5 สิ่งที่คุณควรหยุดซื้อ
ถ้าหากคุณต้องการเกษียณเร็วภายใน 5 ปีนี้
คนที่มีเป้าหมายที่จะเกษียณเร็วต้องมีคุณสมบัติสำคัญ 2 ข้อ คือ
1.เป็นคนประหยัดมัธยัสถ์
2.เป็นผู้มีความฉลาดทางการเงิน
ซึ่งในทางปฏิบัติจริง น้อยคนนักที่จะทำมันได้จริงๆ คนส่วนใหญ่จึงต้องทำงานต่อไปโดยที่ยังไม่มีความมั่นคงทางการเงิน แม้จะเข้าสู่อายุช่วงวัยเกษียณแล้วก็ตาม หรือบางคนยังไม่หมดหนี้ ก่อนหมดโอกาสหารายได้ด้วยซ้ำ
การใช้ชีวิตแบบประหยัดมัธยัสถ์ มันต้องมีระเบียบวินัย และต่อสู้กับความอยากมี อยากได้ อยากสบาย เป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกคน
หากมีความฉลาดทางการเงินเข้าใจเรื่องเงินเป็นอย่างดี รู้จักเป้าหมายของตัวเอง รู้จักความสุขความพอเพียง การเกษียณเร็วก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
พึงระลึกไว้เสมอว่า เงินทุกบาทที่เก็บออมได้ จะกลายเป็นเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น และ สร้างเงินต่อเงินได้อีก เงินจะทำงานแทนเรา จนวันหนึ่งเราไม่ต้องทำงานที่ขึ้นกับเงินอีกต่อไป
เพียงหลักคิดแค่นี้ ก็ช่วยให้การใช้จ่ายของเรามีเหตุมีผลมากขึ้นเลยทีเดียว
วันนี้นำไอเดียการประหยัดเงินจากบทความใน medium มาฝากค่ะ
5 สิ่งที่คุณควรหยุดใช้จ่ายไปกับมัน เพราะมันจะขัดขวางเป้าหมายเกษียณเร็วของคุณ ได้แก่
1. มีบ้านหลังใหญ่เกินไป ความผิดพลาดอย่างหนึ่งของคนเรา คือ ใช้เงินส่วนใหญ่ไปกับการซื้อบ้าน การมีบ้านสักหลังอย่างที่ใฝ่ฝันเอาไว้ ทำให้หลายคนทุ่มเทแรงกายแรงใจไปกับการหาเงิน เพื่อมาซื้อมัน เพราะคิดว่าเป็นความมั่นคงในชีวิตของตัวเองและครอบครัว และบ้านยังเป็นสิ่งที่เพิ่มมูลค่าเมื่อเวลาผ่านไป และยังเป็นมรดกตกทอดให้ทายาทอีกด้วย
ซึ่งความคิดเหล่านี้จะไม่ผิดเลย ถ้าเราไม่ใช้เงินส่วนใหญ่ของรายได้ที่หามาไปทุ่มเทกับบ้านจนขาดสภาพคล่อง มีคำเรียกคนที่ใช้จ่ายเกินตัวในการซื้อบ้านว่า "house poor" หรือ จนลงเพราะซื้อบ้านนั่นเอง
การทุ่มเทเงินไปกับการซื้อบ้าน ยังทำให้ขาดโอกาสในการลงทุน ขาดโอกาสในการเตรียมเงินเพื่อเป้าหมายอื่นๆในชีวิต และ บ้านยังเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาอยู่ตลอดเวลา ยิ่งบ้านหลังใหญ่มาก ก็ยิ่งมีค่าใช้จ่ายในการดูแลมาก
การเป็นหนี้ในการซื้อบ้านสักหลัง เป็นหนี้สินระยะยาว เกือบครึ่งชีวิตของเราเลยทีเดียว รวมถึงสิทธิ์ในการกู้สินเชื่อก็จะลดลง เมื่อเราเจอโอกาสในการสร้างเงินเข้ามา ก็อาจพลาดได้เพราะไม่เหลือเครดิตเพียงพอในการกู้สินเชื่ออีก
บางคนมองว่าการซื้อบ้านหลายหลัง เป็นการเก็บเงินอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถนำไปทำผลประโยชน์เก็บกินเป็นค่าเช่าได้ ซึ่งหากคาดการณ์ถูกก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น
แต่หากคาดการณ์ผิด คือ เราจะขาดสภาพคล่อง ขาดโอกาสทางการเงินอื่นๆ เพราะบ้าน และ อสังหาไม่สามารถเปลี่ยนมืออย่างรวดเร็วได้ในทันทีเมื่อเกิดปัญหา
หากคุณมีแผนเกษียณแบบ early retire แล้ว คุณจะต้องปรับลดค่าใช้จ่าย และ โฟกัสกระแสเงินสดที่จะเป็นรายได้ประจำเลี้ยงตัวคุณ หากจะมีทรัพย์สิน ต้องเป็นทรัพย์สินที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลมากนัก และ สามารถสร้างรายได้ให้กับคุณได้
หากพิจารณาแล้วว่าบ้านที่คุณอยู่หลังใหญ่เกินไป เกินความจำเป็น หรือมีบ้านหลายหลังมากเกินไป อาจจะวางแผนขาย แล้วนำเงินสดกส่วนหนึ่งกลับมาจัดสรรการลงทุน และซื้อที่อยู่อาศัยที่พอดีตัว เหมาะสมกับ life style หลังเกษียณของคุณจะดีกว่า
2. ลดการใช้ชีวิตในการทานอาหารนอกบ้าน
• Brunch (เช้า+กลางวัน) เป็นมื้อที่เราสามารถลดการทานอาหารนอกบ้านได้ง่ายที่สุด ด้วยอาหารแบบจานด่วน เช่น ขนมปังปิ้ง ไข่คน เบคอน ก็จะช่วยประหยัดไปได้ดีทีเดียว หากจำเป็นต้องทานอาหารกับคนอื่น เพื่อการพบปะสังสรรค์ คุณก็ควรเลือกสั่งของไม่แพง เพราะ brunch เป็นมื้ออาหารที่อยู่ในระหว่างวันของการทำงาน คุณไม่มีเวลาที่จะสุนทรีย์กับมันนักหรอก แค่นี้ก็ safe ค่าใช้จ่ายไปเยอะแล้ว
• หากต้องทานอาหารในภัตตาคาร อาหารที่มามักจานใหญ่ แนะนำให้แบ่งทาน และห่อบางส่วนกลับบ้านสำหรับทานมื้อต่อไป ดีกว่าทานไม่หมดแล้วอาหารเหลือทิ้ง
• การเตรียมทำอาหารทานเองที่บ้าน ทำแค่มื้อง่ายๆ ไม่ซับซ้อน มิเช่นนั้น จะแพงกว่าการทานข้างนอกเสียอีก เพราะคุณจะตุนวัตถุดิบมากมาย ไปจนถึงตกแต่งต่อเติมซื้ออุปกรณ์ ครัวเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะผิดวัตถุประสงค์ที่ต้องการประหยัดไป
• อย่าไปจ่ายตลาดเวลาที่คุณหิว คุณจะซื้อของมาตุนในตู้เย็นมากมาย และทานไม่ทันจนต้องทิ้ง
• เขียนเมนูอาหารไว้ล่วงหน้า ทำให้เวลาคุณจะซื้อวัตถุดิบ คุณจะซื้อเท่าที่จำเป็น
• ทำอาหารง่ายๆ ที่ใช้ ingredient ไม่เกิน 5 อย่าง จะช่วยลดการซื้อวัตถุดิบที่หลากหลาย และเหลือทิ้งจนหมดอายุ
• ตั้ง limit และ budget ในการทานอาหารสังสรรค์นอกบ้าน จะช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายลงไปมากลองดูสิ
3. ค่าบริการต่างๆที่เป็นรายจ่ายประจำ
ลองทบทวนดูว่า ช่วง lock down แรกๆ ของปีที่แล้ว เราทำกิจกรรมอะไรยามอยู่บ้าน อาจจะเป็น จัดเก็บข้าวของ ปลูกต้นไม้ อ่านหนังสือที่สะสมมานาน แต่พอเรา lock down กันนานๆ เราจะเริ่มสมัครสมาชิก streaming service ต่างๆ พวกดูหนัง ฟังเพลง สารพัดความบันเทิง ที่เราไป sign up แบบฟรีเอาไว้ แล้วเราก็ติดใจ ใช้ต่อจนเสียค่ารายเดือนต่อเนื่อง
จนลืมไปว่าเมื่อก่อนเราก็ใช้ชีวิตอยู่ได้แบบไม่ต้องจ่ายค่ารายเดือนพวกนี้ ลองไปทบทวนดูนะคะ ว่าควรตัดใจยกเลิกอะไรออกไปบ้าง
4. ซื้อลอตเตอรี่ หวย และฉลากชิงโชคต่างๆ
มีคนน้อยมากหรือแทบจะไม่เคยมีเลยที่ร่ำรวยเพราะการเสี่ยงโชค แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังมีความหวังที่จะรวยด้วยวิธีนี้ คงเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องง่าย และ ใช้เงินเล็กๆน้อยๆไปแลก โดยหวังว่าตัวเองจะเป็นคนที่โชคดี
มันเหมือนจะไม่เห็นมีอะไรเสียหายกับเรื่องพวกนี้ แต่จริงๆแล้วมันจะปลูกฝังกลายเป็นนิสัยของการชอบเสี่ยงโชค จนอาจพลาดพลั้งไปเล่นการพนันที่เสียหายหมดเนื้อหมดตัวได้
แต่สำหรับคนที่ซื้อทีละเล็กๆน้อยๆ เคยนำสิ่งที่จ่ายไปแบบสม่ำเสมอ มารวมยอดดูหรือไม่ รวมๆแล้วเป็นเงินที่เยอะทีเดียว ถ้านำไปสะสมอย่างต่อเนื่อง จะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้ในไม่ช้า เพราะความสม่ำเสมอในการลงทุน (DCA) นั่นเอง
5. ซื้อรถป้ายแดง
คุณรู้หรือไม่ว่า รถใหม่ป้ายแดง เมื่อซื้อมาแล้วมูลค่าจะลดลงอย่างน้อย 10% ต่อปี นั่นแปลว่า เมื่อใช้รถ 5 ปี แล้วนำไปขาย มูลค่าจะหายไปอย่างน้อย 60%
คนกลุ่ม FIRE (คนที่ต้องการเกษียณเร็ว - Financial Independent Retire Early) จึงนิยมใช้รถมือสอง (เพราะเมื่อขายจะราคาตกลงจากตอนซื้อไม่มาก) และซื้อด้วยเงินสด (ไม่อยากเสียดอกเบี้ย) และจำกัดราคารถที่ใช้ ให้อยู่แค่พอดีการใช้งาน ไม่เน้นความหรูหราจากการใช้รถ
เมื่อคนกลุ่ม FIRE ต้องการขายรถ ก็มักจะประกาศขายเองโดยตรงกับผู้ซื้อ เพราะขายผ่านเต้นท์มักได้ราคาไม่ดี
คนกลุ่ม FIRE ที่มีรถ แต่ไม่ค่อยได้ใช้ จะนำรถไปปล่อยให้เช่า เพื่อหารายได้มาชดเชยค่าเสื่อมของรถที่หายไปปีละ 10%
หากเป็นคนที่มีคนอยู่ด้วย เช่น เพื่อน หรือ คู่สมรส ก็พยายามเลือกใช้รถคันเดียว และเดินทางร่วมกัน พยายามไม่ซื้อรถหลายคัน เพราะรถคือทรัพย์สินที่มีค่าเสื่อม และประหยัดค่าน้ำมันด้วย หากเดินทางร่วมเส้นทางกันได้
• บทสรุป•
- ไม่ควรมีบ้านหลายหลังหรือหลังใหญ่เกินความจำเป็น
- ลดการทานอาหารนอกบ้าน และทำอาหารเองที่บ้านแบบง่ายๆ
- ลดการ subsribe บรรดา streaming service มากเกินความจำเป็น
- เลิกซื้อลอตเตอรี่
- ไม่ซื้อรถป้ายแดง
ฟังคลิป https://youtu.be/B3q2OsBtlCo
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ปรึกษาเรื่องวางแผนการเงิน :
ช่องทางการ update ความรู้เรื่องการวางแผนการเงิน
- 40
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
