12 ก.ย. 2021 เวลา 02:25 • ท่องเที่ยว
⛩สุดสัปดาห์พาเที่ยว⛩ ชมสุสานยามค่ำ
1
🌠Cemetery Night Tour🌠
Koyasan ภูเขาที่มี สุสานใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
ลองเดินเข้าไปชมบรรยากาศ กลางดึกกันค่ะ
ภาพจาก https://www.japanrailpass.com.au/guide-to-koyasan/
เสาประตูแบบญี่ปุ่น เป็นเงาตะคุ่มอยู่ในความมืด
แผ่นป้ายหินขนาดสูงใหญ่ ไล่เรียงความสูงลงมาจนเกือบติดพื้นดิน
โคมหินเรียงรายอยู่สองข้างทางในแสงสลัว ส่องให้เห็นต้นสนใหญ่ที่ยืนต้นท้าความยะเยือกมานานนับร้อยปี
Koyasan ตอนกลางวัน by เขียนตามใจ
ฟ้ามืดไร้จันทร์ ท่ามกลางป่าสน บนยอดภูที่สูงกว่าระดับพื้นดินเกือบ 1กิโลเมตร
อากาศเย็น สายลมพัดผ่านผิวหน้า
ความมืดและเงียบงันในป่าช้าญี่ปุ่น
เดินเท้า 2 กิโลเมตรฝ่าอากาศเย็นเยียบ ปราศจากเสียงใดๆ นอกจากฝีเท้าของกลุ่มเราเอง
ทุกคนพยายาม เดินอยู่กลางๆกลุ่ม ไม่อยากเป็นคนปิดท้าย เพราะมองไปข้างหลังมันวังเวงแบบนี้ล่ะค่ะ😅
1
Okuno-in สุสาน ที่Koyasan ยามค่ำคืน by เขียนตามใจ
เมื่อวานนี้เรายังอยู่ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า ยามค่ำคืนแสงสียังส่องสว่างจ้าราวกับไม่รู้ว่าเป็นกลางวันหรือกลางคืน
ผู้คนเดินขวักไขว่คึกคัก มุ่งหน้าเดินอย่างรีบเร่งไปสู่จุดหมายของตน รถไฟใต้ดินวิ่งมุดจากที่หนึ่ง เพื่อไปโผล่อีกที่หนึ่ง ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน
1
แต่วันนี้เราขึ้นมาสูดอากาศเย็นบนยอดเขาที่ปกคลุมด้วยป่าสน กิ่งใบสีเขียวเข้ม เบียดยอดสู่ท้องฟ้ากว้าง นิ่งเงียบสงบงัน
เสียงธารน้ำใสไหลเอื่อยเรื่อย ลงจากที่สูง ผ่านก้อนกรวดหลากขนาด หลายสีสัน น้ำกระซิบบทเพลงธรรมชาติ นำความสุขสงบ ร่มเย็นอย่างประหลาด
น้ำใสไหลเย็นในลำธาร บน Koyasan by เขียนตามใจ
ความแตกต่างสุดขั้วที่ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ มีระยะห่างกันเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง!
ซื้อตั๋ว Koyasan World Heritage ticket ที่ Nankai Namba station ที่ Osaka ขึ้นรถไฟมุ่งลงใต้ไปจังหวัด Wakayama
ถึงสถานี Gokurakubashi station แล้วเดินต่อ ขึ้นรถเคเบิล ไต่ภูเขาสูง 867 เมตร ขึ้นไป 5 นาที ถึงยอดเขา
ตั๋วรวมหมดค่ารถไฟไปกลับ ค่ารถเคเบิล ค่ารถเมล์บนเขา 2วัน Regular 2,860 yen
Limited Express (เร็วกว่า นั่งสบายกว่า ) 3,400 yen
 
เราไปแบบธรรมดาก็แล้วกัน ไม่รีบร้อนอะไร
ขึ้นรถไฟกันเลยค่ะ
เดินทางทิ้งความยุ่งยากซับซ้อนของชีวิต มองผ่านหน้าต่างรถไฟ ภาพตึกสูงค่อยๆเลือนลับอยู่เบื้องหลัง
สถานี Nankai Namba ที่ Osaka ภาพจาก https://www.japanvisitor.com/japan-city-guides/japan-stations/namba-station
แทนที่ด้วยสีเขียวของที่ราบ ยิ่งไปไกลบ้านเรือนยิ่งลดความสูงลง จากสถานีรถไฟ Namba ที่สุดแสนจะวุ่นวาย สู่สถานีเรือนไม้ริมทาง บางแห่งเป็นเพียงแค่เพิงไม้เล็กๆ มีหลังคาพอคุ้มหัวได้แค่สองสามคน
ทิวทัศน์ระหว่างทางไป Koyasan by เขียนตามใจ
เสียงล้อรถไฟเบียดรางดังเอี๊ยดอ๊าด ขณะที่รถเคลื่อนตัวคดเคี้ยว ลอดอุโมงค์บนเขา ไต่ระดับสูงขึ้นไปทีละน้อย เหมือนหนอนยักษ์คืบคลานมุดภูเขา เดี๋ยวเข้าอุโมงค์มืด เดี๋ยวสว่าง
รถไฟเดินทางย้อนกาลเวลา พาเราผ่านหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยยอดเขา 8ยอด สู่ดินแดนศักสิทธิ์
นาฬิกาหมุนย้อนทวนอดีต ไปหยุดนิ่งที่ คศ 816…..
1200ปีที่แล้ว เมื่อ ท่าน Kobo daishi ได้เลือก เขา Koya นี้ เพื่อหลบหลีกลี้จากโลก สร้างศาสนสถาน ศูนย์กลางของ Shingon Esoteric Buddhism
ให้ผู้จาริกได้เดินแสวงบุญบนเส้นทาง 88วัด บนเกาะ Shikoku มาสิ้นสุดที่Koyasan แห่งนี้
บนเขา Koyasan จะมีที่ราบ กว้างเหมือนเกสรดอกบัว ที่ล้อมรอบด้วยยอดภูเขา 8ยอดที่ เปรียบดั่งกลีบดอกบัวที่โอบอุ้มเกสรไว้
วัดหนึ่งบนเขา Koyasan
ที่ราบขนาดกว้าง 3กิโลเมตรจากเหนือไปใต้ ยาว 6 กิโลเมตร จากตะวันออกไปตะวันตกนบนยอดเขานี้ ในช่วงสูงสุดของสมัยEdo (1603-1868) มีวัดรวมทั้งสิ้นกว่า 2,000 แห่ง ขณะนี้หลงเหลืออาคารเก่าแก่อยู่ 117 แห่ง มีวัด 52แห่ง เปิดให้เข้าพักค้างคืนได้ เรียกว่า Shukubo
1
พระสวดมนต์ ที่ สุสาน Okuno in
พี่เขียนเข้าพักที่วัด Eko-in โดยจองผ่านเว็บไซต์ของวัด 4 เดือนก่อนเดินทาง และโชคดีจริงๆที่มีห้องเหลือเป็นห้องสุดท้ายในวันที่กำหนดจะไปพอดี 13 ตุลาคม 2561
ที่หน้าวัด Eko in สะดุดตากับป้ายประกาศ นี้มากเลยค่ะ ที่แหละที่อยากไปสักครั้ง!
ป้ายประกาศ ทัวร์สุสาน Okuno in ยามค่ำคืน
ใช่ค่ะ ไฮไล้ท์อย่างหนึ่งของการมาที่เขา Koya คือการพาเดินชมป่าช้า Okuno in ในยามค่ำคืน หรือ Cemetery Night Tour นั่นเอง
1
Okunoin แปล ตรงตัวว่า final temple หรือ temple at the end วัดที่อยู่สุดท้ายปลายทาง สถานที่อยู่สุดท้ายของดวงวิญญาณ 200,000ดวง ที่ได้มาฝังร่างอยู่ใต้พื้นพิภพแห่งเขา Koya นี้
ไม่รอช้า กดจองตั๋วออนไลน์เลยค่ะ คนละ 2100 เยน รวมค่ารถขากลับ
หลังกินอาหารเย็นเวลาทุ่มตรง นัดกันที่หน้าวัด Eko in ที่เราพักอยู่ มีผู้คนหลากหลายชาติส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง กับญี่ปุ่น ไม่พบคนไทยคนอื่นเลยค่ะ
บรรยากาศยามค่ำ ในสุสานญี่ปุ่น
พระหนุ่มผู้นำทางพวกเราเดินผ่านป่าช้าในค่ำคืนนี้ สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้ม ในมือถือไฟฉายส่องทางให้เราข้ามสะพานแรก
“ นี่คือสัญลักษณ์ที่เราเห็นบ่อยที่สุดในสุสานนี้ แท่งหินซ้อนกัน 5 ชั้น หินรูปกลม หินรูปหลังคา และ หินรูปกลมเล็กๆอีก 2 อัน เปรียบได้กับ สสารในจักรวาลนี้ที่ประกอบด้วย 5สิ่งคือ น้ำ ไฟ ลม ช่องว่าง และ ความไม่มีอะไร (water ,fire,wind,space and nothingness)”
1
ภาพจาก TokyoStreetView.com
พระเริ่มบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ ให้กลุ่มนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศฟัง
“เราถือว่า ชีวิตจิตใจ มีอยู่ในทุกสรรพสิ่งรอบตัวเรา ในต้นไม้ สัตว์ใหญ่น้อย ล้วนประกอบด้วยธาตุทั้ง5 และความรู้สึกตัว -consciousness
เมื่อหมดลมหายใจ ธาตุต่างๆที่ประกอบขึ้นเป็นร่างกายก็กลับคืนสู่จักรวาล”
เราเดินต่อไปในความมืด มีเพียงไฟส่องสว่างจากโคมที่เรียงรายอยู่ 2ข้างทาง
แสงส่องออกมาเป็นรูปจันทร์เต็มดวงด้านหนึ่ง และรูปจันทร์เสี้ยว เมื่อมองจากอีกด้านหนึ่ง
“มีใครรู้จักรูปร่างของจิตใจบ้างว่า เป็นอย่างไร”
โคมที่มีช่องรูปจันทร์เต็มดวง กับจันทร์เสี้ยว by เขียนตามใจ
ทุกคนเงียบ คิดอยู่ในใจว่า จิตใจ ไม่มีรูปร่างให้เห็น เพียงแต่รู้ว่ามีอยู่
“Mind is like a shape of the moon. The moon has different shapes which changes every night . There is the full moon -bright round and clear . Pure.”
1
“จิตใจของคนเราก็เปรียบได้ดั่งพระจันทร์ ในวันที่จันทร์เต็มดวง สุกสว่างกลางเวหา คือจิตเริ่มต้นของทุกคน สดใส กระจ่าง บริสุทธิ์”
ฉันนึกถึง คำว่า “จิตประภัสสร”ขึ้นมาในมโนสำนึกทันที พระท่านนี้ นิกายนี้เข้าใจเปรียบเทียบให้เรามองภาพตามได้ชัดเจน
“ ดวงจันทร์เปลี่ยนแปลงรูปร่างตลอดเวลา เหมือนกับ จิตของคนเราเช่นกันที่ไม่อยู่นิ่ง แต่เปลี่ยนแปรไปทุกขณะ บางวันจิตเศร้าหมอง วันรุ่งขึ้นมีความสุข อีกวันโกรธ”
1
“เราจะทำอย่างไรให้จิตของเรากลายเป็นพระจันทร์เต็มดวงที่กลม สุกสว่าง สดใสได้? “
“ตามธรรมชาติพระจันทร์ส่องแสงได้ เพราะ ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์
จิตใจคนเราก็เช่นเดียวกัน ถ้าได้รับแสงสว่างของ พระพุทธศาสนา Supreme Buddha or Cosmic Bhudda จิตใจก็จะเปล่งประกายกลับเป็น จิตประภัสสสร เหมือนจันทร์เต็มดวงได้ตลอดเวลา”
2
“☀️ดวงจันทร์สุกสกาวได้ด้วยแสงพระอาทิตย์ จิตของเราจะผ่องใส สว่างบริสุทธิ์ ได้ก็ด้วยแสงแห่งพระธรรม”☀️
1
ในราตรีที่สงบเงียบ พระพาเราเดินผ่านที่อยู่ของ ดวงวิญญาณกว่าสองแสนดวง บนยอดเขานี้ เพื่อบอกอะไรกับเรา?
Koyasanอยู่มายืนนาน กว่า 1200ปี และจะเป็นเช่นนี้ไปอีกนานแสนนาน
แล้วเราก็มาถึงสะพานสุดท้าย มีห้องครัวของที่นี่ซึ่งจะทำอาหาร เช้า เวลา 6โมง และอาหารกลางวัน เวลา 10.30 น ทุกๆวัน เพื่อนำไปถวายท่าน Kobodaichi เพราะ ทุกคนยังเชื่อว่า ท่านยังนั่งสมาธิอยู่ที่เดิม และไม่ได้จากไปไหน ...ณ สถานที่อันสักสิทธิ์ หลังจากเดินข้ามสะพานที่สาม สะพานสุดท้ายแห่งนี้
สมัยก่อน ผู้ที่จะข้ามสะพานนี้ไป จะต้องชำระล้างร่างกายในลำธารใสสะอาดที่ไหลอยู่เบื้องหน้า แต่ในยุคปัจจุบัน เราเพียงแต่ตั้งจิตอธิษฐาน ทำใจให้สงบ ตักน้ำสรงพระพุทธรูปที่ตั้งเรียงรายริมลำธารนี้เท่านั้น เพื่อชำระจิตใจให้สะอาดก่อนเดินข้ามสะพาน
เดินข้ามสะพานอย่างไม่รีบร้อน มองไปข้างหน้ามีโคมไฟแขวนห้อยเต็มเพดานของวัดที่สร้างอยู่เบื้องหน้า ประตูไม้ธรรมดาๆ มีดอกไม้ตั้งบูชาอยู่ สองข้าง
“ หลังประตูนี้ ไม่มีใครเดินผ่านเข้าไปนานมากแล้ว ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ลูกศิษย์เข้าไปเยี่ยมท่าน Kobodaichi ตั้งแต่ปี 1912 พบว่าท่านยังนั่งสมาธิอยู่ ผมและหนวดยาวมาก จึงได้ตัดผมและโกนหนวดให้ท่านเรียบร้อย ครั้งนั้น แล้วก็ยังไม่มีใครเข้าไปอีกเลย”
พระที่พาเราเดินมาถึงจุดสุดท้ายของการเดิน ได้อธิบาย และให้ทุกคนพนมมือ
พระสวดมนต์ให้ฟัง และกราบเคารพท่าน Kobodaichi ที่ยังคงนั่งสมาธิอยู่ในป่าสนบน Koyasan มาจนถึงปัจจุบันนี้
🌸สัปดาห์ หน้าพาไปชม Koyasan ตอนกลางวันบ้างค่ะ ไปดูที่พักในวัด และชิมอาหารมังสะวิรัติกันค่ะ🌸
อ้างอิง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา