18 ก.ย. 2021 เวลา 01:00 • การศึกษา
คุณตอบคำถามจากข้อสอบของเด็ก ป. 4 ได้หรือไม่?
@เพจเฟซบุค Spartan Doctor
เห็นโพสจากเพจเฟซบุค Spartan Doctor ที่แอดมินเป็นอายุรแพทย์แล้วต้องตกใจไม่น้อยกับคำถามนี้ โดยในคอมเมนต์บอกว่านี่เป็นคำถามจากข้อสอบของเด็ก ป.4 ซึ่งเป็นโรงเรียนรัฐบาล สังกัดกรุงเทพฯ ภาคสองภาษา
📌 คำถามถามว่า ‘เนื้อเยื่อที่มีความบางและหนาที่ห่อหุ้มอยู่รอบกระดูกคืออะไร’
ซึ่งจะเห็นได้ว่าแค่แปลคำถามออก ก็ไม่ช่วยให้ตอบข้อสอบข้อนี้ได้ถ้าไม่มีความรู้เรื่องกายวิภาคที่ต้องเรียนมาก่อน หรือ อาจจะพอรู้จากรากศัพท์ภาษาละติน ถ้ารู้ว่า Peri แปลว่า ‘รอบๆ/โดยรอบ’
ซึ่งคำตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ a เพราะ Periosteum คือ เยื่อหุ้มรอบกระดูก ส่วน Cancellous bone คือ ส่วนภายในกระดูกส่วนที่เป็นรูพรุน และ Compact bone คือ ส่วนภายในกระดูกที่แข็งอัดตัวกันแน่น
มีผู้ปกครองบางท่านช่วยตอบคลายข้อสงสัย ว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาในหนังสือ Health and Physical Education ของเด็ก ป. 4 ซึ่งเด็กเรียนสองภาษาจะต้องอ่านภาษาอังกฤษออกอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเรียนไปแล้วก็ควรจะจำและตอบคำถามข้อนี้ได้
@เพจเฟซบุค Spartan Doctor
ส่วนความเห็นจากชาวโซเชียลที่มาคอมเมนต์ก็มีหลากหลาย ส่วนมากจะตกใจว่าเด็กป. 4 เรียนกันขนาดนี้แล้วหรือ จะขอยกมาบางส่วน เช่น
- ถ้าคุณแน่อย่าแพ้ป. 4
1
- แค่แปลอังกฤษเป็นไทยก็ไม่ไหวละ
- นี่ถ้าจบ ป. 6 สอบใบประกาศแพทย์ได้เลยมั้ย
- โชคดีที่แก่แล้ว
- เห็นเด็ก ป. 4 จำตารางธาตุว่าหนักแล้ว เจอนี่ยิ่งอึ้ง
- เด็กบ้านนี้ ป. 3 ก็เรียนเรื่องเอนไซม์อยู่
- หรือนี่เป็นโครงการนำร่องแพทย์
ฯลฯ
😂
🌸 ความเห็นส่วนตัว
ไม่รู้ว่าเพราะห่างจากระบบการศึกษามานานแล้วหรือเปล่า ตอนเห็นคำถามนี้ไม่คิดว่านี่จะเป็นข้อสอบของเด็ก ป. 4 เพราะคิดว่าเด็กประถมฯรู้เรื่องเหล่านี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าในอนาคตไม่ได้อยากเป็นหมอ
1
โดยส่วนตัวรู้สึกไม่เห็นด้วยกับระบบการศึกษาของไทยอยู่แล้ว ถ้ามีลูกก็ตั้งใจจะสอนลูกเอง ให้เรียน Homeschooling หรือ เรียนโรงเรียนทางเลือก เพราะเชื่อเรื่อง True self - True ability ว่าเด็กทุกคนมีความพิเศษไม่เหมือนกัน เด็กบางคนอาจจะจำเนื้อหาวิชาการเก่งมาก แต่เด็กบางคนอาจจะวาดรูปเก่งมาก หรือ เล่นกีฬาเก่งมาก ดังนั้นจึงไม่ควรเอามาตรฐานเดียว เนื้อหาการเรียนชุดเดียว ข้อสอบชุดเดียว มาตัดสินว่าเด็กคนไหนเก่ง คนไหนไม่เก่ง
4
จึงอยากให้เด็กค้นหาและพัฒนาตัวเองในแบบที่ชอบ เพื่อที่จะเป็น ‘คนเก่ง’ ในแบบของตัวเองให้ได้สักวัน เพราะเมื่อรู้ตัวว่าชอบอะไรและได้ทำในสิ่งนั้น ก็ไม่ต้องให้คนอื่นมาคอยบอกว่าต้องทำอะไร เป็นการพัฒนาทั้ง IQ และ EQ ไปพร้อมกัน
ก็เลยหวังจริงๆว่าสังคมไทยในอนาคตจะเป็นแบบนั้น มีเพื่อนหลายคนเป็นครูสอนพิเศษ บอกว่าเด็กสมัยนี้เครียดกันมากเพราะใช้ชีวิตบนความคาดหวังของพ่อแม่ หรือไม่รู้ว่าเพราะเพื่อนเป็นครูสอนพิเศษ แล้วครอบครัวที่จ้างครูมาสอนลูกที่บ้าน หรือ ส่งลูกไปเรียนพิเศษ ย่อมต้องเป็นครอบครัวที่หวังให้ลูกสอบได้คะแนนดีอยู่แล้ว ก็เลยเจอแต่พ่อแม่ที่ตั้งความหวังกับลูกไว้สูง
แต่ส่วนตัวอยากเห็นระบบการศึกษาไทยในอนาคตให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสามารถตามธรรมชาติของเด็กเป็นรายบุคคลมากกว่านี้
ที่มา : เพจเฟซบุค Spartan Doctor

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา