1 ส.ค. 2021 เวลา 08:44 • นิยาย เรื่องสั้น
เล่า ตอนที่ 1 แม่เล่าว่า..
ในช่วงบ่ายของวันหยุด ในขณะที่แม่กำลังจัดบ้านและฉันที่กำลังนั่งอ่านเรื่องผีเรื่องลี้ลับอยู่นั่น ฉันจึงหันไปถามแม่ว่า..
“แม่..แม่เคยเจอผีหรือเปล่า-? ”
แม่หันมามองหน้าฉันพร้อมพูดว่า “เคยสิ ” พร้อมเดินมานั่งข้างๆ ฉันแล้วเล่าเรื่องในสมัยที่แม่ยังเป็นเด็กให้ฟังว่า...
ตอนที่แม่อายุ7ขวบ แม่ชอบไปเที่ยวเล่นที่บ้านของทวด ซึ่งมีศักดิ์เป็นยายของแม่ สมัยก่อนนั่นยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องอาศัยแสงไฟจากตะเกียงหรือเทียนเพื่อให้แสงสว่างในยามค่ำคืน และในหมู่บ้านนี้สมัยก่อนยังมีบ้านคนไม่กี่หลัง แต่ละหลังอยู่ห่างกันมาก และบริเวณรอบๆ ก็มีแต่ป่ารกทึบ เต็มไปด้วยต้นไม้เล็กใหญ่และกอไผ่ที่ลิ่วลม เสียดสีกันไปมาเหมือนเป็นจังหวะดนตรี แต่ให้เสียงที่ฟังแล้วชวนขนหัวลุกอยู่ไม่น้อย อีกทั้งเสียงนกกาเหว่าที่ร้องดังกังวาลไปทั่วบริเวณนั้น
แม่จึงต้องรีบไปบ้านทวดก่อนที่จะมืด ระหว่างทางนั้นได้เดินผ่านกระท่อมหลังหนึ่ง ที่มีชายชรา ตาบอด อาศัยอยู่ตามลำพัง ถัดออกไปจากกระท่อม ก็มีบ้านอีก3หลังอยู่ไม่ห่างจากกระท่อมมากนัก สามารถมองเห็นกันได้ ซึ่งบ้านเหล่านั่นก็เป็นของลูกหลานชายชรานั่นเอง
เมื่อแม่เดินผ่านหน้ากระท่อม ชายชราได้ยินเสียงคนเดิน ก็คิดว่าเป็นหลานสาวตน จึงตะโกนเรียก
“ปราณี...มาหยิบกล้วยให้ตาหน่อย”
“ไม่ใช่ค่ะ หนูไม่ใช่ปราณี “
“อ่าว...แล้วนี่เป็นใครกันละ ตาขอช่วยหยิบกล้วยหอมให้หน่อยได้ไหม”
“อ๋อ...ได้ค่ะตา”
แม่เดินเข้าไปในกระท่อม พร้อมกวาดสายตามองหากล้วยหอมแล้วหยิบส่งให้ชายชรา และวางกล้วยหอมไว้บนโต้ะข้างเตียงนอนของชายชราเพื่อให้เขาหยิบหาง่ายขึ้น
“หนูวางกล้วยไว้บนโต้ะนี่นะค่ะ “
“ขอบใจมากนะ ว่าแต่เอ็งจะไปไหนหรือ”
“อ๋อ....คือหนูจะไปบ้านของยายที่อยู่ในสวนนู้นค่ะ ก็เลยเดินผ่านทางนี้”
“เอ็งเอากล้วยไปกินสิ ตาให้”
สิ้นเสียงพูดของชายชรา แม่กล่าวขอบคุณพร้อมบอกลาชายชรา พรางถือกล้วยหอมเดินออกไป วิ่งเล่นไปตามทางพร้อมกินกล้วยที่ชายชราแบ่งให้อย่างร่าเริงตามประสาเด็ก จนถึงบ้านของทวดก่อนมืดพอดีและได้นอนค้างคืนที่นั่น
ในทุกๆ ครั้งที่แม่เดินผ่านกระท่อมของชายชรา เขามักเรียกแม่ให้หยิบของให้อยู่เสมอ
“หนู....หนู...หยิบกระติกน้ำให้ตาหน่อย”
แม่เข้าไปหยิบกระติกน้ำที่วางไว้บนโต้ะ พร้อมรินน้ำใส่แก้วยื่นให้ชายชราดื่ม อีกทั้งยังนวดขาให้ชายชราด้วย ไม่นานนักแม่ก็รีบขอตัวกลับก่อน จะต้องไปบ้านทวดก่อนที่จะค่ำ เพราะทางเป็นป่ารกทึบ ค่อนข้างเปลี่ยวและน่ากลัวมาก จึงกล่าวลาชายชราพร้อมบอกว่าพรุ่งนี้จะมาใหม่
ก่อนแม่จะไป ชายชราบอกให้แม่หยิบขนมที่อยู่ในปี๊บไปกินบ้าง ตากินคนเดียวไม่หมด แม่เดินไปที่ขนมแล้วเปิดฝาขนมที่ปิดไม่สนิดออก เอามือล้วงหยิบขนมขึ้นมาใส่ชายเสื้อของตนพอประมาณ เนื่องจากไม่มีถุงใส่ แล้วบอกลาชายชราอีกครั้งก่อนเดินออกไป
นี่ก็เย็นมากแล้ว มีเสียงหริ่ง จิ้งหรีดร้องดังลั่นไปทั่วทั้งป่า ดวงอาทิตย์เริ่มหรี่แสงลง ท้องฟ้าเริ่มมืด 2ข้างทางที่เต็มไปด้วยป่าและกอไผ่ ให้บรรยากาศอันแสนน่ากลัว มีลมพัดเบาๆ เสียงไผ่เสียดสีกันไปมาตามแรงลม ทำให้รู้สึกวูบวาบและขนลุกไม่น้อย ดังนั้นแม่จึงรีบวิ่งไปบ้านของทวดในทันที
หลายวันผ่านไป แม่ก็ยังเดินผ่านกระท่อมของชายชรา และแวะช่วยหยิบของรวมทั้งบีบนวดให้ชายชราอยู่เช่นเดิมทุกวัน เหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันหลังเลิกเรียนของแม่ไปแล้ว ที่คอยช่วยเหลือชายชราผู้น่าสงสารนี้
ในคืนที่เงียบสงัด เวลาประมาณ ตี3-4 ขณะที่แม่กำลังนอนหลับอยู่ บรรยากาศก็เริ่มวังเวงขึ้น มีเสียงหริ่งเรไร เสียงนกร้องดังกังวาล มีลมอ่อนๆ พัดเข้ามาทางหน้าต่าง กระทบตัวมุ้งให้พริ้วไหวเบาๆ เปลวไฟจากตะเกียงสบัดพัดตามแรงลมจนเกือบจะดับ แต่แสงไฟก็กลับมาสว่างได้อีกครั้ง ทำให้แม่รู้สึกตัวในภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้สึกเหมือนมีคนนั่งอยู่ปลายเท้า มือนั่นได้จับลงที่ขาของแม่ และบีบนวดอย่างเบาๆ ใจแม่เริ่มเต้นแรงขึ้น ตัวสึกหวิวขนลุกไปทั่วทั้งตัว แม่จึงตัดสินใจลืมตาดูก็พบว่า เห็นเป็นร่างของชายชราตาบอด กำลังนั่งนวดขาให้แม่อยู่ ดังนั้นจึงได้กรีดร้องขึ้นด้วยความตกใจกลัวอย่างสุดขีด พร้อมร้องไห้ด้วยความหวาดระแวง
เมื่อทวดได้ยินเสียงกรีดร้องของแม่จึงรีบวิ่งเข้าไปดู ก็พบว่าแม่ร้องไห้ ขวัญเสีย เหมือนตกใจกลัวอะไรบางอย่าง จึงถามว่า...
“เกิดอะไรขึ้น เป็นอะไรหรือเปล่า”
แม่ที่ยังตกใจกลัวกับสิ่งที่เจอ หน้าซีดและตัวสั่นนั่งร้องไห้อยู่ที่มุมห้อง ได้โผล่กอดทวดไว้แน่น แล้วเล่าสิ่งที่ตนเจอให้ทวดฟังว่า
“เห็นชายชราที่ตาบอด ได้มานั่งนวดขาให้ อยู่ที่ปลายเท้า”
แม่เล่าพรางน้ำตาไหลอาบแก้มทั้ง2ข้าง ทวดฟังดังนั้นก็ปลอบใจ
“มันเป็นแค่ฝันร้าย เอ็งก็แวะหาแกอยู่ทุกวันไม่ใช่หรือ”
แล้วทวดก็เอาน้ำมนต์ให้แม่กินและใช้ประหัว ตบหัวให้เบาๆ
“ชวัญเอ๊ย ขวัญมา ขวัญคืนกลับมา”
แม่ได้นั่งอยู่กับทวดจนเช้า และพากันเดินออกไปตลาด ระหว่างทางเห็นคนแต่ไกลๆ จับกลุ่มกันทำอะไรสักอย่างบริเวณกระท่อมของชายชรา เมื่อเดินไปถึงจึงได้รู้ว่า ชายชราได้เสียชีวิตไปแล้ว
หลังจากวันนั้น แม่ก็ไม่กล้าเดินผ่านกระท่อมนั้นอีก และไม่ไปบ้านของทวดเพียงคนเดียว จะต้องรอไปพร้อมกับทวด เหตุการณ์คืนนั้นทำให้แม่ไม่กล้าที่จะนอนคนเดียวหรืออยู่คนเดียวตามลำพัง เพราะสิ่งที่เจอน่ากลัวมากสำหรับแม่ในวัยเด็ก
“โห...หลอนมากแม่ ช็อคเลยอ่ะถ้าเจอแบบนี้ คิดว่าแกคงมาลาแม่แหละ เพราะแม่แวะหาแกทุกวัน”
“อืม..ฉันก็คิดแบบนั้น”

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา