22 ก.ย. 2021 เวลา 10:41 • ประวัติศาสตร์
*** นับถือเจ้าแม่กวนอิม ห้ามกินวัวจริงหรือ? ***
ผู้ที่นับถือเจ้าแม่กวนอิมในประเทศไทยมักมีความเชื่อว่า ไม่ควรกินเนื้อวัวเพราะเป็นสัตว์ใหญ่จะเป็นบาปหนา
น่าแปลกที่ผู้นับถือเจ้าแม่กวนอิมในประเทศอื่นก็ยังกินเนื้อวัวกันอยู่มาก และเมื่อเราศึกษาประวัติศาสตร์ไปแล้ว จะพบว่าความจริงความเชื่อดังกล่าว มีรากเหง้าอันซับซ้อน
เรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร? เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจกันครับ
*** ตำนานเจ้าแม่กวนอิม ***
เจ้าแม่กวนอิม เป็นเทพีจีนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “พระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา” เชื่อว่าพัฒนามาจากพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
รายละเอียดตำนานเจ้าแม่กวนอิมมีอยู่หลายกระแส แต่ตำนานฉบับที่ได้รับการเผยแพร่มากในประเทศไทยนั้น มาจาก “หนังสือกวนอิม พระโพธิสัตว์แห่งการุณย์” โดย เสฐียรโกเศศ ซึ่งเขียนขึ้นตั้งแต่ปี 1952 มีเนื้อหาใกล้เคียงกับตำนานพื้นเมืองเซียงซาน
นิทานพื้นเมืองเซียงซานเป็นเอกสารโบราณสมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960 – 1279) เล่าว่าแต่เดิมมีอาณาจักรแห่งหนึ่งชื่อ "ซิ่งหลิน"
ฮ่องเต้ทรงพระนามว่าเมี่ยวจวง ทรงบนบานขอโอรสโดยฆ่าวัวและม้าเป็นเครื่องสังเวย แต่ไม่สมหวัง เพราะได้แต่พระธิดา 3 พระองค์ มีพระธิดาองค์หนึ่งชื่อเมี่ยวซ่าน เป็นผู้ฝักใฝ่ธรรมะ
ภาพแนบ: ภูเขาชื่อเซียงซานอยู่ในไต้หวัน ไม่แน่ว่าตั้งชื่อตามตำนานหรือไม่
เมี่ยวซ่านขัดพระราชประสงค์พระบิดาที่จะให้อภิเษกสมรส โดยไปขอปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่ง ฮ่องเต้พิโรธจึงสั่งเผาวัด ฆ่านักบวชและเมี่ยวซ่านเสีย แต่ยมบาลให้วิญญาณองค์หญิงกลับเข้าร่างไปปฏิบัติธรรมต่อ ซึ่งเมี่ยวซ่านก็ได้ไปปฏิบัติธรรมที่เขาเซียงซาน
1
ส่วนฮ่องเต้นั้นได้รับผลกรรมทำให้ประชวรเป็นโรคที่รักษาไม่หาย มีผู้บอกว่าต้องใช้โอสถจากดวงตาและมือของเทพที่เขาเซียงซานมารักษาจึงจะดีขึ้น ฮ่องเต้จึงเดินทางไปที่เขาแห่งนั้นโดยไม่ทราบว่า “เทพแห่งเขาเซียงซาน” คือธิดาของพระองค์เอง
ด้านเมี่ยวซ่านยอมสละดวงตาและมือให้ไปรักษาพระบิดา ครั้นฮ่องเต้ทราบเข้าก็สำนึกผิดกลับใจทำดี สละราชสมบัติไปปฏิบัติธรรมด้วยพระองค์เอง
ส่วนผลบุญของความเสียสละทำให้เทพธิดาเมี่ยวซ่านมีดวงตาและมือใหม่ที่สวยงามกว่าเดิม สำหรับตำนานฉบับไทยมีการดัดแปลงเล็กน้อย โดยเติมว่าพระพุทธเจ้าปรากฏพระวรกายและประกาศให้เมี่ยวซ่านเป็นพระโพธิสัตว์ผู้มาโปรดสัตว์โลก
...ณ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกี่ยวกับการกินเนื้อวัว...
*** กระแสงดเนื้อวัวในเมืองจีน ***
หากศึกษาประวัติศาสตร์จีน จะพบว่าในเมืองจีนจะมีความเชื่อเกี่ยวกับการห้ามกินเนื้อวัวอยู่ก่อนแล้ว โดยมีทั้งเกี่ยวและไม่เกี่ยวกับเจ้าแม่กวนอิม เช่น:
- ความเชื่อ “หนิวเจี้ย” ซึ่งมาจากเรื่องเล่าว่ามีแม่ทัพคนหนึ่งซึ่งป่วยอยู่ฝันว่าหากเลิกกินเนื้อวัวแล้วจะทำให้ตนหาย เมื่อหายป่วยแล้วจึงได้เผยแพร่ความเชื่อนี้ไปอย่างกว้างขวาง
ภาพแนบ: อี๋เจียนจื้อ นำมาตีพิมพ์ใหม่
- ตามเอกสาร อี๋เจียนจื้อ (Yijian Zhi) สมัยราชวงศ์ซ่ง บันทึกความเชื่อเรื่องการงดกินเนื้อวัวถวายเจ้าแม่กวนอิมว่า เกิดจากหญิงคนหนึ่งฝันเป็นนัยว่าที่บุตรของตนเสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็กนั้นเพราะกินเนื้อวัว ต่อมาจึงได้งดเสียและได้เลี้ยงบุตรจนเติบใหญ่สมประสงค์
- กฎหมายของราชสำนักจีนบางยุคเช่นยุคราชวงศ์เหนือใต้ที่ห้ามฆ่าวัว เพื่อปกป้องวัวในฐานะเครื่องมือทางการเกษตร แต่ก็ไม่ได้ห้ามกิน และมีเป็นบางพื้นที่ บางพื้นที่ยังมีเอกสารที่พูดถึงเมนูเนื้อวัว
- เอกสารตงจิงเมิ่งหัวลู่ ที่เขียนในยุคราชวงศ์ซ่ง บรรยายตลาดขายเนื้อในยุคนั้นอย่างละเอียด แต่กลับไม่มีพูดถึงเนื้อวัว แสดงถึงการที่คนจีนไม่นิยมกินเนื้อวัว
- การกินเนื้อวัวอาจมีเรื่องของชนชั้นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยสมัยก่อนมีเฉพาะคนจีนที่มีอันจะกินเท่านั้นที่เข้าถึงเนื้อวัวได้ นานๆ ไปคนจึงมิได้พัฒนาสิ่งนี้เป็นวัฒนธรรมกระแสหลัก
ภาพแนบ: กุบไลข่าน หลานเจงกิสข่าน ผู้ก่อตั้งราชวงศ์หยวน
อย่างไรก็ตามในยุคราชวงศ์ของชาวต่างชาติ คือ หยวน (ซึ่งเป็นมองโกล) กับชิง (ซึ่งเป็นแมนจู) มีหลักฐานการกินเนื้อวัวกันมาก
*** ตัดเข้าช่วงโฆษณา ***
ขอโฆษณาว่าหนังสือ "ประวัติย่อก่อการร้าย War on Terror" ที่พิมพ์ครั้งก่อนขายหมดจากตลาดไปนานแล้ว มีแผนจะพิมพ์ใหม่ปลายปีนี้นะครับ
ตอนแรกว่าใกล้ๆ เสร็จแล้วค่อยทำโปร แต่เหตุการณ์ในอัฟกานิสถานและรำลึก 9/11 ทำให้มีคนถามมาเยอะเหลือเกิน เลยเปิดให้จองก่อน
- หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องประวัติของขบวนการก่อการร้ายสากลตั้งแต่ยุคอัลเคดามาต่อ ISIS
- ผมตั้งใจจะเพิ่มเนื้อหาให้อัพเดทถึงปัจจุบัน
- พิมพ์เป็นสี่สีแน่นอน
- ปกพิมพ์สีเมทัลลิก ปั้มนูนและปั้มเงินที่ชื่อเหมือนเล่มสุริยันพันธุ์เคิร์ด รับรองว่าสวยมาก เหมาะแก่การสะสม สำนักพิมพ์ The Wild Chronicles เราพิมพ์เองแล้วจะทำอะไรก็ได้ 555
- มีเซ็นลายเซ็นพิเศษประจำเล่มให้ครับ
- ราคาอยู่ที่ 389 บาท สั่งพรีออเดอร์ตอนนี้ลดเหลือ 369 บาท และฟรีค่าส่งในประเทศ (ปกติค่าส่ง 50 บาทครับ ส่วนต่างประเทศก็ตามจริง)
- สนใจชำระและใส่ที่อยู่ที่ link แนบได้เลย อนึ่งระบบนี้จะมีเมลคอนเฟิร์มไปแต่ช้าหน่อยนะครับ
นอกจากนี้ ขอโฆษณาว่าหนังสือ “สุริยันพันธุ์เคิร์ด” หรือหนังสือเล่มใหม่ของผมออกแล้วนะครับ มีรายละเอียดดังนี้...
- เรื่องนี้เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ชาวเคิร์ด ผลงานเล่มล่าสุดในชุด The Wild Chronicles
- พิมพ์เป็นสี่สี!
- ยาวที่สุดเท่าที่พิมพ์มา ยาวกว่าพยัคฆ์ทมิฬสิ้นชาติราว 2 เท่า
- รูปโหดๆ ที่ทำให้เข้าใจสถานการณ์ดีขึ้น จะไม่เซนเซอร์ แต่จะรวมอยู่ท้ายเล่ม และมีคำเตือนก่อน
- มีลายเซ็นทุกเล่ม!
- ราคา 439 บาท รวมค่าส่งแล้ว
ท่านที่ต้องการพรีออเดอร์สามารถชำระ และใส่ที่อยู่ทาง link แนบได้เลย
อนึ่งชาวเคิร์ดเป็นชนกลุ่มน้อยในตะวันออกกลาง มีราว 30 ล้านคน หากไม่มีประเทศของตนเอง พวกเขาแตกเป็นหลายส่วนและถูกกดขี่อย่างหนัก แต่การถูกกดขี่เคี่ยวกรำนั้นทำให้พวกเขากลายเป็นนักรบที่เก่งกาจ
หนังสือเล่มนี้เขียนเรื่องราวของชาวเคิร์ดตั้งแต่ยุคตำนานจนถึงประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ซึ่งมีความพีคแล้วพีคอีก ผ่านสงครามใหญ่ๆ มากมาย เช่นสงครามอิรัก - อิหร่าน, สงครามอ่าวเปอร์เซีย, สงครามปราบซัดดัม, สงครามกลางเมืองอิรัก, สงครามปราบกลุ่มก่อการร้าย แต่ละสงครามที่ว่ามานี้มีสเกลใหญ่เป็นรองแค่สงครามโลก
ชาวเคิร์ดมีส่วนร่วมในสงครามเหล่านี้ทั้งหมดในฐานะชนกลุ่มน้อยที่ไม่รวยแต่รบเก่ง พอมีคนมาติดอาวุธให้เลยมักกลายเป็นไพ่โจ๊กเกอร์ที่เปลี่ยนผลชี้ขาดของสงคราม
อย่างไรก็ตามศัตรูอันดับหนึ่งของชาวเคิร์ดคือเผด็จการซัดดัม ฮุสเซนนั้นก็โหดมาก โหดโคตรๆ ใครเคยอ่านพยัคฆ์ทมิฬสิ้นชาติ หรือเชือดเช็ดเชเชน ผมบอกได้ว่าไอ้นี่ก็โหดไม่แพ้กัน หรือเผลอๆ โหดกว่า ดังนั้นการต่อสู้ของชาวเคิร์ดมันจึงเป็นเรื่องที่หลอนและดุเดือดมากๆ
หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์ที่ผมได้ไปเยือนดินแดนเคอร์ดิสถานอิรัก (และหนีมิสไซล์มา) เมื่อต้นปี 2020 เพื่อนชาวเคิร์ดที่ผมสัมภาษณ์ทุกคนเป็นผู้รอดชีวิตจากทุกสงครามข้างต้น ทำให้มีข้อมูล ความเห็น และมุมมองของคนต่างๆ ที่ลึกกว่าในตำรา แน่นอนว่าประสบการณ์ของพวกเขาดาร์คมาก แต่เขาหลายคนไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายขนาดนั้น พวกเขาตีความสิ่งที่พบเจออย่างไร ลองตามอ่านดูนะครับ
"สุริยันพันธุ์เคิร์ด" ตั้งใจพิมพ์เป็นสี่สี เป็นหนังสือที่ยาวที่สุดตั้งแต่ผมเขียนสารคดีชุด The Wild Chronicles มา
อีกครั้งนะครับ ท่านที่ต้องการพรีออเดอร์หนังสืออย่างเดียว สามารถชำระ และใส่ที่อยู่ทาง link นี้ได้เลย 439 บาท รวมค่าส่งแล้ว (ในประเทศ) ถ้าบางท่านอยู่ต่างประเทศมีค่าส่งพิเศษจะแจ้งอีกที
แม้การห้ามกินเนื้อวัวไม่ได้มีบัญญัติในศาสนาพุทธมหายาน แต่คนจีนมักถือว่าไม่ควรกินสัตว์ที่เป็นประโยชน์ เช่น ไม่กินวัวซึ่งทำหน้าที่ไถนา, หรือไม่กินสุนัขซึ่งทำหน้าที่เฝ้าบ้าน
ส่วนลัทธิเต๋าเองก็มองว่าวัวควายเป็นปศุสัตว์ที่ทำงานหนักให้คน ควรสำนึกในบุญคุณของพวกมัน ถ้าเลี่ยงกินได้ก็ควรเลี่ยง
จะเห็นว่าความเชื่อเรื่องไม่ทานเนื้อวัวนั้น มักตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่าวัวควายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการนับถือเจ้าแม่กวนอิมเป็นพิเศษ
แม้ตำนานในเอกสารอี๋เจียนจื้อก็เป็นเพียงตำนาน มิใช่เป็นระเบียบ ผู้คนยังสามารถเลือกจะกินหรืองดเว้นตามรสนิยมส่วนบุคคล และแม้แต่ผู้นับถือเจ้าแม่กวนอิมในประเทศจีนทุกวันนี้ก็ยังมีที่กินเนื้อวัวกันอยู่ทั่วไป
ภาพแนบ: โปสเตอร์ซีรีส์ "กำเนิดเจ้าแม่กวนอิม"
*** คนไทยไม่ทานเนื้อวัวเพราะดูซีรีย์? ***
แล้วความเชื่อในไทยที่ว่าผู้นับถือเจ้าแม่กวนอิมห้ามกินเนื้อวัวมาจากไหนกันล่ะ?
ข้อมูลเรื่องนี้ไม่แน่ชัด แต่บางแหล่งชี้ว่ามันมีที่มาจากซีรีส์จีนเรื่อง “กำเนิดเจ้าแม่กวนอิม” ที่เข้ามาฉายในไทยครั้งแรกเมื่อปี 1985 จากนั้นได้รับการเผยแพร่ซ้ำหลายครั้ง
เนื้อหาในซีรีย์ก็เป็นตำนานเจ้าแม่กวนอิมตามนิทานพื้นเมืองเซียงซานดังที่เล่าข้างต้น แต่ดัดแปลงให้มีอรรถรสยิ่งขึ้น
มีฉากหนึ่งที่พูดถึงพระราชบิดาของ “พระนางเมี่ยวซ่าน” ที่ไปเกิดใหม่เป็นวัวเพราะกรรมที่ได้กระทำในชาติก่อน ทำให้เจ้าแม่กวนอิมเลิกเนื้อวัวเพื่อทำบุญให้แก่พระราชบิดา
...เชื่อว่าคนที่ได้ดู โดยเฉพาะผู้ที่นับถือเจ้าแม่กวนอิมอยู่แล้ว ก็พากันยึดถือปฏิบัติตามกันไปด้วย...
สำหรับคำอธิบายที่เป็นไปได้อย่างอื่นเช่น:
- คนจีนในไทยไม่ทานเนื้อวัว เพราะเห็นโฆษณาไถ่ชีวิตวัวควายในสมัยก่อนมีรูปวัวน้ำตาไหล สร้างความสะเทือนใจ จนไม่อยากทาน และต่อมาเอามาเกี่ยวกับเจ้าแม่กวนอิม
- คนจีนในไทยมีพื้นฐานไม่ได้กินวัวมาก่อน (ตามค่านิยมโบราณที่เขียนก่อนหน้า) พออพยพมาไทยก็ปนๆ นิสัยดั้งเดิมกับความเชื่อเจ้าแม่กวนอิม
อนึ่งสาเหตุอาจมีได้หลายสาเหตุผสมกัน และไม่ว่าอย่างไรข้อสุดท้ายนี้มีอิทธิพลไม่มากก็น้อยแน่นอน
*** บทส่งท้าย ***
บทความนี้เขียนขึ้นไม่ได้มีเจตนาเพื่อคัดค้านหรือเปลี่ยนแปลงความเชื่อของท่านผู้อ่านคนใด ท่านที่นับถือเจ้าแม่กวนอิมและเห็นว่าการทานเนื้อวัวเป็นสิ่งไม่ดี ยังงดกินเนื้อวัวได้ตามเดิม
บทความนี้เพียงแต่ต้องการสื่อให้เห็นตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงทางความเชื่อและวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นมาตลอด จนแม้แต่คนนับถือปฏิบัติเองก็มีน้อยคนที่ทราบที่มาที่ไปจริงๆ
ประโยชน์อย่างหนึ่งของการศึกษาประวัติศาสตร์คือทำให้เราเข้าใจตนเองมากขึ้น และสามารถเลือกรับสิ่งที่เราคิดว่าดีมาปรับใช้กับตัวเราได้ แทนที่จะเชื่อหรือทำตามๆ กันโดยไม่ทราบสาเหตุนั่นเอง
::: อ้างอิง :::
- matichonweekly (ดอต) com/column/article_124400
- so03.tci-thaijo (ดอต) org/index.php/gshskku/article/view/249562/169730
ท่านที่สนใจอ่านงานเขียนอื่นๆ ของผมมากกว่าเพียงในเพจนี้ สามารถสมัครเข้ากลุ่ม illumicorgi ได้นะครับ
กลุ่ม illumicorgi เป็นกลุ่มสำหรับลง content พิเศษ สมัครสมาชิกตอนนี้ ท่านจะได้รับหนังสือ "สุริยันพันธุ์เคิร์ด" ผลงานเล่มล่าสุดของผมด้วย
1. ผู้สมัครสมาชิกระดับ Corgi Master จะได้:
• ได้เข้าถึงเนื้อหากลุ่ม illumicorgi ที่มีบทความย่อยลงอยู่เสมอ และบทความใหญ่ลงอย่างน้อยอาทิตย์ละตอน
• ส่วนลดในสินค้าของกลุ่ม The Wild Chronicles
• Priority ในการรับข่าวสารและกิจกรรมของ The Wild Chronicles
• ทุกๆ รอบหกเดือนจะได้รับหนังสือเล่มหนึ่ง ส่งให้ถึงบ้านพร้อมลายเซ็นของผม
แบ่งเป็น:
1.1 แบบครึ่งปี "600 บาท" ได้หนังสือสุริยันพันธุ์เคิร์ด 1 เล่ม และเข้ากลุ่มเป็นเวลา 6 เดือน
1.2 แบบหนึ่งปี "1,100 บาท" ได้หนังสือ 2 เล่ม (คือสุริยันพันธุ์เคิร์ด และอีกเล่มที่จะพิมพ์ปลายปี ตั้งใจจะว่าให้เป็นเรื่องชาวเคิร์ดในตุรกีซีเรีย) และเข้ากลุ่มเป็นเวลา 1 ปี
2. ผู้สมัครสมาชิกระดับ illuminated corgi จะได้:
ทุกอย่างที่สมาชิกระดับ Corgi Master แบบ 1 ปี ได้ และได้ของที่ระลึกจากเคอร์ดิสถานอิรัก เป็น artifact ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของแท้ ได้แก่:
"อินทรธนูของหน่วยเพชเมอร์กา" ซึ่งเป็นหน่วยรบเคิร์ดที่มีชื่อเสียงเรื่องไม่กลัวตาย คำว่า เพชเมอร์กา แปลว่า "ผู้เผชิญความตาย"
สมาชิกระดับ illuminated corgi นี้มีค่าสมัคร 3,000 บาท
ผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิก ให้ชำระทาง link นี้:
Corgi Master 6 เดือน (หนังสือ 1 เล่ม) 600 บาท
Corgi Master 1 ปี (หนังสือ 2 เล่ม) 1,100 บาท
illuminated corgi 1 ปี (หนังสือ 2 เล่ม ได้ของที่ระลึก) 3,000 บาท
หรือชำระที่:
บัญชี บริษัท เดอะไวลด์โครนิเคิลส์ จำกัด ธนาคารกสิกร 078 3 768 666 สาขาบิ๊กซี อ่อนนุช
เมื่อสมัครแล้วให้ส่งสลิปทาง Line OA ด้วยวิธีนี้
(1) กดสมัคร Line OA ของ The Wild Chronicles มาทาง link https://lin.ee/fNEO1jr
(2) กด add เป็นเพื่อน
(3) กด chat
(4) จากนั้น พิมพ์ชื่อที่ท่านใช้ใน Facebook มาทางช่องแชทของ Line OA เพื่อให้ทีมงานบ่งชี้ได้ว่าบัญชีของท่านสมัครมาแล้ว
(5) ให้ส่งสลิปในช่องแชทไว้ด้วย จะมีแอดมินมาคุยกับท่านเพื่อพาเข้ากลุ่ม
*** อนึ่งท่านที่เป็นสมาชิกอยู่แล้ว สามารถติดต่อทาง Line OA หรือ Inbox เพจ เพื่อชำระเงินเพิ่ม เป็นการอัพเกรดสมาชิกได้นะครับ ***
::: ::: :::
สนใจอ่านเรื่องประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตาม เพจ The Wild Chronicles ได้เลยนะครับ https://facebook.com/pongsorn.bhumiwat
โฆษณา