29 ก.ค. 2021 เวลา 18:42 • บันเทิง
EP. 3 สาเหตุการเสียชีวิตของ Bruce Lee
ต้องขอแจ้ง ณ ที่นี้ว่า เรื่องราวชีวิตของ Bruce Lee เรื่องนี้ โดยเฉพาะตอนสาเหตุการตายเป็นเรื่องที่ผมใช้เวลาในการค้นคว้าจาก internet หลายๆแหล่งมากที่สุด ทั้งนี้เพื่อความสมบูรณ์และถูกต้องของเนื้อหา เนื่องจากมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับ ปริศนาการตายของเขาทั้งในแง่ดีและแง่ลบ
ก็ขอท่านมาสดับทัศนา EP สุดท้าย --สาเหตุการตายของ บรูซ ลี ได้ ณ บัดนี้ ....
หลังจาก หนังกังฟูเรื่องที่ 4 ( Enter the Dragon ) ปิดกล้อง ตัดต่อและรอฉายในเดือน สิงหา 1973
จู่ๆ ในวันที่ 20 กรกฎา 1973 ( ก่อนหนังจะลงโรงแค่เดือนเดียว )โลกและวงการหมัดมวยจีนก็ได้รับข่าวช๊อคซีเนม่าว่า
บรูซ ลี ในวัยเพียง 32 ปี ที่ดูแข็งแรงสุดๆ เสียชีวิตกระทันหันที่ฮ่องกง !
ที่น่าตกใจขึ้นไปอีกก็คือ เขาเสียชีวิตในห้องนอน ที่อพาตเม้นท์ ของนักแสดงตัวประกอบสาวสวย ที่เคยเล่นบทวาบหวิว (บ้าง) นาม เบตตี้ ติง เพ่ย !
ลี ไปทำอะไรที่นั่น แล้วทำไมถึงจุดจบชีวิต ณ ที่นั้น ?
(ลี มีลูกสอง และเมียอเมริกันนาม ลินดา ในขณะที่เสียชีวิต)
ในตอนแรกที่ เรย์มอน เชา ผู้อำนวยการสร้างจากค่าย Golden Harvest ซึ่งเป็นผู้ที่นำลีส่ง รพ. ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ลีเป็นลมล้มลงในสวนที่บ้านที่อาศัยกับลินดา(ภรรยาลี)ในฮ่องกง และเสียชีวิตขณะนำส่ง รพ.
แต่ความจริง ก็หนีความจริงไปไม่พ้น สื่อทราบในเวลาไม่ทันข้ามวันว่า ลีเสียชีวิตในห้องนอนที่แฟลตของเพื่อนสาวนักแสดงนาม Betty Ting Pei วัย 26 ปี ต่างหาก
ภายใน 3 วันหลังการตายของลี ข่าวพาดหัว ของ นสพ. แท้บลอยด์ก็ออกมาต่างๆนาๆ
หลายคนคาดคิดเอาว่า ลีอาจจะหัวใจวายตายคาอกของ ติงเพ่ยขณะมีเพศสัมพันธ์กันแน่ๆ
แบบว่า แกร่งมาจากไหน เจอไปหลายๆยก ก็มีสิทธิ์จอด !!
แต่ดูกร ช้าก่อน สหายเอ๋ย
ก่อนที่เราจะอ่านตามข่าวแล้วสรุปตามความคิดที่ว่า "น่าจะเป็นหยั่งงั้น" ก็ควรย้อนไปดูว่า มีสาเหตุอื่นๆไหมที่ไม่ใช่ การสิ้นลายแบบ " ตายคาอก" ตามที่ลือๆกัน
ลี มีโรคประจำตัวหรือใช้ยาอะไรหรือไม่ ?
ปลายปี 1972 ลี เข้ารับการผ่าเอาต่อมเหงื่อที่รักแร้ออก ด้วยว่า เหงื่อจากรักแร้เปื้อนเสื้อทำให้ภาพที่ออกมาในหนัง ดูไม่งาม
วันที่ 10 พค 1973 ก่อนเสียชีวิตเพียงสองเดือน ขณะเข้าห้องอัดเสียงหนัง Enter the dragon ท่ามกลางอากาศที่ร้อนที่สุดของเดือน พค.(ข้อมูลสอบทานย้อนหลังจากกรมอุตุ) ทีมงานได้ปิดแอร์ในห้องอัดเพื่อขจัดเสียงรบกวน ลีซึ่งทำงานหนักไม่ได้พักผ่อนอยู่แล้ว เมื่อเจออากาศร้อนและต่อมเหงื่ออาจจะระบายความร้อนในร่างกายไม่ทัน ทำให้หมดสติในกองถ่ายถึงกับ ต้องส่งรพ. แพทย์วินิจฉัยว่า ลี อาจจะมีอาการชักจนหมดสติ จากภาวะสมองบวม แพทย์ได้ให้ ยาManitol เพื่อลดอาการบวมของสมอง และอยู่ รพ 2 วันจึงฟื้นเป็นปกติ
ตรงนี้ อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกให้รู้ว่า ภายนอกของลีที่ดูแข็งแกร่งสุดๆ อาจจะมีโรคหรือจุดอ่อนแอแฝงเร้นอยู่
ส่วนยาประจำตัว
ในช่วงที่แสดงหนัง 3-4 เรื่องนั้น ลี ฝึกร่างกายอย่างหนักทุกวัน และมีข่าวว่าเขามีภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังแตกจากการเล่นบทบู๊ ทำให้เขาปวดหลังเรื้อรัง รวมทั้งพักผ่อนน้อย สะสมให้มีความเครียด เขามักจะเคี้ยวใบกัญชา (ซึ่งเวลานั้น ชาวฮ่องกงก็ใช้กัญชาคลายเครียดหรือเพื่อลดปวดกันแพร่หลายพอควร)
ซึ่ง สารเคมีหรือยา ที่พบในร่างกายของลี จากการชันสูตรศพ ก็พบสารกัญชา และยาแก้ปวดในร่างกาย ซึ่งยาที่พบคือ Aspirin ปริมาณสูงและ Mebropamate ซึ่งมาจากยาแก้ปวดชื่อ Equagesic ที่ Betty นำมาให้ ลี ทาน เพราะลีบอกว่า ปวดศีรษะมากในเย็นนั้น
ที่พบสารกัญชา เพราะวันที่ 20 กค นั้น ภายหลังลี ออกกำลังกายประจำวัน ตอนเช้า 45 นาทีแล้ว เขามีเคี้ยวกัญชาในช่วงกลางวันด้วย
ช่วงแรกๆ แพทย์ก็สันนิษฐานว่า กัญชาอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่ง ซึ่งคร่าชีวิตลี
แต่ต่อมาก็คิดว่า กัญชาไม่น่าจะใช่สาเหตุ เพราะกัญชา ไม่มีผลให้เกิดภาวะสมองบวม
หลุมศพลูกชายเคียงข้างผู้พ่อ
หลุมศพผู้ลูก แบรนดอน ลี เป็นหินสีดำสองชิ้นประกบกัน ถ้ามองจาก top view จะเห็นเป็นสัญลักษณ์ หยิน-หยาง
ในเบื้องต้น แพทย์ที่ รพ Queen Elizabeth ที่รับตัว(ศพ)ลี ไว้ ลงความเห็นว่า ลีเสียชีวิตด้วยอาการแพ้ยา Equagesic รุนแรง แบบ anaphylaxis
(แต่ Betty ให้การว่า เธอเคยให้ยาตัวนี้แก่ลีทานมาก่อนแล้ว และลีก็ไม่เป็นไร นี่ไม่ใช่ครั้งแรก)
และการสรุปเช่นนี้ ทัวร์(จริงๆ สมัยนั้น ทัวร์ยังไม่มากเหมือนเดี๋ยวนี้ น่าจะเรียกว่า สองแถวมากกว่า)ก็มาลงตรง ติงเพ่ย ว่า เปนผู้ที่หยิบยื่นความตายให้แก่ลี ( แม้จะมีอีกกลุ่มใหญ่ที่เชื่อว่า ลี หัวใจวายเพราะหักโหมเล่นรักกับติงเพ่ย ก็ยังคงเปน ติงเพ่ย อยู่ดี ที่ทำให้ลีตาย)
ข่าวที่ลี ตายกระทันหัน แถมตายที่อพาตเม้นท์คุณป้าติงเพ่ย(ตอนนั้นเธอแค่ 26 ยังไม่ป้า!) และมีการพยายามออกข่าวลวงจากเชาว่า ลีเสียที่บ้านตนเอง นำมาซึ่งข้อสันนิษฐานและข่าวลือถึงสาเหตุการตายของลีไปต่างๆนาๆ
แถมกระจายออกไปแบบไฟลามทุ่ง
มีทั้ง แพ้ยา Equagesic ที่ทาน / หัวใจวายเพราะหักโหมกับเบ๊ตตี้ (ก็ไม่น่านะ เพราะร่างกายลีผ่านการฝึกหนักกว่านี้มาก) /บริโภคกัญชามากไป / ถูกวางยา/ถูกลอบฆ่าโดย กลุ่มคนจีนที่ไม่พอใจที่ลีเอาเคล็ดลับมวยจีนไปสอนชาติอื่น/ ถูกลอบฆ่าหรือวางยาโดยมาเฟียวงการหนัง /ลอบฆ่าโดยมาเฟียที่มีติงเพ่ยเปนเมียเก็บ /ติงเพ่ยหรือคนรับใช้วางยา แม้จนกระทั่งสมมติฐานว่า ลี แกล้งตาย !
เอาล่ะ เรามาลองทำตัวเป็น เชอร์ล้อค โฮล์มส์ ดูถี ว่าเหตุการณ์ในวันที่ 20 กค 1973 วันเสียชีวิตของลี เขามี activity อะไรในวันนั้นจนถึงนาทีที่เขาเสียชีวิต
แต่ก่อนอื่น ผมขอแนะนำตัวละครที่เกี่ยวข้องก่อน
1. Linda Lee ภรรยาของลี เป็นชาวอเมริกันแต่งงานกับลีมาเกือบสิบปี มีลูกชายวัย 8 ขวบ ชื่อ Brandon และลูกสาวชื่อ Shanon ช่วงที่ลีเสียชีวิต ครอบครัวลี อยู่กันพร้อมหน้าที่บ้านในฮ่องกง
2. เรย์มอน เชา ผู้อำนวยการสร้างหนังฮ่องกงค่ายยักษ์ - Golden harvest และเป็นเพื่อนทางธุรกิจกับลี เชาเป็นคนแนะนำ ดาราตัวประกอบสาวสวยวัย 26 นาม Betty ting pei ให้ลีรู้จัก จนภายหลังสนิทกัน
3. Betty Ting Pei นักแสดงสาวชาวไต้หวัน เคยเล่นบทวาบหวิวมาบ้าง เธออาศัยที่แฟลตหรืออพาตเม้นท์ที่เกาลูน ตรงข้ามเกาะฮ่องกง ลีชวนให้เธอร่วมเล่นหนังด้วยกันในเรื่อง Game of death หนังเรื่องสุดท้ายในชีวิตของลี
ภายหลังที่ลีเสียชีวิตหลายปี เธอออกหนังสือเขียนถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับลี ชื่อ
the old days of Bruce Lee and me :
Half a lifetime of practice , a lifelong memory
ผมไม่ได้อ่านเล่มนี้ แต่มีคลิปหนึ่งอ้างว่า ในเล่มนี้ Betty รับว่า เธอและลีเคย มี ความสัมพันธ์ทางเพศต่อกัน
4. George Lazenby ดาราฝรั่งเศส เคยเล่นหนังเจมส์ บอนด์ ตอน พยัคฆ์ร้ายราชินี ปี 1969 และลีทาบทามให้มาเล่นเรื่อง "เกมมรณะ" ด้วยกัน
ลีติดต่อกับจอร์จเช้าวันนั้น และนัดพบทานมื้อค่ำเพื่อคุยเรื่องแนวทางหนังด้วยกันพร้อมกับเชาและติงเพ่ยในคืนเดียวกันที่ รร แห่งหนึ่ง แต่ลีกับ Betty ไม่ได้ไป เพราะลีเกิดปวดศีรษะกะทันหันเย็นนั้น
ลี กับ ลินดา และลูกชาย-หญิง
ตอนลีเสีย ลูกชาย แบรนดอน อายุ 8 ขวบ ภายหลังแบรนดอน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะแสดงหนัง ตอนอายุ 28
Betty Ting Pei ดาราสาวสวยชาวไต้หวันขณะนั้นวัย 26
George Lazenby ดาราจากหนังเจมส์ บอนด์ ที่ลีทาบทามให้มาเล่นหนังเรื่อง เกมมรณะ
ถ้าว่าตามที่นักข่าวบางคนเขียนเอาไว้ ก็ว่า
เช้าวันนั้น หลังจากที่ลีออกกำลังกายประจำวัน 45 นาที แล้วเขาก็ติดต่อกับ George Lazenby (ที่เคยเล่นหนังในเจมส์ บอนด์ ตอน พยัคฆ์ร้ายราชินี) และนัดที่จะคุยเรื่องร่วมแสดงกันใน Game of death ตอนค่ำนั้นที่ห้องอาหารร่วมกับ เรย์มอน เชา
จากนั้น ลีได้ขับรถไปหา "ภริยาลับ " - เบ๊ตตี้ในตอนบ่ายที่อพาตเม้นท์ (คลิปบอกด้วยว่าลี มีเพศสัมพันธ์กับเบ๊ตตี้บ่ายนั้น และบริโภคกัญชาด้วย) ต่อมาตอน 6 โมงเย็น เชาตามมาสมทบที่แฟลตของเบ๊ตตี้
ลีบอกว่ามีอาการปวดศีรษะ Betty นำยาแก้ปวดที่เธอใช้คือ Equagesic ให้ลีทานและให้ลีนอนพักในห้องนอนของเธอ( one bed room apartment)
ทุ่มครึ่ง เชาล่วงหน้าไปพบ George ที่โรงแรม ก่อน พลางๆรอลีกับติงเพ่ยตามไปทีหลัง
จากนั้นพ้นไป 2 ชม. ลียังไม่ตื่น เบ๊ตตี้ปลุกสักพักก็ไม่ตื่น จึงตามเชาให้กลับมา
เชากลับเข้ามาก็พบว่าลีสิ้นลมแล้ว จึงโทร ตามหมอชาวจีน ที่รู้จักกัน ซึ่งทำงานที่ รพ Hong Kong Baptist Hospital ที่อยู่ใกล้ระยะขับรถ 5 นาทีให้มาตรวจ
หมอมาถึงพบว่าลีเสียชีวิตแล้วเช่นกัน เชาและหมอจึงตัดสินใจนำลีไป รพ Queen Elizabeth ซึ่งห่างไประยะ 20 นาที (รพ ที่ใกล้ที่พักที่สุด คือ HongKong Baptist hospital ที่ลีเคยไปรักษาสมองบวมครั้งแรกตอนเดือน พค ) แต่แม้จะพยายามกู้ชีพอยู่พักหนึ่ง ก็ช่วยอะไรไม่ได้
เชา ตัดสินใจให้ข่าวกับสื่อว่า ลีเป็นลมและเสียชีวิตที่บ้านของลีเองที่เขาอยู่กับ ลินดาภริยาของลี
ที่ทำดังนี้ เชาอ้างว่าเพื่อหลีกเลี่ยงข่าวซุบซิบเรื่องการตายของลี ที่จะตามมา
แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผล
ความจริงก็ย่อมเปนความจริง
เพียงแต่ไม่ทราบว่า จริงไปถึงระดับไหน ?
มาฟังคำให้การของ Linda ภรรยาลี และ Betty บ้าง ก็ออกจะสอดคล้องกัน (ไม่รู้เตี๊ยมกันในช่วงแรกๆก่อนไหม)
ลินดาบอกว่า ลีกับเรย์มอนนัดพบกับ George ค่ำนี้เพื่อคุยเรื่องหนังที่จะสร้างต่อ
ลินดาบอกว่า บ่าย 2โมง ลีพบกับเรย์มอนก่อน คุยกันถึงบ่าย 4 แล้วทั้งสองก็ไปหา Betty ที่ที่พักของเธอ เพื่อคุยเรื่องแนวหนังเรื่อง " เกมส์มรณะ " ต่อ (ตรงนี้ ต่างจากข้อมูลของนักข่าวที่บอกว่า ตอนสายหลังออกกำลังกายและนัดกับจอร์จแล้ว ลีขับรถไปหาชู้รักติงเพ่ยที่แฟลต และมีเพศสัมพันธ์กันในตอนบ่าย พอหกโมงเย็น เชา ถึงมาสมทบที่แฟลต) จากนั้น เรย์มอน ได้ออกไปเตรียมพบปะดินเน่อร์กับ จอร์จ ก่อนพลางๆ เพราะ ลี บอกว่า เขารู้สึกปวดศีรษะมาก
(โดยฝ่าย Betty ให้การว่า เชาออกล่วงหน้าไปก่อน หลังจากที่ทั้งสามทานมื้อค่ำด้วยกันที่อพาร์ทเม้นท์ของเธอเสร็จ และลีบอกว่า ปวดศีรษะมาก จึงให้เชาล่วงหน้าไปก่อน) จากนั้น ก็เปน Betty ให้การต่อว่า เธอให้ยาแก้ปวดแก่ลีทาน และให้เขานอนพักในห้องของเธอ ในตอนประมาณ ทุ่มครึ่ง
หลังจากนั้น สองชั่วโมง ลียังไม่ตื่น แม้ว่าเธอจะเพียรเรียก ลีก็ไม่ตื่น เธอจึงโทร ตามเชาให้กลับมา
หลังจากนั้น เหตุการณ์ ก็เป็นตามที่เราทราบ คือ นำส่งลีไป รพ Queen Elizabeth
ประกาศจาก รพ เป็นทางการถึงการเสียชีวิตของเขา มีขึ้นตอนเวลา ห้าทุ่มครึ่ง คืนนั้น
ปี 2018 (นานถึง 45 ปีต่อมา !) มีการตั้งสมมติฐานสาเหตุการตายของลี อีกครั้ง โดยคิดกันว่า ลี อาจจะเสียชีวิตด้วย กลุ่มอาการ Heat stroke (หอบแดดตาย ว่างั้น!)
ทั้งนี้เพราะด้วยเหตุที่ว่า วันที่ 10 พค. 1973 วันที่ลีเกิดเหตุหมดสติครั้งแรก( สองเดือนก่อนเสียชีวิต) และวันที่ลีเสียเสียชีวิต ( 20 กค 1973 ) ทั้งสองวัน เป็นวันที่อากาศร้อนที่สุดของเดือน ตามข้อมูลของกรมอุตุ
และลี มีประวัติ ผ่าตัดเอาต่อมเหงื่อใต้รักแร้ออกไป ตอนปลายปี 1972 (เพื่อไม่ให้ภาพของเขาในภาพยนตร์ไม่น่าดูเพราะพระเอกอาไร้ แขนเสื้อใต้รักแร้เปียกเหงื่ออยู่เรื่อย)
ดังนั้น การระบายความร้อนผ่านต่อมเหงื่อจึงลดลงมาก
ประกอบกับ ตอนบ่ายในวันที่แสนร้อนวันนั้น ลีคุยกับเชา เชาบอกว่า ลีสาธิตและออกท่าออกทางกับฉากในจินตนาการ อย่างออกรสตลอดเวลาที่คุยกัน - นั่นทำให้ ความร้อนในตัวลี ยิ่งสะสมเพิ่มขึ้น
เรื่อง Heat stroke ที่ทำให้คนถึงตายได้นี้ ในช่วง 70's วงการแพทย์ยังมีข้อมูลไม่มาก
แต่ ปี 2018( 45ปีต่อมา) เมื่อมีการชันสูตรผู้เสียชีวิตจาก อาการนี้มากขึ้น ก็พบว่า ผู้ที่เสียชีวิตจาก โรคหอบแดด ล้วนแต่มีภาวะ สมองบวม เป็นส่วนมาก !
ซึ่งก็เข้ากับ ผลการชันสูตรศพของลี (สมองลีบวมถึง 13% จากน้ำหนักสมอง 1400+ กรัม เป็น 1500 + กรัม !)
ส่วน กัญชาในกระเพาะ ไม่มีผลอะไรกับการตายของเขา และไม่มีผลให้ สมองบวม
แต่ heatstroke ควรจะเกิดในขณะอุณหภูมิร่างกายและแวดล้อมร้อนจัดมิใช่หรือ
ไม่น่าจะทิ้งช่วงมาถึงช่วงค่ำแล้ว ?
ยังครับ ดราม่าเรื่อง cause of death ของ บรูซ ลี ยังไม่จบ
ในเวลาก่อนข้อสันนิษฐานเรื่อง heat strokeหลายปี ก็มีหมอทางระบบประสาทออกมาฟันอีกหนึ่งธงว่า
ลี น่าจะเสียชีวิตด้วยโรคลมชักชนิดหนึ่ง ที่ก่อให้เกิดการตายแบบทันทีทันใดได้
SUDEP. - Sudden Unexpected Death in EPilepsy
โรคนี้ เพิ่งมาพบและเผยแพร่กันในปี 1995 ---22 ปี หลังที่ ลี จากไป
ส่วนตอนเดือน พค 1973 ที่ลีสลบไปครั้งแรกนั้น ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ลี สิ้นสติไปเพราะโรคลมชักเช่นกัน
ตกลงลี เป็นอะไร หรือใครที่ทำให้เขาเสียชีวิต ??
แพ้ยาแก้ปวด Equagesic ?
Betty บอกว่า ลี เคยทานยานี้มาก่อนแล้ว ไม่แพ้
กัญชา ?
มีปริมาณไม่มาก และไม่ทำให้สมองบวม
หัวใจวายจากการร่วมเพศ ?
ลีออกกำลังทุกวัน และใช้พละกำลังมากกว่าการร่วมเพศ
heatstroke ?
ทำไม heatstroke ทิ้งช่วงมาตอนค่ำ ? (หรือว่าลี "ออกกำลัง"กับ Betty อีกรอบ?)
ถูกวางยา (โดยเบ๊ตตี้หรือผู้อื่น) ?
ทำไมผลชันสูตรศพ พบแค่กัญชาและ Equagesic ไม่พบยาอื่นๆ ?
มาเฟียส่งคนมาฆ่า ?
ไม่พบร่องรอยบาดแผลภายนอกใดๆ
โรคลมชัก SUDEP. ?
โดนของหรือ ทำคุณไสย ?
อันนี้ คงไม่รู้จะว่ายังไงดี ...
มีคนบอกด้วยว่า หรือว่า ลีต้องคำสาปของตระกูล เพราะลีเคยพูดไว้ว่า เขาจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงครึ่งของอายุขัยพ่อ
พ่อลีเสียเมื่ออายุ 64 ปี และลีเสียชีวิตตอนอายุ 32 ปี
ครึ่งของอายุพ่อจริงๆ !
ยิ่งกว่านั้น แบรนดอน ลี บุตรชายของลี ต้องมาสิ้นชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อขณะอายุ 28 ปี ตอนเล่นหนังเรื่อง the Crow - อีกาพญายม ซึ่งหนังเรื่องนี้ version ที่เขาเล่น ประทับใจผู้ชมมากกว่าของคนอื่นๆ
แบรนดอน เสียชีวิตขณะเล่นหนังเรื่องนี้ ในบทที่เขาถูกยิง ปรากฎว่า ตามบทปืนที่ใช้ยิงเขาต้องไม่มีลูก แต่เอาเข้าจริง มันกลับบรรจุกระสุนซ้อมอยู่ ! ซึ่งเมื่อยิงระยะประชิด ยิงเข้าท้อง ก็ทะลุทำให้ถึงตายได้เช่นกัน (ปกติถ้ายิงระยะใกล้ กระสุนจริง อาจจะทะลุทะลวงได้ถึง 4-5 คนยืนซ้อนกัน ในขณะที่ กระสุนซ้อม ยิงทะลุได้แค่คนเดียว)
มีมือลึกลับ เอากระสุนซ้อมไปบรรจุในรังเพลิงปืนกระบอกนั้น เพื่ออะไรกันหนอ ? เพื่อหมายชีวิตเขา ? ยังเป็นปริศนา คล้ายการตายของพ่อจวบจนทุกวันนี้
ถึงได้มีคนสันนิษฐานว่า การตายของลี เป็นเพราะต้องคำสาปประจำตระกูล !
พิธีงานศพของ บรูซ ลี จัดขึ้นสองหน หนแรกที่ฮ่องกง จากนั้นนำโลงบรรจุศพไปทำพิธีและฝังที่ ซีแอ้ตเติ้ล อเมริกา
พิธีศพที่อเมริกา ดาราเพื่อนสนิทและเปนลูกศิษย์กังฟูของลี ที่มาทำหน้าที่หามโลงศพให้ลี คือ เจมส์ โคเบิร์น และ สตีฟ แมคควีน
street art รูปวาดบนผนังอิฐที่ ปีนัง รูปบรูซ ลี กระโดดถีบ มีแมวประกอบ 2-3 ตัว เพราะเวลาออกหมัดมวยกังฟู ลีจะส่งเสียงเลียนเสียงแมวร้องขู่ศัตรูตลอดเวลา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา