 45 ชาติ, สหพันธ์เทควันโดเอเชีย (ATU) สมาชิก 43 ชาติ และสหพันธ์เทควันโดโอชีเนีย (OTU) สมาชิก 19 ชาติ (ปัจจุบันมีนักกีฬาและผู้ฝึกฝนเทควันโดทั่วโลกประมาณ​ 80 ล้านคน ตามการระบุของเว็บไซต์โอลิมปิกเกมส์)
กระทั่งได้รับการรับรองจาก คณะกรรมการโอลิมปิกสากล เมื่อปี 1980 ในการประชุมครั้งที่ 83 ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย หรือเพียงแค่ 7 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งสหพันธ์ ก่อนที่ปีถัดมาจะได้รับอนุมัติให้บรรจุเป็นกีฬาสาธิตในโอลิมปิกเกมส์ 1988 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ต้นกำเนิดของกีฬาเทควันโดเป็นเจ้าภาพ
1
โอลิมปิก 1988 ที่กรุงโซลนั้น เจ้าภาพได้สร้างความฮือฮาจากทั่วโลก ด้วยการนำจอมเตะนับร้อยชีวิตมาร่วมแสดงศิลปะการต่อสู้อย่างพร้อมเพรียงในพิธีเปิด โดยในการแข่งขันนั้นมีนักกีฬาเข้าร่วมทั้งหมด 182 คน (ชาย 120 คน และหญิง 62 คน) จาก 35 ประเทศ
1
Photo : www.phoenixtaekwondo.net
ชิงชัยกันทั้งหมด 8 รุ่น รวม 16 อีเวนท์ และเป็น นักเทควันโดเจ้าถิ่นที่คว้าเหรียญทองไปทั้งหมด 9 เหรียญ ตามด้วย, สหรัฐอเมริกา 4 เหรียญ, ไต้หวัน 2 เหรียญ และเดนมาร์ก 1 เหรียญ
1
หลังจากนั้นได้มีการบรรจุเป็นกีฬาสาธิตอีกครั้งในปี 1992 ที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน และ 2 ปีถัดมาที่ประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ได้รับรองเทควันโด ให้บรรจุเป็นกีฬาอย่างเป็นทางการ ในโอลิมปิก 2000 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และอยู่ในโปรแกรมการแข่งขันของโอลิมปิกเกมส์นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
2
การพัฒนาที่ยั่งยืน
1
ตลอดระยะเวลาการจัดมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ 32 ครั้งที่ผ่านมา มีเพียง 5 ชนิดกีฬาเท่านั้นที่ไม่เคยหลุดผังจากโปรแกรมการแข่งขันเลย ประกอบด้วย กรีฑา, ว่ายน้ำ, จักรยาน, ฟันดาบ และยิมนาสติก ขณะที่กีฬาอื่น ๆ มีแวะเวียนเข้าออก หรือเพิ่งมีบรรจุเพิ่มเข้ามาอย่างเป็นทางการภายหลัง
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายชนิดกีฬาที่ไม่ได้รับความนิยมหรือไม่เข้ากับแนวทางของโอลิมปิกยุคใหม่ จนถูกถอดออกและค่อย ๆ หายไปในที่สุด เช่น ไต่เชือก และชักเย่อ
1
สำหรับเทควันโดนั้น หลังจากได้บรรจุเข้าแข่งขันอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2000 ก็อยู่ในลิสต์มาตลอดไม่เคยหลุดจากผังเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ถึงปัจจุบันจัดแข่งในโอลิมปิกเกมส์อย่างต่อเนื่องมาแล้ว 6 สมัย (ไม่นับตอนเป็นกีฬาสาธิต) รวมถึงในการแข่งขันครั้งต่อไปที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ปี 2024 ด้วยเช่นกัน
1
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เทควันโดได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาจากการแข่งขันที่สนุก ลุ้นระทึก และผลแพ้ชนะสามารถพลิกได้ทุกวินาที เหมือนดังเช่นที่เราเพิ่งได้เห็น "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ทำแต้มพลิกแซงคู่แข่งในช่วง 7 วินาทีสุดท้าย คว้าเหรียญทองศึกโตเกียวเกมส์ 2020
รวมถึงการที่หลายชาติมีการพัฒนานักกีฬาเยาวชนรุ่นใหม่เข้ามาแข่งขันอย่างจริงจังมากขึ้น เราจึงได้เห็น อาเดรียนา เซเรโซ อิเกลเซียส สาวน้อยวัย 17 ปีจากสเปน ก้าวขึ้นมาท้าชิงกับพาณิภัคในครั้งนี้ จนถูกยกย่องว่าเป็นวันเดอร์คิดคนใหม่ของโลก
สิ่งเหล่านี้บ่งบอกได้ว่ากีฬาชนิดนี้แม้จะมีต้นกำเนิดมาจากเกาหลี แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเป็นผู้ผูกขาด ผูกปีชนะได้ง่าย ๆ หนำซ้ำนักกีฬาจากชาติอื่น ยังพัฒนาฝีมือเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นักกีฬาจากเม็กซิโก, คิวบา, อิหร่าน, กรีซ, ออสเตรเลีย, จีน, ตุรกี, อิตาลี, สเปน, สหราชอาณาจักร อาร์เจนตินา, เซอร์เบีย, อาร์เซอร์ไบจาน, จอร์แดน, และไอวอรี่โคสต์ พวกนี้เคยก้าวถึงเหรียญทองมาหมดแล้ว
อีกปัจจัยสำคัญที่เป็นสาเหตุหลักมาจากการไม่หยุดพัฒนาของกีฬาชนิดนี้ โดย "เวิลด์เทควันโด" พยายามปรับเปลี่ยนกฎกติกาการแข่งขันให้มีความเหมาะสมและสนุกมากที่สุดมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนวิธีให้คะแนน, ยกเลิกการให้คะแนนในบางท่า, เปลี่ยนรูปแบบเวทีจาก 4 เหลี่ยมเป็น 8 เหลี่ยม, เปลี่ยนกฎการชั่งน้ำหนักใหม่ ฯลฯ
2
ที่สำคัญยังได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อให้เกิดความยุติธรรมเพิ่มขึ้นมาตลอด ทั้งเกราะไฟฟ้า เฮดการ์ดไฟฟ้า ที่ส่งผลต่อการนับคะแนนโดยตรง รวมถึงล่าสุดที่ใช้ใน "โตเกียวเกมส์" อย่างเทคโนโลยีภาพรีเพลย์ 4 มิติ สิ่งเหล่านี้ได้ช่วยลดข้อครหาในเรื่องผลการตัดสิน หรือการให้คะแนนในกีฬาต่อสู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม
3
แม้จะมีบางเสียงมองว่าสิ่งเหล่านี้ได้ลดทอนการต่อสู้ที่ดุเดือดและลูกเตะที่หนักหน่วงอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวของกีฬาชนิดนี้ไปก็ตาม แต่มันก็แลกมาด้วยความยุติธรรมและโปร่งใสในความเป็นกีฬาตามแบบฉบับของโอลิมปิกเกมส์อย่างเต็มที่
"ผมขอรับประกันกับพวกคุณว่า เวิลด์ เทควันโด ยังคงนำความเป็นธรรมและความโปร่งใสมาสู่กีฬาของเรา แม้ว่าเราจะได้รับความทุกข์ทรมานทางการเงินจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แต่เราตัดสินใจลงทุนกับระบบการตัดสินด้วยต้นทุนของเราเอง เพื่อให้แน่ใจว่านักกีฬาที่ดีที่สุดจะชนะอย่างยุติธรรมที่สุด ตราบใดที่เราไว้วางใจซึ่งกันและกันและในระบบ ไม่มีเหตุผลใดที่เทควันโดจะไม่สามารถเป็นกีฬาถาวรในกีฬาโอลิมปิกได้" ชู ชุง วอน (Choue Chung-won) ประธานเวิลด์เทควันโด กล่าวอย่างมั่นใจ
3
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของกีฬาเทควันโด ที่แม้จะเป็นกีฬาประจำชาติ แต่ก็ได้ถูกผลักดันจนกลายเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในระดับสากลมายาวนาน
1
บทความโดย ชมณัฐ รัตตะสุข
แหล่งอ้างอิง :
โฆษณา