21 ส.ค. 2021 เวลา 16:16 • ปรัชญา
จิตอยู่ในกายบุญ
ฝึกหัดทำกายให้นิ่ง จิตเฉย ก่อนสวดมนต์ เพื่อเอาจิตมาสวดมนต์ ไม่ใช่เอาอารมณ์มาสวด
กายบุญ จิตอยู่ในกายบุญ จิตเป็นผู้มีบารมี
คนมีบุญเท่านั้น ที่จะทำอะไรต่ออะไรได้ คนมีกรรมทำไม่ได้ มันทำตรงข้ามหมด
ทำดีให้เป็น ถ้ากายหยุกหยิกๆ เกิดขึ้น เราก็จับให้มันนิ่ง เป็นโอกาสของเราแล้ว ที่เรามีอาการครบสามสิบสอง ที่สามารถบังคับกายของเรา หูตาจมูกลิ้นกายใจของเรา ทั้งหมดนิ่ง แม่ทั้งสี่ก็นิ่ง วิญญาณทั่งหกนิ่งหมด ขันทั่งห้าก็นิ่ง ตรงใหนที่มันมีกรรม ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน เรืยกว่านิ่ง แล้วจิตเราจะไปไหน จิตกลัวอารมณ์อย่างเดียว
อารมณ์เกิดขึ้นมา นึกถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ ทำกายให้มันแข็งๆ เหมือนกายท่อนไม้ อารมณ์จะเข้าได้มั้ย กายเป็นหินอย่างนี้ เอาเข็มไปแทงหิน มันก็ไม่เข้า เมื่อไม่เข้าจิตมันก็ไม่นึกคิดอะไร อารมณ์ก็เหมือนเข็ม คอยทิ่มแทงตลอดเวลา แหย่ไอ้โน้นแหย่ไอ้นี่ แหย่ตรงโน้นแหย่ตรงนี้ เดี๋ยว.
แหย่ที่กาย แหย่เลยกายไปก็เข้าไปถึงจิต จิตก็ตามอารมณ์ไปเลยคราวนี้ เข็มจะชี้ไปทางไหน อารมณ์กตามเข็มนั้นไป อยู่ดีๆ ก็ชี้เจ็บเสียแล้ว เหมือนกับยุงกัดมดกัด อะไรต่างๆ ไม่ใช่มาจากอะไร มาจากกรรมของตัวเองไปสร้างเข้าไว้
ที่จริงแล้ว ถ้าเราจะไปสวดมนต์ ก็ไม่มีใครเค้าพูดให้ฟัง เราก็ทำของเรา พอรู้กายจะงอ หรือ จะคิดอะไร เราก็ทำกายแข็ง จิตนิ่งไม่คิดอะไร บอกไปบอกมาอย่างนี้ อารมณ์มันจะเข้ามา มันก็เลยเถิดไปแล้ว มันไม่เข้า เข้าไม่ได้ มีกำแพงกั้นซะ กำแพงของเราหรือบอกตัวเองกายนิ่ง จิตเฉยจิตไม่มีอะไร เป็นกำแพงอีกชั้นไปอีก จะสร้างอะไร ก็สร้างแบบนี้ สร้างบารมีให้แก่จิตของเรา ไม่ได้สร้างให้แก่ใคร ไม่ได้ไปอวดใคร ใครเค้าจะไปรู้ล่ะ ว่าทำอะไร เราปลดเปลื้อง เรื่องราวของกรรม มันต้องนิ่ง พอนิ่งพอประมาณแล้ว ลืมตาขึ้นมา บอกตัวเอง ดูมือซ้าย ยกมือซ้ายขึ้นมารดา ยกมือขึ้นขวาบิดา มาพนมมือสวดมนต์ เมื่อจิตนิ่งดี แล้วจึงกราบพระสวดมนต์
การกระทำที่พูดบอกตัวเอง ว่าจิตเราอาศัยเรือนกายของคุณบิดามารดา เพื่อเตือนสติเตือนจิตเตือนตนว่า เรานั้นเป็นเพียงผู้อาศัยกายนี้อยู่ จะได้ระลึกถึงสิ่งที่ผู้มีพระคุณ ให้เรามาอาศัย เอามาทำเรื่องราวที่ดีให้แก่จิตของตน มีเวลาเพียงแปดสิบปี ร้อยปีกายนี้ก็หมดสภาพไป จะใช้ไปในทางใด ไปสู่สุข หรือ ทุกข์ ก็อยู่ที่เรากระทำ
โฆษณา