21 ก.ย. 2021 เวลา 02:23 • สุขภาพ
ผอมถาวรด้วยการทำสิ่งนี้
การผอมลงได้ตามเป้าหมายแล้ว ไม่ได้แปลว่าชนะ คุณจะยังไม่ผอมถาวรหากภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลินยังอยู่(insulin resistance) ร่างกายคุณยังคงตอบสนองการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินน้อยกว่าปกติต่อไป
โดยปกติแล้วฮอร์โมนอินซูลินถูกสร้างโดยตับอ่อนทำหน้าที่ ส่งน้ำตาลกลูโคสเป็นพลังงานให้กับเซลล์ต่างๆทั้งร่างกาย
แต่ในคนที่มีภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ฮอร์โมนอินซูลินจะไม่สามารถส่งน้ำตาลเข้ากับเซลล์เพื่อเผาผลาญได้ทั้งหมด จึงต้องเอาส่วนหนึ่งไปเก็บเป็นเซลล์ไขมัน น้ำหนักของคุณก็เลยเพิ่มขึ้นง่ายหลังจากการกินคาร์โบไฮเดรตแป้งน้ำตาล
การกินคาร์โบไฮเดรตแป้งน้ำตาลของคุณแทบทุกครั้ง จะมีส่วนหนึ่งยังถูกเก็บเป็นไขมัมใหม่ จำเป็นต้องแก้ภาวะนี้ให้หมดไปครับ
ย้อนกลับไปก่อนจะมีภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน เริ่มจากการที่คุณกินคาร์โบไฮเดรตแป้งน้ำตาลในปริมาณที่เกินความต้องการ กินอย่างสนุกสนานต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนระบบเผาน้ำตาลจัดการไม่ได้ เริ่มมีน้ำตาลในเลือดสูง เตาเผาน้ำตาลเริ่มมีปัญหา หรือเรียกว่าเตาเผาของคุณเริ่มพังแล้ว
ในคนผอมมีเซลล์ไขมันอยู่น้อย ยีนส์ของเขาไม่ทำให้เขาเป็นคนอ้วน การกินแป้งน้ำตาลสูงต่อเนื่องยาวนาน ท้ายที่สุดก็จะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2ได้ง่ายๆ หรือไม่ก็เป็นโรคเกี่ยวกับความดันโลหิต โรคเก๊า โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ และโรคอื่นอีกมากมายในกลุ่ม ncds
ในคนอ้วน โครงสร้างร่างกายมีเซลล์ไขมันอยู่ เซลล์ไขมันจึงขยายตัวขึ้นเพิ่มขึ้นง่าย เขาจึงอ้วนขึ้นต่อเนื่อง ท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 หรือไม่ก็มีปัญหาเรื่องไขมันในหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง โรคpcos โรคหัวใจและสมอง มะเร็งลำไส้จากอาหารสัพเพเหระทั้งดีและไม่ดีที่เขากิน และโรคเรื้อรังในกลุ่ม ncd อื่นๆอีกมากมาย
เมื่อคุณกินคาร์โบไฮเดรตแป้งน้ำตาลสูงต่อเนื่องยาวนาน อินซูลินของคุณจึงสูงผิดปกติ ทำให้คุณอ้วนง่าย กินคาร์โบไฮเดรตแป้งน้ำตาลเล็กน้อยน้ำหนักก็เพิ่ม
เพราะหนึ่งในหน้าที่ของฮอร์โมนอินซูลินคือเก็บน้ำตาลส่วนเกินไปเก็บเป็นไขมัน
เมื่อมีฮอร์โมนอินซูลินสูงผิดปกติ ไขมันใหม่จะเกิดขึ้นง่ายมาก แม้คุณกินคาร์โบไฮเดรตแป้งน้ำตาลไม่เกินก็เกิดไขมันใหม่ได้
มิหนำซ้ำ คนที่มีภาวะนี้ กล้ามเนื้อจะหายง่าย และสร้างกล้ามเนื้อยาก จากการที่ฮอร์โมนอินซูลินก็เอาโปรตีนไปส่งให้กับเซลล์ยากเช่นกันครับ
หากคุณไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คุณก็จะกลับมามีน้ำหนักเท่าเดิมแม้จะลดลงถึงเป้าหมายกี่สิบกิโลก็ตาม เรื่องนี้ทำให้หลายคนพอผอมแล้ว น้ำหนักเด้งขึ้นกลับไปเท่าเดิมจึงคิดว่าตัวเองโยโย่
จริงๆแล้ว สิ่งที่หลายคนเรียกว่าโยโย่เอฟเฟค เกิดขึ้นเฉพาะคนที่เตาเผาน้ำตาลพัง มีภาวะดื้ออินซูลินอยู่ พอมีภาวะนี้อยู่ยังกลับไปกินคาร์โบไฮเดรตแป้งน้ำตาลโดยมีพฤติกรรมการกินเหมือนเดิม น้ำหนักเขาจึงเพิ่มขึ้นทันที ทำได้แน่นอนครับ
โค้ชยกขอตัวอย่างนะครับ
ลองทดลองให้คนผอมมาไดเอทแบบคนอ้วนให้ผอมแห้งลงไปอีก เช่นการงดแป้งหรืออดอาหารไปเลย
จากนั้นให้เขาหยุดไดเอทแล้วกลับไปกินคาร์โบไฮเดรตแป้งน้ำตาลเยอะแค่ไหน น้ำหนักก็ไม่ดีดขึ้น ถึงแม้จะขึ้นเป็นกิโลแต่ไม่กี่วันก็จะกลับมามีน้ำหนักเท่าเดิม เพราะเตาเผาน้ำตาลเขาไม่ได้มีปัญหา( แถมยังอาจทำให้เขาผอมแห้งลงไปอีก )
ส่วนคนอ้วนที่เขาโยโย่ ลึกๆแล้วคือ ภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลินหรือเตาเผาน้ำตาลของเขามีปัญหาอยู่นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้คนอ้วนยังคงอ้วนต่อไปถ้าไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และคนผอมทั้งโลกยังคงผอมต่อไป เพราะไม่สามารถใช้วิธีอดอาหารหรือกินแป้งน้อยเพื่อให้ตัวเองอ้วนขึ้นได้ครับ
มาถึงจุดนี้ทุกคนคงตั้งคำถามว่า แล้วเราจะแก้ปัญหา บอกลาความอ้วนได้อย่างไร?
โค้ชกรณ์แนะนำปรับอาหารเปลี่ยนพฤติกรรม ซ่อมเตาเผาก่อนถึงจะกลับไปกินคาร์โบไฮเดรตแป้งน้ำตาลได้เหมือนเดิมดังนี้ครับ
1.)จัดการที่ต้นเหตุของปัญหาก่อนครับคือ คุณต้องงดแป้งแปรรูปและน้ำตาล เช่น ขนม,เครื่องดื่มหวาน ทานแต่คาร์บเชิงซ้อน(จำกัดปริมาณ)
เพราะคาร์บแปรรูปและน้ำตาลกระตุ้นอินซูลินสูงมาก ทำให้อินซูลินที่สูงผิดปกติ กลับมามีระดับปกติได้ยาก
ทำไมลดไขมันจึงต้องใช้คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน?
คนที่มีปัญหาระบบเผาผลาญ คาร์โบไฮเดรตแป้งน้ำตาล มีภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน แป้งน้ำตาลที่กินจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันใหม่ได้ง่ายผิดปกติ เขากิน คาร์โบไฮเดรตแป้งน้ำตาลนิดหน่อยก็อ้วนแล้วครับ
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจึงเข้ามามีบทบาทในการใช้เพื่อลดไขมันจากใยอาหารที่มีปริมาณสูง
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนคือคาร์โบไฮเดรตธรรมชาติไม่ผ่านการขัดสีแปรรูป ใยอาหารยังคงอยู่เหมือนเดิม เช่น ข้าวกล้อง ฟักทอง มัน เผือก แครอท ข้าวโอ๊ต ธัญพืช ข้าวโพด ควินัวฯลฯ
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเหล่านี้มีใยอาหารสูงจึงย่อยช้ากว่า ทำให้แป้งทยอยเปลี่ยนเป็นน้ำตาลอย่างช้าๆ น้ำตาลจึงทะลักล้นกระแสเลือดจนอินซูลินต้องรีบเอาไปเปลี่ยนเป็นไขมัน ไขมันใหม่จึงเกิดขึ้นได้ยาก
ยิ่งหากคุณมีปัญหาภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ฮอร์โมนอินซูลินส่งน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ได้ยากอยู่แล้ว จึงช่วยให้อินซูลินมีเวลาจัดการน้ำตาลได้นานขึ้น ไม่เอาไปเก็บเป็นไขมันลูกเดียว
ใยอาหารในคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเหล่านี้ยังช่วยให้ คุณอิ่มนานเพราะจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ต่างกับคาร์โบไฮเดรตแปรรูปที่ทำให้คุณหิวบ่อยครับ
ด้วยคุณสมบัตินี้ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจึงเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ควรใช้ในคนที่ระบบเผาผลาญมีปัญหาครับ
2.)งดอาหารระหว่างมื้อ งดกินจุบจิบ กินเฉพาะในมื้อเท่านั้น
การกินระหว่างมื้อ การกินจุบจิบนอกมื้อ เป็นการเพิ่มยูนิตฮอร์โมนอินซูลินมากขึ้น เมื่อมีฮอร์โมนอินซูลินในเลือดให้มากขึ้น ผลเป็นอย่างไรทุกคนคงทราบแล้วนะครับ
คีย์สำคัญของการเผาไขมันเก่า คือการลดระดับอินซูลินที่สูงผิดปกติให้ลดลงตกเป็นปกติ โดยการทำข้อ1เป็นสิ่งแรกคือ ใช้คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และ ของดกินระหว่างมื้อไม่เพิ่มยูนิตอินซูลินมากขึ้น เพราะลำพังการมีภาวะดื้ออินซูลิน อยู่อินซูลินในเลือดก็มากอยู่แล้ว จึงไม่ควรสมทบมากขึ้นไปอีก แล้วต่อไปเป็นข้อ 3 ตัวนี้สำคัญมากครับ
3.)ควรทำ intermittent fasting ทุกวัน1-2ปี หรือทำตลอดไป
ช่วยให้เซลล์ในร่างกาย sensitive ต่อฮอร์โมนอินซูลินสูงขึ้น ฮอร์โมนอินซูลินสามารถส่งน้ำตาลเป็นพลังงานได้ง่ายขึ้น คุณก็จะไม่อ้วนง่าย
ต่อไปเป็นข้อ 4 เรายังจำเป็นต้องลดระดับอินซูลิน ที่สูงผิดปกติในทุกมิติต่อไป
1
4.)ทานผักมื้อละ200-300กรัมทุกมื้อ( ผักในปริมาณมากๆจะช่วยลดระดับอินซูลินที่สูงผิดปกติให้กลับมาทำงานปกติ การกินผักเยอะๆในทุกมื้อ เป็นคีย์สำคัญที่จะทำให้คุณผอมได้อย่างถาวรครับ)
ในเรื่องอาหารและการทำIF เพื่อลดระดับอินซูลินก็จบแล้วนะครับ แต่มีอีกข้อหนึ่งที่โค้ชไม่ได้เขียนไว้คือการกินสารอาหารสำคัญให้เพียงพอ ได้แก่โปรตีนไขมันดีกินให้ครบนะครับ เราทะเลาะกับไขมันแล้วฮอร์โมนอินซูลินที่สูงผิดปกติ ส่วนอวัยวะสำคัญสำคัญอื่นๆยังคงต้องใช้สารอาหารสำคัญให้เพียงพอ อย่าให้อวัยวะสำคัญๆและเซลล์ทั่วร่างกายเหล่านั้นพลอยเดือดร้อนไปด้วย (ส่วนแร่ธาตุและวิตามินได้จากผักในปริมาณสูงอยู่แล้วครับ)
1
5.)ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อมีพื้นที่เก็บพลังงานคาร์โบไฮเดรตแป้งน้ำตาลในกล้ามเนื้อมากขึ้น เพื่อเอาไว้เป็นแก้มลิงรองรับคาร์โบไฮเดรตแป้งน้ำตาลที่อาจจะเกินจากการกินเพลินของคุณ
การมีพื้นที่เก็บไกลโคเจนซึ่งเป็นถังเก็บพลังงานคาร์โบไฮเดรตในกล้ามเนื้อมากพอ จะทำให้ กระบวนการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล น้ำตาลเก็บเป็นไขมันที่สูงผิดปกติจากภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ลดระดับความรุนแรงลงได้อีกแรง
การออกกำลังกายจะช่วยเสริมให้การเปลี่ยนโครงสร้างอาหารเพื่อแก้ปัญหาระบบเผาผลาญ มีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณทำตามข้อแนะนำทั้ง 5 ข้อนี้คุณถึงจะผอมได้อย่างถาวรครับ
บทนี้เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายแล้วนะครับ โค้ชขอฝากหลักคิดไว้
ความสำเร็จเกิดจากการความคิดของคุณ ที่คุณสามารถคิดหาวิธีจนสามารถเอาชนะสิ่งที่ครั้งหนึ่งคุณเคยคิดว่า การจะได้มันมาต้องหาวิธีเพื่อจะได้มันมาให้ได้
ความสำเร็จจึงไม่ใช่การดันทุรัง เหนื่อย จมอยู่กับวิธีคิดเดิมๆที่ต้องใช้ความพยายามทั้งๆที่มองไม่เห็นความสำเร็จ พยายามแล้วยังมืดมนอยู่
แต่ความสำเร็จ มันอยู่ที่คุณสามารถเปิดใจคิดหาวิธีใหม่ๆที่ทำแล้วรู้สึกว่ามีความหวังจากผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในทุกวันโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม
💙ขอบคุณที่ติดตามครับ
ผมโค้ชปกรณ์ สอนลดน้ำหนักด้วยวิธีคุมอาหาร กูรูลดไขมันโดยไม่ใช้ยา
เพื่อนๆที่ติดตามโค้ช จะได้รับความรู้และ How to เรื่องลดน้ำหนักได้ที่นี่
🔻สำหรับเพื่อนๆที่อยากผอมไว อยากได้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้หุ่นดี ผอมถาวรตลอดไป
แนะนำใช้ทางลัด ลงคอร์สผอมไวไม่ใช้ยา หุ่นดีด้วยวิธีคุมอาหาร
-ไม่ใช้อาหารเสริม ไม่ใช้เวย์ หรือโปรตีนเชค ใช้เนื้อสัตว์และผักเทคนิคที่หาซื้อง่ายตามตลาดทั่วไป
-น้ำหนักลดลงทุกวัน พุงยุบหน้าท้องแบนราบไวโดยไม่ต้องออกกำลังกาย
-น้ำหนักหยุดนิ่งมานาน ลดยากแค่ไหน ก็ลดลงได้ตั้งแต่วันแรกที่ปฏิบัติ และลดลงต่อเนื่องทุกวันไม่หยุดนิ่งครับ
🔺️ สมัครคอร์สของไว้ไม่ใช้ยา 
🔹️ราคาคอร์ส5,000บาทโปรโมชั่นพิเศษ 3,000บ ระยะเวลา 1 ปี
🔹️ราคาสุดค้มเพราะผอมจริง ลาออกจากการเป็นคนอ้วนที่นี่ได้เลย❗
🔹️ ค่าคอร์สถูกกว่าค่าขนมต่อเดือนของคุณซะอีก
🔹️เข้าคอร์สแล้วเตรียมเก็บเงินเปลี่ยนเสื้อผ้ายกตู้ได้เลย
👉อยากผอมไวทักโค้ชด่วน!
ID LINE @208hjoow
(โค้ชเทรนเอง ไม่มีแอดมินครับ)
ติดตามโค้ชทาง 4 ช่องทางนี้ครับ
Instagram : @coach_pakorn
facebook : โค้ชปกรณ์
Twitter : @cosmetic_of_p
blockdit : สอนลดน้ำหนักด้วยวิธีคุมอาหาร https://t.co/Rui8I9FW5S
อ้อลืมไป โค้ชขอแถมข้อมูล How to กินเจอย่างไรให้ผอมลงโดยกล้ามเนื้อไม่หาย?
อาหารเจโดยทั่วไปมักจะมีแป้งและน้ำตาลสูง เพราะโดยเฉพาะโปรตีนพืช โปรตีนเกษตรจะมีคาร์โบไฮเดรตแอบแฝงอยู่ไม่น้อย
ถ้าเพื่อนๆกินเจด้วยการทำอาหารด้วยตัวเองก็จะได้อิ่มทั้งบุญและผอมลงในช่วงเทศกาลนี้
แต่ถ้ากินอาหารเจที่ไม่ได้ทำเอง อาจจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ในเทศกาลนี้เช่นกันครับ
มาเข้าถึงวิธีการกินเจอย่างไรให้ผอมลงกันนะครับ ลำดับแรก"กินโปรตีนถึง = บล็อคกล้ามเนื้อไม่ให้หายครับ"
ไม่ต้องกังวลเรื่องคาร์โบไฮเดรต ไม่ต้องสนใจการกินแป้ง กินเส้น เพราะคุณก็จะได้จากพืชผักที่คุณกินอยู่แล้ว คุณจึงโฟกัสไปที่กินโปรตีนให้เพียงพอ ควรเน้นแต่โปรตีนให้ถึงเข้าไว้ โดยนำข้อมูล โปรตีนจากพืชด้านล่างนี้ไปประกอบการกินเจนะครับ
🥦ผักที่มีโปรตีนต่อ 100 กรัม
กะหล่ำดอก2g
ถั่วพู2g
บล็อกโคลี่3g
หน่อไม้ฝรั่ง3g
ผักโขม,ปวยเล้ง3g
เคล/คะน้า3g
ถั่วงอก3g
ตำลึง3g
เห็ด4g
เต้าหู้ขาว8G
ถั่วแระญี่ปุ่น17g
ต้นอ่อนทานตะวัน20g
ถั่วแดง24g
ถั่วเหลือง29g
สมมุติคุณต้องการโปรตีน 50กรัม คุณอาจต้องกินบล็อกโคลี่ถึง 1.5 กิโลกรัมถึงจะได้โปรตีนที่เพียงพอในแต่ละวัน ( หลายคนคงโอ้โหจะกินยังไงหมด?!!)
นี่แหละครับคือสาเหตุอย่างหนึ่งที่กินเจแล้วกล้ามเนื้อหายเพราะโปรตีนไม่ถึง จนกล้ามเนื้อหาย อัตราเผาผลาญต่ำลง หลังจากเทศกาลกินเจทั้งอ้วนขึ้นและลดน้ำหนักยากขึ้นอีกต่างหาก
ทีนี้ถ้าเรากินผักอย่างเดียวเพื่อรับโปรตีนเราอาจจะกินไม่ไหวหรอกครับมันมากถึง 1.5 กิโลกรัม วิธีก็คือแบ่งทอน 50% เป็นกลุ่มธัญพืช
แต่ถ้าเราทานในกลุ่มธัญพืช ซึ่งมีโปรตีนสูงเช่นเราทานถั่วแดง 200 กรัมเราจะได้โปรตีนที่เพียงพอในแต่ละวัน แต่เราก็จะได้คาร์โบไฮเดรตสูงไปด้วย
โค้ชแนะนำให้ทานกลุ่มถั่ว 100กรัมจะได้โปรตีนเกือบครึ่งหนึ่งของความต้องการแล้ว
ต่อจากนั้น เพิ่มผักตามรายชื่อด้านบนอีก~1000กรัม แบ่งเป็นมื้อละ 250-300กรัม( 3-4มื้อ) ถึงจะได้โปรตีนครบถ้วนกล้ามเนื้อไม่หายครับ
การกินพืชผักมีเยอะๆ กินมื้อย่อยๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องกระตุ้นอินซูลินสูงนะครับ เพราะในตัวผักเองมีใยอาหารสูงคอยขัดขวางอินซูลินให้อยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว
คุณอาจจะใช้น้ำมันมะพร้าว,น้ำมันมะกอกตามโควตาเพื่อเติมเต็มความอิ่ม แต่ถ้าคุณใช้น้ำมันพืชอื่นๆคุณอาจจะอ้วนง่ายกว่า
แต่ถ้าคุณรู้สึกอยู่ท้อง ก็ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมัน มะพร้าวและน้ำมันมะกอก เพราะเราใช้น้ำมัน 2 ตัวนี้เพื่อเติมเต็มความอิ่มเท่านั้น ให้คุณประกอบอาหารผ่านความร้อน เช่น ผัดด้วยน้ำ หรือต้มลวกนึ่งแทน ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
จากนั้นการปรุงรสคุณก็ใช้เครื่องปรุงแบบเจ อย่าเผลอไปใส่น้ำปลาเข้าให้นะครับ
ทำแค่นี้คุณก็จะสามารถผอมลงอย่างมีสุขภาพดี ได้ทั้งอิ่มบุญ และลาออกจากความอ้วนในเทศกาลนี้ไปพร้อมกัน
💚 โค้ชปกรณ์ "โค้ชที่ช่วยให้คุณผอมได้จริง"
💙 ขอให้เพื่อนๆพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกวัน ขออวยพรให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักนะครับ
โฆษณา