31 ส.ค. 2021 เวลา 11:47 • ปรัชญา
" ... ถ้ายังเลือกปัจจัยอยู่
คือปล่อยให้ความโลภ ความโกรธ ความหลง
เข้าครอบงำ
เพราะเหตุแห่งปัจจัย ๔ อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่
ชื่อว่ายังถือจิตถือใจอยู่
ยังไม่ถึงพระนิพพานได้เลย ... "
ดูกรอานนท์ คำที่ว่าให้ปล่อยวางจิตใจนั้น
คือว่าให้ละ ความโลภ ความโกรธ ความหลง
ปลงเสียซึ่งการร้ายและการดี
ที่บุคคลนำมากล่าว
มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ
นินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์
อย่ายินดี อย่ายินร้าย
แม้ปัจจัยเครื่องบริโภค
เป็นต้นว่าอาหารการกิน ผ้าผ่อน
เครื่องนุ่งห่มแลที่อยู่ที่นอน เภสัชสำหรับแก้โรค
ก็ให้ละความโลภความหลงในปัจจัยเหล่านั้นเสีย
ให้มีความมักน้อยในปัจจัย
แต่มิใช่ว่าจะห้ามเสียว่าไม่ให้กิน
ไม่ให้นุ่งห่ม ไม่ให้อาศัยในสถานที่
ไม่ให้กินหยูกกินยา เช่นนั้นก็หามิได้
คือให้ละความโลเลในปัจจัยเท่านั้น
คือว่าเมื่อได้อย่างดีอย่างปราณีต
ก็ให้บริโภคอย่างดีอย่างปราณีต
ได้อย่างเลวทรามต่ำช้า
ก็ให้บริโภคอย่างเลวทรามต่ำช้า ตามมีตามได้
ไม่ให้ใจขุ่นมัวด้วย ความโลภ ความโกรธ ความหลง
อย่างนี้แลจึงจะได้ชื่อว่าปล่อยวางใจเสียได้
ถ้ายังเลือกปัจจัยอยู่
คือปล่อยให้ความโลภ ความโกรธ ความหลง
เข้าครอบงำ
เพราะเหตุแห่งปัจจัย ๔ อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่
ชื่อว่ายังถือจิตถือใจอยู่
ยังไม่ถึงพระนิพพานได้เลย
ถ้าละความโลภ โกรธ หลง
ในปัจจัยนั้นได้แล้ว
จึงชื่อว่าทำตัวให้เป็นเหมือนแผ่นดิน
เป็นอันถึงพระนิพพานได้โดยแท้
มีคำสอดเข้ามาในที่นี้ว่า
เหตุไฉน จึงมิให้ถือใจ
เมื่อไม่ให้ถือเช่นนั้น
จะให้เอาใจไปไว้ที่ไหน
เพราะไม่ใช่ใจของคนอื่น
เป็นใจของตัวแท้ ๆ
ที่จะเป็นอยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะมีใจนี้เอง
ถ้าไม่มีใจนี้แล้วก็ตายเท่านั้น
จะให้วางใจเสียแล้ว จะรู้จะเห็นอะไร
มีคำวิสัชนาไว้ว่า
ผู้ที่เข้าใจว่า ใจนั้นเป็นของของตัวจริง
ผู้นั้นก็เป็นคนหลง
ความจริงไม่ใช่จิตของเราแท้
ถ้าหากเป็นจิตใจของเราแท้
ก็คงบังคับได้ตามประสงค์ว่า
อย่าให้แก่อย่าให้ตายก็คงจะได้สักอย่าง
เพราะเป็นของตัว
อันที่แท้จิตใจนั้นหากเป็นลม
อันเกิดอยู่สำหรับโลก
ไม่ใช่จิตใจของเรา
โลกเขาตั้งแต่งไว้ก่อนเรา
เราจึงเข้ามาอาศัยอยู่กับด้วยลมจิตใจ
ณ กาลเป็นภายหลัง
ถ้าหากว่าเป็นจิตใจของเรา
เราพาเอามาเกิด ครั้นเกิดขึ้นแล้วจิตใจนั้นก็หมดไป
ใครจะเกิดขึ้นมาได้อีก
นี่ไม่ใช่จิตใจของใครสักคน
เป็นของมีอยู่สำหรับโลก
ผู้ใดจะเกิดก็ถือเอาลมนั้นเกิดขึ้น
ครั้นได้แล้วเป็นจิตของตน
ที่จริงเป็นของสำหรับโลกทั้งสิ้น
1
ที่ว่า จิตใจของตนนั้น
ก็เพียงให้รู้ซึ่งการบุญการกุศล
การบาป การอกุศล และเพียงให้รู้ทุกข์ สุข
สวรรค์แลพระนิพพาน
ถือไว้ให้ถึงที่สุดเพียงพระนิพพานเท่านั้น
ถ้าถึงพระนิพพานแล้ว
ต้องวางจิตใจคืนไว้แก่โลกตามเดิมเสียก่อน
ถ้าวางไม่ได้เป็นโทษ
ไม่อาจถึงพระนิพพานได้ มีคำแก้ไว้อย่างนี้
อ้างอิง :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา