21 ส.ค. 2021 เวลา 07:06 • การตลาด
#ประชุมสภา เมื่อเสื้อผ้าหน้าผม ไม่ใช่แค่เรื่องเล่นๆ แต่มันคือ communication
**บทความนี้เข้าใจเรื่องการเคารพเสรีภาพในการแต่งกายในประเด็น my body, my choice ของตัวบุคคลเป็นอย่างดี แต่ตั้งใจนำเสนอการวิเคราะห์เพื่อเป็นประโยชน์แก่บุคคลในการสร้าง personal brand ของตนต่อประชุมชน ในการสร้างสรรค์ภาพลักษณ์ของตนต่อไป
คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนเป็นผู้นำที่ฉลาด แค่การปรากฏกายเล็กๆน้อยๆ ได้เล่าเรื่องหลายอย่างผ่านการสื่อสารสัญญะจากเสื้อผ้าหน้าผมทั้งหมดแล้ว ซึ่งขอยกตัวอย่างจากคุณทิม พิธา ที่มี details ของความใส่ใจบางอย่างที่น่าสนใจมาชวนเล่าสู่กันฟัง ในชุดความรู้เรื่องการสร้างแบรนด์
1) คุณทิม พิธา มี details การแต่งกายเสมอในชุดวันประชุมสภาของเขา แม้จะเป็นสูทธรรมดาทั่วไป เราจะเห็นว่ามีการใช้รายละเอียด เช่น ทางใช้ลายทาง ตัดกับพื้นเรียบ ลูกเล่นของปกคอ หรือการเลือกคู่สีที่ใช้กับชุด ไปจนถึงทรงผม ทำให้เราเข้าใจว่า "เป็นผู้นำที่ให้ความสำคัญใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในการปรากฏกายต่อหน้าสาธารณะ"
2) ความฉลาดของชุด พูดข้อความสำคัญที่อยู่ในการนำเสนอตัวตนทั้งหมด ซึ่งเป็นการแสดงศักยภาพในเรื่องที่ไม่ได้พูด แต่มองได้ด้วยตาเปล่า ผู้นำควรให้คุณค่ากับเรื่องนี้ เพราะมันให้ประโยชน์กับการปรากฏกายมากกว่าแค่สิ่งที่เห็น แต่มันหมายถึง "สิ่งที่เราเป็น"
3) คุณทิมกำลังบอกว่าการเปิดประชุมสภาครั้งนี้ เขาให้ความสำคัญมาก "การแต่งตัวดี หรือใส่คุณค่ากับวาระ" แสดงว่าอยากให้คนจับตามองความสำคัญของการประชุมสภา ที่มันมีสิ่งพิเศษ หรือข้อความที่ควรติดตาม ตัวฉันให้ความสำคัญกับมันนะ ชุดสื่อสารเรื่อง occasion ออกมาอย่างตั้งใจ
4) "Look at me!" มองฉันสิ ทุกคนจงสนใจฉัน ชุดไม่ใช่แค่ใส่เล่น แต่กำลังบอกให้ทุกคน spotlight เรา ให้ความสำคัญกับเรา มองเราเป็น foreground ท่ามกลางผู้คนที่เป็น background ปรับคนอื่นเป็นพื้นหลัง ให้เราลอยเด่นยกคุณค่าผ่านเสื้อผ้าขึ้นมาให้คนมองเห็นเราก่อน เรากลายเป็นคนสำคัญ เพราะเราทำให้ event นี้มันสำคัญ
5) เราจดจำ ส.ส. ทั้งสภาไม่ไหว แต่ใครที่สร้างความโดดเด่นแตกต่างได้ เราจะจดจำ และนี่คือสัญญะของผู้นำที่ฉลาดคือ การทำให้คนจำได้ ทั้งเรื่องที่พูด และทุกการปรากฏกาย เราจำ ไม่ใช่เพราะเราเลือกจำ แต่เขาทำให้เราจำเขาได้ต่างหาก
6) การเป็นผู้นำ คือคนที่ฉลาดเลือก เลือกทีมงาน เลือกพูด เลือกสื่อสาร และการเลือกเสื้อผ้าหน้าผม คือการเลือกที่ง่ายที่สุดที่ไม่ได้ทำส่งๆไป การเลือกที่ดี เลือกแล้วส่งเสริมตัวตน บอกว่า คนคนนี้คิดในทุกสิ่งที่ทำ ขนาดเสื้อผ้ายังตั้งใจเลือกเลย
บนความสุภาพ ยังสามารถหา choice ที่ใส่ลูกเล่นไปได้ มันสะท้อนว่าเขาฉลาด ที่จะทำให้ตัวเองดูโก้ แต่เป็นทางการ แสดงว่าเลือกเป็น
7) ภาพลักษณ์สะท้อนความเป็นผู้นำในบุคคล เราจะมองออกเลยว่าใครนำ ใครตาม ไม่ได้หมายความว่าแต่งตัวแพง แต่ภาพลักษณ์คือองค์ประกอบที่สะท้อนผ่านบุคลิกภาพ การพูด การปรากฏกาย การใช้ท่าทาง และการเตรียมตัว ... ถ้าเตรียมมาทั้งหมด ก็แสดงว่าอยากให้ภาพสื่อสารบางสิ่งที่มากไปกว่าชุดสวย
8 ) ภาพลักษณ์ที่ผ่านการปรากฏกาย สะท้อนว่าตัวตนพูดเรื่องอะไร หรือเป็นตัวแทนของใคร ถ้าดูจากภาพรวม ทั้งการ set ผมดัดลอน หรือสูทที่ทำสมัย ไปจนถึงคอปกที่ใช้ collar pin ก็น่าจะพอมองสไตล์ออกว่า ดูเป็นวัยรุ่น หรือเข้าถึงง่าย พูดจาสื่อสารภาษาที่เข้าใจแบบคนยุคใหม่ เสื้อผ้าหน้าผมมันสื่อสารว่า เขาเป็นตัวแทนผู้นำของ new generation ไม่ใช่วิธีคิดแบบไดโนเสาร์
มันคือกฎของความใกล้ กฎความใกล้ชิด (Principle of Proximity) กฎนี้กล่าวว่าสิ่งเร้าใดๆ ที่อยู่ใกล้กันเรามักจะรับรู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน สิ่งเร้าที่คุณพิธาใส่ลงไปคือ "ความทันสมัย/ ดูโก้" ยิ่งเขาอยู่ใกล้ความทันสมัย เขายิ่งเชื่อมโยงกับใจของวัยรุ่น อ๊ปป้าเกาหลี หรือคนที่ชอบสไตล์ของคนที่ฉลาดแต่งตัวได้ไม่ยาก
9) ให้ความสำคัญกับสภา = ให้ความสำคัญกับหน้าที่ต่อประชาชน
คนอาจจะมองว่าเว่อร์เหรอ? เข้าสภาทำไมต้องแต่งตัวอะไรขนาดนี้? แต่มองดูดีๆ เราจะพบว่า เขามองว่าประชุมสภาสำคัญ เลือกชุดที่ดีที่สุด เตรียมตัวมาอย่างดีที่สุด ในอาชีพตำแหน่งผู้แทนราษฎรที่ต้องให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่ในสภา ให้เกียรติและเคารพอาชีพตำแหน่งที่ตนยืนอยู่ แสดงว่าคนแบบนี้ จะทำหน้าที่เต็มศักยภาพ บนภาษีที่ประชาชนจ่ายไป เสื้อผ้าสื่อสารได้ขนาดนั้น ว่าเขาให้ความสำคัญกับหน้าที่ตัวเอง มันถึงเลือกชุดดีๆ สร้าง well-presence ให้ตัวเองได้ เขาให้เกียรติประชาชนอยู่ ผ่านเสื้อผ้าของเขาด้วยยังไงล่ะ
10) การเลือกชุดสูทคอปกเก๋ๆ มี collar pin พร้อมสูทตัวในใส่แบบ tuxedo ถ้าไม่เรียกว่าตั้งใจใส่มา ก็คงนับว่าตาบอด ถึงมองไม่เห็นการสร้างวาระของทิม พิธา เขาคิดมาหมดขนาดลงรายละเอียดไปถึงทรงผม แสดงว่าคนแบบนี้เขาใส่ใจ ก็อยากให้ทุกคนใส่ใจทุกคำของเขาเหมือนที่เขาใส่ใจให้ค่ากับการประชุมสภาขนาดนี้ ทิมพูดเรื่องสำคัญคือ
ขอยืนยันให้รัฐบาลไทยหยุดให้เงินช่วยเหลือรัฐบาลเมียนมาร์ : "ถ้าเราเอาเงินไปช่วยเหลือรัฐบาลทหารที่เข่นฆ่าประชาชน เราสร้าง Soft Power ให้ประเทศไทย เป็นที่เคารพในเวทีโลกไม่ได้หรอกครับ ประเทศไทยกลับจะยิ่งถูกประณามจากสากล"
11) เรื่องบางเรื่องที่เป็นสัญญะ เจ้าตัวอาจจะไม่ได้คิดซับซ้อน แต่กระบวนการคิดเรื่องการเลือกสรรภาพลักษณ์ ถูกซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึก เราไม่ได้เลือกการปรากฎกายมั่วๆหรอก เราคิดตลอด แค่เราอาจไม่เคยได้จับประเด็นว่าเราคิดอะไรตอนเราใส่ชุดนั้น แต่มันอยู่ในตัวตนของเรา "เราอยากให้คนเห็นเราในแบบไหน...นั่นแหละคือสิ่งที่เรานำเสนอมันออกมา"
แค่แต่งตัวยังบอกว่าคนคนหนึ่งฉลาดได้เลย นี่แหละเสน่ห์ของการสร้างภาพลักษณ์ มันบอกข้างในของคุณทั้งหมด
คุณลองมองในสภา คุณก็จะดูออกทันทีว่าตอนนี้ ส.ส. หรือรัฐบาลคนใดที่ไม่ได้มีการใช้สัญญะเรือนกาย หรือไม่ได้เคยให้ความสำคัญกับสภาเลย แค่เสื้อผ้าหน้าผม ก็สื่อสารทั้งหมดแล้วครับ
IG & TW : BrandingbyBoy
#BrandingbyBoy
ความฉลาดสื่อสารผ่านสัญญะเรือนกายของผู้นำ
โฆษณา