23 ก.ย. 2021 เวลา 09:20 • ประวัติศาสตร์
นิโคไล คุซเนตซอฟ จอมพลเรือที่ถูก(รัฐ)โซเวียตทรยศ
โดย Nakvat Hakimov , 23/09/2021
ภาพจาก : World of Warship
จอมพลเรือ นิโคไล คุซเนตซอฟ ,เป็นนายพลเรือชั้น6ดาว ของสหภาพโซเวียต เป็นผู้นำกองทัพเรือสหภาพโซเวียตช่วงสงครามโลกครั้งที่2 และ ชื่อของเขาได้รับเกียรติให้เป็นชื่อเรือบรรทุกเครื่องบินเรือธงลำแรกของโซเวียตนามว่า เรือบรรทุกเครื่องบิน อัดมิรัล คุซเนตซอฟ ซึ่งปัจจุบันยังคงประจำการในกองเรือเหนือ แห่งกองทัพเรือสหพันธรัฐรัสเซีย
นิโคไล คุซเนตซอฟ เกิดที่เมืองMedvedki เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ปี 1904 ช่วงปลายยุคของระบอบซาร์ ,ครอบครัวของคุซเนตซอฟ เป็นชาวนายากจน ,เมื่ออายุ 15ปี เขาได้แอบสมัครเป็นนายทหารเรือกองเรือของคณะปฏิวัติ โดยโกหกอายุว่า อายุ17ปี เพื่อให้มีสิทธิเข้าเป็นทหารเรือ หลังจากนั้นเขาถูกส่งไปอยู่ที่เปโตรกราด ในปี 1924 เขาได้เข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์ และ ได้ร่วมพิธีศพวลาดีมีร์ เลนิน บิดาแห่งการปฏิวัติโซเวียต
เข้าศึกษาในโรงเรียนทหารเรือมิคาอิล ฟรุนเซ(ปัจจุบันคือ โรงเรียนทหารเรือปีเตอร์มหาราช) ในปี 1926 คุซเนตซอฟ ได้ประจำการบนเรือลาดตะเวนชื่อChervona Ukraina ในยศเรือเอก ในปี 1932 เขาได้กลับเข้าโรงเรียนทหาร และ สำเร็จการศึกษา เขามีสองทางเลือก คือ ทำงานนั่งโต๊ะ หรือ ทำงานบนเรือ เขาสมัครเป็นเจ้าหน้าที่บนเรือลาดตะเวนKrasnyi Kavkaz ภายในหนึ่งปีเขาได้รับเลื่อนตำแหน่ง และ ในปี 1934 เขาได้ขึ้นเป็น นาวาเอก/กัปตันเรือ ของเรือ Chervona Ukraina ซึ่งเป็นเรือลำแรกที่เขาได้ประจำการ
5 กันยายน 1936 คุซเนตซอฟ ได้เข้าร่วมสงครามกลางเมืองสเปน เขาเป็นทูตทหารเรือโซเวียตและที่ปรึกษากองทัพเรือแก่สาธารณรัฐสเปน ในการต่อต้านกองทหารฟาสซิสต์ของฟรานซิสโก ฟรังโก อย่างไรก็ตามสงครามกลางเมืองสเปนจบลงด้วย ความพ่ายแพ้ของฝ่ายสาธารณรัฐ และ ในปี 1938 คุซเนตซอฟ ได้กลับมาประเทศ และรับตำแหน่งเป็น พลเรือโท ประจำการในกองเรือแปซิฟิก และ เผชิญความจริงที่ว่า กองทัพเรือโซเวียตกำลังถูกสตาลินกวาดล้าง
ในวันที่ 28 เมษายน 1939 ,เพียงอายุ 34ปี พลเรือโทคุซเนตซอฟ ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผู้ตรวจการกองทัพเรือโซเวียต หลังผู้บัญชาการก่อนหน้าเขาถูกNKVD จับกุมและประหารชีวิต แม้ว่าสตาลินจะมีทัศนคติเชิงลบต่อ แต่ว่าเหตุการณ์หนึงทำให้เขารอดจากการกวาดล้างของสตาลิน คือ สงครามโลกครั้งที่2
ในช่วงที่นาซีเยอรมัน รุกรานโปแลนด์ คุซเนตซอฟ แสดงความไม่พอใจต่อการเป็นพันธมิตรระหว่างนาซีและโซเวียต รุกรานโปแลนด์ ,คุซเนตซอฟ เชื่อมั่นว่า นาซีจะรุกรานประเทศแม่ของเขา ,1วันก่อนการรุกรานสหภาพโซเวียต ตามรายงาน จอมพลเซมยอน ทิโมเชนโก และ จอมพลกอร์กีย์ จูคอฟ ออกคำสั่งห้ามมีการตอบโต้การยั่วยุของนาซีเยอรมันแก่นายทหารโซเวียต แต่คุซเนตซอฟ เพิกเฉยคำสั่ง และ จัดทัพกองทัพเรือเพื่อเตรียมรับมือการรุกรานของนาซี ในขณะที่มอสโคว์ยังอยากเล่นบทพันธมิตรกับนาซี
เวลา 03.15 เช้าวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 1941 พลเรือโทนิโคไล คุซเนตซอฟ สั่งทหารเรือ ทำการต่อต้านการโจมตี กองทัพเยอรมนีที่กำลังเปิดปฏิบัติการณ์บาร์บารอสซา ในการรุกรานสหภาพโซเวียต กองทัพเรือ กลับเป็นหน่วยทหารหน่วยเดียวที่มีความพร้อมรบสูงสุดในตอนเริ่มการรุกของเยอรมัน ในช่วงที่เกิดความกังวลว่า โซเวียตจะพ่ายแพ้ สตาลินออกคำสั่งให้ทำลายเรือรบทุกลำของสหภาพโซเวียตในทะเลบอลติก หวั่นว่า นาซีผู้ชนะ จะได้เรือเหล่านั้นไปใช้ หากโซเวียตแพ้สงคราม แต่คุซเนตซอฟ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง และ ในช่วงแรกของแนวหน้า เขาเป็นนายทหารอาวุโสคนเดียว ทำให้เขาได้เป็น กรรมธิการประชาชน ผู้บัญชาการกองกำลังโซเวียตปกป้องมาตุภูมิ ซึ่งผิดจากสายบังคับบัญชาที่เขาจะมาบัญชาการทหารบก
ความกังวลหลักของคุซเนตซอฟ คือ การที่นาซีเยอรมันหมายจะบุกคอเคซัสเหนือ เพื่อหวังได้ดินแดนน้ำมัน เพื่อเติมเชื้อเพลิงความกระหายสงครามของนาซี, ตลอดสงคราม ทะเลดำกลายเป็นสถานที่ๆ กองทัพเรือโซเวียต โจมตีกองเรือโรมาเนีย ซึ่งเป็นพันธมิตรของนาซี คุซเนตซอฟ ได้นำกลยุทธ์ที่เรียกว่า การโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก มาใช้ในการโจมตีทหารนาซีตามชายฝั่งทะเลดำ ทำให้ทหารเรือสามารถรบทั้งบนบกและบนน้ำได้
ในทะเลบอลติก กองเรือโซเวียตที่เคยถูกสั่งให้ถูกทำลาย กลับสามารถปกป้องนครเลนินกราดจากการปิดล้อมของนาซีเยอรมนีและฟินแลนด์ได้ กองเรือโซเวียตใช้ปืนใหญ่ของตนเองทำลายศัตรูบนบก นอกจากนี้ เรือเบาของโซเวียตยังช่วยขนส่งกำลังพล เสบียง อาวุธ ตามแม่น้ำต่างๆในแนวหน้าสงคราม กองทัพเรือโซเวียตประสบความสำเร็จในการยันพวกนาซีและช่วยเหลือเหล่าทัพอื่นในการต่อสู้กับนาซีเยอรมัน เมื่อพิจารณาจากบทบาทของคุซเนตซอฟ จึงพูดได้ว่า กองทัพเรือโซเวียต มีบทบาทสำคัญในการทำให้เยอรมนีไม่สามารถเอาชนะสหภาพโซเวียต ซึ่งเริ่มแรกมีอุตสาหกรรมทางทหารที่ล้าหลังกว่า จนในที่สุด โซเวียตก็เริ่มเป็นฝ่ายรุก ในช่วงกลางสงครามปี 1943
1 ในผู้ใต้บังคับบัญชาที่ใกล้ชิดพลเรือโท คุซเนตซอฟ คงไม่ใช่ใครนอกจาก คือ เซอร์เกย์ กอชคอฟ ซึ่งต่อมาจะเป็น จอมพลเรือแห่งสหภาพโซเวียต และ ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหภาพโซเวียต ต่อจากคุซเนตซอฟ
ในเดือนพฤษภาคม ปี 1944 นิโคไล คุซเนตซอฟ ได้รับการเลื่อนยศเป็น พลเรือเอก ซึ่งเป็นยศนายพล4ดาว หลังจากชัยชนะเหนือนาซีเยอรมัน วันที่ 31 พฤษภาคม 1945 คุซเนตซอฟ ได้รับยศเป็น จอมพลเรือแห่งสหภาพโซเวียต(Admiral of the Fleet of the Soviet Union) โดยถือเป็นยศนายพล6ดาว เทียบเท่า จอมพลแห่งสหภาพโซเวียต(Marshal of the Soviet Union) ที่ กอร์กีย์ จูคอฟ ดำรงยศ ,ในเดือนสิงหาคม ปี 1945 จอมพลคุซเนตซอฟ ได้นำทหารเรือเข้ารุกรานแมนจูเรียของญี่ปุ่น และ ประสบความสำเร็จในการนำทัพยึดครองภาคเหนือของเกาหลีเหนือ ก่อนที่ญี่ปุ่นจะยอมแพ้ เขาได้ร่างแผนที่กองทัพเรือตะวันออกของโซเวียตจะรุกรานญี่ปุ่น แต่ไม่กี่วันต่อมา ญี่ปุ่นก็ยอมแพ้เสียก่อน
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2 จอมพลเรือคุซเนตซอฟ ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งสหภาพโซเวียต และ เป็นผู้บัญชาการแห่งกองทัพเรือสหภาพโซเวียต จนกระทั้งปี 1947 โจเซฟ สตาลินก็ได้ปลดเขาออกจากตำแหน่ง เขาและนายพลคนอื่น ๆ อีกหลายคนก็ถูกพิจารณาคดีโดยศาลทหารที่สตาลินตั้งเพื่อกวาดล้างใครก็ตามที่สตาลินมองว่าเป็นศัตรูทางการเมืองของเขา แน่นอนว่า บทบาทคุซเนตซอฟ ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหลายครั้ง ทำให้เขาถูกกล่าวหาว่าต่อต้านสตาลิน ทำให้เขาถูกตัดสินให้จำคุก และ ลดยศเหลือเป็น พลเรือโท
ในปี 1951 ,สตาลิน กลับเปลี่ยนความคิด ไม่มีใครทราบว่าเพราะอะไร อาจเพราะสตาลินได้ฉุดคิดว่า คุซเนตซอฟนี่แหละคือคนที่ทำให้เรายันนาซีไว้ได้ สตาลินจึงอภัยโทษให้ คุซเนตซอฟ และนำเขากลับมาเป็น ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหภาพโซเวียต ในตำแหน่งที่พึ่งตั้งใหม่นั้นคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการทัพเรือแห่งสหภาพโซเวียต(Minister of the Navy of the USSR) แต่มิได้มีการคืนยศแก่เขา จนกระทั้งสตาลินเสียชีวิต ในปี 1953 นิกีต้า ครุชชอฟ ก็ได้คืนยศพลเรือโทแก่คุซเนตซอฟ และ เลื่อนขั้นเขาอีกครั้งเป็น จอมพลเรือ5ดาว ภายหลังการปฏิรูปยศทหารโซเวียต ได้มีการยกเลิกตำแหน่ง Admiral of the Fleet of the Soviet Union(จอมพลเรือแห่งสหภาพโซเวียต) ซึ่งเป็นยศ6ดาว ให้เป็น Admiral of the Fleet (จอมพลเรือ) ที่มียศแค่5ดาว เท่ากับ พลเอกแห่งกองทัพ(General of the army)
แต่แล้วความโดดเด่นของคุซเนตซอฟ ก็ทำให้เขามีปัญหากับจอมพลกอร์กีย์ จูคอฟ ,8 ธันวาคม 1955 จูคอฟ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคุซเนตซอฟ เพื่อหาทางกำจัดคุซเนตซอฟ ในที่สุด คณะกรรมการหยิบยกเหตุระเบิดเรือประจัญบาน Novorossiysk ในอัลบาเนีย ว่าเป็นวินาศกรรม แม้ว่าจะมีการยกสาเหตุว่าเรือNovorossiysk ระเบิดจากความล้มเหลวภายในตัวของระบบเรือ แต่คณะกรรมการสรุปว่าเป็นการก่อวินาศกรรม และ จูคอฟ กล่าวตำหนิคุซเนตซอฟ ท้ายที่สุด ในเดือนกุมภาพันธ์ 1956 คุซเยตซอฟ ถูกปลดจากตำแหน่งทุกๆตำแหน่งในกองทัพเรือ ถูกลดยศเหลือเพียง พลเรือโท และถูกบังคับให้เกษียณก่อนอายุราชการ และห้ามไม่ให้เขาทำงานร่วมกับกองทัพเรืออีกต่อไป
หลังจากถูกปลด คุซเนตซอฟ ใช้ชีวิตด้วยการแอบเขียนหนังสือและบทความเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่2 ยุทธวิธีการรบ และ ความทรงจำ แต่มีเพียงเล่มเดียวที่อนุมัติให้ตีพิมพ์คือ "With a Course for Victory" เนื่องจากบทความและหนังสือมากมายของเขาวิพากวิจารณ์ว่าพรรคคอมมิวนิสต์ ผู้มีอำนาจแทรกแซงกิจการภายในของกองทัพ ซึ่งหนึ่งในหนังสือที่เขาเขียนวิจารณ์เรื่องนี้คือ "the state must be ruled by law."จะได้รับการตีพิมพ์ในช่วงเวลาสุดท้ายของสหภาพโซเวียต
ในปี 1964 หลังคณะกรรมธิการความมั่นคงแห่งรัฐ หรือ KGB ทำรัฐประหารในคณะรัฐบาลของนิกีต้า ครุชชอฟ รวมถึงการที่จอมพลจูคอฟ ปลดเกษียนไปแล้ว กลุ่มทหารผ่านศึกของกองทัพเรือได้เริ่มเคลื่อนไหว เรียกร้องให้มีการมอบยศและเรียกคืนเกียรติแก่คุซเนตซอฟ หลังจากคุซเนตซอฟต้องใช้ชีวิตอย่างน่าอดสูในสหภาพโซเวียตที่ทรยศ ความกล้าหาญและการเสียสละของเขา แต่ทว่า รัฐบาลของเลโอนิด เบรซเนฟ ปฏิเสธ ที่จะคืนยศและเกียรติแก่คุซเนตซอฟ ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันได้มีการเรียกคืนเกียรติยศแก่จอมพลจูคอฟ ซึ่งเคยถูกครุชชอฟปลดในปี 1957 เพราะกลัวจะถูกจูคอฟรัฐประหาร
6 ธันวาคม 1974 ,ชายผู้เสียสละให้กับสหภาพโซเวียต แต่ถูกสหภาพโซเวียตทรยศและทอดทิ้ง เสียชีวิตด้วยอายุ 70ปี ที่กรุงมอสโคว์ ,เป็นเรื่องที่น่าอับอายในประวัติศาสตร์กองทัพเรือสหภาพโซเวียต และ กองทัพเรือรัสเซีย ที่คุซเนตซอฟ ถูกทำให้เหมือนถูกลบหายไปจากประวัติศาสตร์ แต่ในที่สุด เมื่อมิคาอิล กอร์บาชอฟ ได้เป็นผู้นำสหภาพโซเวียตคนใหม่ ได้มีการตั้งคณะกรรมการที่นำโดย อันเดรย์ โกรมีโก ซึ่งได้ประกาศกอบกู้ชื่อเสียงแก่ นิโคไล คุซเนตซอฟ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 1988 คณะบริหารสูงสุดสหภาพโซเวียต ได้คืนยศ จอมพลเรือแห่งสหภาพโซเวียต ยศชั้นนายพล6ดาว แก่คุซเนตซอฟ และ มีการประกาศในสภาผู้แทนราษฎรว่า จอมพลเรือแห่งสหภาพโซเวียต นิโคไล คุซเนตซอฟ เป็นหนึ่งในชายที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือสหภาพโซเวียต ซึ่งอาจเป็นเรื่องน่าขำ เพราะที่ผ่านมา คุซเนตซอฟ ถูกทำให้อับอายมาตลอดทั้งชีวิตของเขา
เมื่อสหภาพโซเวียตมีเรือบรรทุกเครื่องบินเรือธงลำแรก พวกเขาก็ตัดสินใจนำชื่อ จอมพลเรือคุซเนตซอฟมาเป็นชื่อเรือบรรทุกเครื่องบินที่ปัจจุบันยังคงประจำการในกองทัพเรือรัสเซีย เหตุผลนอกจากการฟื้นฟูชื่อเสียง คือ ความคิดการมีเรือบรรทุกเครื่องบินในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นความคิดของคุซเนตซอฟ คนที่ถูกทรยศ
ปัจจุบัน กองทัพเรือรัสเซีย ยกให้คุซเนตซอฟ เป็นบุคคลสำคัญของประวัติศาสตร์กองทัพเรือรัสเซียที่ทุกคนต้องรู้จัก ในฐานะผู้นำกองทัพเรือ เหล่าทัพเดียวที่ยันทหารนาซีไว้ได้ แต่กลับถูกลืม กลยุทธ์ของเขามากมาย ถูกระบุว่า เป็นการออกแบบรากฐานของกองทัพเรือรัสเซียในปัจจุบัน ผ่านการพัฒนากองทัพเรือโดย จอมพลเซอร์เกย์ กอชคอฟ ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหภาพโซเวียต อดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของคุซเนตซอฟที่หลังจากคุซเนตซอฟถูกปลดครั้งที่2 กอชคอฟก็ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน, กอชคอฟ ถูกมองว่าเป็นเหมือน พระเจ้าแห่งกองทัพเรือโซเวียต ที่ทำให้โซเวียตมีเรือรบมากกว่า 3,000ลำ สามารถต่อกรกับอเมริกา แต่เป็นที่ถกเถียงและกล่าวว่า เขาไม่เคยคิดที่จะช่วยในการกอบกู้ชื่อเสียงแก่ จอมพลนิโคไล คุซเนตซอฟ
ก่อนจากไปผู้เขียนขอยกมุมมองทางการเมืองของคุซเนตซอฟมา ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มาตุภูมิโซเวียตทรยศต่อการเสียสละของเขา คุซเนตซอฟ เป็นคอมมิวนิสต์ที่ต่อต้านการรวมอำนาจเข้าหาพรรคคอมมิวนิสต์ เขามองลัทธิสตาลินไม่ต่างอะไรจากฟาสซิสต์ และ เขามีความคิดที่ว่า พรรคคอมมิวนิสต์และอำนาจรัฐใดๆ ไม่ควรเข้าแทรกแซงกองทัพ ,การทรยศครั้งแรกเกิดขึ้นจากสตาลิน ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะสตาลินกวาดล้างคนเป็นล้านๆ การทรยศครั้งที่สองเกิดขึ้นจากจอมพลจูคอฟ ชายผู้เป็นผู้ปลดปล่อยเบอร์ลิน วีรบุรุษสงครามที่ผู้เขียนให้เกียรติ แต่กลับมาทรยศจอมพลเรือคุซเนตซอฟ
"ทั้งชีวิตของข้าคือกองทัพเรือโซเวียต ข้าเป็นคนเลือกเองตั้งแต่ยังเด็กและไม่เคยเสียใจกับมันเลย"
จอมพลเรือแห่งสหภาพโซเวียต นิโคไล คุซเนตซอฟ ,อดีตผู้บัญชาการทหารเรือแห่งสหภาพโซเวียต เขียนไว้ในบันทึกของเขา
เรียบเรียง เขียนและตรวจทาน - Nakvat Hakimov
แหล่งข้อมูลจาก :
3 - Kuznetsov, Admiral Memoirs of the Wartime Minister of the Navy Moscow Progress Publishers 1990 ISBN 5010025566
4 - Kirchubel, Robert (2007). Operation Barbarossa 1941: Army Group Center. Osprey Publishing. ISBN 978-1-84603-107-6.
โฆษณา