case น้อยลงมั้ย ช่วงนี้....
คำถามที่ถูกถามมาจากทั้งเพื่อนในวงการ และเพื่อนนอกวงการ
คำตอบคือ น้อยลงค่ะ....
แต่ มันจะได้ซักกี่น้ำไม่รู้ เพราะอะไรหรอ ก็เพราะส่วนตัวคิดว่า เราเปิดเมืองตาม roadmap แต่เราฉีดวัคซีนไม่ทันตาม plan
เดิมที บอกว่าจะฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง
ในจังหวัดสีแดงเข้ม >70 % จึงจะ Unlock ได้
แต่ถ้าดูจากผู้สูงอายุ (>60 ปี) ที่ได้รับวัคซีนในกทม และปริมณฑล ซึ่งมีประมาณ2 ล้านคน (กทม จริงๆ 1.1 และที่เหลืออยุ่ปริมณฑล) พบว่าฉีดไปแล้ว1.9 ล้านโดส
!! จัดว่าทำได้ดีเลยยย
ใน 1.9 ล้านโดสนี้ อยู่ในกทม 1.3 ล้านโดส (ได้ตามเกณฑ์นาจาา)
ส่วนปริมณฑล อีก 6 จังหวัด ที่มีผู้สูงอายุอีก เกือบล้าน ก็แบ่งๆกันฉีดไป 6 แสนโดส ซึ่งไม่ถึง 70% ตามเป้าที่เคยวางไว้
ไหนจะบางคนฉีดแค่ 1 เข็ม ที่ความสามารถในการกันเดลตา ได้เพียง 30% (ถ้าได้ AZ) ที่ยังไม่รวมตัวใหม่ น้อง"มิว" ที่คงมาถึงเราอีกไม่นาน ได้ยินว่าแสบกว่าเดิม แพร่เร็วกว่าเดิม
จะว่าไป เราก็เหมือนเลยจุด peak ไปได้ 2+ สัปดาห์ ก็เปิดเมืองแล้ว ไหนจะยอด Antigen ที่ตรวจกันเอง กักกันเอง อีกเท่าไหร่
ด้านบุคลากรและทรัพยากร
ยอมรับว่าเบาลงบ้าง แต่ไม่ใช่จุดที่เราเรียกว่า “พักได้” อุปกรณ์ต่างๆก็ยังตึงมือ เครื่อง high flow ก็ใช้ตลอดไม่ได้ลดลง ดังนั้น เราแค่ได้นั่งพักที่เพิงระหว่างทางเดินอันแสนเหนื่อย
เห็นภาพห้าง ร้านอาหารต่างๆ ก็คิดว่า อีกไม่นานจากนี้ ก็คงเจอระลอกใหม่ ซึ่งจริงๆก็คือระลอกเก่า ที่ยังไม่สงบ เพราะอย่าลืมว่ามันคือ airborne transmission ที่ R0 ประมาณ 8 คือ 1 คน แพร่ได้ 8 คน ยิ่งพื้นที่ปิด ยิ่งพูด ยิ่งตะโกน เปิดหน้ากาก ก็แพร่ได้
จริงอยู่ แม้จะกำหนดให้เข้าเฉพาะคนฉีดวัคซีน แต่คนที่บ้านเขา ก็อาจจะยังไม่ได้ฉีดกันทุกคน ดังนั้น ก็ยังเกิดโรครุนแรงได้อยู่ดี...
เข้าใจถึงความจำเป็นของการดำเนินชีวิต และไม่เคยคิดว่าการล้อคดาวน์คือทางออก แต่มองเป็นเพียงการซื้อเวลาสั้นๆที่แสนแพง..
แต่อยากให้เร่งวัคซีนขึ้นอีก กระจายให้ทั่วถึงกว่านี้ มิฉะนั้น หลังคลายล้อคไม่นาน เราก็เจอกับเวฟใหม่อีก ที่จะทำให้ความเจ็บปวดจากการล้อคดาวน์ครั้งที่ผ่านมา มันสูญค่าไป
ถ้าถามว่าไม่ใช่ตอนนี้ แล้วเมื่อไหร่ คำตอบคงขึ้นอยู่กับ เมื่อไหร่ที่คนเกินครึ่งได้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดความรุนแรงของโรค
#โหมดพักจิบน้ำที่เพิงระหว่างทาง
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
