27 ก.ย. 2021 เวลา 00:00 • นิยาย เรื่องสั้น
ยุทธจักรวาลกิมย้ง
ตอนที่ 3 : วสันตสารท
1
Blockdit Originals ซีรีส์บทความพิเศษ
1
ตลอดชีวิตนักประพันธ์ กิมย้งเขียนนวนิยายเพียง 15 เรื่อง แทบทั้งหมดเป็นเรื่องยาว และเป็นนิยายกำลังภายในอิงประวัติศาสตร์
2
จุดเด่นของงานของกิมย้งคือ หลอมเนื้อเรื่องเข้ากับฉากประวัติศาสตร์อย่างกลมกลืน และมักใช้บุคคลจริงเป็นตัวละคร
เราลองมาสำรวจฉากประวัติศาสตร์ในนวนิยายของเขา
กิมย้งมิได้เขียนนวนิยายเรียงตามลำดับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ในที่นี้จะไล่เรียงนวนิยายโดยเรียงตามเวลาประวัติศาสตร์จริง
ตัวเลขเรื่องที่คือลำดับงานเขียนของเขา
(หมายเหตุ บทความชุดนี้บางท่อนใช้ภาษาจีนกลาง บางท่อนใช้แต้จิ๋ว ตามความเหมาะสมและความเคยชินของผู้อ่าน เช่น ก๊วยเจ๋ง น่าจะคุ้นหูมากกว่า กั๋วจิ้ง ไซซีน่าจะคุ้นหูกว่าซีซือ บทความทั้งหมดเปิดเผยเนื้อเรื่อง จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ยังไม่ได้อ่านและอยากอ่านงานของกิมย้ง)
1
จอมยุทธ์กลุ่มหนึ่งจากแคว้นอู๋เอาชนะจอมยุทธ์แคว้นเยว่ ฟ่านหลี่ ที่ปรึกษาของอ๋องโกวเจี้ยน พบเด็กสาวคนเลี้ยงแกะคนหนึ่งชื่ออาชิง มีฝีมือการต่อสู้เป็นเลิศ นางเอาชนะจอมยุทธ์แคว้นอู๋ได้ง่ายดาย
1
อาชิงเรียนวิชาการต่อสู้โดยเล่นฟันดาบกับค่างตัวหนึ่ง กระบวนท่าของนางไม่มีกรอบ ไร้ขีดจำกัด
โกวเจี้ยนเห็นกระบวนท่าพิชิตคู่ต่อสู้ของอาชิงแล้วประทับใจยิ่งนัก สั่งให้ทั้งกองทัพเรียนวิชาการต่อสู้จากนาง เพื่อเตรียมบุกแคว้นอู๋
1
นี่คือผลงานหมายเลข 15 ของกิมย้ง
กระบี่นางพญา (越女劍 / Sword of the Yue Maiden)
1
ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์หมิงเป้า ในปี 1970 และตีพิมพ์จบก่อนเรื่องที่ 14 คือ อุ้ยเซี่ยวป้อ
1
ในบรรดานวนิยาย 15 เรื่องของกิมย้ง กระบี่นางพญา เป็นเรื่องที่ใช้ฉากประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่สุด ถือเป็นงานชิ้นสุดท้ายของกิมย้ง
1
ประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่สุด ถือเป็นงานชิ้นสุดท้ายของกิมย้ง
นี่จัดเป็นเรื่องลำดับสุดท้ายของกิมย้งตามเวลาเขียน แต่ประวัติศาสตร์ที่อิงจัดว่าเป็นเรื่องแรก หลายร้อยปีก่อนจิ๋นซีฮ่องเต้รวมแผ่นดินเป็นหนึ่ง
ทำไมโกวเจี้ยนจึงคิดบุกแคว้นอู๋?
คำตอบคือเพื่อแก้แค้น
นี่เป็นประวัติศาสตร์จริงช่วงสงครามระหว่างแคว้นเยว่ (越國) กับแคว้นอู๋ (吳國) ในยุคสมัยที่เรียกว่า ชุนชิว
ชุนชิวเป็นทั้งชื่อยุคและชื่อหนังสือ
จะเข้าใจที่มาก็ต้องย้อนเวลาหาอดีตไปตั้งต้นที่ราชวงศ์โจวก่อน
2
ราชวงศ์โจวเกิดขึ้นนานก่อนจิ๋นซีฮ่องเต้รวมแผ่นดินจีนเป็นหนึ่งเดียว เป็นราชวงศ์จีนที่ปกครองยาวนานที่สุดคือ 790 ปี เริ่มจากโจวตะวันตก แล้วต่อด้วยโจวตะวันออกอีก 500 ปี ในช่วงหลังราชวงศ์โจวเสียการคุมแคว้นย่อยๆ ทั้งหลาย ซึ่งรบพุ่งกัน จนจิ๋นซีฮ่องเต้รวมแผ่นดินสำเร็จใน 221 ปีก่อนคริสต์กาล
ยุคโจวให้กำเนิดปราชญ์สำคัญคือเล่าจื๊อ (เต๋า) และขงจื๊อ และนักการทหารชั้นเซียนคือ ซุนจื่อ (พิชัยสงครามซุนจื่อ)
1
เราเรียกยุคราชวงศ์โจวตะวันออกว่าชุนชิว หรือวสันตสารท (春秋 Spring and Autumn Period)
วสันต์ (ชุน 春) คือฤดูใบไม้ผลิ
1
สารท (ชิว 秋) คือฤดูใบไม้ร่วง
เปรียบการเกิดและดับของนครรัฐต่างๆ เหมือนฤดูกาล
3
ชื่อยุคชุนชิวมาจากชื่อคัมภีร์ของขงจื๊อคือ ตำราชุนชิว (春秋 The Spring and Autumn Annals) ประกอบด้วยอักษร 18,000 คำ บันทึกเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ยาว 241 ปี เริ่มตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 722 ปีก่อนคริสต์กาลจนถึง 481 ปีก่อนคริสต์กาล
4
เวลานั้นขงจื๊อได้รับแต่งตั้งเป็นเสนาบดีใหญ่แห่งแคว้นหลู่ ต่อมาถูกบีบลงจากตำแหน่ง เหนื่อยหน่ายกับการเมือง ก็ไปเป็นปราชญ์สอนคนในแคว้นต่างๆ ไม่เข้าสู่วงการเมืองอีก ขงจื๊อแต่ง คัมภีร์ชุนชิว โดยบันทึกเรื่องราวของยุคสมัยต่างๆ เปรียบแต่ละยุคกับฤดูกาล สี่ฤดูคือวสันตฤดู (ชุน) คิมหันตฤดู (เสี้ย) สารทฤดู (ชิว) และเหมันตฤดู (ตง) เป็นฤดูกาลของแผ่นดินจีน
ถัดจากยุควสันตสารทก็คือยุครัฐศึก หรือจ้านกว๋อ (The Warring States Period)
2
นอกจากชุนชิวแล้ว ยังมีงานอีกเรื่องหนึ่งที่บันทึกเหตุการณ์ยุคโจวตะวันตก ยุควสันตสารท ยุครัฐศึก (จ้านกว๋อ) ไปจนถึงจิ๋นซีฮ่องเต้รวมแผ่นดินสำเร็จ หนังสือเรื่องนั้นคือ เลียดก๊ก ซึ่งเป็นงานประพันธ์ขึ้นในราชวงศ์หมิง บันทึกประวัติศาสตร์ของแคว้นต่างๆ
2
สมัยแรกของราชวงศ์โจวมีอำนาจมาก ดูแลแว่นแคว้นต่างๆ ครั้นอ่อนกำลังลง แว่นแคว้นก็แตกเป็นกลุ่มย่อยมากมายถึง 148 รัฐ บางแคว้นเช่น อู๋ และฉู่ แยกตัวเป็นแว่นแคว้นอิสระ รบพุ่งกัน
2
สำหรับประวัติศาสตร์ที่ใช้เป็นฉากของ กระบี่นางพญา คือสงครามระหว่างแคว้นเยว่กับแคว้นอู๋
แคว้นอู๋ปกครองโดยอ๋องเหอหลี มีกำลังสำคัญสองคน หนึ่งคือ อู่จื่อชี ขุนนางผู้ซื่อสัตย์ อีกคนหนึ่งคือ ซุนจื่อ (孫子) ผู้แต่งพิชัยสงครามซุนจื่อ
ซุนจื่อมีชื่อเดิมว่า ซุนหวู่ (孫武) เป็นแม่ทัพ นักวางแผน นักปรัชญา ยุคราชวงศ์โจวตะวันออก เป็นผู้แต่ง พิชัยสงครามซุนจื่อ (孫子兵法 The Art of War) เป็นตำราพิชัยสงครามที่เก่าแก่ที่สุดเล่มหนึ่งของโลก
แคว้นอู๋ก่อศึกกับแคว้นฉู่ รบกันนาน ในที่สุดก็ยึดเมืองหลวงฉู่ได้ อ๋องเหอหลีพยายามล่วงเกินนางสนมชื่อผอหยิงของฉู่อ๋อง แต่ไม่สำเร็จเพราะนางป้องกันตัวเองด้วยมีด
แคว้นฉู่ขอความช่วยเหลือจากแคว้นฉิน ในที่สุดอ๋องเหอหลีก็ยกทัพกลับไป
ส่วนแคว้นเยว่ปกครองโดยโกวเจี้ยน ทรงเป็นโอรสของหยิ่นฉางอ๋อง
1
สงครามระหว่างแคว้นเยว่ (越國) กับแคว้นอู๋ (吳國) เริ่มจากเจ้าหญิงแคว้นเยว่ที่อภิเษกกับเจ้าชายแคว้นอู๋ ทรงหนีกลับแผ่นดินเกิด จุดประกายให้เกิดความหมองหมางของสองแคว้น ตามมาด้วยสงคราม
แคว้นอู๋ฉวยโอกาสที่เยว่ผลัดแผ่นดิน หลังจากอ๋องหยิ่นฉางสวรรคต โกวเจี้ยนขึ้นครองราชย์ โจมตีเยว่
1
ในยุทธการจ้วนหลี่ ฝ่ายเยว่เอาชนะฝ่ายรุกราน เหอหลีอ๋องแห่งแคว้นอู๋ทรงบาดเจ็บสาหัสจากการรบ ก่อนตายสั่งโอรส ฟูช่าให้แก้แค้น ตรัสสั้นๆ ว่า “จงอย่าลืมเยว่”
3
แคว้นเยว่ถูกแคว้นอู๋ยึดครองสามปีต่อมา แคว้นอู๋จับโกวเจี้ยนและเสนาบดีฟ่านหลีไปเป็นตัวประกัน โกวเจี้ยนเป็นข้ารับใช้อ๋องฟูช่า
เมื่ออยู่ในถ้ำเสือ โกวเจี้ยนก็ทำทุกอย่างเพื่อให้อู๋อ๋องวางใจว่าตนสิ้นฤทธิ์แล้ว
เล่ากันว่าครั้งหนึ่งอู๋อ๋องมีอาการปวดท้อง หมอหลวงไม่พบสมุฏฐานของโรค โกวเจี้ยนจึงชิมอุจจาระของอู๋อ๋อง และบอกว่าร่างกายเย็นเกินไป ให้กินของร้อน ฟูช่าก็หายประชวร
นี่อาจเป็นตำนานเสริมเติมให้มีสีสัน แต่ชี้ให้เห็นความแน่วแน่ของโกวเจี้ยนที่จะล้างแค้น
2
โกวเจี้ยนอยู่ในรัฐอู๋สามปี จึงได้รับอนุญาตให้กลับคืนสู่เยว่
ตลอดเวลาที่อยู่ในแคว้นศัตรู โกวเจี้ยนวางแผนแก้แค้น เมื่อกลับแผ่นดินเกิด ก็รวบรวมกำลังคน ที่ปรึกษาเช่น เหวินจง และฟั่นหลี่ สะสมกำลังเตรียมรบ อีกทางหนึ่งก็หาทางทำให้อู๋อ่อนแอลง โดยบ่อนทำลายจากภายใน
1
ระหว่างที่รอการแก้แค้น โกวเจี้ยนใช้ชีวิตแบบทรมานตนเอง กินอาหารเหมือนชาวนา และกินดีทุกวัน เพื่อให้เข้าใจความขมขื่นของการเสียเอกราช
แล้วสร้างกองทัพ
1
นวนิยาย กระบี่นางพญา อิงประวัติศาสตร์ท่อนนี้
ในเรื่อง กระบี่นางพญา ฟ่านหลีมีหน้าที่ดูแลให้อาชิงฝึกกองทัพ
อาชิงตกหลุมรักฟ่านหลี่ แต่รู้ในเวลาต่อมาว่าฟ่านหลี่มีคนรักแล้ว
1
หลังจากอ๋องโกวเจี้ยนเอาชนะฟูช่า และยึดครองอู๋สำเร็จ ฟ่านหลี่ก็กลับไปหาคนรักของเขา
1
หลังจากเสร็จศึก ฟ่านหลี่บอกเหวินจงให้ลาออกพร้อมตน บอกว่า “โกวเจี้ยนเป็นคนที่เราพึ่งได้ในยามลำบาก แต่มิอาจทำได้ในยามสุข”
เหวินจงไม่เชื่อ และชะตากรรมของเขาก็เป็นไปตามคำคาดการณ์ของฟ่านหลี่ ต้องโทษประหาร
อาชิงรู้สึกอิจฉา ต้องการฆ่าคนรักของฟ่านหลี่ และไปหานางที่เป็นศัตรูหัวใจ
อาชิงชี้ลำไม้ไผ่ไปที่นาง ขณะจ้องมองสตรีผู้นี้ พลันตกตะลึงในความงามของนาง
ความรู้สึกอยากฆ่าค่อยๆ จางหายไป กลายเป็นความรู้สึกใหม่ว่า สตรีเบื้องหน้างดงามนัก อาชิงไม่เคยนึกว่าโลกนี้มีหญิงงามขนาดนี้
1
ที่แท้คนรักของฟ่านหลี่ชื่อ ไซซี นางเพิ่งกลับบ้านเกิดหลังจากจบสิ้นภารกิจอุบายนางงามในดินแดนศัตรู
ฟ่านหลีจะพาไซซีไปจากที่นั่น แต่ทันใดนั้นสีหน้านางก็แสดงความเจ็บปวด ลำไผ่ของอาชิงไม่ได้สัมผัสร่างนาง แต่พลังลมปราณของอาชิงผ่านลำไผ่เข้าไปสู่ไซซี ทำให้นางเกิดความเจ็บปวด สองมือกุมหน้าอกที่รวดร้าว สีหน้าแสดงอาการเจ็บปวดอย่างมาก ทว่ามันเป็นภาพที่อาชิงตะลึง เพราะทำให้ไซซียิ่งงดงาม “จนมันสามารถทำให้วิญญาณบุรุษปลิดปลิวเมื่อเห็นนาง”
3
นี่คือที่มาของอุปมา ‘ไซซีแตะอก’ (西子捧心) ความหมายคือความงามของสตรีถูกขับเน้นเมื่อเจ็บปวด
2
ไซซีในภาพวาดโบราณ
หลังจากนั้นอาชิงก็จากไป
1
อาจเพราะเข้าใจว่า จะชนะศึกมามากเพียงใด ก็มิอาจสู้นางเบื้องหน้าได้
เรื่องของไซซีในประวัติศาสตร์บันทึกว่า ไซซี (จีนกลางออกเสียง ซีซือ 西施) เป็นหนึ่งในสี่หญิงงามแห่งแผ่นดินจีนโบราณ เกิดที่แคว้นเยว่ในยุควสันตสารท
สี่หญิงงามได้แก่ไซซี หวังเฉียงหรือหวังเจาจิน เตียวเสี้ยน และหยางกุ้ยเฟย
ความงามของนางไซซีเลื่องลือจนเล่าขานว่า วันหนึ่งขณะที่นางชมปลาในสระน้ำ ปลาเห็นนางเข้าก็ลืมว่ายน้ำ และจมใต้น้ำ เป็นที่มาของสำนวนจีนที่หมายถึงสี่หญิงงาม 沉魚落雁, 閉月羞花 แปลตรงตัวว่า มัจฉาจม หงส์ร่วง จันทร์ซ่อนเร้น บุปผาอาย
2
วันหนึ่งนางไปเข้าตาของเสนาบดีฟ่านหลี่ นำไปสู่แผนอุบายนางงาม
ส่งไซซีไปล่อลวงอ๋องแห่งอู๋ เพื่อให้เสียการเสียงาน
แผนการนี้คิดกันมาก่อนโดยเสนาบดีเหวินจง เพราะรู้นิสัยของอ๋องฟูช่าว่าชอบผู้หญิงงาม
ขณะที่แคว้นเยว่พัฒนาบ้านเมือง สร้างสมกองทัพและอาวุธ พัฒนาการเกษตร ก็มีแผนการพิเศษคืออุบายนางงาม ส่งสาวงามเป็นเครื่องบรรณาการให้อู๋อ๋อง เพื่อทำให้ลุ่มหลง เสียการเสียงาน ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นไส้ศึก
1
ฟ่านหลี่ค้นพบหญิงงามสองคน เป็นหญิงสาวชาวบ้านชื่อไซซีกับหญิงงามอีกคนหนึ่งคือเจิ้งตั้น
ฟ่านหลี่จัดการเรื่องอบรมฝึกฝนสองนางเพื่อภารกิจนี้ หลังจากนั้นก็ส่งสองนางเป็นบรรณาการให้อ๋องฟูซ่า
อ๋องฟูซ่าลุ่มหลงเสน่ห์หญิงงามจนไม่เป็นอันทรงงาน กิจการในแคว้นเสียหาย ทรงสร้างวังให้สาวงาม ไซซีเป็นที่ต้องพระทัยมากกว่า เจิ้งตั้นจึงฆ่าตัวตายด้วยความอิจฉา
1
ช่วงสิบปีนั้นแคว้นอู๋ค่อยๆ อ่อนแอลง
อู่จื่อชี ข้าราชการอู๋ผู้ซื่อสัตย์ ทำงานมาตั้งแต่พระบิดาของฟู่ซา แต่ฟู่ซาไม่ค่อยเห็นความดี อู่จื่อชีมองเห็นอันตรายจากเยว่ แนะนำให้ยึดเยว่เสีย แต่อ๋องฟูช่าไม่สนพระทัย ฟังที่ปรึกษาคนอื่นคือ ผอผี่ ซึ่งรับสินบนจากเยว่
1
อ๋องฟูช่ายื่นกระบี่ให้อู่จื่อชีฆ่าตัวตาย ก่อนฆ่าตัวตาย อู่จื่อชีขอให้อ๋องควักนัยน์ตาของเขาหลังตายไปแล้ว และแขวนไว้บนกำแพงเมือง เพื่อจะได้มองเห็นกองทัพเยว่ยึดเมืองอู๋
2
ผ่านไปสิบปี ก็ถึงเวลาแก้แค้น เยว่แข็งแกร่งขึ้นมาก ทัพพร้อมรบ เมื่อพระเจ้าฟูช่ายกทัพไปรุกแคว้นจิ้น โกวเจี้ยนก็ถือเป็นโอกาสโจมตีอู๋ ฆ่ารัชทายาท
1
สิบปีหลังจากอู่จื่อชีตาย ขณะที่ฟู่ซ่ายกทัพบุกแคว้นฉี กองทัพเยว่ก็ฉวยโอกาสนั้นบุกยึดอู๋
การศึกยืดเยื้อ ทัพเยว่ล้อมเมืองหลวงแคว้นอู๋สามปี ฟูช่าส่งสาส์นขอยอมตำนน แต่โกวเจี้ยนปฏิเสธ ฟูช่ากระทำอัตวินิบาต เยว่กลืนอู๋
อ๋องฟูช่าฆ่าตัวตาย เสียพระทัยที่ไม่เชื่ออู่จื่อชี สั่งให้ปิดหน้าพระองค์ เพราะไม่มีหน้าไปดูอู่จื่อชีได้ในโลกหลังความตาย
1
หลังจากอู่จื่อชีตาย ได้รับยกย่องเป็นเทพเจ้า ที่คนจีนกราบไหว้บูชา
2
หนังสือ เยว่เจี๋ยซู (越絕書) ของหยวนคัง บันทึกไว้ว่า หลังจากแคว้นอู๋ล่มสลาย ฟ่านหลีไปครองรักกับไซซี แถวทะเลสาบซีหู
1
(เยว่เจี๋ยซูเป็นรวมบทความเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา วรรณกรรม ศาสตร์ต่างๆ ของอาณาจักรเยว่และอู๋ มีสิบหกบท)
หลังชนะศึก โกวเจี้ยนสั่งประหารเหล่าศัตรูอย่างไม่ปรานี ทรงเรียนรู้จากบทเรียนของพระองค์เองว่า ต่อศัตรูต้องถอนรากถอนโคน
3
อ๋องฟูช่าทรงไว้ชีวิตศัตรู แคว้นอู๋จึงต้องจบแบบนี้
ส่วนขุนนางผอผีถูกสั่งประหาร คนที่ทรยศต่อแผ่นดินเกิดได้ ไม่สามารถวางใจได้
1
ต่อมาโกวเจี้ยนสั่งให้ที่ปรึกษาเหวินจงฆ่าตัวตาย ส่วนฟ่านหลี่อ่านสถานการณ์ออกแต่แรก ก็ปลีกตัวไปจากวงการทัน
1
กระบี่นางพญา ใช้ตัวละครจริงในประวัติศาสตร์หลายคน เช่น ฟ่านหลี ไซซี โกวเจี้ยน คำถามคือตัวละครหลักอาชิงเล่า?
ชื่อจีนของนวนิยายเรื่อง กระบี่นางพญา คือ 越女劍 (เยว่หนี่เจี้ยน) แปลว่ากระบี่ของเยว่หนี่
1
เยว่หนี่แปลตรงตัวคือ สตรีเยว่ เป็นนักดาบ ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของนาง แต่มีคนมอบฉายา สตรีแห่งป่าใต้
คนจีนเชื่อว่านางคือจิ่วเทียนเสียนหนี่ (九天玄女) ที่มาเกิดในร่างมนุษย์
จิ่วเทียนเสียนหนี่เป็นเทพธิดาในความเชื่อของจีนโบราณ เป็นเทพธิดาแห่งสงคราม
กิมย้งสร้างตัวละครอาชิงจากตำนานเยว่หนี่
1
แล้วฉากอาชิงเรียนวิชาจากค่างขาว มีที่มาอย่างไร?
1
เยว่หนี่เป็นบุคคลในยุคชุนชิว ตั้งแต่เด็ก เยว่หนี่เรียนวิชายิงธนูและดาบโดยล่าสัตว์กับบิดา อ๋องแห่งเยว่ได้ยินกิตติศัพท์ฝีมือของนาง ก็เรียกตัวมา
1
ระหว่างทางไปเมืองหลวงเพื่อเข้าเฝ้าโกวเจี้ยน นางพบชายชราคนหนึ่งชื่อหยวนกง
2
หยวนกงกล่าวว่า “ได้ยินว่าเจ้ารู้จักเพลงดาบดียิ่ง ขอเรารับการสั่งสอนได้หรือไม่?”
เยว่หนี่ตกลง
ชายชราหยวนกงดึงไผ่ลำยาวออกมา ทั้งสองประลองวิชาการต่อสู้กัน ลำไผ่ถูกตัดออก นางใช้ไผ่ท่อนหนึ่งต่อสู้ และเอาชนะชายชรา ชายชรากระโดดขึ้นบนยอดไม้ แปลงร่างเป็นค่างขาว ส่วนเยว่หนี่ก็เดินทางต่อไป
1
เชื่อว่ากิมย้งแต่งเรื่อง กระบี่นางพญา โดยใช้ค่างขาวมาเป็นคู่ฝึกซ้อมของอาชิง และเอี้ยก้วยเรียนวิชาจากอินทรี ในเรื่อง มังกรหยก ภาค 2 อาจได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานนี้ก็ได้
1
เมื่อพบโกวเจี้ยน เยว่หนี่แสดงฝีมือให้เห็น โกวเจี้ยนประทับใจ ก็ขอให้นางฝึกทหาร และเรียกนางว่าเยว่หนี่
1
เยว่หนี่เผยว่า นางคิดค้นวิชาขึ้นมาเอง หลักการของนางก็คือการเปลี่ยนผ่านระหว่างหยินและหยาง เปรียบเหมือนประตูที่เปิดและปิด เมื่อเข้าใจหลักนี้ ก็เข้าใจเคล็ดวิชา
ท่อนนี้ฟังดูเป็นนิยาย ทว่ามีบันทึกไว้เป็นหลักฐานใน บันทึกวสันตสารทแห่งอู๋และเยว่ (吴越春秋 The Spring and Autumn Annals of Wu and Yue)
ไม่ว่าตำนานจะขยายความเกินจริงหรือไม่ก็ตาม วิทยายุทธ์ของเยว่หนี่น่าจะเป็นแบบแรกๆ ในโลกของการต่อสู้ของจีน นานก่อนหน้าวิทยายุทธ์ของวัดเส้าหลินและบู๊ตึ๊ง
1
บันทึกวสันตสารทแห่งอู๋และเยว่
กระบี่นางพญา เป็นงานชิ้นสุดท้ายของกิมย้ง จัดเป็นนวนิยายขนาดสั้น (novelette) หรือเรื่องสั้นขนาดยาว ในมุมมองของนักอ่านงานกิมย้ง ถือว่าเรื่องนี้อ่อนกว่าเรื่องอื่นๆ
ทว่าเราไม่อาจเปรียบเทียบเรื่องนี้กับงานฟอร์มใหญ่ เช่น กระบี่เย้ยยุทธจักร หรือ แปดเทพอสูรมังกรฟ้า เพราะสาระ และสเกลของงานต่างกันมาก
อีกประการเราต้องไม่ลืมว่า กิมย้งเขียนงานโดยไม่ย่ำรอยเดิม ดังนั้นชั่วชีวิตเขาจึงเขียนเพียงสิบห้าเรื่อง กระบี่นางพญา ถือเป็นก้าวทดลองเขียนแบบสั้นๆ
งานชิ้นนี้ดูเผินๆ ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่หากพิเคราะห์ให้ละเอียด จะพบว่าเรื่องนี้ลึกซึ้งกว่าที่เห็นเผินๆ
ตัวละครอาชิงซึ่งจัดเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง ทำอะไรไม่ได้เมื่อพบคู่ต่อสู้ที่งดงามสุดบรรยาย ฝีมือในเชิงยุทธ์ไม่ว่าจะสูงส่งเพียงไร หรือกลายเป็นผู้นำยุทธจักร ก็พ่ายแพ้ต่อคู่ต่อสู้ที่ไม่ได้พึ่งวิทยายุทธ์
2
ท้ายที่สุดนวนิยายก็สะท้อนภาพให้เราเห็นอย่างขันขื่นว่า วิทยายุทธ์มิใช่คำตอบสุดท้าย กลยุทธ์ในการพิชิตศึกอาจมิใช่วิทยายุทธ์หรือกระบวนท่าที่ร้ายกาจ แต่คืออุบาย
1
เหง่ยคัง เพื่อนสนิทของกิมย้งจัดอันดับงานทั้งหมดของกิมย้ง แต่ไม่รวมเรื่องนี้เข้าไปด้วย เพราะจัดว่าเป็นเรื่องสั้น
และสุดท้าย ผู้อ่านนิยายกำลังภายในก็รู้ดีว่า งานที่แย่ที่สุดของกิมย้งก็ยังอยู่ในมาตรฐาน และดีกว่างานดีที่สุดของนักเขียนนิยายกำลังภายในหลายคน
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา