วันนี้ผมจะมารีวิวและสรุปหนังสือที่มีชื่อว่า ‘Time Smart ความฉลาดทางเวลา’
3
เล่มนี้เขียนโดยคุณ แอชลีย์ วิลแลนส์
ศาสตราจารย์ด้านเวลาของ Harvard Business School
แปลโดยคุณศรรวริศา เมฆไพบูลย์
1
หนังสือเล่มนี้จะพาเราเข้าใจในคุณค่าของเวลามากขึ้น
เป็นการเปรียบเทียบการให้ความสำคัญระหว่างเงินและเวลาแบบไหนควรทำหรือเป็นอย่างไร
4
โดยความรู้สึกเล่มนี้ต้องการจะทำให้เราเห็นคุณค่าในเวลามากขึ้น
มากกว่าทำงานหาเงินเพียงอย่างเดียว ใช้เงินซื้อเวลามากขึ้นเป็นต้น
จากงานวิจัยของเธอและชีวิตของเธอเอง
เป็นเล่มที่น่าสนใจมากครับ
โดยผมได้สรุปเนื้อหาไว้แล้วครับ
6
ความรู้สึกหลังอ่าน
เล่มนี้เป็นเล่มที่น่าสนใจครับ ใช้งานวิจัยมากมายเกี่ยวกับเวลา
เพราะบรรณานุกรมของสำนักพิมพ์ Amarin How-to ปกติมีไม่มากแต่เล่มนี้มีถึง 50 หน้า
เล่มนี้ชวนให้เห็นคุณค่าของเวลาเป็นอย่างมากครับ
แม้จะบอกว่าเทียบกับเงิน แต่เล่มนี้เอนเอียงไปทางเวลาซะส่วนใหญ่ครับ
ซึ่งผมเห็นด้วยกับแนวคิดในเล่มนะครับ
5
#TimeSmart #ความฉลาดทางเวลา #อยากสรุป #รีวิวหนังสือ
1
6 กับดักเวลา
1
1 เทคโนโลยี
เทคโนโลยีมีผลกับเวลาของเราในปัจจุบัน
คุณแอชลีย์เรียกเวลา ที่เราเสียไปกับการทำหลายอย่างไม่เป็นชิ้นเป็นอันในเวลาสั้นๆนี้ว่า ‘ริ้วเวลา’
แม้มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เมื่อนำมารวมกันในแต่ละวัน จะสะสมกลายเป็นหลายชั่วโมงได้ครับ
การเช็คอีเมล ทวิตเตอร์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้มันลดสมาธิในการทำสิ่งต่างๆ ของเรามากครับ
7
2 สนใจเรื่องเงิน
เราส่วนมากถูกปลูกฝังมาว่า เงินสำคัญที่สุด
เราคิดว่าถ้าเรามุ่งทำงานและมีเงินมากขึ้น เราจะหาเวลาพักผ่อนได้
แต่ความเป็นจริงคือ
ยิ่งเราไล่ตามหาความมั่งคั่งมีแต่จะทำให้เราวนหาความมั่งคั่งไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
9
3 เวลาที่ถูกตีค่าต่ำไป
ต่อจากข้อที่แล้ว เมื่อเราหมกมุ่นอยู่กับเงิน
และเวลาถูกเราตีค่าต่ำไป เพราะมันวัดเป็นมูลค่าได้ยาก
บางทีเราจ่ายเงินที่มากกว่าแต่ได้เวลาที่กลับมาทำอย่างอื่นเช่นกันครับ
ตัวอย่างในหนังสือ คือ การที่เรายอมจ่ายเพิ่มเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียว
ดีกว่าการที่เราซื้อแบบหลายต่อ แล้วถูกกว่า 300 ดอลล่าร์
คุณแอชลีย์บอกว่า เราเสียเงิน 300 ดอลล่าร์ แต่เราได้เวลาที่จะพักผ่อนมากขึ้นในวันหยุก 4 ชั่วโมง
แถมการที่ขึ้นหลายเที่ยวจะมีความเสี่ยงทำให้เราเครียดมากขึ้นด้วยครับ
7
4 ความยุ่งที่กลายเป็นสถานะ
เป็นความคิดเกี่ยวกับเรื่องการบ้างาน
ผูกทุกอย่างไว้กับงาน จนบางครั้งเราเสียสุขภาพและเสียเวลาที่จะได้ใช้กับครอบครัวไปครับ
11
5 เสพติดความยุ่งจนว่างไม่เป็น
ต่อจากอันที่แล้วครับ ต่อให้ไม่มีงานทำตอนนั้น
ลองสังเกตดูว่าเราก็ไม่สามารถทำตัวให้ว่างหรือนั่งเฉยๆโดยไม่ใช้สมาร์ทโฟนได้อยู่ดีครับ
ประโยชน์ของการอยู่เฉยๆนั้น สร้างผลดีต่อร่างกายมากครับ
6
6 ภาวะ ‘ตอบรับ จนตัวตาย’
เราจะตอบรับงานของคนอื่นมากไป จนเราจัดการไม่ไหว
เพราะเรามองว่า การตอบรับความช่วยเหลือจะทำให้เรารู้สึก
มีผลงาน ได้ผูกความสัมพันธ์ และเป็นที่น่าเคารพครับ
5
3 อย่างเพิ่มความมั่งคั่งทางเวลา
1 หาเวลา
ยกเลิกกิจกรรมที่ไม่ก่อประโยชน์ใดๆและทำให้เรารู้สึกแย่
เปลี่ยนเป็นกิจกรรมที่สร้างสุขมากขึ้น
7
2 ซื้อเวลา
คือการจัดสรรเงินที่ใช้ไปกับสิ่งที่ไมมีประโยชน์ไปใช้เพื่อทำให้เราประหยัดเวลามากขึ้น
4
3 กำหนดนิยามใหม่ให้เวลา
กำหนดนิยามใหม่ให้กับสิ่งที่เราทำ เพิ่มความมั่งคั่งให้เวลาเราได้
เช่น การเดินทางไปทำงาน หรือการเดินทางไปซื้อของเป็นการพักผ่อน เป็นต้น
5
8 วิธีตรวจสอบการใช้เวลา
1
1 รู้ว่าทำไม
เมื่อรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรที่เสียเวลาเล็กน้อย
ให้ถามตัวเราว่า ทำไมเราถึงทำสิ่งนั้น
บันทึกมันไว้ว่าเราทำสิ่งนั้นเมื่อไหร่ ทำอะไร ทำไมถึงทำ
จะทำต่อหรือไม่ พร้อมหารายการทดแทนสิ่งนั้นครับ
3
2 เผื่อเวลารอยต่อ
วางแผนเผื่อเวลาไว้ ไม่เคร่งมากไป เช่น
แทนที่จะทำตาราง 8 โมงถึง 10 โมง
ให้เปลี่ยนเป็นช่วงเช้าดีกว่า
ปล่อยให้เวลาว่าง เวลารอยต่อของเราได้พักบ้างนั่นเองครับ
1
3 รู้วิธีคิดตารางเวลาของเรา
แบ่งเป็น 2 แบบ
ยึดตามนาฬิกา คือ เป๊ะตามเวลา เช่น 13.00-14.15
หรืออีกแบบคือ ยึดตามเหตุการณ์ จะไม่เคร่งเวลามาก กำหนดเวลากว้างๆเช่น ช่วงบ่าย
ปรับแผนทุกอย่างตามความเหมาะสมตามสิ่งที่เราเป็นครับ
3
4 สร้างเจตนารมณ์
ใช้กิจกรรมของเรานแต่ละวัน สร้างกลยุทธ์ขึ้นมาเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งทางเวลาครับ
3
5 ใช้ระบบรางวัลและลงโทษ
ให้รางวัลเมื่อเราทำได้ตามที่ตั้งไว้ในข้อ 4
แต่แนะนำว่า รางวัลควรเป็นแบบที่ทำให้ประหลาดใจหรือไม่แน่นอน
ลงโทษเมื่อทำไม่ได้ตามที่ตั้งใจ โดยลงโทษแบบที่ชัดเจนจะดีที่สุดครับ
5
6 กำหนดค่าตั้งต้นเพื่อฉลาดใช้เวลา
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการปิดแจ้งเตือนต่างๆในโทรศัพท์ครับ
7 แยกแยะความสำคัญถูก
แยกแยะให้ถูกต้องและทำงานที่สำคัญและเร่งด่วนครับ
8 พักให้ได้พักจริงๆ
เวลาพักหรือไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหน ให้พักผ่อนให้เต็มที่เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจมากครับ
5 นิสัยเพิ่มความมั่งคั่งทางเวลา
2
1 ทำกิจกรรมหลากหลาย
จะช่วยลดความเครียด และเพิ่มความสุขให้เราได้ครับ
1
2 บอกปฏิเสธ
คุณแอชลีย์มีวิธีแนะนำอยู่คือ ให้ตอบรับการสนทนา เพราะถ้ามันเป็นการช่วยคนอื่นมันก็เหมือนช่วยเราด้วยครับ
แต่หากให้เราลงมือทำอะไร จงปฏิเสธ
1
3 ขอเวลาเพิ่ม
คุณแอชลีย์บอกว่า หากเป็นงานที่ไม่มีกำหนดตายตัวมากนัก
เพื่อเพิ่มคุณภาพให้กับผลงานเราแล้วเราต้องการเวลาเพิ่ม ให้ไปขอเพิ่มเวลากับเจ้านายเราครับ
2
4 เตือนตัวเองถึงต้นทุนทางโอกาส
การรับปากทำอะไรบางอย่าง เท่ากับปฏิเสธสิ่งที่จะได้ทำ(เวลาอยู่กับครอบครัว เวลาพักผ่อน)
เพราะฉะนั้นคิดดีๆครับ
2
5 ถามด้วยคำว่า ‘ทำไม’
เวลาตัดสินใจอะไรที่สำคัญ ถามตัวเองว่าทำไมถึงทำสิ่งนั้น และมันสอดคล้องกับเป้าหมายของเราอย่างไร
2
ขอบคุณสำหรับการรับชมครับ
2
โฆษณา