12 ส.ค. 2021 เวลา 08:35 • กีฬา
ผู้ปิดทองหลังพระ
โดย วิธพล เจาะจิตต์
3
การแข่งขันบาสเกตบอลชายโตเกียวเกมส์จบลงไปแล้วด้วยชัยชนะของทีมยูเอสเอ พวกเขาคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 4 ครั้งรวด นับตั้งแต่ปักกิ่งเกมส์ในปี 2008 เพิ่มสถิติการครองบัลลังก์ราชายัดห่วงในเกมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติเป็นเวลา 16 ปี
หลังจากผ่านด่านสำคัญคือทีมชาติสเปนในรอบควอเตอร์ไฟนอล ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครหยุดยั้งทีมยูเอสเอชุดนี้ได้อีก พวกเขาเดินหน้าล้างแค้นออสเตรเลียในรอบรองชนะเลิศ 97-78
ต่อด้วยคว้าเหรียญทองด้วยการเชือดฝรั่งเศส 87-82 เป็นการเอาคืนที่ทีมบาสเมืองน้ำหอมอัดพวกเขาตกรอบในศึกบาสเกตบอลชิงแชมป์โลกปี 2019 และยังทำให้พวกเขาเปิดสนามโตเกียวเกมส์ด้วยความพ่ายแพ้
ทีมยูเอสเอมีสถิติชนะ 5 แพ้ 1 ในโตเกียวเกมส์เท่ากันกับฝรั่งเศส เพียงแต่ความพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวของทีมตราไก่ ดันมาเกิดขึ้นในรอบชิงชนะเลิศ
กัปตันทีมยูเอสเอ เควิน ดูแรนท์ โชว์ฟอร์มเทพนับตั้งแต่เข้ารอบควอเตอร์ไฟนอล เป็นกลจักรสำคัญที่ขับเคลื่อนทีมสู่ชัยชนะ จนแฟนบาสจำนวนไม่น้อยเปลี่ยนชื่อทีมยูเอสเอจาก ยูไนเต็ด สเตทส์ ออฟ อเมริกา เป็น ยูไนเต็ด สเตทส์ ออฟ เควิน ดูแรนท์
1
ดูแรนท์ก้าวหน้าไปอีกก้าวหนึ่งในชีวิตนักบาสทีมชาติด้วยความเป็นผู้นำที่เด่นชัด สปอตไลต์สาดส่องมาที่เขาในฐานะดาวเด่น
1
บทความนี้ไม่ได้เป็นความเรียงเกี่ยวกับความเทพของดูแรนท์ แต่เป็นการยกย่องผู้ที่อยู่เบื้องหลังทีมยูเอสเอ ผู้ที่สามารถประสานทีมได้ในเวลาอันสั้น สร้างทีมจากทีมที่กระท่อนกระแท่น ไม่รู้ว่าจะผ่านรอบแรกหรือไม่ จนก้าวไปหยิบเหรียญทอง
1
นี่คือเรื่องราวของโค้ช เกร็ก โพโพวิช และ สตีฟ เคอร์ และสิ่งที่พวกเขาทำให้ทีมจากข้างสนาม
🏀🏀🏀
1
Credit: nymag.com
ก. หลอมคริสตัลจากแก้วแตก
โดยธรรมเนียมของทีมบาสเกตบอลยูเอสเอ ผู้เล่นหลักของทีมชุดโอลิมปิกจะมาจากชุดชิงแชมป์โลกซึ่งจะเกิดขึ้น 2 ปีก่อนหน้าโอลิมปิก แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้เล่นชุดชิงแชมป์โลกเกือบทั้งหมดถอนตัว เหลือเพียง เจย์สัน เททัม และ คริส มิดเดิลตัน เท่านั้นที่ยังคงความตั้งใจรับใช้ชาติ
ความพยายามของลีก NBA ที่จัดให้มีการแข่งขันภายใต้วิกฤติโควิดในฤดูกาล 2019/2020 และ 2020/2021 ซึ่งมีระยะเวลาพักระหว่างฤดูกาลสั้นมากๆ ส่งผลให้ยอดฝีมือหลายคนมีอาการบาดเจ็บ ประจวบเหมาะกับจังหวะไม่ดี เพราะผู้เล่นที่ติดทีมยอดเยี่ยมทีมแรกของลีกสองคน คือ สเตฟ เคอร์รี และ คาไว เลียวนาร์ด ต่างหมดสัญญากับต้นสังกัดในช่วงนี้ สมาธิของพวกเขาจึงอยู่กับอนาคตของตัวเองในลีก และเมื่อครอบครัวไม่สนับสนุนให้ไปเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ผู้เล่นทั้งสองคนนี้จึงตัดสินใจไม่ร่วมทีม
ยังดีที่ดูแรนท์ตัดสินใจร่วมทีมหลังอกหักตกรอบเพลย์ออฟ กลายเป็นหนึ่งเดียวคนนี้ที่เป็นยอดฝีมือในตำแหน่งของตนที่ร่วมทีมไป
แม้จะมีดูแรนท์แต่ทีมชุดนี้ก็เป็นทีมที่แฟนบาสตั้งคำถามว่าจะไปรอดถึงรอบไหน และเมื่อพวกเขาพ่ายต่อทั้งไนจีเรียและออสเตรเลียในการแข่งซ้อม แถม แบรดลีย์ บีล การ์ดทำแต้มของทีมติดโควิด ถูกถอดออกจากทีม, แซค ลาวีน จอมดั๊งก์มากลีลา เจอกักตัวตามมาตรฐานสาธารณสุข, จรู ฮอลิเดย์ กับ คริส มิดเดิลตัน และ เดวิน บุ๊กเกอร์ ยังติดแข่งรอบชิง NBA ซ้ำร้าย เควิน เลิฟ บาดเจ็บจากการซ้อม…
…ทีมบาสซึ่งปกติต้องมี 12 คน จึงเดินทางไปโตเกียวด้วยสมาชิกเพียง 8 คน ทีมยูเอสเอชุดนี้จึงไม่เคยได้ซ้อมทีมพร้อมหน้าพร้อมตาแม้แต่ครั้งเดียว แถมยังไม่มีผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์มืออาชีพเลยสักคนเดียว
ทีมชุดนี้จึงไม่ใช่แค่แก้วร้าว แต่เป็นแก้วแตก ที่ต้องมาประกอบและหลอมเข้ากันระหว่างทัวร์นาเมนต์ แถมจิ๊กซอว์แก้วก็ยังไม่ครบถ้วนด้วยซ้ำ
โค้ชโพโพวิชและเคอร์ไม่ได้ปล่อยให้อุปสรรคเหล่านั้นกลายเป็นสิ่งบั่นทอนใจ ทั้งคู่สร้างทีมขึ้นมาใหม่โดยใช้การแข่งขันแต่ละนัดเป็นกลไก
- เคอร์และโพโพวิชแสดงให้ผู้เล่นเห็นว่า พวกเขาคือผู้เล่นที่ดีที่สุดของประเทศแม้ว่าจะเปิดสนามแพ้ฝรั่งเศส ด้วยการออกมาให้สัมภาษณ์ปกป้องศักดิ์ศรีผู้เล่น ทำให้ผู้เล่นรู้ว่ามีใครบางคนเชื่อมั่นในพวกเขา และพร้อมที่จะยืนข้างหลังเสมอ
- ทีมงานโค้ชยังคงยืนหยัดความเชื่อในการใช้แผนสมอลบอลล์ พวกเขามั่นใจว่าแม้ไม่มีเซ็นเตอร์อาชีพที่เก่งฉกาจ แต่ด้วยแผนนี้พวกเขาสามารถชนะได้ ความตั้งมั่นของโค้ชช่วยทำให้นักกีฬาไม่เสียสมาธิ
- ต่อยอดความเชื่อมั่นและสมาธิด้วยแนวคิด “การตั้งรับที่ดีที่สุดคือการรุกที่ดีที่สุด” โค้ชคู่นี้สั่งการให้ทีมเน้นเกมรับในการเปิดเกมกับอิหร่าน ทั้งที่อิหร่านคือทีมที่อ่อนที่สุดในทัวร์นาเมนต์ จะบุกใส่เลยก็ย่อมได้ แต่ทั้งโพโพวิชและเคอร์ตระหนักดีว่า เกมบุกที่ยังไม่ค่อยลงตัวและถ้าผิดพลาดทำอะไรทีมอ่อนไม่ได้ กำลังใจทีมจะยิ่งแย่ลง พวกเขาจึงเน้นเกมรับที่ค่อยๆ ทำลายความมั่นใจเกมบุกของอิหร่าน ซึ่งเมื่อคู่แข่งบุกไม่ขึ้น เกมรับก็อ่อนลง ทีมยูเอสเอจึงเจอโอกาสถล่มแหลกเรียกความมั่นใจในเกมบุกคืนมาจนได้
- ในเกมถัดมาที่เจอกับเช็ก โค้ชทั้งคู่จัดเวลาให้ผู้เล่นสำรองได้ลงเล่นเพิ่มมากขึ้น และเมื่อพวกเขาจบเกมด้วยชัยชนะที่แต้มส่วนใหญ่ของทีมมาจากตัวสำรอง ความกดดันที่โถมทับผู้เล่นตัวจริงแบบดูแรนท์ (ซึ่งถึงจุดนี้ก็ยังเล่นไม่ออก) ที่ต้องแบกทีม ก็ลดไปอย่างมาก เพราะเขารู้ว่ามีเพื่อนร่วมทีมคอยก้าวขึ้นมารับภาระ
- เมื่อดูแรนท์เล่นแบบไร้ความกดดัน ในรอบถัดมาแผนของทีมจึงเปลี่ยนไปให้บอลที่ดูแรนท์ เพื่อให้ดวลกับ ริกกี รูบิโอ ผู้เล่นทรงคุณค่าจากทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์โลกของสเปน และเมื่อดูแรนท์มีความล้า เททัมจะลงมาช่วยทำแต้มแทน ในบางช่วงเวลาโค้ชส่งทั้งดูแรนท์และเททัมลงพร้อมกันกลายเป็นหมัดน็อกเอาต์ และในเกมพิฆาตกระทิงเกมนี้เองที่ทีมยูเอสเอสร้างเกมรุกที่หลากหลาย เพราะเมื่อมาถึงเกมที่ 4 ผู้เล่นชั้นยอดเหล่านี้ก็สามารถปรับตัว ปรับเกมเพื่อชัยชนะของทีมได้เป็นอย่างดี และเมื่อโค่นแชมป์โลกได้ พวกเขาก็เชื่อมั่นว่าจะชนะได้ทุกทีม
นี่คือวิสัยทัศน์ของยอดโค้ชที่พร้อมจะใช้ประโยชน์จากคู่แข่งและรูปเกมในแต่ละนัดมาเป็นกลไกในการสร้างทีม และหลอมแก้วแตกให้กลายเป็นคริสตัล
2
Credit: Olympic.com
ข. ต่างสไตล์สร้างทีมที่เท่าเทียม
โค้ชโพโพวิชมีชื่อเสียงในความโหด เขาไม่ลังเลที่จะตรงเข้าไปตำหนิผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ หากพวกเขาไม่เล่นตามแผน ผู้เล่นที่เคยเล่นกับเขาไม่ว่าจะเป็น เดวิด โรบินสัน เซ็นเตอร์ดรีมทีมและตำนานทีมซานอันโตนิโอ สเปอร์ส, ทิม ดันแคน เซ็นเตอร์รุ่นน้องทีมเดียวกัน, มานู จิโนบิลี ผู้นำอาร์เจนตินาเป็นแชมป์โอลิมปิกปี 2004 ล้วนแล้วแต่โดนโพโพวิชด่าว่ามาทั้งนั้น เขาไม่ต้องการให้ผู้เล่นหลักของทีมรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าผู้เล่นคนอื่น ซึ่งเป็นสาเหตุคลาสสิกที่ทำให้ทีมแตกแยก
1
ส่วนโค้ชเคอร์ ซึ่งในอาชีพการเล่นต้องลุกจากม้านั่งสำรองเกือบทุกเกม ก็ขึ้นชื่อในการกระตุ้นให้กำลังใจผู้เล่นสำรองให้ใช้ศักยภาพตัวเองอย่างเต็มที่ ความสามารถของเคอร์สำคัญเป็นอย่างมากกับทีมยูเอสเอ เพราะตัวสำรองของทีมมาจากตัวจริงระดับสโมสรทั้งสิ้น การปรับจิตใจให้ เจย์สัน เททัม มือหนึ่งของบอสตัน เซลติกส์ หรือ คริส มิดเดิลตัน ตัวหลักของมิลวอกี บักส์ ยอมรับบทบาทตัวสำรองและพร้อมเสมอที่จะลงเล่น เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก การที่เททัมลงมาช่วยดูแรนท์ทำแต้มอย่างเป็นกอบเป็นกำได้นั้น เครดิตส่วนหนึ่งควรเป็นของโค้ชเคอร์
1
และเมื่อตัวสำรองก้าวขึ้นมาสร้างผลงานไม่แพ้ตัวจริง และผู้เล่นตัวหลักไม่มีอาการเหลิงลืมตัว สมาชิกทุกคนในทีมจึงรู้สึกเท่าเทียมกัน
1
ค. โค้ชก็มีเรื่องที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง
สำหรับเททัมและมิดเดิลตัน การได้เหรียญทองในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้พวกเขาได้รางวัลที่นักกีฬาทั่วโลกอยากไปถึงครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ยังเป็นการพิสูจน์ตัวเองและล้างอายจากการได้เพียงอันดับ 7 ในทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์โลกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
1
แต่แฟนบาสอาจจะหลงลืมไป หรือแม้กระทั่งมองข้ามว่า โค้ชและผู้ช่วยโค้ชของทีมชุดนั้นชื่อ โพโพวิชและเคอร์
เมื่อ 2 ปีที่แล้วพวกเขานำทีมที่มีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี ไปพบกับความล้มเหลวที่เมืองจีน มาในปีนี้พวกเขาต้องนำทีมที่มีการเตรียมตัวแย่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ทีมยูเอสเอ มาป้องกันแชมป์ที่แดนอาทิตย์อุทัย
ในฐานะนักกีฬา เคอร์ได้แชมป์โลกในปี 1986 แต่ไม่เคยได้เหรียญทองโอลิมปิกเลย เพราะอาการบาดเจ็บทำให้เขาพลาดโซลเกมส์ 1988
ส่วนโพโพวิชนั้นไม่ว่าจะเป็นแชมป์โลกหรือแชมป์โอลิมปิก เขาไม่เคยถึงจุดสูงสุดเลยในฐานะหัวหน้าโค้ช
ความสำเร็จของโค้ชทั้งคู่จึงเป็นการพิสูจน์ฝีมือเฉกเช่นการพิสูจน์ตัวเองของนักกีฬาเช่นกัน
ง. ความกลมเกลียวเริ่มที่ข้างสนาม
ไม่เพียงแต่โพโพวิชและเคอร์จะร่วมงานกันตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์โลกเท่านั้น แต่ทีมงานโค้ชที่เหลือไม่ว่าจะเป็น
- ลอยด์ เพียร์ซ ผู้ช่วยโค้ช
- เจย์ ไรท์ ผู้ช่วยโค้ช
- ดิออน คัลฮูน โค้ชสมรรถภาพนักกีฬา
- วิล เซเวนนิง โค้ชสมรรถภาพนักกีฬา
ก็ล้วนแล้วแต่ร่วมงานกันมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว ดังนั้นแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในชุดผู้เล่น แต่ทีมงานโค้ชนั้นมีความเป็นหนึ่งเดียว รู้จักกันเป็นอย่างดี พวกเขาจึงไม่ต้องเสียเวลาระดมสมองหาแผนร่วมกันเลย อีกทั้งเคอร์นั้นเคยเล่นภายใต้การโค้ชของโพโพวิชในทีมสเปอร์ส ทั้งคู่จึงรู้จักกันเป็นอย่างดี เรียกว่ามองตาก็รู้ใจ
งานสร้างทีมยูเอสเอในโตเกียวเกมส์จึงเริ่มต้นจากวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ร่วมของทีมงานโค้ชชุดนี้นี่เอง
จ. สอนชีวิตมากกว่าสอนเกม
เอกลักษณ์การโค้ชอย่างหนึ่งของโพโพวิชคือ “ความใส่ใจที่จะรู้จักนักกีฬาในฐานะบุคคล” เขาใส่ใจอย่างมากกับการรู้และเข้าใจชีวิตส่วนตัวของลูกทีมแต่ละคน ค่านิยม แนวคิดการใช้ชีวิต หรือแม้กระทั่งมุมมองทางการเมือง
Credit: usab.com
เขามักจะแบ่งทีมให้แข่งกันตามความชอบทางการเมือง “ใครสนับสนุนรีพับลิกันไปฝั่งโน้น ใครชอบเดโมแครตไปอีกฝั่ง”
หรือล่าสุดเขาแบ่งกลุ่มให้ลูกทีมชู้ตแข่งกันตามความเชื่อเรื่องความหลากหลายในเชื้อชาติ
เขาเชื่อว่าทีมจะหลอมรวมกันได้ดีกว่า ถ้าแต่ละคนรู้จักเพื่อนร่วมทีมว่าเป็นคนอย่างไร ไม่ใช่รู้จักกันผ่านความเข้าใจเกม
เคอร์มักจะพูดว่า ผู้เล่นทีมชาติทั้งหมดเล่นเก่งกว่าเขามาก จะไปเสียเวลาสอนทำไม สิ่งที่ผู้เล่นต้องการคือ มุมมอง ความเชื่อใจ แรงกระตุ้น และกำลังใจ
2
ในอีกมุมหนึ่ง ผู้เล่นพวกนี้คือมืออาชีพ การลงเล่นและทำความเข้าใจแผนการเล่นก็ไม่ต่างจากการทำงาน หากจะยังใช้เวลาหลังเกมมาคุยเรื่องบาสเกตบอลอีก ผู้เล่นจะมีความล้าทางใจมากเกินไป
ในประวัติศาสตรกีฬา ผู้ที่มีความล้าทางใจคือผู้ที่พ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงสนาม
🏀🏀🏀
นี่คืองานที่โค้ชโพโพวิชและโค้ชเคอร์ได้ทำให้ทีมยูเอสเอในโตเกียวเกมส์…
งานสร้างเหรียญทองจากข้างสนาม
งานสร้างความสำเร็จที่คนอาจมองไม่เห็น
งานสร้างโอกาสให้นักกีฬาได้พิสูจน์ตนเอง
งานสร้างประวัติศาสตร์ให้นักกีฬาบางคน
งานสร้างความภูมิใจให้เพื่อนร่วมชาติ
และเป็นงานปิดทองหลังพระที่สปอตไลต์สาดแสงไปไม่ถึง…
#โอลิมปิก #โตเกียว2020 #โตเกียว #บาส #ข่าวกีฬา #ผลการแข่งขัน #ผลกีฬา #PlayNowThailand

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา