21 ส.ค. 2021 เวลา 12:30 • หนังสือ
สรุปหนังสือ “อยู่อย่างไรให้สมองไม่แก่”
พฤติกรรมง่ายๆ15 อย่างไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน สมองของคุณก็จะกลับมาทำงานเหมือนกับวัยหนุ่มสาว แล้วธุรกิจของคุณจะพุ่งทะยานจนไม่ต้องหันไปมองคู่แข่งอีกเลย
ผู้เขียน: ซุกิยะมะ ทะคะชิ
สรุปโดย นักเรียน สรุปให้ รุ่นที่ 5 คุณ Kansuda Manomaisantiphap
=====================
ไม่พลาดสรุปหนังสือดี ๆ กดติดตาม เพจสรุปให้
#ไม่พลาดโปรดีๆติดตามที่ Line: @saroophai
2
คนรุ่นใหม่อาจมีปัญหาสมองเสื่อมโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมบางอย่างที่ส่งผลเสียต่อสมอง ในหนังสือเล่มนี้ได้แนะนำพฤติกรรมทั้งหมด 15 อย่าง ที่ช่วยทำให้การทำงานของสมองดีขึ้น ล้วนป็นเรื่องใกล้ตัว ที่สามารถทำได้ง่าย จนทำให้หลายคนมองข้าม สามารถเลือกพฤติกรรมที่เหมาะสมกับเราได้ ให้ยึดหลัก 2 ข้อ 1. ไม่สิ้นเปลืองเงินและเวลา 2. ทำให้คุณภาพชีวิตเราดีขึ้น
โดยปกติสมองคนเรา มีช่วงพักและทำงานสลับกันไป การมีจังหวะชีวิตที่เป็นระเบียบ ช่วยให้สมองพักและทำงานเป็นเวลา ทำให้เรารู้ว่าควรทำงานหรือคิดเรื่องยากๆตอนไหน ในทางตรงกันข้าม หากจังหวะชีวิตไม่เป็นระเบียบ สมองจะพักและทำงานไม่เป็นเวลา จะทำให้เกิดอาการสมองตื้อ ดังนั้น แค่ตื่นนอนให้เป็นเวลา และตั้งใจทำงานตอนที่สมองปลอดโปร่ง ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การขยับแขน ขา และปากในตอนเช้า ช่วยให้สมองช่วยให้สมองกระฉับกระเฉง คิดหรือทำเรื่องยากๆ สมองจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมีเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองอย่างเพียงพอ เนื่องจากสมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของเท้าอยู่บริเวณด้านบนของกะโหลก การเดินไปมาจึงทำให้เลือดสูบฉีดขึ้นไปเลี้ยงถึงสมองส่วนบน ดังนั้น ถ้าคิดอะไรไม่ออกเวลานั่งนิ่งๆ ให้ลองลองลุกขึ้นเดิน ทำให้สมองแล่นและคิดออก
1.เขียนสิ่งที่ต้องทำไว้ล่วงหน้า ช่วยให้จดจ่อกับการทำงานมากขึ้น และลดโอกาสที่จะหลงลืม 2.กำหนดเส้นตายที่งานต้องเสร็จ ช่วยกระตุ้นสมองได้เป็นอย่างดี และการมีเวลาเพิ่มขึ้น ไม่ได้แปลว่า เราจะทำงานได้ดีขึ้นเสมอไป 3.ฝึกเขียนแผนงานลงบนกระดาษ เพื่อให้เห็นขั้นตอนการทำงานและรายละเอียดที่ชัดเจนขึ้น ช่วยให้สมองทำงานได้ง่ายขึ้น ลดข้อผิดพลาด/ตกหล่น ช่วยให้ตัดสินใจได้ถูกต้องแม่นยำ
เวลาที่เรารู้สึกมีอาการขี้ลืมบ่อย สับสนเวลาเจองานมากๆ ไม่รู้จะทำอะไรก่อนดี ให้เริ่มต้นด้วยการจัดระเบียบข้าวของบนโต๊ะ
หากคุณแค่อ่านในใจ สมองจะรับข้อมูลแบบผ่านๆ แต่ถ้าลงมือคัดลอก สมองต้องเก็บรักษาข้อมูลไว้ระยะหนึ่ง ดังนั้น การคัดลอกช่วยให้สมองทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราสามารถที่จะเขียนหรือพิมพ์ก็ได้ แต่การเขียนด้วยมือจะทำให้เราได้ใช้เวลาฝึกสมองมากกว่า การอ่านออกเสียงช่วยเพิ่มความจำได้ เพราะทำให้เราฝึกตีความไปด้วย การอ่านออกเสียงให้ได้อย่างไหลลื่น
ถึงแม้บันทึกรายงานการประชุมจะมีบันทึกรายละเอียดเขียนไว้อยู่แล้ว แต่มันก็เป็นข้อความที่มาจากสมองคนอื่น การเขียนหรือการพูดคุยกับคนอื่น ช่วยให้ความรู้ของคนอื่นกลายเป็นความรู้ของเรา
ไอเดียดีๆไม่ได้มีมาตั้งแต่เกิด แต่เกิดจากการนำข้อมูลต่างๆมาประกอบรวมกัน ดังนั้น ถ้าอยากมีไอเดีย/ความคิดสร้างสรรค์ดีๆ เริ่มต้นที่การหาความรู้เพิ่มเติม และเพิ่มคลังคำศัพท์ โดยเวลารับข้อมูลใหม่ๆ ให้คิดเสมอว่ามันเป็นประโยชน์กับใคร นอกจากนี้ไอเดียแฝงอยู่ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกัน การคบคนให้มากและทำกิจกรรมหลากหลาย ช่วยพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์ และเป็นบ่อเกิด ไอเดียใหม่ๆในการทำงาน
โฆษณา