15 ก.ย. 2021 เวลา 13:00 • หนังสือ
'เป็นเราคือพิเศษ'
ก่อนที่จะให้ใครเห็นคุณค่าของเรา
เราต้องเห็นคุณค่าของตัวเองก่อน
ในเวลาเราที่รู้สึกเหนื่อยหรือเครียดมากๆ เรามักจะเพิ่มพลังบวกโดยการหยิบหนังสือที่ให้ข้อคิดเรื่องการใช้ชีวิตดีๆสักเล่มมาอ่าน เเล้วให้เวลาตัวเองได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เราว่าวิธีนี้ก็เป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาได้
หนังสือที่เราจะนำมาเล่าให้ฟังวันนี้เป็นเล่มที่เรารู้สึกว่าอ่านง่าย ให้ข้อคิดดีๆค่อนข้างเยอะ เเละน่าจะช่วยเติมกำลังใจดีๆให้กับทุกคนได้ วันนี้รีวิวทุกอย่างที่อ่านออกจะพาทุกคนมารู้จักกับ “เป็นเราคือพิเศษ”ค่ะ 🙂
ประเด็นหลักที่หนังสือเล่มนี้ต้องการจะบอกเราคือ อยากให้เราทุกคนหันกับมารักตัวเองผ่านการปรับมุมมองความคิดต่อเรื่องต่างๆ เพราะเเท้จริงเเล้วการรักตัวเองเป็นความรักที่เราจะได้มาเเบบง่ายที่สุดเเต่หลายคนมักจะมองข้ามไป เเละการรักตัวเองคือภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดที่จะช่วยพยุงจิตใจของเราในวันที่เรารู้สึกเเย่
ตัวอย่างข้อคิดที่เรารู้สึกชอบอย่างเช่น เมื่อเราเจอปัญหาบางทีถ้าอยากปล่อยให้ตัวเองเศร้าก็สามารถทำได้ การร้องไห้ออกมาบ้างอาจจะช่วยทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เเต่ถึงจะเศร้ายังไงก็ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองหมดหวังในชีวิตเพราะสุดท้ายเเล้วความทุกข์ในวันนี้สักวันมันก็จะผ่านไป
อีกเรื่องที่เราชอบคือเค้าสอนให้เราไม่ต้องไปกังวลกับเรื่องที่จะเกิดในอนาคตหรือยึดติดกับความเศร้าในอดีตมากจนเกินไป เราเป็นคนนึงที่มักจะกังวลกับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นจนบางทีก็ปล่อยให้ความเครียดมาทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว เเต่จากประโยคนึงในหนังสือเล่มนี้ที่บอกไว้ว่า ‘คิดไม่ดีไปก่อน เเต่ถ้าไม่ดีอย่างที่คิดเราก็เสียใจไปก่อนตั้งเเต่คิด’ ข้อความนี้ทำให้เราคิดได้ว่าเราควรที่จะเตรียมเเผนรับมือเพื่อพร้อมรับกับเรื่องไม่ดีที่อาจเกิดขึ้นได้เเละทำปัจจุบันให้ดีที่สุด มากกว่าการมานั่งเครียดกับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น
คราวนี้เราจะมาสรุปประเด็นที่เราได้จากการอ่านเเละสิ่งที่เรามองว่าเป็นข้อดีของหนังสือเล่มนี้มารวมให้ทุกคนได้ฟังกันค่ะ
(1) เห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น
ข้อนี้จะเรียกว่าเป็นประเด็นหลักของเล่มนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ ในทุกวันนี้ที่ชีวิตในเเต่ละวันมีความเร่งรีบมากขึ้น ทำให้บางคนอาจทำงานหนักเกินไปจนลืมใส่ใจตัวเอง หรือบางคนก็เอาชีวิตเเละความรู้สึกของเราไปผูกติดอยู่กับคนอื่นมากเกินไปจนทำให้ตัวเราไม่มีความสุข พอได้มาอ่านหนังสือเล่มนี้เลยทำให้เราอยากหันกลับมามองตัวเองมากขึ้น เห็นคุณค่าในตัวเอง เเละอยากลองทำสิ่งที่ใจดีกับตัวเองบ้าง เช่น เมื่อถึงวันหยุดก็ปล่อยให้ตัวเองพักอย่างเต็มที่ เเละไม่ปล่อยให้ตัวเองรู้สึกเศร้าหรือเครียดเป็นระยะเวลานานจนเกินไป
(2) ได้มุมมองดีๆในเรื่องของความรัก
นอกจากเรื่องทั่วไปในการใช้ชีวิตเเล้ว ในหนังสือเล่มนี้ยังมีเรื่องของความสัมพันธ์อยู่หลายประเด็นทั้งการรักษาความสัมพันธ์ในปัจจุบันรวมไปถึงการจัดการกับความรู้สึกของตัวเองเมื่อความสัมพันธ์ได้จบลง ซึ่งเเต่ละหัวข้อก็เป็นเรื่องที่เราว่าทุกคนจะต้องเคยพบเจอ เช่น ทำยังไงถ้าคบกันไปนานๆเเล้วรู้สึกเบื่อ, ทำยังไงถึงจะมูฟออนจากความรักที่จบลงไปเเล้วได้สักที เเละระยะห่างเเค่ไหนถึงจะพอดีสำหรับชีวิตคู่ เป็นต้น
(3) เนื้อหาที่ไม่มีวันเก่า
หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในหนังสือที่เรารู้สึกว่าต่อให้เวลาผ่านไปอีก 10 หรือ 20 ปีเราก็ยังสามารถหยิบมาอ่านได้ตลอด เพราะเป็นข้อคิดในการใช้ชีวิตที่ไม่ว่าคนในช่วงวัยไหนก็สามารถอ่านได้ ในบางปัญหาเราอาจจะยังไม่เคยเจอเเต่ในอนาคตถ้าสมมติเราเจอกับปัญหานั้นเเล้วหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่าน เราก็ยังจะได้ข้อคิดดีๆเเน่นอน
(4) ได้ทางออกที่ดีในการเเก้ปัญหา
ในท้ายบทจะมีพาร์ทที่เป็น Q&A ที่ผู้เขียนจะรวมปัญหายอดฮิตหรือคำถามที่ทุกคนมักจะสงสัยทั้งในเรื่องเพื่อน คนรัก ครอบครัว รวมถึงปัญหาภายในจิตใจของเราเอง เช่น เป็น Introvert ไม่ชอบเจอผู้คนเยอะๆควรทำอย่างไรหากต้องทำงานกับคนจำนวนมาก เเละทำอย่างไรหากพบเจอปัญหาเเต่คนรอบข้างไม่เข้าใจ เป็นต้น ถ้าผู้อ่านที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ในชีวิตได้มาอ่านก็จะสามารถนำข้อคิดที่ได้ไปปรับใช้กับเรื่องของตัวเอง
จากทั้ง 4 ข้อนี้ทุกคนก็น่าจะพอนึกออกเเล้วว่าทำไมเราถึงเเนะนำหนังสือเล่มนี้ เรามองว่าเวลาที่เจอปัญหาการมีที่ปรึกษาที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ เห็นได้จากในหลายครั้งเราจะรู้สึกว่าปัญหาของคนอื่นเราสามารถเข้าไปช่วยเเก้ไขให้เขาได้อย่างง่ายดาย เเต่พอเป็นเรื่องของตัวเองกลับรู้สึกตันจนหาทางออกไม่เจอ ส่วนตัวเราคิดว่าบางทีการที่เราติดอยู่ในปัญหานั้นๆเองอาจจะทำให้เรามองเห็นปัญหาได้ไม่ชัดเจนเท่าคนภายนอกมองเข้าไป ทำให้เวลาที่เรามีปัญหาการได้รับคำเเนะนำดีๆก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราก้าวผ่านมันไปได้ เเละเราคิดว่าหนังสือเล่มนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยค่ะ 🙂
……………………………………………………..
ชื่อหนังสือ: เป็นเราคือพิเศษ
นักเขียน: คิดมาก
จำนวนหน้า: 192
ราคา: 235 บาท
สำนักพิมพ์: Springbooks
Overall: 7.6/10
……………………………………………………..
Score Explanation
Writing Style: 7/10 เพราะมีการใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายบวกกับมีภาพประกอบที่เป็นสีตลอดทั้งเล่มทำให้อ่านได้เพลิน เเต่ถ้ามีการอธิบายหรือยกตัวอย่างประกอบที่มากกว่านี้น่าจะทำให้ผู้อ่านเห็นภาพตามเเละอ่านได้สนุกมากขึ้น
Time worthiness: 8/10 เพราะโดยภาพรวมนำเสนอเนื้อหาได้กระชับ
Content Usefulness: 8/10 เป็นหนังสือที่เติมพลังด้านบวกได้ดี เเต่อยากเเนะนำให้เพิ่มข้อคิดเรื่องอื่นนอกจากความสัมพันธ์ เช่น เพื่อนเเละครอบครัว มากขึ้นกว่านี้ เพื่อที่จะได้เหมาะกับผู้อ่านหลายกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
โฆษณา