3 ก.ย. 2021 เวลา 11:42 • ธุรกิจ
เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมบางคนขนาดเจอวิกฤต แต่ทำไมเขายังเติบโตได้
2
ทั้งที่ใครๆ ก็บอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี มีวิกฤตโรคระบาด ข่าวธุรกิจเจ๊งก็มีให้เห็นทุกวัน ใครที่อยากจะทำธุรกิจ ไม่มีทางสำเร็จได้หรอก
แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้ก็คือ จริงๆ แล้ว มันยังมีคนอีกจำนวนมาก ที่เติบโตในช่วงนี้อยู่ เพียงแค่ไม่มีใครทำข่าวออกมาเท่านั้นเอง
ในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา เวลาผมไปพักผ่อน หรือ ไปเที่ยวที่ไหน ผมมักจะลองเข้าไปพูดคุย ทำความรู้จัก คนที่พบเจอระหว่างทางว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน ทำธุรกิจอะไร แล้วตอนนี้ธุรกิจของเขาเป็นยังไงบ้าง
เกือบทุกคนบอกว่า ช่วงนี้ดีเลยนะ ยอดขายโตขึ้น 2-10 เท่า
ผมจึงอดสงสัยที่จะถามพวกเขาไม่ได้ ว่าเศรษฐกิจแบบนี้ สถานการณ์โรคระบาดแบบนี้ เขาไม่ได้รับผลกระทบเลยหรอ
และเกือบทุกคนแทบจะให้คำตอบที่คล้ายๆ กัน นั่นก็คือ "กระทบสิ ใครๆ ก็กระทบกันทั้งนั้นแหละ"
แต่อยู่ที่ว่า เวลาเจอปัญหา เราเลือกที่จะ “บ่น” หรือ “แก้ไข” มัน
ถ้าเราเลือกที่จะ “แก้ไข” เราก็จะ “ได้ตังค์” แต่กลับกัน ถ้าเราเลือกที่จะ “บ่น” เราก็ต้องเป็นฝ่าย “เสียตังค์” ให้กับคนที่แก้ไขมันได้
เพราะแก่นของธุรกิจ คือ การแก้ปัญหาบางอย่าง ให้ใครบางคนเสมอ ยิ่งมีปัญหามากเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะได้มองหาแนวทางทำธุรกิจใหม่ๆ ก็จะยิ่งมากขึ้น
หลายคนพอเจอวิกฤต รีบปรับตัว ดึงข้อดีของมันมาใช้ ก็สามารถเติบโตขึ้น 2-10 เท่าได้
หรือ อีกหลายคน พอเจอวิกฤต ก็รีบมองหาโอกาส จนเกิดเป็นธุรกิจใหม่ๆ ได้มากมาย ซึ่งถ้าเรามองกันจริงๆ เราจะเห็นธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะมากๆ ในช่วงนี้
เพียงแต่ไม่มีใครทำข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่านั้นเอง
ถามว่าทำไมถึงไม่ทำข่าวเรื่องพวกนี้
ผมขอเปรียบเทียบง่ายๆ แบบนี้
ถ้าวันนี้มีเครื่องบิน 1,000 ลำ สามารถนำเครื่องขึ้น และ ลงจอดยังที่หมายได้ปลอดภัยทุกลำ จะมีคนทำข่าวเกี่ยวกับเครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัยไหม?
คำตอบ คือ "ไม่" จริงไหม?
แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดมีเครื่องบินเพียง 1 ลำ เกิดอุบัติเหตุ จนเครื่องบินตก ก็จะมีคนทำเป็นข่าวใหญ่ จนทำให้บางที เราก็ไม่กล้าที่จะขึ้นเครื่องบินไปเลย ทั้งที่จริงๆ มันยังมีอีก 999 ลำ ที่สามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย
คำกล่าวหนึ่งที่ผมชอบมากของ วินสตัน เซอร์ซิล ก็คือ “คนที่มองโลกในแง่ร้าย อยู่ท่ามกลางโอกาสใดก็มองว่ายาก คนที่มองโลกในแง่ดี อยู่ท่ามกลางความยากใด ก็มองเห็นโอกาส”
การมองโลกในแง่ดี ไม่ใช่โลกสวย แต่คือ การมองหาข้อดี ในสถานการณ์ที่อาจจะไม่สวยงามได้ต่างหาก
และนี่คือ สิ่งที่ผมพยายามบอกพี่น้องในคลาส Online Signature Master Class 2021 เสมอ
ว่าจริงๆ แล้วคน “สำเร็จ” กับ “ไม่สำเร็จ” ถ้าวัดกันที่ความเก่ง แทบจะไม่ได้ต่างกันเลย แต่มันต่างกันที่มุมมอง และ กรอบความคิด ที่เขาใช้ ปัญหา และ สถานการณ์ที่ผ่านเข้ามาต่างหาก
.
บรรยากาศในคลาสก็เลยมีแต่การซัพพอร์ตกัน ในทุกๆ วัน ทุกคนจะมาเข้าโพสต์ Winning Day ของตัวเอง ว่าวันนี้ได้ทำอะไรเพิ่มบ้าง พัฒนาอะไรบ้าง เห็นโอกาสอะไรบ้าง ซึ่งสิ่งที่แต่ละคนนำมาแชร์กัน ล้วนเกิดจากการมองหาโอกาสในความยาก ที่คนทั่วไปมองไม่เห็น นั่นก็เพราะพวกเขามองด้วยกรอบความคิดที่เป็นบวก
.
# อย่างคุณ ไผ่หลิว ก่อนจะเข้ามาเรียนในคลาส เธอเล่าว่าตัวเองเคยเป็น แอร์โฮสเตส มาก่อน แต่เมื่อโควิด-19 กระหน่ำเข้ามาจนถึงวันที่เธอโดนเลิกจ้าง เธอคิดไม่ออกเลยว่าจะไปทางไหนต่อดี เพราะใครจะไปคิด ว่าอาชีพที่ดูจะมั่นคงและรายได้ดีอย่างแอร์โฮสเตส จะมีวันนี้ได้ แต่ด้วยความที่เธออ่านบทความจากเพจสมองไหลทุกวัน เลยเริ่มมองเห็นโอกาส ลองไปขายน้ำ ขายเสื้อผ้า แต่ก็ยังขายแบบ งงๆ
แต่พอเริ่มทำไปเรื่อยๆ ก็เริ่มมองปัญหาทุกอย่างเป็นโอกาสมากขึ้น มองหาทางแก้ไขมัน ก็เลยมาขายเครื่องผลิตออกซิเจน ปรากฏว่าขายดีมากๆ จนส่งของให้ลูกค้าแทบไม่ทัน กลายเป็นว่าตอนนี้ตัวเองเติบโตจากออนไลน์ และ ไม่คิดจะกลับไปหางานประจำอีกเลย
เพราะตอนนี้ไม่มีหรอก งานที่ไม่เสี่ยง จะทำธุรกิจ หรือ งานประจำ ก็เสี่ยงเหมือนกันทั้งนั้น ขนาดเป็นแอร์แอร์โฮสเตสยังตกงานได้ ฉะนั้น ต่อจากนี้ ขอเลือกทำงานที่เราบริหารความเสี่ยงได้เองดีกว่า ดีกว่าต้องมารอให้คนอื่นกำหนดความเสี่ยงให้ โดยที่เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ที่สมัครเข้ามาเรียนคลาส Online Signature ก็เพราะว่าเครื่องผลิตออกซิเจน อัตราการซื้อซ้ำน้อย แรกๆ อาจจะขายได้ดี แต่พอทุกคนมีของกันหมด มันก็ยากจะซื้อซ้ำ ที่สำคัญพอโควิด-19 ดีขึ้น ก็คงขายไม่ได้ ก็เลยมาสมัครเรียนเพื่อฝึกทำออนไลน์ให้เก่งขึ้น และมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ
# ต่อมาคือคุณเอ เป็นพนักงานประจำคนหนึ่ง เข้ามาเรียนโดยที่ยังไม่มีธุรกิจ รู้แค่ว่าตัวเองเป็นคนทำสไลด์นำเสนอสวย แต่ก็มองไม่ออกว่าจะหาเงินจากมันยังไง จึงเข้ามาเรียนเพิ่มหาวิธีทำเงินจากสิ่งที่ตัวเองมี เมื่อเข้ามาเรียนได้แค่ 2 วัน แล้วนำสิ่งที่เรียนไปลงมือทำ ก็มีคนทักเข้ามาถึง 5 คน ทำให้เธอเชื่อทันที ว่าธุรกิจไม่ต้องใช้เงินทุนมันทำได้จริงๆ
เท่านั้นยังไม่พอ เธอเริ่มมองหาโอกาสอื่นๆ แล้วบังเอิญไปเห็นคุณแม่ของตัวเองทำกุยช่าย ก็เลยลองถ่ายรูปกุยช่ายของคุณแม่ ผนวกกับนำวิชาการเขียนคอนเทนต์ที่ได้เรียนในคลาสไปลองใช้ดู แล้วโพสต์ตามกลุ่มต่างๆ ปรากฏว่าวันแรก มีคนจองหมด 10 ชุด ภายใน 5 นาที และ ขยับขึ้นเป็น 30 ชุดภายใน 10 นาที และเริ่มทำรายได้เพิ่มจากตรงนี้ได้มากขึ้น
แล้วคนเราพอเชื่อว่าตัวเองทำได้ เธอก็เริ่มขยายไปรับงานด้านอื่นๆ มากขึ้น ตอนนี้เธอมีความสุขกับการมองเห็นโอกาสใหม่ๆ มาก
.
ถึงกับมาบอกผมว่า “ขอบคุณจริงๆ ที่ทำคลาสนี้ขึ้นมา เพราะก่อนหน้านี้ตัวเองโลกแคบมาก หันไปทางไหนก็เจอแต่สังคมเดิมๆ เจอแต่คนบ่นกับปัญหาที่เจอไปวันๆ คิดอะไรไม่ออก ตันไปหมด แต่พอได้มาเรียน ได้เจอสังคมใหม่ๆ ในคลาส มันเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่งเลย ว่า เฮ้ย จริงๆ มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น แค่มองโลกให้อีกมุม รู้วิธีที่ถูกต้อง พนักงานประจำอย่างเราก็ประสบความสำเร็จได้”
1
# ส่วนอีกท่านหนึ่งที่ผมชื่นชมมากๆ คือ หมอหมาด “เจ้าของเพจ Dr.Mard Academy l เยาวชน ครอบครัว ความสุข” ที่บอกกับผมว่า “ก็จริงนะ เวลาเจอปัญหา ถ้าเราแก้ไขมันได้ เราก็ได้ตังค์ ขนาดปัญหาเบสิคๆ อย่าง พ่อแม่มีลูกดื้อ พ่อแม่เลี้ยงลูกไม่เป็น พี่ก็หาวิธีแก้ให้เขา พี่ก็ได้ตังค์ และ อีกหลายอย่างที่เป็นปัญหาในครอบครัว ที่พี่เอาวิธีการไปแก้ไขให้เขา และเขาก็จ่ายตังค์ให้พี่
1
พ่อแม่ที่เอาแต่ “บ่น” ต้องจ่ายตังค์ให้พี่ ส่วนเวลาลูกพี่ดื้อ พี่ก็หาวิธีแก้ไข พอแก้ไขได้ ก็ไปช่วยแก้ให้คนอื่น พี่ก็ได้ตังค์จากเขา ทั้งๆ ที่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะทำจริงจังนะ ไม่คิดว่าจะได้เงินจากมันด้วย เพราะตัวเองก็มีงานสอนที่โรงเรียน มีงานที่โรงพยาบาล และ บริษัทก่อสร้าง อยู่แล้ว
แต่พอช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา พ่อแม่ต้องอยู่บ้าน ลูกก็อยู่บ้านมากขึ้น ทำให้ปัญหาเรื่องมากขึ้น ก็เลยมีคนเข้ามาให้เราช่วยแก้ปัญหาให้เขา จึงทำให้เพจก็โตก้าวกระโดดมากๆ ในช่วงนี้ พอเห็นโอกาสแบบนี้ ก็เลยเริ่มจริงจังกับมันทันที
.
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า แค่เราพลิกมุมมองที่มีต่อปัญหา เราก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจในช่วงเวลานี้ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วยังมีอีกหลายคนในคลาสที่ตอนนี้เติบโตกันมากๆ ที่ผมไม่ได้เอามาเล่าให้ฟัง
เห็นไหมครับว่า จริงๆ แล้วโอกาสทางธุรกิจมันเยอะมากๆ ถ้าวันนี้คุณไม่รู้จะเริ่มต้นธุรกิจอะไร ให้เปลี่ยนมุมมองใหม่ และตั้งคำถามว่าตอนนี้มันมีปัญหาอะไรที่เราแก้ได้บ้าง
อย่าคิดว่าธุรกิจบนโลกนี้มีคนทำกันหมดแล้ว เพราะตราบใดที่ปัญหายังไม่หมด ธุรกิจก็ยังเกิดใหม่ได้อีกเสมอ ถึงแม้ว่าจะมีคนเคยทำไปก่อน แต่ถ้าเราทำได้ดีกว่า มันก็ไม่ยากที่จะแซงเขาได้
และผมก็บอกกับพี่น้องในคลาสเสมอว่า “ในเวลาที่คนอื่นหยุด คุณแค่เดินไปช้าๆ ก็ยัง “นำหน้า” เขาไปได้ตั้งหลายก้าว เพราะถึงจะอยู่ในช่วงที่ “เศรษฐกิจตกต่ำ” แต่เรายังมีโอกาสพัฒนาตัวเองและธุรกิจให้ “ก้าวหน้า” ได้
แล้วเมื่อไหร่ที่เศรษฐกิจกลับสู่สภาพเดิม เราจะเป็น “ผู้นำ” ทันที
แต่สิ่งแรกที่คุณจะเปลี่ยนให้คุณมีมุมมองแบบนี้ได้ คือ คุณต้องเปลี่ยนสิ่งที่เสพ เปลี่ยนสังคมที่อยู่ เลือกหนังสือดีๆ อ่าน เลือกคบคนที่เขามองหาแต่โอกาส ไม่ใช่คอยแต่พร่ำบ่น
เพราะ “ความคิด” ของเราจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าเราใส่อะไรเข้าไปในหัวบ้าง ถ้าเราไม่รู้จักใส่ความคิดที่มีมูลค่าเข้าไป แล้วเราจะไปสร้างมูลค่าอะไรได้ ในเมื่อสิ่งที่เรากระทำในแต่ละวัน ล้วนเป็นผลผลิตมาจากความคิดในหัวสมองของเราทั้งนั้น
แต่ถ้าเรารู้จักใส่ความคิดที่มีมูลค่าเข้าไป มันก็ไม่ยากเลย ที่คุณจะไปสร้างมูลค่าอย่างมหาศาลได้อย่างแน่นอน
แล้วคุณล่ะครับ เวลาเจอปัญหา คุณเลือกที่จะ Action ยังไงกับมัน ?
โฆษณา