วรวุฒิ ศรีสุภา : ปลุกพลังฮึด ข้ามผ่านความผิดพลาด สู้เพื่อโอกาสและความหวัง
#ChangsuekFocus
ตำแหน่งผู้รักษาประตู นายด่านคนสุดท้ายแห่งเกมรับของทีม แน่นอนว่าต้องแบกความกดดันไว้ไม่น้อย ไม่แพ้คือเสมอตัว เซฟสวยๆอาจจะน่าจดจำ แต่ถ้าเกิดความผิดพลาดส่วนตัว ก็จะเป็นตราบาปที่รุนแรงไม่แพ้กัน ซึ่งผู้รักษาประตูชั้นนำแทบทุกคน ก็ต้องเคยผ่านช่วงเวลาเหล่านี้มาไม่มากก็น้อย
“ปอนด์” #วรวุฒิ ศรีสุภา มือกาวขาวตี๋ที่เฝ้าเสาให้ท่าเรือมาตั้งแต่ปี 2015 จากการเป็นน้องเล็ก ที่มี ณรงค์ วิเศษศรี กับ วีระ เกิดพุดซา เป็นรุ่นพี่แบ็คอัพ สู่การเป็นพี่ใหญ่ ที่มี วัชระ บัวทอง กับ รัตนัย ส่องแสงจันทร์ เป็นรุ่นน้องที่พร้อมเบียดขึ้นมาเฝ้าเสาได้ตลอด การมีเพื่อนร่วมทีม/คู่แข่งร่วมตำแหน่ง ในวัยที่ไล่เลี่ยกัน เป็นสิ่งที่ทำให้เหล่ามือกาวของท่าเรือ ต้องฮึดสู้อยู่เสมอ
ปอนด์ลงสนามและไม่เสียประตูในเกมนัดชิงชนะเลิศ ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 พาท่าเรือคว้าถ้วยแชมป์พร้อมโควต้าไปเตะรอบคัดเลือกศึก AFC Champions League ในปี 2020 โดยการได้เจอกับ เซเลส เนกรอส จากฟิลิปินส์ ที่แพท สเตเดี้ยม ดูไม่ใช่งานที่ยากหนักหนาซักเท่าไหร่
เกมรุกที่ยังไม่ลงตัว ทำให้สิงห์เจ้าท่ายังหาประตูขึ้นนำไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้เล่นเป็นรองคู่แข่ง จุดเปลี่ยนที่ชัดเจนเกิดขึ้น เมื่อวรวุฒิ ดันไปปัดลูกเปิดของ สเตฟาน ชร็อค เข้าประตูตัวเองไป ทำให้ทีมเยือนขึ้นนำ และตั้งรับอย่างหนาแน่นกว่าเดิม สุดท้ายท่าเรือก็ต้องจอดป้ายความฝันบนเวทีเอเชียตั้งแต่เนิ่นๆ
ฝันร้ายยังแอบตามหลอกหลอนเจ้าปอนด์ เมื่อเขายังได้โอกาสลงเฝ้าเสาในเกมชิงถ้วย ออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ ในอีก 12 วันถัดมา ซึ่งท่าเรือก็ดันแพ้ให้กับ เชียงราย ยูไนเต็ด ไป 2-0 ชวดคว้าถ้วยแชมป์อย่างเป็นทางการก่อนเปิดซีซั่น
วรวุฒิต้องตกเป็นตัวสำรองในช่วงเปิดฤดูกาล ทั้ง 4 นัดแรกช่วงต้นปี จนมีการพักซีซั่นเพราะโควิด ก่อนจะกลับมาเตะกันต่อในเดือนกันยายน ซึ่งเจ้าปอนด์ก็ยังไม่ได้ออกสตาร์ทให้ทีมอีกอยู่ดี รวมเป็นจำนวนถึง 9 นัดติดต่อกัน แต่แน่นอนเลยว่าเจ้าตัวก็ไม่มีทางท้อ ฮึดสู้ต่อจนได้กลับมาเฝ้าเสาให้ทีมอีกครั้งในเกมที่ 10 หลังจากที่ท่าเรือเสียไปถึง 12 ประตู ใน 9 นัดแรก
พลังฮึดของปอนด์ มีส่วนในการช่วยเกมรับของสิงห์เจ้าท่าได้มากมาย เขามีช่วงที่ไม่เสียประตูถึง 4 นัดติดต่อกัน (เจอ แบงคอก ยูไนเต็ด, สุพรรณบุรี เอฟซี, ชลบุรี เอฟซี และ เมืองทอง ยูไนเต็ด) ซึ่งแน่นอนว่าท่าเรือก็เก็บชัยชนะได้ทั้งหมด ก่อนจะมาเสียสถิติคลีนชีตของเขาจากการโดนลูกจุดโทษของ ฟิลิป โรเลอร์ แต่มีช็อตเซฟลูกยิงจ่อๆช่วงท้ายเกมของลอสเซมี่ คาราบูเอ้ ให้แฟนๆได้จดจำ
ปอนด์เก็บไป 7 คลีนชีต จาก 19 นัดที่เขาลงสนามในไทยลีก ซึ่งถือว่าน่าพอใจมากๆสำหรับทีมที่มักถูกติเรื่องเกมรับอย่างการท่าเรือ และแน่นอนว่ามันมีส่วนอย่างมากในการพาสิงห์เจ้าท่าจบอันดับที่ 2 ในเลกแรก คว้าโวต้าไปลุยศึก ACL รอบแบ่งกลุ่มในปี 2021
เมื่อความฮึดสำฤทธิ์ผล สิ่งที่ตามมาก็สวยงาม ปอนด์เป็น 1 ใน 6 ผู้รักษาประตูที่ถูกเรียกติดทีมชาติไทยชุดลุยศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย ที่เตะ 3 นัดสุดท้ายบนแผ่นดินยูเออี หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาเคยเฝ้าเสาให้ทีมชาติมาแล้วในเกมอุ่นเครื่องกับ ไทยลีก ออลสตาร์
แม้ว่าสุดท้ายจะมีเพียงแค่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน กับ ฉัตรชัย บุตรพรหม ที่ได้เฝ้าเสาในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 3 นัดสุดท้าย แต่การได้ติดทีมชาติชุดใหญ่ในรายการนี้ก็ถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญของวรวุฒิ
เจ้าตัวได้สานต่อภารกิจกับการท่าเรือ ด้วยการลงเฝ้าเสาใน 3 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มศึก ACL เก็บคลีนชีตในเกมที่เจอกับ กวางโจว แถมยังได้แอสซิสต์ จากการออกบอลให้ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ซัดไกลจากแดนตัวเองใส่ เซเรโซ โอซากา ก่อนที่เจ้าตัวจะทนอาการบาดเจ็บไม่ไหว ต้องถูกเปลี่ยนตัวออก จนไม่ได้ลงสนามใน 3 นัดหลังสุด
อนาคตของวรวุฒิอาจจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อกลับมาจากอาการบาดเจ็บ เขาทั้งต้องแข่งขันเพื่อยึดตำแหน่งมือ 1 ของการท่าเรือ และโอกาสในอนาคตของทีมชาติไทย หลังพ้นยุคของศิวรักษ์และฉัตรชัย ซึ่งยังมีผู้รักษาประตูฝีมือดีอย่าง ปฏิวัติ คำไหม, สรานนท์ อนุอินทร์, สมพร ยศ และ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ที่เกือบทุกคนต่างอายุน้อยกว่าเจ้าปอนด์ทั้งนั้น (กัมพลอายุเท่ากัน) และได้โอกาสโชว์ฟอร์มในสโมสรอย่างต่อเนื่องแทบทุกคน
โอกาสอาจะไม่ใช่สิ่งที่ได้มาอย่างง่ายดาย ภารกิจ “ฮึดสู้” ของวรวุฒิ ศรีสุภา จะยังไม่จบลงง่ายๆอย่างแน่นอน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
