17 ส.ค. 2021 เวลา 07:46 • ข่าว
เที่ยวบิน Reach 871 กับ 640 ชีวิตแห่งความหวัง
Photos : Reuters , Wikipedia
เหตุการณ์ที่กองกำลังตาลีบันเข้ายึดเมืองหลวงกรุงคาบูลประเทศอัฟกานิสถานในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประกาศล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งยุติสงคราม 20 ปีที่ไม่มีวันชนะของสหรัฐอเมริกา
ย้อนหลังกลับปี 2544 ในวันที่กองกำลังสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรกรีธาทัพเข้าอัฟกานิสถานและโค่นล้มกองกำลังตาลีบันที่ปกครองอัฟกานิสถานในเวลานั้นเพื่อภารกิจตามไล่ล่าบินลาดิน
หลังจากที่ประธานาธิบดีโจไบเดนได้ออกมาประกาศว่าสหรัฐอเมริกาจะถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานทั้งหมดภายในวันที่ 11 กันยายนที่จะถึงนี้ซึ่งจะครบรอบ 20 ปีเหตุการก่อวินาศกรรม 911พอดี
ไม่มีใครคิดว่าจะเร็วขนาดนี้กับเหตุการณ์ที่ตาลีบันยึดอำนาจคืน ในขณะที่สหรัฐอเมริกายังเหลือทหารที่ยังอยู่ในอัฟกานิสถานยังถอนกำลังไม่เสร็จอีกนับพันนาย
วันนี้แสงสว่างแห่งเสรีภาพของชาวอัฟกันกลับมืดดับลงอีกครั้ง ความกลัวเข้าปกคลุม พวกเขาจึงพยายามหนีเอาตัวรอด เราจึงเห็นภาพที่ฝูงชนจำนวนมากเบียดเสียดปีนป่ายขึ้นเครื่องบินที่สนามบิน Hamid Karzai ในกรุงคาบูลเป็นภาพที่น่าตกใจจริงๆครับ
ภาพที่เครื่องบิน C-17 Globemaster III เคลื่อนตัวช้าๆบนทางวิ่งที่สนามบินและมีฝูงชนนับร้อยคนปีนป่ายเกาะล้อเครื่องบินบ้าง,ลำตัวเครื่องบินบ้างจึงเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวแล้วไม่คิดว่าจะได้พบเห็น
มันคือการหนีที่แลกด้วยชีวิต
ภาพการปีนป่ายของลำตัวเครื่องบินจากภายนอกที่ได้เห็นผ่านตาว่าน่าตกใจแล้ว ภาพล่าสุดที่เพิ่งเห็นจากแหล่งข่าวซึ่งไม่ได้รับการยืนยันว่าถ่ายมาจากแหล่งข่าวสื่อใด
เป็นภาพปรากฏเห็นประชาชนชาวอัฟกันนั่งอยู่ในเครื่องบินลำเลียง C-17 ในห้องบรรจุสัมภาระซึ่งปกติหากทำการขนทหารจะได้จำนวนทหารเต็มที่ในลักษณะนั่งเรียงแถวจำนวนประมาณ 134 นายพร้อมอาวุธและอุปกรณ์ประจำกาย
Photo : US Air Force
สภาพที่ปรากฏต่อสายตาคือจำนวนคนที่ถูกเปิดเผยภายหลังว่ามันคือประชาชนชาวอัฟกันที่หนีไปสู่ความหวังและชีวิตใหม่ 640 คน!! (เป็นตัวเลขที่ไม่ได้รับการยืนยันครับเนื่องจากไม่ได้มีการนับจำนวนอย่างเป็นทางการตัวเลขจริงอาจจะมากกว่านี้)
(Courtesy of US Defense Department via Defense One)
ถามว่าจำนวนคนมากมายขนาดนั้นเจ้าเครื่องบินC-17
จะรับน้ำหนักนั้นไหวไหมก็ขอตอบด้วยข้อมูลพื้นฐานของเครื่องบินแบบนี้ครับ
C-17 Globemaster III เป็นเครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่ใช้เครื่องยนต์ Pratt and Whitney F117-PW-100 จำนวน 4 เครื่องยนต์ขุมกำลังมหาศาลเครื่องยนต์ละ 40,400 LBF
ผลิตโดยบริษัท McDonnell Douglas/Boeing ภารกิจคือขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์รวมทั้งทหารของกองทัพสหรัฐ
น้ำหนักบรรทุกสินค้าสามารถรับได้ถึง 77,500 กิโลกรัม
นั่นหมายถึงถ้าคิดน้ำหนักของจำนวนคน 640 คนแล้วเจ้า C-17 Globemaster สามารถรับน้ำหนักได้อย่างสบาย
เจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่ง กล่าวว่าฝูงชนแย่งกันขึ้นมาบนเครื่องบินโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ พวกเขาจึงต้องตัดสินใจว่าระหว่างจะนำเครื่องวิ่งขึ้นกับนำคนเหล่านี้ลงจากเครื่องบินพวกเขาจะทำอย่างไร
1
แต่ในที่สุดเครื่องบิน C-17 ชื่อเที่ยวบิน"Reach 871"
ก็ทะยานสู่ฟ้าโดยปลายทางคือถือเข็มทิศบินไปทางใต้ของอัฟกานิสถานบินผ่านประเทศปากีสถานแล้วเลี้ยวขวาเพื่อที่จะมุ่งหน้าไปยังกาตาร์ซึ่งเป็นฐานทัพอากาศของสหรัฐ
ถ้าถามว่าเคยมีการใช้เครื่องบินทหารขนคนจำนวนมากมายขนาดนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์หรือไม่ก็ต้องตอบว่ามีครับครั้งหนึ่งที่พายุไต้ฝุ่นกำลังจะพัดถล่มฟิลิปปินส์มีการอพยพผู้ประสบภัยด้วยเครื่องบิน C-17A จำนวนถึง 670 คนมาแล้วการขนจำนวนคนมากมายมหาศาลขนาดนี้ พวกเขาจะนั่งเรียงกันอย่างไม่เป็นระเบียบ เข็มขัดนิรภัยที่มีก็เพียงเป็นตาข่ายที่ใช้ยึดสินค้าซึ่งพวกเขาพอจะไขว่คว้าจับยึดไว้ได้
นั่นหมายถึงว่าแม้น้ำหนักบรรทุกจะไม่มีปัญหา แต่ในเรื่องความปลอดภัยไม่มีใครการันตี เพราะนี่คือการขนมนุษย์ที่ไม่ได้มีการเตรียมการรองรับในเรื่องความปลอดภัยใดๆ
2
ภาพการอพยพประชาชนชาวฟิลิปปินส์เมื่อครั้งพายุไต้ฝุ่นพัดเข้าถล่ม/ Source US Air force
แต่ในเมื่ออันตรายที่มันอยู่ตรงหน้ามันอันตรายกว่า
พวกเขาจึงเลือกที่จะหลบหนี
ไปพร้อมกับเที่ยวบินแห่งความหวังเที่ยวบินนี้
ตอนนี้น่านฟ้าของประเทศอัฟกานิสถานถูกประกาศเป็นพื้นที่อันตรายสำหรับเครื่องบินพาณิชย์อนุญาตให้เฉพาะเครื่องบินทหาร หน่วยงานควบคุมการจราจรทางอากาศของอัฟกานิสถานก็ถูกโอนไปให้กับกองกำลังของสหรัฐอเมริกา
1
เราจึงเห็นภาพสายการบินหลายสายการบินต้องบินอ้อมหรือบินหลบน่านฟ้าอัฟกานิสถานไปยังเส้นทางประเทศอื่นเช่นบินผ่านน่านฟ้าของอิหร่านเป็นต้น
ทุกครั้งที่ไปบิน
ผมเชื่อเสมอว่าทุกเที่ยวบินมีเรื่องราวของมันเอง
มีความทรงจำมากมายเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง
เที่ยวบิน Reach 871เองก็เต็มไปด้วยเรื่องราว
ความทรงจำ ความหวัง เป็นเที่ยวบินแห่งชีวิต
ที่จุดหมายปลายทางของทุกคนเหมือนกันคือชีวิตใหม่
ที่รอพวกเขาอยู่
ซึ่งก็ยังไม่มีใครตอบได้ว่ามันจะเป็นอย่างไรในอนาคต
กัปตันหมี
CR : Photo Reuters , Wikipedia
โฆษณา