13 ก.ย. 2021 เวลา 12:57 • หนังสือ
'Pleased to meet me ยินดีที่ได้รู้จักฉัน'
หนังสือเล่มนี้กำลังจะมาบอกเราว่าเเท้จริงเเล้วเราสามารถควบคุมการกระทำของตัวเองได้น้อยกว่าที่เราคิดไว้มาก มีบางอย่างในร่างกายเราที่ควบคุมความรู้สึกหรือการเเสดงออกของเราอยู่อีกที
หลายคนรวมถึงตัวเราจะคิดมาตลอดว่าเราทุกคนสามารถกำหนดเส้นทางของตัวเองได้ทั้งหมด เช่น การที่เราน้ำหนักเยอะสาเหตุทั้งหมดเกิดจากการกินที่มากไปโดยที่ไม่รู้จักควบคุมตัวเอง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในบางทีเรากลับรู้สึกว่าเราเองก็ควบคุมตัวเองได้ไม่ได้ดั่งใจ เช่น ในบางเวลาที่เรายังต้องกินทั้งๆที่เราไม่ได้รู้สึกหิว
หนังสือเล่มนี้เลือกที่จะมาเปลี่ยนความเข้าใจที่เราเคยมีมาตลอดเกี่ยวกับตัวเรา โดยนำหลักการทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายว่าความจริงแล้วที่คนแต่ละคนมีความรู้สึกหรือมีการเเสดงออกที่แตกต่างกัน พวกเขาอาจจะไม่ได้เลือกทำมันออกมาด้วยตัวเองทั้งหมดแต่มีปัจจัยบางอย่างในร่างกายที่กระตุ้นให้พวกเขาทำสิ่งนั้นออกมาได้ง่ายกว่าคนอื่นวันนี้รีวิวทุกอย่างที่อ่านออกจะพาทุกคนมารู้จักกับ “ยินดีที่รู้จักฉัน” หรือ “Pleased to meet me” ค่ะ 🙂
เราสามารถนำหลักการทางวิทยาศาสตร์อย่างเช่นเรื่อง พันธุกรรม, ฮอร์โมน เเละเเบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในร่างกาย มาตอบคำถามเกี่ยวกับตัวเราได้มากมายตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยว่าทำไมคนเราถึงไม่ชอบกินผัก ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆที่ว่าทำไมคนคนนึงถึงเลือกที่จะทำร้ายคนอื่น การนำหลักการดังกล่าวมาตอบคำถามเกี่ยวกับตัวเราเป็นที่ยอมรับอย่างเเพร่หลาย เห็นได้จากในต่างประเทศที่มีนักโทษคดีฆาตกรรมบางคนไม่ถูกตัดสินประหารชีวิตเพราะสามารถพิสูจน์ได้ว่าการแปรผันของยีนมีส่วนที่ทำให้เขาเลือกที่จะทำแบบนั้นออกมา
ถ้าคุณเป็นคนนึงที่ไม่ชอบกินผักก็เลิกโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองได้เลยค่ะ เพราะความจริงแล้วการที่เรารู้สึกไม่ดีเมื่อกินผักเกิดจากการแปรผันของดีเอ็นเอในยีนที่ต่างกันในแต่ละคนทำให้บางคนมีความรู้สึกไวในการรับรสขมได้มากกว่าคนปกติ นอกจากนี้ยังมีการอธิบายถึงนิสัยการกินอื่นๆที่น่าสนใจ เช่น ทำไมคนเราถึงชอบกินอาหารที่มีรสหวานมากเป็นพิเศษ หรือทำไมบางคนถึงคอแข็งมากกว่าคนอื่นๆ
2
จริงๆแล้วเราไม่สามารถควบคุมความอยากอาหารในตัวเราได้ทั้งหมด การที่บางคนกินอาหารที่มากเกินความพอดีอาจเกิดจากสมองของคนนั้นไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกอิ่ม หรือบางคนอาจต้องกินอาหารเยอะกว่าคนปกติร่างกายถึงจะรับรู้ความรู้สึกของการได้รับรางวัลเมื่อทานอาหารได้เท่ากับคนปกติ การที่เราเข้าใจในความจริงเรื่องนี้ก็จะช่วยให้เราลดน้ำหนักได้อย่างตรงจุดมากขึ้น
อีกหนึ่งประเด็นที่ดูเป็นคำถามโลกแตกมาตลอดคือ ‘ระหว่างเป๊ปซี่กับโค้กอะไรอร่อยมากกว่ากัน?’ ที่น่าสนใจคือถ้าเราให้คนที่ชอบโค้กมาเลือกว่าน้ำแก้วไหนอร่อยกว่าโดยพวกเขาเห็นชื่อยี่ห้อของน้ำแต่ละแก้วมีความเป็นไปได้สูงที่เค้าจะเลือกโค้ก เพราะสมองส่วนที่เกี่ยวกับการเรียนรู้และความทรงจำจะถูกกระตุ้นให้ทำงานเพื่อช่วยประหยัดพลังงานของร่างกายในการประมวลผลเลือกใหม่ว่าน้ำเเก้วไหนอร่อยกว่า แต่ถ้าคุณลองให้คนเดิมไปทดลองชิมน้ำอีกครั้งโดยที่ไม่เห็นยี่ห้อของน้ำในแต่ละแก้ว ผลอาจจะออกมาไม่เหมือนกันก็ได้
มีหลายๆหัวข้อในหนังสือเล่มนี้ที่เราว่าน่าสนใจ ขอยกตัวอย่างให้ดูซักหัวข้อนึงคือความรักเกิดจากหัวใจจริงๆหรือเปล่า?
แน่นอนว่าหลักการทางวิทยาศาสตร์ก็สามารถนำมาอธิบายในเรื่องที่ดูหาเหตุผลได้ยากอย่างความรักได้ด้วยเช่นกัน หลายคนจะพูดไว้ว่าถ้าเราจะรักใครมันไม่มีเหตุผลหรอก แต่ในหนังสือเล่มนี้กำลังจะบอกว่ามีปัจจัยบางอย่างในร่างกายของเราอย่างเช่น กลิ่น หรือฮอร์โมน มาช่วยในการกระตุ้นให้เรารู้สึกว่าบางคนนั้นมีเสน่ห์ดึงดูดให้เราเข้าหาหรืออยากเข้าไปทำความรู้จักได้มากเป็นพิเศษ
โดยส่วนตัวเราไม่ค่อยถนัดทางด้านวิทยาศาสตร์เท่าไหร่ทำให้ในบทแรกๆของการอ่านเราเลยรู้สึกว่าค่อนข้างอ่านยากเล็กน้อยเพราะมีการใช้ศัพท์เทคนิคที่ค่อนข้างเยอะ เเต่ในบทต่อๆไปเรารู้สึกว่ามันอ่านง่ายขึ้นมากเพราะถึงแม้ยังคงมีการใช้ศัพท์เทคนิคที่ยากอยู่ แต่มีการเล่าในภาษาที่อ่านง่ายมากขึ้นบวกกับมีการยกตัวอย่างในชีวิตประจำวันที่ใกล้ตัวเรามาประกอบทำให้เรารู้สึกสนุกในการอ่าน เเล้วเมื่อพออ่านไปเรื่อยๆเรากลับมองข้ามคำศัพท์ที่ยากเหล่านั้นและไปสนใจเรื่องที่น่าสนใจที่หนังสือเล่มนี้กำลังจะถ่ายทอดให้เรามากกว่า
ภาพรวมของหนังสือเล่มนี้ไม่ได้จะมาบอกให้เราทำใจยอมรับว่าร่างกายของเรานั้นถูกกำหนดไว้หมดแล้วทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก แต่เค้ากำลังจะบอกเราว่าเราควรที่จะรู้จักกับร่างกายของเราให้ดีมากพอเพื่อที่จะควบคุมมันได้อีกทีมากกว่า
อีกเรื่องที่เราได้จากหนังสือเล่มนี้คือ ทำให้เรามองคนที่ต่างกับเราด้วยความเข้าใจมากขึ้น เช่น ในบางคนที่ติดสารเสพติดเค้าอาจจะไม่ได้อยากเป็นแบบนั้นจริงๆ มันอาจจะเกิดจากยีนหรือปัจจัยต่างๆในร่างกายของเขาที่มีลักษณะแตกต่างจากคนอื่น แทนที่เราจะปล่อยให้เขาเผชิญกับปัญหานี้เพียงลำพังคนรอบข้างก็มีส่วนสำคัญที่จะต้องเข้าใจและช่วยกันในการหาทางออกกับปัญหาที่เกิดขึ้น
หลังจากอ่านจบเราก็ลองคิดเล่นๆค่ะ ว่าถ้าทุกคนได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วเข้าใจตัวเองได้ดีจนสามารถหาวิธีรับมือกับนิสัยที่ไม่ดีบางอย่างของเราได้ทัน ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้ฆาตกรตัดสินใจไม่ลงมือฆ่าคนหรือในบางคนก็จะสามารถดูแลสุขภาพได้ดีจนลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายต่างๆ เราว่าเหตุผลแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่เราจะแนะนำให้ทุกคนได้อ่านหนังสือเล่มนี้ค่ะ 🙂
……………………………………………………..
ชื่อหนังสือ: ยินดีที่รู้จักฉัน PLEASED TO MEET ME
นักเขียน: บิล ซัลลิแวน (Bill Sullivan)
ผู้เเปล: K.D.
จำนวนหน้า: 296
ราคา: 295 บาท
สำนักพิมพ์: อมรินทร์
Overall: 8.6/10
……………………………………………………..
Score Explanation
Writing Style: 8/10 เพราะ เป็นหนังสือรู้สึกว่าที่อ่านไม่อยากเเถมยังอ่านสนุกด้วย เเละมีการเเยกหัวข้อในการเล่าที่ชัดเจนทำให้อ่านเเล้วไม่รู้สึกหลงประเด็น เเต่ถ้ามีการสรุปสั้นๆไว้ให้ท้ายบทน่าจะทำให้ผู้อ่านจับประเด็นสำคัญได้ดีมากขึ้น
Time worthiness: 9/10 เนื้อหาในหนังสือไม่มากไม่น้อยเกินไป และสื่อใจความออกมาได้กระชับ
Content Usefulness: 9/10 อยากให้ทุกคนได้อ่านเพราะเราเชื่อว่าการเข้าใจตัวเองคือรากฐานของการพัฒนาตนเองในอนาคตในทุกๆด้านค่ะ
โฆษณา