18 ส.ค. 2021 เวลา 11:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ
จังหวะเข้าหุ้น นั้นสำคัญไฉน...? จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ทำให้คุณรวยได้
สำหรับนักลงทุนที่เป็น VI บางท่าน อาจบอกว่าในการเข้าซื้อหุ้นที่ดี พื้นฐานแกร่ง ไม่จำเป็นต้องดูราคาว่ามันจะถูกหรือแพง เพราะถ้าลงทุนในระยะยาวแล้วหุ้นที่ดีจะให้ผลตอบแทนใกล้เคียง กับค่าเฉลี่ยผลตอบแทนของตลาด (SET) อยู่ที่ 8-12% ต่อปี
3
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงไม่เป็นเช่นนั้นเสนอไป เพราะเมื่อหันไปดูพอร์ทของเราที่มีแต่หุ้นดี พื้นฐานแกร่ง และถือมานานหลายปี แต่ทำไมพอร์ทยังคงติดลบอยู่ เพราะอาจจะซื้อตอนที่หุ้นมันแพง
ซึ่งที่จริงแล้ว “หุ้นที่ดีแต่แพง วันนึงมันจะกลายเป็นหุ้นที่ดีและถูก”
ดังนั้นจังหวะในการซื้อหุ้นนั้นสำคัญ เพราะถ้าเราเข้าถูกจังหวะ ได้หุ้นที่ดีและถูก ก็จะทำให้เราได้เปรียบกว่ามาก และทำให้คุณรวยได้ง่ายๆ เลย
2
จังหวะในการเข้าหุ้นนั้นมีเคล็ดลับอย่างไรมาติดตามในบทความนี้กันเลยครับ
1. ดูว่า ดัชนี ณ ตอนนี้ขึ้นหรือลงมา มากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับต้นปี (ใช้ได้เฉพาะปีที่ไม่เกิดวิกฤต)
เช่น SET ตอนต้นปีอยู่ที่ 1,000 จุด แต่ ณ ตอนนี้ SET อยู่ที่ 1,200 จุด แสดงว่าตลาดหุ้นตอนนี้ขึ้นมาแล้ว 20% ถ้าเราซื้อหุ้นตอนนี้ก็มีความเสี่ยงอยู่ไม่ใช่น้อย
เพราะค่าเฉลี่ยผลตอบแทนของตลาด อยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปี
ดังนั้นวิธีนี้จะช่วยไม่ให้เราตามแห่ไปซื้อหุ้นที่ราคาขึ้นมาเยอะแล้ว ซึ่งจะมีความเสี่ยงสูงตามมาครับ
2. ดูส่วนเผื่อความปลอดภัย หรือ Margin of Safety
ยกตัวอย่าง หุ้น A มีราคาเหมาะสม หรือ Fair value ที่ 100 บาท แต่ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 90 และเราได้ซื้อในราคานี้ เพราะฉะนั้นราคานี้จะมีส่วนเผื่อความปลอดภัยอยู่ที่ 10%
แต่บางคนอาจยังไม่พอใจที่ส่วนเผื่อความปลอดภัย 10% อาจตั้งซื้อไว้ซัก 30% - 50%
เพราะฉะนั้นการซื้อหุ้นที่ราคาต่ำกว่า Fair value หรือมี Margin of Safety ถือว่าเราชนะตั้งแต่เริ่มแล้ว
และควรแบ่งไม้ซื้อ ถ้าราคาหุ้นลงมาอีก จากราคาที่เราตั้งเป็น Margin of Safety ในไม้แรก เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
***ส่วนวิธีดูราคาเหมาะสม หรือ Fair value ถ้าเราเป็นมือใหม่ หรือไม่อยากวิเคราะห์ด้วยตนเอง สามารถทำตามข้างล่างนี้เลยครับ
เข้าไปที่ https://www.settrade.com แล้วพิมพ์ชื่อหุ้น จากนั้นคลิก IAA consensus (ยกตัวอย่างหุ้น COM7)
จะมีแต่ละ Broker มาวิเคราะห์ Target Price
อาจใช้ค่า Average มาเป็น Fair value เพื่อมาคำนวณ Margin of Safety
การซื้อหุ้น โดยมีส่วนเผื่อความปลอดภัย หรือ Margin of Safety นอกจากจะได้หุ้นดีในราคาถูกแล้ว เรายัง "ได้เงินปันผลที่สูงด้วย"
อย่างปีที่แล้วเกิดวิกฤตโควิดรอบแรก นักลงทุนต่างพากันขายหุ้นออกมา จนทำให้ราคาดิ่ง และทำให้มีหุ้นที่ให้ปันผลสูงเกิน 10% อยู่หลายตัว
เช่น ถ้าหุ้น B ก่อนเกิดวิกฤต ราคา 10 บาท ปันผล อยู่ที่ 5% เมื่อเกิดวิกฤตนักลงทุนตกใจเทขายจนราคาเหลือ 5 บาท ปันผลก็จะกลายเป็น 10%
ก่อนจบบทความนี้ ขอฝากข้อคิดไว้ แม้ว่าจังหวะในการซื้อหุ้น เป็นเรื่องที่สำคัญไม่ใช่น้อย แต่พื้นฐานของการลงทุน จริงๆ แล้ว
คือ "การที่เราไปเป็นส่วนหนึ่ง หรือเป็นหุ้นส่วนในกิจการของเขา"
ดังนั้นเราจำเป็นต้อง “ตั้งใจเลือก วิเคราะห์ เพื่อให้เงินของเราได้ลงทุนไปอย่างคุ้มค่ามากที่สุด” ในยุคโควิดนี้ครับ
Cr.: finnomena
*หมายเหตุ หุ้นที่นำมายกตัวอย่างไม่ได้เป็นการชี้ชวนให้ซื้อนะครับ การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจ
จบแล้วครับ ผมพึ่งกลับมาเขียนใหม่ในรอบ 2 เดือน ช่วยกด 👍 ❤️ ติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจในการเขียนบทความต่อไปด้วยนะครับ🥰
อ้างอิง
- freepik
โฆษณา