31 ก.ค. 2021 เวลา 14:07 • นิยาย เรื่องสั้น
#จันทร์เจ้าขาตอนพิเศษ,
#ผกันคยี2
#บทที่2ตอนที่14
(31/7/2021)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ,
คืนนี้ขออนุญาตลงจันทร์เจ้าขาตอนพิเศษต่อเนื่องให้เพื่อนๆได้อ่านกันอย่างเพลิดเพลิน นะครับ ❤️🥛🎹🌟
สุขสันต์วันหยุดนะครับทุกคน😇❤️🎹
ความเดิมตอนที่แล้ว:
เมื่ออู้พาเฒ่า กับโกเซยะมาถึงยัง วัดป่ะโก่ ..
เศรษฐีมะกะดู ก็ยิงใส่ โกเซยะ ในทันทีที่เดินเข้ามาใกล้
..
..
ส่วนโบตูระที่แยกกลับไปยังงานพิธีก็พบกับมะซานดาที่หัวใจใกล้แตกสลาย
ซึ่งได้แจ้งถ้อยความบอกเตือนกับโบตูระ ผู้เป็นที่รักว่า อย่าได้หนีหายจากไปในลักษณะที่ไม่บอกกล่าวเช่นนี้อีก..
มิฉะนั้นมะซานดาจะบวชเป็นนางชีตี่ละฉิ่นถือศีลจนสิ้นลมหายใจ..
..
ทางฝั่งบริเวณหน้าวัดป่ะโก่,
เมื่อโกเซยะฟื้นคืนสติ ก็ให้สัญญาณประสานการรุกชิงองค์หญิงผกันคยีจากมะกะต่อว์ กับอู้พาเฒ่า
ซึ่งกระทำการได้สำเร็จ และยังฝากรอยแค้นบนใบหน้าอันสุดหล่อเหลาของมะกะต่อว์อีกด้วย
..
#บริเวณหน้าวัดป่ะโก่ใกล้กับสุสานนาคี,
ในขณะที่เหตุการณ์กำลังชุลมุน ..วุ่นวาย
เนื่องด้วยมะกะต่อว์ยังคงนอนสลบไสลราวกับร่างไร้วิญญาณ..
ภายหลังจากถูกฝ่าเท้าที่หอมราวกับช้างเน่าของโกเซยะประทับถีบเข้าที่แก้มขวา..ระยะประชิดกับจมูก..
1
เศรษฐีมะกะดู และลูกสมุนจึงรีบกุลีกุจอ กรูกันเข้ามาช่วยกันปฐมพยาบาลรักษาอาการฟั่นเฟือนจากการสูดดมกลิ่นเท้าช้างเน่าอย่างไม่ทันตั้งตัว..
2
โกเซยะจึงหันไปพยักเพยิดส่งสัญญาณให้อู้พาเฒ่า รีบพาองค์หญิงผกันคยี เข้าไปในเขตสุสานนาคี วัดป่ะโก่..
เพื่อที่เศรษฐีมะกะดู จะไม่สามารถติดตามเข้าไปกระทำการอุกอาจในเขตอารามหลวงที่บริเวณนั้นได้..อันด้วยว่า..ทุกคนต่างเกรงกลัวต่อกฏมณเฑียรบาลอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้ามินดง และพระอนุชากะนอง..
แต่ทันใดนั้นเอง เจ้านายน้อยมะกะต่อว์ของบ่าวทั้งหลาย ก็ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
ด้วยสายตาเลื่อนลอย..และชี้นิ้วไปข้างหน้า ..พร้อมกับ
อุทานเบาๆ ด้วยเสียงแหลมเล็ก แผ่ว ปร่าแปร่ง ติดจมูกว่า..
“พ๊ออองงงงง!! “
1
“มันอี๋ ไปอางอู๊น แอ๊ววววว”
เศรษฐีมะกะดู ก้มหน้ามองลูกชายที่รัก น้ำตาคลอ
และพยักหน้าช้าๆอย่างเข้าใจ..
ก่อนที่จะหันไปตะโกนชี้สั่งลูกสมุนคนสนิทเสียงดังว่า..
“ไอ้ดิงด๊วด (ไอ้ลูกหมา) ..
ลูกข้าอยากกิน ..มันโถว..
รีบไปซื้อมาวางเร๊วววว!!!”
มะกะต่อว์ หลับตาลงอย่างอ่อนใจ เมื่อได้ยินบิดา สั่งลูกน้องไปซื้อมันโถว..
จากนั้นจึงรวบรวมแรงอีกครั้ง..ลืมตาขึ้น และพูดด้วยเสียงแหลมปรี๊ด ติดจมูกว่า..
“พ๊อออองงง..
ไม่ใช่ มันโอ๋ว..”
“มันอี๋.. ไป..อาง..อู๊น..แอ๊วว”
“อาง..อู๊น..แอ๊วว!!!”
1
มะกะต่อใช้นิ้วชี้ แตะที่แก้มของบิดา แล้วบุ้ยปาก ชี้นิ้วไปที่โกเซยะหนุ่ม
ที่กำลังย่องตามอู้พาเฒ่า..
เศรษฐีมะกะดูมองตามนิ้วของลูกชาย แล้วจึงขบกรามแน่น ..เมื่อเห็นอู้พาเฒ่าและองค์หญิงผกันยี กำลังก้าวเท้าล่วงเข้าสู่เขตอภัยทานอารามหลวง
..วัดป่ะโก่..
จากนั้นเศรษฐีมะกะดูจึงเปิดย่าม ล้วงเอาทองคำมากำมือหนึ่งแล้วจึงโยนไปข้างหน้า พร้อมกับตะโกนขึ้นมาว่า..
“ข้าขอประกาศว่า..ถ้าผู้ใด จับเจ้าหนุ่มโกเซยะและไก่ของมัน นำมามอบให้ข้าได้แล้ว.. ทองตรงหน้าก็จะเป็นของผู้นั้น..”
สิ้นเสียงประกาศก้องของเศรษฐีมะกะดู..เสียงฮือฮาของชาวบ้านที่อยู่รอบบริเวณก็ดังขึ้นอื้ออึง..
โกเซยะหนุ่มเมื่อได้ยินเสียงนั้น.. ก็หันหน้ากลับมา ตั้งท่ายืนพร้อมจะเอาเรื่อง..แล้วขยับปาก อ่านคำได้ ว่า..
“ลองก้าวเข้ามา สิขอรับ..”
ทันใดนั้น ไก่มะตีฮะ ก็เอียงศีรษะแหงนหน้าขึ้นมอง
โกเซยะ และส่งเสียงร้องดังขึ้นในคอ ว่า..
“ฮรื่อออออออ..ฮรื่อออออ..”
โกเซยะหนุ่มก้มลงมองไก่มะตีฮะ พลางส่ายหน้าอย่างขัดอารมณ์ แล้วพูดตอบเบาๆ..ว่า
“ข้าจำได้ ..ข้าจำได้ดี มะตีฮะ..ท่านพี่โบตูระ กล่าวกับข้าและเจ้า ไว้ว่า”
“อาจารย์ กำชับ พวกเราเสมอ ว่า.. อย่าใช้วิชาของอาจารย์ ทำร้ายคนร่วมชาติเดียวกัน..”
..
..
“มะตีฮะเอ๋ย..แล้วถ้าหากการรักษาคำสัญญากับท่านพี่โบตูระนั้น..อาจทำให้เจ้ากับข้าถึงแก่ชีวิต..
แล้วเจ้าจะยังรักษาสัญญานั้นหรือไม่..”
ทันทีที่โกเซยะ พูดจบ..
ไก่มะตีฮะก็แนบศีรษะในอ้อมแขนของโกเซยะ ..
พร้อมหลับตา และส่งเสียงร้องในคอเบาๆ ว่า
“ฮื่ออออออ..”
โกเซยะ เงยหน้ายิ้มด้วยตาเป็นประกาย..จ้องมองไปกลุ่มฝูงชนด้านหน้า แล้วย่อตัวลง ..ก่อนที่จะส่งเสียงพร้อมกับเสียงขันดังก้อง ของไก่กะหร่องมะตีฮะ ว่า
“โฮกกกกกก !!”
จากนั้นจึงกอดไก่มะตีฮะแน่นแนบอก ..แล้วจึงกระโจนพุ่งออกไปด้านหน้ามุ่งไปหาเศรษฐีมะกะดู..
..
..
องค์หญิงผกันยี มองตามร่างโกเซยะหนุ่ม ที่พุ่งกระโจน..วิ่ง อย่างไม่เข้าใจ ..
ว่าเหตุใด โกเซยะจึงไม่ก้าวข้ามเข้าสู่เขตอภัยทานของสุสานนาคี แต่กลับวิ่งตรงไปหาความตายเช่นนั้น..
อู้พาเฒ่า จึงกล่าวขึ้น ในขณะที่สายตากำลังกะประเมิน ฝ่ายตรงข้าม ว่า..
“เพราะเจ๊าหนุ๋มโกเซย๊ะ ไม่ประส๋งค์จะให้ความแป๊ดเปื้อน แห่งความพยาบ๊าทอาฆาตแค้นของมะกะดู๋เข้ามาเกี่ยวพันกับองค์หญิง และกลุ่มองครั๊กษ์นาคีขององค์หญิง กระมัง ขอรั๊บ..”
องค์หญิงผกันคยี ได้ยินดังนั้น.. จึงทรงออกคำสั่งกับอู้พาเฒ่า ว่า..
“ถ้าเช่นนั้นแล้ว.. ขออู้พาเฒ่าจงรีบช่วยโกเซยะด้วยเถิด..”
อู้พาเฒ่า หันมององค์หญิงผกันยี ร่างทรงสายเลือดนาคี.. อย่างแทบไม่เชื่อหูตนเอง..
ด้วยว่า องค์หญิงผกันคยี ผู้สำรวมในถ้อยคำ จะออกคำสั่งในลักษณะเพื่อให้อู้พา ช่วยเหลือชายหนุ่มแปลกหน้า โกเซยะผู้นี้..
องค์หญิงผกันคยี พยักหน้าอีกครั้งให้อู้พาเฒ่า แล้วทรงเอ่ยพระดำรัสอย่างแผ่วเบาว่า..
“ได้..โปรด..เถิด”
อู้พาเฒ่า ก้มศีรษะลงรับคำสั่ง แล้วจึงส่งจิตถึง โกเซยะ ว่า..
“โกเซยะเอ๋ย..
ขอเจ้าจงจดจำ พระคาถานาคีเปิดทวาร และรีบท่องจำเพื่อใช้พระคาถา นี้โดยเร็วเถิด..
โอม...เป๊กจะดำ..แผ่นดินดำ..ไหววะหวาด
สายต๋าขาด...ขับหนี..ละคนดี..ตู๋ไว้นี้
ผียักษ์และผีเข็น....ผีเย็นอย่ามาไก้
จงฮื้อหนีไป..จงฮื้นหนีปัน...ตั๋วผีกุมภัณท์และยักษ์ร้าย โอม..สะหะ  ปะวุฒิ  สัว  หาย.”
เมื่ออู้พาเฒ่า ได้ถ่ายทอดพระคาถาจบลง..
เสียงสว่างใสของโกเซยะ ก็ปรากฏขึ้นใน จิตของอู้พาเฒ่า ว่า..
“ฮื่อออ ข้าขอรักษาสัจวาจาที่ให้ไว้กับท่านพี่โบตูระ..
ข้ามิอาจใช้พระคาถาใดทำร้ายเพื่อนร่วมชาติของเราได้ขอรับ..
ข้าขอขอบคุณอู้พาเฒ่า ยิ่งนักขอรับ..”
..
..
เมื่อสิ้นเสียงจากกระแสจิตของโกเซยะ..
องค์หญิงผกันคยี ก็เห็นภาพอันโหดร้ายจากเหล่าชาวบ้านที่ตกอยู่ในความละโมบ เข้าฉุดกระชากไก่มะตีฮะ ให้หลุดจากอ้อมกอดของโกเซยะหนุ่ม..
ในขณะที่ชาวบ้านบางคนก็ใช้ท่อนไม้ทุบตี ที่ศีรษะและร่างกายของโกเซยะ เพื่อหมายให้ปล่อยมือจากไก่มะตีฮะ..
องค์หญิงผกันคยีจึงรีบส่งกระแสจิต ตรัสกับโกเซยะ ขึ้นว่า..
“โกเซยะ บุรุษผู้มีจิตใจเด็ดเดี่ยว และรักษาสัจวาจา..
มากกว่าจะรักษาชีวิตของตนเอง..
ขอท่านจงโปรดรับบัญชาและสัญญากับข้า เถิดว่า..
ท่านจะรักษาชีวิตของตนเองให้รอดปลอดภัย จนกว่าเราจะได้พบกันอีกครั้ง ..
และท่านจะกลับมาเป็นผู้ปกป้อง องครักษ์พิทักษ์ข้าอีกในภายภาคหน้า..”
..
..
ชั่วอึดใจ หลังจากองค์หญิงผกันคยีตรัสสั่ง ทางจิต..
ก็มีเสียงตอบกลับมาในจิตขององค์หญิง อย่างกระท่อนกระแท่นว่า..
“ข้าพระองค์.. มิอาจ.. รับคำสั่ง.. หรือสัญญากับผู้ที่ข้า พระองค์ ยังมิทราบนามได้ไม่..พ่ะย่ะค่ะ
ขอองค์หญิงทรงโปรดเอ่ยพระนามกับโกเซยะ ผู้นี้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ..”
องค์หญิงผกันคยี ส่ายหน้ากับคำตอบจากกระแสจิตของโกเซยะ .. ก่อนที่จะทรงรับสั่งกลับไปว่า..
“นามของข้า และพระพี่นางเจ้าทุกพระองค์เจ้า แห่งสายโลหิตนาคี.. ได้ถูกจารึกบนทวารประตูแห่งนาคาบาดาล จึงทำให้มิอาจเอื้อนเอ่ยจากริมฝีปากข้าได้ .. ด้วยว่าจะเป็นการสลายมนตราบนทวารประตูนั้น..
นี่ตัวเจ้าประสงค์แรงกล้า เข้าสู่ความตายมากเช่นนั้นหรือ โกเซยะ..”
..
..
เวลาผ่านไปชั่วครู่เปลวเทียนดับ..
เสียงจากจิตของโกเซยะ ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง กล่าวว่า..
“ถ้าเช่นนั้น ข้าพระองค์ขอให้สัญญากับองค์หญิงที่ข้าพระองค์ได้คว้า
..พระกร..ของพระองค์..
1
ข้าพระองค์สัญญากับพระกรของพระองค์ ว่า
ข้าพระองค์จะรอดชีวิตจากเหตุภัยในครั้งนี้..
แล้วขอเป็นองครักษ์พิทักษ์พระองค์สืบไปในภายภาคหน้า พ่ะย่ะค่ะ หึหึ”
องค์หญิงผกันคยี อมยิ้มในคำตอบของโกเซยะ แม้ในยามเผชิญวาระภัยสุ่มเสี่ยงความเป็นความตาย เช่นนี้
แล้วองค์หญิงผกันคยีจึงตรัสตอบกลับไปว่า..
“หึหึ หึ ข้า รับคำมั่นสัญญา
ในการที่เจ้าจะรักษาชีวิต กับนามที่เจ้าประสงค์ในครั้งนี้ หึหึ หึ..
นามว่า กร.. เช่นนั้นสินะ
ข้าขอตกลงในนามที่เจ้าประสงค์เรียกนี้..
หึหึ..แล้วพบกันอีกครั้ง เถิด
บุรุษผู้รักษาสัญญายิ่งชีวิต
บุรุษผู้มีเท้าเหม็นราวช้างเน่า.. หึหึ..
1
และบุรุษผู้เดินฝ่าแดนความตาย เพื่อกลับมาพบข้าได้อีกครั้งได้ราว “สมิงไพร”
1
แล้วพบกันอีกครั้ง ..”
..
..
“ขอรับ.. คุณ..หนู..กร”
เสียงคำสุดท้ายจากจิตของโกเซยะ ผ่านเข้ามา ก่อนที่จะเลือนหายไป..
เมื่อเหล่าองครักษ์นาคี ได้เชิญให้องค์หญิงผกันคยี เสด็จดำเนินจากเหตุการณ์วุ่นวายนอกอารามหลวง..
..
..
จบบทที่2 ตอนที่ 14
สวัสดี และขอจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ร้อยเรียงจันทร์เจ้าขา
(T.Mon)
31/7/2021
..
..
..

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา