21 ก.ย. 2021 เวลา 10:20 • ความคิดเห็น
เค้าว่ารัฐบาลลุง "ขายชาติ" ???
ที่จริงข่าวว่ารัฐบาลมีแนวทางจะเปิดช่องให้ต่างชาติเข้ามาครอบครองอสังหาริมทรัพย์บางประเภท บางพื้นที่ ได้มากขึ้น มันมีมานานแล้วนะ ตั้งแต่ช่วงต้นปี
แต่มีเสียงวิจารณ์ตามมามากมายตอนนี้ น่าจะเพราะใกล้ถึงวาระพิจารณาของสภา
ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองลุงก็อาศัยจังหวะสับแหลก ถึงกับใช้คำว่า "ขายชาติ" กันเลยทีเดียว
...ผมเองอยู่ในธุรกิจก่อสร้าง เคยผ่านงานบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่มาพอสมควร และปัจจุบันยังเกี่ยวข้องเป็นซัพพลายเออร์อยู่เหมือนกัน
คิดว่าก็พอจะรู้อะไรบ้าง เลยอยากออกความเห็นเรื่องนี้สักหน่อยแล้วกัน....
เอาประเด็นแรกเลย คือ "ขายชาติ" หรือไม่?
อันนี้ผมไม่ค่อยเห็นด้วยว่าลุงขายชาตินะ ค่อนข้างเป็นการกล่าวหาที่รุนแรงไปสักหน่อย
คือ ต่างชาติเองก็ยังไม่สามารถครอบครองที่ดินได้ แค่สามารถครอบครอบที่พักอาศัยได้เท่านั้น ทางเทคนิคมันก็คงเรียกว่าขายชาติ ขายแผ่นดินไม่ได้หรอก
...แต่ถ้าบอกว่า เป็นการเปิดโอกาสคนต่างชาติเข้ามาหาประโยชน์กับคนไทยรึเปล่า อันนี้ต้องตอบว่าใช่ ...
เพราะในกรณีที่ชัดเจนที่สุด คือ การเพิ่มสัดส่วนการครอบครองโครงการจำพวกคอนโดมิเนียม
มันมีความเป็นไปได้สูง ที่ต่างชาติจะซื้อเพื่อปล่อยเช่า เก็งกำไร ซึ่งถ้าคนไทยต้องเช่าเขา มันก็น่าเจ็บใจอยู่เหมือนกัน....
จำเป็นไหม ที่ต้องทำแบบนี้?
อันนี้ไม่ใช่เห็นแก่ตัว หรือเชียร์ลุง แต่ผมต้องบอกตามตรงว่า ค่อนข้างจำเป็น
ที่ต้องพูดแบบนี้ เพราะวงการอสังหาริมทรัพย์นั้น มีการจ้างงานจำนวนมาก ทั้งจากตัวผู้ประกอบการเอง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เรียกว่าตั้งแต่จับกังโรงปูน ยันระดับบริหารนั่นแหละ น่าจะเยอะกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่นเลยด้วยซ้ำ
ที่สำคัญคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใช้ทุนจำนวนมาก มันจึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับระบบการเงิน การธนาคารมูลค่ามหาศาล ถ้าเขาล้ม มันจะกระทบเป็นลูกโซ่ไปหมด
2
...ตัวอย่างที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันที่จีนคือกรณีของ Evergrande นั้น คือตัวอย่างที่ดีมาก ในกรณีว่า บริษัทพวกนี้ล้ม
...หรือถึงไม่ล้ม แต่การที่เขาขายของเก่าไม่ออก การเริ่มโครงการใหม่ ที่จะมาช่วยการจ้างงานหรือชำระหนี้สิน มันก็จะยาก ซึ่งจะส่งผลกับเศรษฐกิจโดยรวมไปด้วย...
...เมื่อกำลังซื้อคนไทยไม่พอ ที่จะทำให้ธุรกิจตรงนี้เดินได้ โควิดก็ซ้ำเติมอีก
... มันจึงค่อนข้าง "จำเป็น" ที่จะเปิดโอกาสให้ทุนจากนอกหมุนเข้ามา เพื่อกระตุ้น....
อาจจำเป็น แต่ไม่น่าช่วยเท่าไหร่ ....
ที่จริงแล้ว การเอาผลกระทบจากโควิดมาอ้างนั้น ผมมองว่าเป็นการมั่วนิ่มตามน้ำ จับปลาน้ำขุ่นมากกว่า
คนในวงการทราบดี ว่าในเขตกรุงเทพฯนั้น ภาวะคอนโดฯ บ้านจัดสรรล้นตลาดนั้น มันเกิดขึ้นมานานแล้ว
แถมปั่นราคากันจนเป็นฟองสบู่
เรียกว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่นี่แหละ เล่นกันเองทั้งนั้น รู้อยู่แก่ใจแหละ
รัฐบาลก็ผิด ที่ไปสร้างรถไฟฟ้าแบบบ้าคลั่งทีเดียวหกสาย
พอรถไฟฟ้าสร้างพวกนี้ก็เลยกระหน่ำลงทุนกันตามไปด้วย แถมปั่นราคากันแบบมหาโหด แบบไร้การควบคุม
...โดยสรุป จะพูดว่า ทั้งรัฐและยักษ์อสังหาริมทรัพย์ สร้างภาวะนี้ขึ้นมาเอง แต่ตอนนี้กลับมาผลักความเสี่ยงนั้นออกไปให้ทุกคนในประเทศ แบบนั้นก็ได้...
2
... ความเสี่ยงที่ว่า ที่เกิดกับชาวบ้าน คือ เมื่อเกิดเรื่อง ธุรกิจส่วนนี้มีปัญหาเอง จนต้องไปเอาต่างชาติเข้ามาช่วยเพื่อให้ตัวเองรอด แล้วเอาความเสี่ยงที่จะต้องซื้อบ้านแพง มาให้ประชาชนแทน...
...โดยอาศัยว่าใหญ่ ใหญ่เกินจะล้ม ถ้าล้มวายวอดกันหมด มาขู่ บังคับประชาชน ให้เห็นด้วย...
...ผมถึงบอกว่า มันจำเป็นต้องช่วย แต่ที่จริง ไม่ได้น่าช่วยซะเท่าไหร่ สร้างปัญหากันมาเองทั้งนั้น...
1
...มันเหมือนรัฐบาลรวมหัวกับนายทุน จับเศรษฐกิจโดยรวมมาเป็นตัวประกันมาข่มขู่คนไทยนั่นแหละ....
...แต่ก็นั่นแหละ ทำไงได้ล่ะ ใหญ่จริงนี่...
ผลกระทบกับคนไทยคืออะไร?
โดยตัวมันเอง เนื้อหาของเงื่อนไข มันเหมือนจะไม่กระทบ
แต่ในความเป็นจริง มันจะต้องไปดันราคาที่อยู่อาศัยให้สูงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
ในกรณีนี้ แม้ต่างชาติจะซื้อที่ดินไม่ได้ แต่การเข้ามาย่อมทำให้ที่ดินบริเวณนั้น มีราคาดีดสูงไปด้วย จากความต้องการเข้ามาค้าขายกับคนเหล่านี้ ที่มีกำลังซื้อสูง
ซึ่งแน่นอน ค่าเช่าที่ดินเพื่อประกอบธุรกิจต่างๆ มันก็จะสูงขึ้น และเมื่อต้นทุนส่วนนี้สูงขึ้น ข้าวของ บริการ ที่ชาวบ้านจะซื้อหา มันก็ต้องแพงไปด้วยเหมือนกัน
และหากโครงการเก่าๆ ขายหมด ก็อาจเกิดการกว้านซื้อที่ดินเพิ่มอีกของบรรดาผู้ผลิตอาคารพักอาศัยเหล่านี้ เพื่อมาสร้างเพิ่ม ขายใหม่อีก....ซึ่งนั่นจะยิ่งเป็นการดันราคาให้สูงขึ้นโดยตรง
ปรากฎการณ์ ปั่นแบบนี้ เคยเกิดขึ้นแล้วทั้งในเอเชียคือฮ่องกง และในยุโรปคือลอนดอน
1
ที่ปั่นกันซะจนคนทัองถิ่น ไม่มีปัญญาเข้าถึงที่อยู่อาศัยดีๆ ต้องระเห็จไปอยู่รอบนอกหมด
1
...เรื่องที่น่าห่วง จึงไม่ใช่ว่าต่างชาติจะยึดครอง แต่เป็นเรื่องคนไทยเข้าไม่ถึงที่อยู่ แชะค่าครองชีพที่จะสูงตามซะมากกว่า...
...นี่แหละคือกรรมที่ชาวบ้านอาจต้องรับ...
แล้วมันจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆเหรอ?
ผมว่ามันก็คงช่วยได้บ้างแหละ อย่างผมเองที่ทำธุรกิจด้านนี้ ก็คงได้งานตบแต่งภายในกลับมาพอสมควร
...ที่จริง โครงการนี้ดีกับผมนะ และน่าจะดีกับคนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องทุกคนด้วย การจ้างงานมันก็ต้องมากขึ้นไปด้วย...
แต่ปัญหาที่ตามมาต่อสังคม ผมว่าคนในวงการกึคงเห็นแก่ตัวแล้วเห็นด้วยกับเรื่องนี้ ได้ไม่สนิทใจหรอก
ผลกระทบตามมา มันคุ้มกับสิ่งที่ได้หรือไม่มันค่อนข้างบอกได้ยากมากจริงๆ
มันคงดี ถ้าเราปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกได้ โดยไม่ต้องสนว่ารายใหญ่จะเจ๊งหรือไม่
เพราะถ้าเป็นไปตามกลไก ที่พักอาศัยล้น มันก็จะถูกลง คนก็เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
หรือถ้าที่ดินกรุงเทพแพงเกินไป ทำให้ไม่คุ้มค่าการลงทุน ก็มีส่วนดี ที่กลไกนี้มันจะให้ผลักธุรกิจออกไปรอบนอก รวมถึงต่างจังหวัดมากขึ้น
ที่จริงกลไกมันควรเป็นแบบนั้น และมันมีข้อดี มากนะถ้าทำได้...
ปัญหาคือ เราทำแบบนั้นไม่ได้ เหตุผลก็อย่างที่บอกไปแล้ว
...ปั่นกันจนเวอร์ ทำกันจนเละแบบไร้การควบคุม...
...พอเจ๊งเอาเศรษฐกิจภาพรวมมาขู่ประชาชน...
...ก็ใครทำไว้ล่ะ??? ...
ยืมคำพูดนายกฯหน่อยเหอะ อยากถามท่านบ้างด้วยคำถามเดียวกันนี่แหละ
แล้วมันใช่เรื่องไหม ที่คนไทยส่วนมากต้องมารับกรรม ถ้าที่อยู่มันแพงขึ้น ?
ที่ดินคือต้นทุนครับ ถ้าที่ขึ้น ค่าเช่าแพง คนเช่าขายของเขาก็ต้องขายแพงขึ้นด้วย
...ท่านจะทำอย่างไร ไม่ให้มันเป็นงั้น มีแนวทางรึยัง?...
...ชอบมองปัญหาแยกส่วนจริงๆนะพวกท่านน่ะ คิดบ้างครับ...
...ก็หวังว่าจะไม่ประกาศใช้จริงจังนะ กับมาตรการนี้ ชะช่วยอสังหาริมทรัพย์ หาทางอื่นเหอะ
...แล้วอย่ามาอ้างแบบมักง่าย ขุ่ยๆเลยนะ ว่าปกติก็มีนอมินึต่างชาติถือแทนเยอะอยู่แล้ว แบบนี้ก็ไม่ต่างกัน แค่ทำให้เป็นเรื่องถูกต้อง ถูกกฎหมาย...
...ฟังคำตอบแบบนี้ในทีวีแล้วมันจี้ดครับ...
...แล้วหมาตัวไหนมันดูเรื่องนี้ฟะ ทำไมนอมินีเยอะล่ะ...
...ถ้าทีวีเครื่องละบาท ผมคงโดดถีบกระจุยไปแล้วตอนได้ยินคำตอบ ตรรกะป่วยมาก...
สรุป
ลุงไม่ได้ขายชาตินะครับ ต่อให้ประกาศใช้มาตรการนี้ก็ไม่ใช่
...แค่โยนภาระเศรษฐี มาให้คนเดินดินกินข้าวแกง ก็เท่านั้นเอง...
1
...ไหน ใครว่าลุงขายชาติ...
...ปั้ดโถ่ว....เดี๋ยวทุ่มด้วยโพเดี้ยมเลย🤣🤣🤣....
โฆษณา