31 ส.ค. 2021 เวลา 23:39 • ธุรกิจ
สี่แสนแปดหมื่นล้านต่อปี กับรายได้ Passive Income ของ Apple iOS ที่ได้รับจาก Google
3
ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องราวที่สนใจที่สุดเรื่องนึงในแวดวงเทคโนโลยีโลก นั่นก็คือความสัมพันธ์ระหว่าง Apple และ Google ที่เป็นพี่ใหญ่ในวงการมือถือโลกผ่านแพล็ตฟอร์ม Android และ iOS และมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมาอย่างยาวนาน
4
สี่แสนแปดหมื่นล้านต่อปี กับรายได้ Passive Income ของ Apple iOS ที่ได้รับจาก Google
ในหนังสือชีวประวัติของ Steve Jobs ที่เขียนโดย Walter Isaccson นั้น Steve Jobs ได้กล่าวแม้กระทั่งว่า “ผมต้องการทำลาย Android เพราะมันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขโมย ไอเดียจาก iOS ของ Apple”
4
แต่ด้วยปรัชญาในเรื่องการดูแลแพล็ตฟอร์มที่แตกต่างกันออกไปอย่างชันเจน Android ที่เป็นระบบเปิดแบบเสรี ผู้ผลิตมือถือเจ้าไหนก็สามารถนำมันไปใช้ได้ เพียงแค่ใส่บริการของ Google Service เครื่องจักรทำเงินของพวกเขาเข้าไปเท่านั้น
ส่วน Apple เป็นระบบปิด มาตั้งแต่แรกอย่างชัดเจน และแคร์ในเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเป็นอย่างมาก การขยับปรับนโยบายแต่ละครั้งสะเทือนไปทั้งวงการ ตัวอย่างล่าสุดที่เกิดกับ Facebook ก็น่าจะรู้ว่า Apple นั้นมีอิทธิพลมากแค่ไหนในวงการมือถือโลก
6
แต่มันมีเรื่องนึง ที่ดูเหมือนไม่สมเหตุสมผล จากประวัติของบริษัททั้งคู่ ที่เป็นคู่รักคู่แค้นกันมาอย่างยาวนาน เมื่อ Apple นั้นทำเงินได้อย่างมากมายกับการที่แลกให้ Google เป็นเครื่องมือการค้นหาเริ่มต้นบน iPhone และ อุปกรณ์ iOS ทั้งหมด
4
มันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก ๆ กับความสัมพันธ์แบบสมประโยชน์ของทั้งคู่ในกรณีนี้ เนื่องจาก Google ได้จ่ายเงินให้ Apple มากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อให้ Google เป็นเครื่องมือการค้นหาเริ่มต้นนี้
2
หนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี!!! แน่นอนว่าคุณอ่านไม่ผิด มันเทียบกับเงินราว ๆ 320,000 ล้านบาทต่อปี ที่ Apple ได้เงินกินเปล่าแบบฟรี ๆ จาก Google ในกรณีนี้
2
แม้หลายคนอาจจะคิดว่า ผู้ใช้ iPhone ส่วนใหญ่ก็น่าจะใช้ Google อยู่แล้ว มันเป็นเรื่องที่ดีกว่าหาก Apple รับเงินกินเปล่ามาแบบฟรี ๆ โดยไม่ได้กระทบกับการใช้งานของสาวก Apple แต่อย่างใด
3
มีงานวิจัยที่ระบุว่า ค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะเพิ่มเป็น 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ราว ๆ 480,000 ล้านบาทในปี 2021 และเพิ่มเป็น 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2022
4
รายได้จำนวนมหาศาลที่ Apple ได้รับจากการเป็นค่าตั้งต้นการค้นหาให้กับ Google (CR:AppleToolBox)
ซึ่งแม้ว่า Apple จะไม่ได้แยกรายได้จากบริการต่างๆ ออกมาอย่างชัดเจนนักในงบการเงินของบริษัท แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า ข้อตกลงกับ Google เป็นส่วนที่ทำกำไรได้มากที่สุดจากธุรกิจบริการของบริษัท เพราะมันแทบจะไม่มีต้นทุนเลยนั่นเอง
ซึ่งต้องบอกว่ารายได้จากธุรกิจบริการนั้นเป็นส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของการเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ของ Apple ในยุค CEO อย่าง Tim Cook ที่สามารถสร้างรายได้จากธุรกิจบริการแบบพุ่งกระฉูด
1
และแน่นอนว่า มันก็ส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของ Apple เช่นเดียวกัน เพราะทำให้ลูกค้าของพวกเขานั้น สูญเสียความเป็นส่วนตัวของข้อมูลอย่างชัดเจนไปให้กับ Google ซึ่งเปรียบเสมือนว่า Apple ก็ทำรายได้จากข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ผ่านเครือข่ายการค้นหาของ Google นั่นเอง
6
แต่ Apple ก็คงคิดถี่ถ้วนเป็นอย่างดีแล้ว เพราะ Google มันกลายเป็นบริการสามัญประจำเครื่อง ที่ทุกคนทั่วโลกใช้กันหมด และไม่มีคู่แข่งคนใดมาทาบรัศมีกับประสิทธิภาพการค้นหาของ Google ได้เลย
3
และเงิน กว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (สี่แสนแปดหมื่นล้านบาท) ก็เป็นตัวเลขไม่ใช่น้อยที่ Apple จะได้รับจาก Google ในปีนี้ และเป็นอีกหนึ่งช่องทางรายได้ที่สำคัญที่แทบจะไม่มีต้นทุน ซึ่งมันก็เปรียบเสมือน Passive Income ที่หลาย ๆ ธุรกิจต่างถวิลหา และ Apple ก็จะได้รับมันในทุกๆ ปีจาก Google นั่นเองครับผม
9
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
=========================
ร่วมสนับสนุน ด.ดล Blog และ Geek Forever Podcast
เพื่อให้เรามีกำลังในการผลิต Content ดี ๆ ให้กับท่าน
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog ผ่าน Line OA เพียงคลิก :
=========================
ฟัง PodCast เรื่องเกี่ยวเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ที่ Geek Forever’s Podcast
——————————————–
ฟังผ่าน Podbean :
——————————————–
ฟังผ่าน Apple Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Google Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Spotify :
——————————————–
ฟังผ่าน Youtube :
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา