#64 เล่ม 3 บทที่ 13 หน้า 318 ~ 325
...
N : ครับ ผมก็อยากรู้เรื่องนี้เหมือนกัน อยากรู้ว่ามันจะมีทางไหนที่เราจะยอมให้เผ่าพันธุ์มนุษย์แสดงออกถึงความรักที่แท้จริงได้
ฉะนั้นผมจะขอจบการพูดคุยในส่วนนี้ตรงที่ที่เราเริ่มต้น นั่นคือ เราควร (จริงๆมีบางคนบอกว่าเรา ‘ต้อง’) มีข้อจำกัดอะไรบ้างในการแสดงออกกับเรื่องนี้ครับ❓
...
...
...
G : ไม่มี ไม่มีข้อจำกัดใดๆทั้งนั้น และนี่ควรเป็น ‘คำปฏิญาณในพิธีแต่งงาน’ ของพวกเธอ
N : น่าทึ่งมาก เพราะนั่นคือคำปฏิญาณในพิธีแต่งงานของผมกับแนนซี❗
G : ฉันรู้
N : ตอนที่แนนซีกับผมตัดสินใจแต่งงานกัน จู่ๆผมก็เกิดแรงบันดาลใจให้เขียนคำปฏิญาณในพิธีแต่งงานทั้งหมดขึ้นใหม่
G : ฉันรู้
N : และแนนซีก็เห็นดีเห็นงามด้วย เธอเห็นด้วยว่าเราไม่อาจให้คำปฏิญาณ “ตามธรรมเนียม” แบบที่พูดกันในพิธีแต่งงานทั่วไปได้
G : ฉันรู้
N : แล้วเราสองคนก็นั่งลงเขียนคำปฏิญาณในพิธีแต่งงานขึ้นมาใหม่ ซึ่ง “ฝ่าฝืนบัญญัติทางวัฒนธรรม” อย่างที่พระองค์พูด
G : ใช่ เธอทำแบบนั้น และฉันก็ภูมิใจมาก
N : ตอนที่เราเขียน ตอนที่เราพิมพ์มันลงไปในกระดาษให้บาทหลวงอ่าน ผมเชื่อจริงๆว่าเราสองคนได้รับการดลใจ
G : แน่นอนอยู่แล้ว❗
N : พระองค์หมายความว่า —❓
G : เธอคิดว่าไงล่ะ เธอคิดว่าฉันมาหาเธอเฉพาะตอนที่เธอเขียนหนังสือเท่านั้นหรือ❓
N : ว้าววว
G : ใช่ ว้าว
ทำไมเธอไม่เอาคำปฏิญาณนั้นมาใส่ไว้ตรงนี้ด้วยล่ะ❓
N : อะไรนะครับ❓
G : เอาเลย เธอมีบันทึกของคำปฏิญาณนั้นอยู่แล้ว เอามาใส่ลงตรงนี้เลย
N : แต่ผมและแนนซีไม่ได้เขียนขึ้นมาให้ชาวโลกอ่านนะครับ
G : ตอนที่การพูดคุยกันนี้เริ่มขึ้น เธอก็ไม่ได้คิดแม้แต่นิดเดียวว่าบทสนทนาทั้งหมดนี้จะถูกเผยแพร่ให้ชาวโลกได้อ่าน
เอาเลย เอามาลงเลย
N : คือผมไม่อยากให้คนคิดว่าผมกำลังบอกว่า “เราได้เขียนคำปฏิญาณในพิธีแต่งงานอันสมบูรณ์แบบ❗”
G : จู่ๆเธอก็กังวลขึ้นมาว่าผู้คนจะคิดกับเธอยังไง❓
N : ไม่เอาน่า พระองค์ก็รู้ว่าผมหมายถึงอะไร
G : เอางี้นะ ไม่มีใครพูดหรอกว่ามันเป็น “คำปฏิญาณในพิธีแต่งงานอันสมบูรณ์แบบ”
N : งั้นก็...โอเคครับ
G : มันแค่ดีที่สุดเท่าที่จะมีมนุษย์โลกคนไหนเคยเขียนขึ้น
N : เฮ้ยยย —❗❗
G : ล้อเล่นน่า อย่าเครียดให้มันมากนัก
เอาเลย เอามาลงตรงนี้เลย ฉันรับผิดชอบเอง ผู้คนจะชอบมัน มันจะช่วยให้แนวคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ฉันกำลังพูดถึงตรงนี้ ทำไมเธอถึงไม่อยากเชื้อเชิญให้คนอื่นเข้าร่วมในคำปฏิญาณนี้ล่ะ จริงๆแล้วมันไม่ใช่ “คำปฏิญาณ” (หรือคำสาบาน) หรอก แต่เป็นถ้อยแถลงหรือคำประกาศในพิธีแต่งงาน
N : โอเคครับ ข้างล่างนี้เป็นคำที่แนนซีกับผมประกาศต่อกันในวันแต่งงาน...ขอบคุณ “แรงบันดาลใจ” ที่เราได้รับ
บาทหลวง :
นีลและแนนซีไม่ได้มาในค่ำคืนนี้เพื่อให้คำสัญญาตามพิธีการ หรือแลกเปลี่ยนคำปฏิญาณอันศักดิ์สิทธิ์
แนนซีและนีลมาในค่ำคืนนี้เพื่อให้สาธารณชนได้รับรู้ถึงความรักที่ทั้งสองมีให้แก่กัน เพื่อแจ้งให้ทราบถึงความจริงของคนทั้งคู่ เพื่อประกาศการตัดสินใจที่จะร่วมชีวิต เคียงคู่ และเติบโตไปด้วยกันอย่างไม่ปิดปังต่อหน้าสักขีพยานทุกท่าน
ด้วยความปรารถนาของคู่บ่าวสาวที่จะให้พวกเรารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งอันใกล้ชิดของการตัดสินใจของทั้งสอง ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้พิธีนี้มีความหมายมากยิ่งขึ้น
ทั้งสองยังมาในค่ำคืนนี้ด้วยหวังว่าพิธีเชื่อมสัมพันธ์นี้จะชักนำเราทุกคนให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น หากท่านอยู่ที่นี่ในค่ำคืนนี้พร้อมกับบุตรหลานหรือคู่ครอง ได้โปรดให้พิธีนี้เป็นสิ่งย้ำเตือน — เป็นการอุทิศให้สัมพันธ์รักของพวกท่านเองอีกครั้ง
พ่อจะเริ่มด้วยคำถามว่า : ทำไมถึงแต่งงานกัน❓ นีลและแนนซีได้ตอบคำถามนี้กับตัวเองแล้ว ทั้งยังบอกคำตอบกับพ่อแล้วเช่นกัน บัดนี้พ่อจะขอถามคู่บ่าวสาวอีกครั้ง เพื่อให้ทั้งคู่มั่นใจในคำตอบ แน่ใจในความเข้าใจ และหนักแน่นในการผูกมัดตนต่อความจริงที่ทั้งคู่มีร่วมกัน
(บาทหลวงหยิบกุหลาบสองดอกขึ้นจากโต๊ะ...)
นี่คือพิธีแห่งกุหลาบ ที่ซึ่งแนนซีและนีลได้แบ่งปันความเข้าใจและร่วมเฉลิมฉลองแด่ความเข้าใจนั้น
บัดนี้ นีลและแนนซี ลูกทั้งสองได้บอกกับพ่อว่า ลูกเข้าใจชัดว่าไม่ได้เข้าสู่การแต่งงานนี้ด้วยเหตุผลของความมั่นคง...
...ว่าความมั่นคงที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการเป็นเจ้าของหรือครอบครอง หรือจากการถูกเป็นเจ้าของหรือถูกครอบครอง...
...หรือจากการเรียกร้องหรือคาดหวัง หรือแม้แต่การหวังว่าอีกฝ่ายจะจัดหาสิ่งที่ลูกคิดว่าจำเป็นในชีวิตมาให้...
...แต่เกิดจากการรู้ว่าทุกสิ่งที่จำเป็นในชีวิต...ไม่ว่าจะเป็นความรัก ภูมิปัญญา การหยั่งรู้ พลัง ความรู้ ความเข้าใจ การดูแลเอาใจใส่ ความเมตตากรุณา และความเข้มแข็งทั้งหลายทั้งปวง...ล้วนดำรงอยู่ภายในตัวลูก...
...และลูกทั้งสองไม่ได้แต่งงานกับอีกฝ่ายเพื่อหวังจะได้รับสิ่งเหล่านี้ แต่ด้วยหวังจะมอบของขวัญเหล่านี้แก่อีกฝ่าย ว่าอีกฝ่ายจะได้มีสิ่งเหล่านี้ให้ยิ่งๆขึ้นไป
นี่คือความเข้าใจอันชัดแจ้งของลูกในค่ำคืนนี้หรือเปล่า❓
(คู่บ่าวสาวตอบว่า “ใช่”)
นีลและแนนซี ลูกทั้งสองได้บอกกับพ่อว่า ลูกเข้าใจชัดว่าไม่ได้กำลังเข้าสู่การแต่งงานนี้เพื่อเป็นหนทางใดๆในการจำกัด ควบคุม กีดกัน หรือยับยั้งกันและกันจากการแสดงออกที่แท้จริง และการเฉลิมฉลองที่ซื่อตรงของสิ่งสูงส่งที่สุดและดีที่สุดที่อยู่ภายในตัวลูก
รวมถึงความรักที่ลูกมีต่อพระเจ้า ความรักที่ลูกมีต่อชีวิต ความรักที่ลูกมีต่อผู้คน ความรักที่ลูกมีต่อการสร้างสรรค์ ความรักที่ลูกมีต่อการงาน หรือต่อด้านใดๆก็ตามของตัวตนที่แสดงถึงความเป็นตัวลูกอย่างแท้จริง และทำให้ชีวิตของลูกเบิกบาน
นั่นยังเป็นความเข้าใจอันชัดแจ้งของลูกทั้งสองอยู่หรือเปล่า❓
(คู่บ่าวสาวตอบว่า “ใช่”)
สุดท้าย แนนซีและนีล ลูกทั้งสองได้บอกกับพ่อว่า ลูกไม่ได้มองการแต่งงานว่าเป็นการสร้างข้อผูกมัด แต่เป็นการมอบโอกาส...
...โอกาสเพื่อเติบโต เพื่อสำแดงความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มเปี่ยม เพื่อยกระดับชีวิตสู่ศักยภาพสูงสุด เพื่อเยียวยาทุกความคิดที่ผิดพลาดหรือแนวคิดอันต้อยต่ำที่ลูกเคยมีต่อตัวเอง และเพื่อกลับไปเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าผ่านการเป็นหนึ่งเดียวกันของวิญญาณของลูกทั้งสอง...
...และนี่คือพิธีมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์★ ที่แท้จริง...คือการเดินทางแห่งชีวิตร่วมกับคนที่ลูกรักในฐานะคู่ชีวิตที่เท่าเทียม แบ่งปันอย่างเท่าเทียมทั้งสิทธิอำนาจและความรับผิดชอบอันเป็นเนื้อแท้ของการเป็นหุ้นส่วนใดๆ ร่วมแบกรับภาระอย่างเท่าเทียม และอาบแสงแห่งความเรื่องโรจน์อย่างเท่าเทียมกัน
[★Holy Communion (พิธีมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์ หรือ ศีลมหาสนิท) เป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาคริสต์ เพื่อแสดงถึงการร่วมสนิทกับพระเยซู โดยการรับประทานขนมปัง (สัญลักษณ์แทนพระกายของพระเยซู) และไวน์ (สัญลักษณ์แทนพระโลหิต) เพื่อให้ระลึกถึงคุณของพระเจ้า เพื่อประกาศการยอมรับว่าพระเจ้าได้สถิตอยู่ในกายตน เพื่อแนบแน่นเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ และเพื่ออยู่ร่วมกันด้วยความรัก ~ ผู้แปล]
นั่นคือภาพวิสัยทัศน์ที่ลูกทั้งสองปรารถนาจะก้าวเข้าไปใช่หรือไม่❓
(คู่บ่าวสาวตอบว่า “ใช่”)
ตอนนี้พ่อจะมอบกุหลาบนี้แก่ลูก เป็นสัญลักษณ์ถึงความเข้าใจถึงสิ่งทางโลกของแต่ละฝ่าย ว่าลูกทั้งสองได้รับรู้และเห็นด้วยว่าชีวิตของลูกจะเป็นอย่างไรในรูปกาย และภายในโครงสร้างทางกายภาพที่เรียกว่าการแต่งงาน
จงมอบกุหลาบนี้แก่อีกฝ่ายเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งปันความเห็นพ้องและความเข้าใจที่มีร่วมกันนี้ด้วยความรัก
ในเวลานี้ แต่ละฝ่ายจงรับกุหลาบขาวนี้ไป กุหลาบนี้คือเครื่องหมายของความเข้าใจที่กว้างขึ้นของธรรมชาติทางจิตวิญญาณและความจริงทางจิตวิญญาณของตัวลูก มันคือตัวแทนถึงความบริสุทธิ์ของความจริงและตัวตนที่สูงส่งที่สุดของลูก และมันคือตัวแทนถึงความบริสุทธิ์ของความรักของพระเจ้า ซึ่งฉายฉานมายังตัวลูกในตอนนี้และตลอดไป
(ผู้ประกอบพิธียื่นกุหลาบที่มีแหวนของนีลอยู่ตรงก้านแก่แนนซี และยื่นกุหลาบที่มีแหวนของแนนซีแก่นีล)
ลูกจะมอบของสิ่งใดแก่กันเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความรักและคำปฏิญาณในวันนี้
(ทั้งสองต่างหยิบแหวนออกจากก้านกุหลาบแล้วยื่นให้บาทหลวงซึ่งถือแหวนไว้ในมือขณะพูด...)
วงกลมเป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์ โลก และจักรวาล มันคือเครื่องหมายของความศักดิ์สิทธิ์ ความสมบูรณ์แบบ และสันติสุข ทั้งยังเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นนิรันดร์ของความจริงทางจิตวิญญาณ ความรัก และชีวิต...ซึ่งไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด
และในขณะนี้นีลและแนนซียังเลือกให้มันเป็นเครื่องหมายของเอกภาพ...ไม่ใช่เครื่องหมายของการครอบครอง คือเครื่องหมายของการผสานรวมกัน...ไม่ใช่เครื่องหมายของการจำกัด คือเครื่องหมายของการโอบอุ้ม...ไม่ใช่เครื่องหมายของการรัดรึง ด้วยเหตุที่รักไม่ใช่การเป็นเจ้าของและไม่อาจถูกจำกัด และวิญญาณก็ไม่อาจถูกร้อยรัด
เวลานี้นีลและแนนซี โปรดรับแหวนที่เตรียมจะให้อีกฝ่ายนี้ไป
(ทั้งสองรับแหวนของอีกฝ่ายไป)
นีล โปรดพูดตามพ่อ :
ผม นีล ...ขอรับคุณ แนนซี ...เป็นคู่ชีวิต คู่รัก เพื่อน และภรรยา ...ผมขอแจ้งและประกาศความประสงค์ที่จะมอบมิตรภาพอันลึกซึ้งและความรัก ...ทั้งในยามสุข ...ทั้งในยามทุกข์ ...ทั้งในยามที่คุณจดจำตัวตนที่แท้จริงได้กระจ่างชัด ...ทั้งในยามที่คุณหลงลืม ...ทั้งในยามที่คุณแสดงออกด้วยความรัก ...ทั้งในยามที่ไม่เป็นเช่นนั้น
...ผมยังขอประกาศ ...ต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้าและต่อหน้าสักขีพยานทุกท่านที่อยู่ที่นี่ ...ว่าผมจะพยายามมองให้เห็นแสงแห่งความศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในตัวคุณเสมอ ...และจะพยายามแบ่งปัน ...แสงแห่งความศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในตัวผมเสมอเช่นกัน ...แม้ในยาม และโดยเฉพาะในยาม ...ที่ตกอยู่ในความมืดมิด
ผมประสงค์ที่จะเคียงข้างคุณตลอดไป ...ในความเป็นหุ้นส่วนอันศักดิ์สิทธิ์ของวิญญาณ ...ว่าเราจะได้ทำงานของพระเจ้าร่วมกัน ...แบ่งปันสิ่งดีๆทั้งหลายที่อยู่ในตัวเรา ...ให้แก่ทุกผู้คนที่เราพบพาน
(บาทหลวงหันไปทางแนนซี)
แนนซี ลูกเลือกที่จะรับนีลเป็นสามีหรือไม่❓
(แนนซีตอบว่า “รับค่ะ”)
ทีนี้ แนนซี โปรดพูดตามพ่อ :
ฉัน แนนซี ...ขอรับคุณ นีล ...(เธอพูดคำปฏิญาณแบบเดียวกัน)
...
(บาทหลวงหันไปทางนีล)
นีล ลูกเลือกที่จะรับแนนซีเป็นภรรยาหรือไม่❓
(นีลตอบว่า “รับครับ”)
คู่บ่าวสาว ได้โปรดถือแหวนที่จะสวมให้แก่กันและกันและพูดตามพ่อว่า :
แหวนวงนี้ ...คือเครื่องหมายว่าเราได้เป็นสามีภรรยากัน ...ฉันรับแหวนนี้ที่คุณให้ฉัน ...(คู่บ่าวสาวแลกแหวนกัน) ...แล้ววางไว้บนมือของฉัน ...(คู่บ่าวสาววางแหวนไว้บนมือ) ...เพื่อสุภาพชนทุกท่านจะได้เห็นและได้รับรู้ ...ถึงความรักที่เรามีต่อกัน
(บาทหลวงกล่าวจบพิธี...)
พวกเราได้ตระหนักชัดเป็นอย่างยิ่งว่ามีแต่ตัวของคู่บ่าวสาวเองเท่านั้นที่จะอภิเษกพิธีแต่งงานอันศักดิ์สิทธิ์ให้แก่กันและกันได้ และก็มีแต่ตัวของคู่บ่าวสาวเองเท่านั้นที่จะทำให้มันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นได้ ไม่ใช่ทั้งจากศาสนาจักรและจากอำนาจที่พ่อได้รับมาจากรัฐ จะมีสิทธิประกาศถึงสิ่งซึ่งมีเพียงใจสองใจจะประกาศได้ สิ่งซึ่งมีเพียงวิญญาณสองดวงที่จะทำให้มันเป็นจริงได้
เช่นนั้นแล้ว บัดนี้ ลูก...แนนซี ลูก...นีล ได้ประกาศความจริงที่สลักไว้ในหัวใจของลูกทั้งสองอยู่ก่อนแล้ว และเป็นพยานถึงสิ่งเดียวกันต่อหน้าผู้คนเหล่านี้และมิตรสหายของลูก และต่อวิญญาณอันมีชีวิตเป็นหนึ่งเดียว — พวกเราได้สังเกตเห็นด้วยใจเบิกบานว่าลูกทั้งสองได้ประกาศให้ตัวเองได้เป็น...สามีภรรยากัน
ขอพวกเราจงร่วมกันสวดภาวนา
ด้วยจิตวิญญาณของความรักและชีวิต : จากโลกอันกว้างใหญ่ วิญญาณสองดวงหากันจนเจอ บัดนี้ชะตากรรมของทั้งสองจะถูกทักทอเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน จะร่วมทุกข์ร่วมสุข และเผชิญทั้งร้ายทั้งดีเคียงคู่กัน
นีลและแนนซี ขอให้ที่พำนักของลูกเป็นสถานที่แห่งความสุขแก่ผู้ที่เหยียบย่างเข้ามา เป็นสถานที่ที่ผู้อาวุโสและผู้เยาว์ได้ฟื้นคืนพลังให้แก่กันและกันจากการอยู่ร่วมกัน เป็นสถานที่แห่งการเติบโตและแบ่งปัน เป็นสถานที่แห่งเสียงดนตรีและเสียงหัวเราะ เป็นสถานที่แห่งการภาวนาและความรัก
ขอให้ชีวิตของผู้ที่ใกล้ชิดลูกได้งอกงามขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความงดงามและความรักที่ลูกมีให้แก่กัน ขอให้การงานของลูกเป็นความเบิกบานแห่งชีวิตที่ยังประโยชน์แก่โลก ขอให้ลูกมีคืนวันที่ดีและยาวนานบนโลกใบนี้
อาเมน อาเมน.
...
...
...
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
