15 ส.ค. 2021 เวลา 06:54 • กีฬา
คุยไปเรื่อย : ศึกสัตว์ปีก เหลือง v แดง
เปิดตัวไปอย่างสวยหรูทีเดียวสำหรับหงส์แดง ในการบุกไปถล่มนอริชแบบสบายเท้า 3-0 พร้อมกับการสร้างสถิติใหม่ของโม ซาลาห์ ที่สามารถกะซวกตาข่ายในเกมแรกของฤดูกาลได้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน หรือพูดให้ดูดีกว่านั้นก็คือเค้ายิงในเกมแรกได้ตั้งแต่มาร่วมทีมลิเวอร์พูลนั่นล่ะครับ
ก่อนเกมจะเริ่มขึ้นเหล่านักเตะรวมถึงแฟนบอลหงส์แดงอาจจะรู้สึกกดดันนิดหน่อย เพราะเหล่าทีมลุ้นแชมป์ต่างสามารถเก็บชัยชนะด้วยสกอร์และรูปเกมที่สวยหรูกันไปพร้อมหน้า ผีแดง 5-1 หอยทะเล 3-0 ซึ่งพวกเค้าเหล่านั้นค่อนข้างโชคดีที่ได้เล่นเกมเปิดลีคแบบมีแฟนบอลเต็มสนามในบ้านของตัวเอง เป็นการดึงบรรยากาศฟุตบอลที่แท้จริงกลับมา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆเลยครับ แต่ก็นั่นล่ะครับถ้าหงส์แดงจะคิดการใหญ่ การเจอทีมระดับนอริชไม่ว่าจะต้องเตะบ้านเรา บ้านเค้าหรือสนามไหนๆ มันก็ต้องคว้าสามแต้มเต็มมาให้ได้สถานเดียวอยู่แล้ว ไม่มีตัวเลือกอื่นๆ เลยครับ
หงส์แดงเล่นกันเป็นทีมมาก ถึงจังหวะยังไม่ลงตัว แต่สปิริตที่ผู้เล่นแสดงออกมาถือว่าเป็นสิ่งดีๆ ที่แสดงให้เห็นตั้งแต่เกมเปิดหัว ดูแล้วมีอนาคตจริงๆ
การจัดตัวผู้เล่น:
คลอปจัดทีมได้เซอร์ไพรส์นิดหน่อยในแดนกลาง ด้วยการยึดผู้เล่นฟอร์มดีจากการอุ่นเครื่อง รวมถึงน่าจะดูจากสภาพความฟิตเป็นส่วนหนึ่งด้วย ส่วนแดนหลังเรียกได้ว่าเกือบจะฟูลทีมเพราะได้สองพี่ใหญ่คู่เซนเตอร์กลับมายืนประจำการ รวมถึงการลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในเกมลีคของซิมิคาส ในแนวรุกมีแค่โชต้าที่ได้ลงตัวจริงแทนฟีมิโน่ ซึ่งเรียกว่าประสิทธิภาพไม่แตกต่างกันถ้าวัดเรื่องความสามารถในนาทีนี้
ในม้านั่งสำรองก็มีชื่อของมินามิโนะ และเจ้าหนูเอลเลียตตามคาด ส่วนดาวดังอื่นๆ ก็มากันครบ นำโดย โอริกี้ ครับ
รูปเกม:
ลิเวอร์พูลเปิดตัวแบบเพรสซิ่งสไตล์ ขณะที่เจ้าบ้านก็ลุยสู้เต็มที่และมีโอกาสทำสกอร์ขึ้นนำในจังหวะหลุดเดี่ยวของปุ๊กกี้ แต่ด้วยมุมที่มีไม่มากทำให้อลิสซงบล็อกลูกยิงออกไปได้ ต้องบอกว่าเป็นเกมที่นอริชเปิดสู้เต็มที่ ไม่มีอุดแบบที่ทีมเล็กควรจะทำในยามที่ต้องเล่นกับทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้เกมรุกที่มีความรวดเร็วเล่นงานคู่แข่งได้บ่อยครั้งอย่างลิเวอร์พูล และด้วยจังหวะที่เป็นใจ บังโมก็เผลอ assist ให้กับโชต้าเป็นสกอร์นำของทีมเยือนในนาทีที่ 26 และหลังจากนั้นเกมก็ยังคล้ายๆ เดิมที่เจ้าบ้านสามารถโต้คืนและมีลุ้นยิงประตูอยู่หลายหน แต่จังหวะสุดท้ายก็ไม่มีความแน่นอนจนทำให้จบครึ่งแรกด้วยการเป็นผู้ตาม
ในครึ่งหลังเกมก็แทบจะไม่ต่างจากเดิม เพียงแต่คู่กองหลังของหงส์แดงทำหน้าที่ได้อย่างดี จนกระทั่งนาทีที่ 60 คลอปแก้เกมแดนกลางด้วยการส่งฟาบินโญ่ และฟีมิโน่ลงมาแทนอ๊อกเหลด และโชตาตามลำดับ ซึ่งการเปลี่ยนตัวจุดนี้เป็นคีย์สำคัญของเกมเลย เนื่องจากฟบญ ลงมาแพคให้แดนกลางของหงส์แดงคุมจังหวะเกมได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนฟีมิโน่ก็สามารถเบิกสกอร์ได้ทันทีในเกมแรก ก่อนที่บังโมจะมายิงปิดท้ายสุดสวย แต่ก็สงสัยในส่วนของเจ้าบ้านที่ฟาลเค่ไม่เปลี่ยนตัวจนกระทั่ง 15 นาทีสุดท้าย ซึ่งมันดุสายเกินไปสำหรับการแก้เกมจากรูปเกมและสกอร์ที่ตกเป็นรองขนาดนี้ จบเกมหงส์แดงจึงเก็บชัยที่ดูเหมือนไม่ยากด้วยสกอร์ 3-0
VVD ยังต้องการเวลาในการฟื้นฟู แต่โดยรวมก็ทำได้ดีมากๆ ข้อดีของกองหลังระดับโลกก็คือ ในวันที่ไม่ได้ฟิตเต็ม 100% แต่เค้าก็ยังมีมาตรฐานที่ดีอยู่เสมอ
เกาะติดทีมตัวจริง:
คลอป - แก้เกมถูกเวลา และแก้ตรงจุด จากการปรับแดนกลางให้คุมเกมได้ดีขึ้น และการส่งฟีมิโน่ลงไปยิงประตูเพิ่ม แต่แอบชอบลุคเดิมของบอสที่ใส่แว่นตามากกว่านะครับ
อลิสซง - แทบไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะนอริชจังหวะสุดท้ายไม่ค่อยคม แต่ก็มีไฮไลท์สำคัญในจังหวะเซฟเหลือเชื่อท้ายเกม แสดงให้เห็นว่าเค้าคือผู้รักษาประตูระดับโลก
อาโนลด์ - เล่นค่อนข้างดีในวันนี้เกมรับไม่พลาดเลย ส่วนเกมรุกจังหวะเปิดบอลดูมีน้ำหนักและทิศทางแม่นยำ อาจจะเป็นข้อดีของการอดไปยูโร ที่ทำให้นักเตะได้มีโอกาสพักผ่อน สร้างความฟิตและพร้อมกับมาลุยลีคได้ไวกว่าเพื่อนๆ
ซิมิคาส - วูบวาบและเล่นได้ค่อนข้างดีในเกมรุก มีเทคนิคที่ดี และเปิดบอลได้สวยๆหลายครั้ง แต่ต้องพัฒนาเกมรับอีกเยอะ เพราะพลาดหลายหนในเกมนี้ ก็อย่าลืมไปว่านี่เป็นการลงตัวจริงครั้งแรกในลีค หวังว่าอนาคตจะค่อยๆพัฒนาจนทดแทน รบส ได้ และถ้าสร้างกล้ามเนื้อให้ดูแกร่งกว่านี้คงจะเพิ่มพลังการปะทะได้ดีทีเดียว
มาติป - เล่นดีมาก โดดเด่นในเกมรับและการเติมเกมรุุก และที่เซอร์ไพรส์คือเจ๊สามารถยืนระยะได้ครบ 90 นาทีได้ในรอบกี่เกมก็ไม่รู้เหมือนกัน
ฟานไดจ์ - คงต้องใช้เวลาฟื้นตัวอีกสักพักใหญ่ๆ มีจังหวะที่ดูตัดสินใจช้า รวมถึงยังไร้ความเร็วในการเล่น แต่ด้วย sense ในเกมรับที่ยังดีอยู่น่าจะทดแทน และค่อยพัฒนาส่วนที่ยังขาดให้เติมเต็มกลับมาดังเดิมได้
อ๊อกเหลต - เล่นดีในบางช่วงของครึ่งแรก แต่ดูไม่ค่อยมีพลังในการเล่นจนต้องโดนเปลี่ยนตัวออกในที่สุด
มิลเนอร์ - คนเหล็ก 2021 โดยแท้จริง อายุ 35 เป็นเพียงตัวเลข เพราะความแกร่งและเก๋าเกมนั้นโดดเด่นพอสมควร การโดนใบเหลืองไว ไม่ทำให้การเล่นของเค้าตกลงไปเลย เพราะประคองตัวเอง รวมถึงช่วยซิมิคาสได้อย่างดี
เกอิต้า - เล่นดีและมีบทบาทอย่างมากในแดนกลาง ดูเหมือนสภาพความฟิตจะค่อนข้างแน่นเปรี๊ยะ และหวังว่าคงไม่มีอาการบาดเจ็บมารบกวน เพราะยังมีสิ่งดีๆ อีกมากมายที่เราจะได้เห็นจากนักเตะชาวกินคนนี้
มาเน่ - เล่นได้ไม่แย่และไม่เด่น มีจังหวะเปิดบอลสวยๆ ได้หลายหน แต่โอกาสยิงประตูแทบจะไม่มีเลย
โชต้า - นาทีนี้เทียบเคียงฟีมิโน่ได้สบาย เท่ากับว่าเราจะมี 4 ตัวเลือก เพื่อเอามาลงในตำแหน่ง 3 ประสานแล้ว จุดเด่นคือการหาจังหวะยิงประตู ดูแล้วนึกถึงพอล สโคลส์มากๆ ในเรื่องของสไตล์ (ไม่ใช่เรื่องของความสามารถนะครับ ตรงนั้นยังเทียบไม่ได้)
นิวซาลาห์ ไม่หวงบอล เล่นเป็นทีม 2 assist และ 1 ประตู ในเกมนี้ต้องเอา MOM ไปเลย
ซาลาห์ - ต้องบอกว่านิวซาลาห์โดยแท้จริง ตั้งใจเล่นโดยมองทีมเป็นหลัก และนั่นทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลเสียจังหวะน้อยครั้งและลื่นไหลเป็นอย่างมาก ถ้าเล่นแบบนี้นอกจากเกมรุกจะดีขึ้น ยังจะทำให้สปิริตทีมดีขึ้นด้วย และ MOM ของเกมนี้ต้องเป็นเค้าคนเดียวเท่านั้น
ตัวสำรอง:
ฟาบินโญ่ - ลงมาปรับสมดุลแดนกลางและมีบทบาทอย่างมากกับเกมที่เปลี่ยนไปของลิเวอร์พูล การไล่เก็บบอลจังหวะสอง บวกกับการออกบอลแบบมีคลาสยกระดับทีมได้เสมอ
ฟีมิโน่ - หลังจากปีก่อนกดไปแค่ 9 ลูกในลีค ปีนี้เปิดตัวสวย ก็คงจะเพิ่มความมั่นใจให้เค้าหาจังหวะกินเองมากขึ้น
เอลเลียต - อายุเป็นเพียงตัวเลข มีโอกาสไม่กี่นาทีแต่ก็ไร้อาการตื่นสนาม มีความกล้าเล่นและตามจังหวะของทีมทัน ซึ่งน่าจะมีบทบาทมากขึ้นในฤดูกาลนี้
ฟีมิโน่ยิงได้ตั้งแต่เกมแรกเลย ด้วยการแข่งขันที่มากขึ้นหวังว่าทั้งฟีมีโน่และโชต้าคงต้องกระตุ้นตัวเองและเล่นให้เหมาะกับการเป็นตัวจริงอยู่ตลอดเวลา
สรุป:
ชื่นมื่นกันทั้งแฟนบอลทั้งนักบอลด้วยการเปิดตัวแบบนี้ แต่อย่าลืมว่านี่คือทีมนอริช ที่เป็นทีมน้องใหม่และดันมาเล่นกับลิเวอร์พูลด้วยสไตล์ที่ต้องบอกว่า "เข้าทาง" อีกต่างหาก นี่ถ้าเป็นทีมเล็กทีมอื่นๆ ที่เน้นอุดประตูเป็นหลัก สกอร์อาจจะไม่เป็นแบบที่เห็นก็ได้ ซึ่งก็ไม่ต้องรอนานเลยครับ แค่วีคหน้าหงส์แดงก็จะต้องเปิดบ้านเจอกับทีมสไตล์ดังกล่าวอย่างเบิร์นลีย์แล้วครับ ซึ่งก็จะวัดคุณภาพได้เลยล่ะว่าลิเวอร์พูลจะมีปัญหาในการเจอทีมแบบนี้รึเปล่าแบบที่เคยพบเจอบ่อยครั้งในฤดูกาลที่แล้วจนเป็นหนึ่งสาเหตุที่เกิดสถิติอัปยศ 6 นัดติดในตำนาน แต่สิ่งดีๆที่ทุกคนรอคอยก็คือ ลิเวอร์พูลจะได้เล่นในแอนฟิลด์ที่มีแฟนบอลเต็มสนาม ซึ่งเป็นการรอคอยยาวนานถึงปีกว่าๆ และทุกคนก็รู้ว่าผู้เล่นคนที่ 12 อย่าง The Kop นั้นมีผลกับทีมมากขนาดไหน
เรื่องลุ้นแชมป์ยังเร็วเกินไปมากๆ ที่จะพูดถึง ตอนนี้นับ 1 ได้แล้วต่อไปก็นับ 2 ครับ นับต่อไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็รู้บทสรุปตอนท้ายเองว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าคืนนี้ตั้งหน้าตั้งตาเชียร์สเปอร์สกันก่อนละกัน เพราะทีมบางทีมก็ไม่ควรรีบนับ 1 ตั้งแต่ต้นครับ หรือถ้าไม่มีโอกาสที่จะนับเลยคงจะเริ่ดเลอ และเพอร์เฟคต์ที่สุดครับ
โฆษณา