24 ก.ย. 2021 เวลา 01:33 • ปรัชญา
เป็นธรรมดาที่ทุกคนต้องปรับตัวอยู่ให้เป็น ต่อหน้าปากกับใจตรงกันแล้วสร้างศัตรูมีประโยชน์อะไร สติ นั่นแหละทำให้เรารู้ว่าควรวางใจ ในปัจจุบันอย่างไรแม้จะไม่เป็นตัวเราก็ตาม
มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายใดๆ แม้บางคนจะกะล่อนตอแหลแสแสร้งแกล้งชมเราๆไม่ใช่ไม่รู้ แต่ก็ยังดีกว่ามีคนมาตำหนิด่าว่าเพียงเพราะโง่ เข้าใจผิด แม้ว่าจะเป็นคนดี เราก็คงไม่ชอบนัก
สำคัญคือ เขาเหล่านั้น มีสติ เพราะฐานคิดดี หรือฐานคิดไม่ดี เป็นสัมมาทิฐิหรือมิจฉาทิฐิ เท่านั้นเอง
แต่เชื่อเถอะคนที่จิตใจไม่ดีเหล่านี้แม้จะมีมากทุกระดับสังคม ก็ควรต้องสงสารเห็นใจเขาให้มากเช่นกัน
เพราะเขาได้สั่งสมจิตอารมณ์สีดำในใจมากขึ้นๆ ผลจากจิตอกุศลนี้จะส่งให้เขาเหล่านั้นได้รับความทุกข์ระทมมากมายในอนาคต
เนื่องจากได้สร้างเหตุปัจจัยไว้แล้วอย่างเต็มที่ คือทำให้คนเสียเครดิต เสียหาย เดือดร้อน ทุกข์ใจ
เขาก็จักได้รับผลเช่นกัน และยิ่งทำกับผู้บริสุทธิ์คือไม่ได้คิดร้ายต่อเขายิ่งเป็นกรรมหนัก ต้องเจอสภาวะทุกข์ซ้ำซากมากๆเลยทีเดียว
น่าสงสารที่สุดสำหรับคนพวกนี้ !
หน้าไหว้หลังหลอก ตัดสินที่พฤติกรรม มีใครเสียหายเสียเครดิตหรือไม่ ถ้าไม่ก็อาจเป็นเรื่องที่เจตนาทำให้ตัวบุคลสบายใจ ไม่หักหน้ากันจนเกินไป
แต่ถ้าถูกตีความว่า ไม่มีความจริงใจ ต่อหน้าทำดีเอาใจแต่...ลับหลังในใจตรงกันข้าม ก็ต้องตีความว่าเพื่อผลประโยชน์ เพื่อให้ศัตรูตายใจ แต่ลับหลังเป็นตรงกันข้าม บางคนมันเคมีไม่ตรงกันก็มี ไม่ต้องมีเหตุผลอะไรหรอก
คำนี้มักสื่อไปในทางไม่ดีมากกว่า แต่ก็มองให้ดีไว้ก่อนดีกว่า ถือว่าคนเขาให้เกียรติเราไม่มากก็น้อย แม้ว่าลับหลังเขาจะไม่ชอบเราหาเรื่องติเตียนเรา ก็ยังดีกว่าทำต่อหน้า
จะเห็นได้มากในสังคมระดับกลาง เพราะมีการศึกษามีปัญญามีชาติตระกูลค้ำไว้
ถ้าเป็นคนระดับล่างไม่มีการศึกษาใช้แรงงานเป็นหลัก คนพวกนี้เขาจะแสดงออกชัดมากกว่า คือตรงไปตรงมา เอาไงเอากัน ดูง่ายเขาพอใจไม่พอใจ
คบง่ายกว่า จริงใจ ดูง่าย รู้สึกยังไงก็ยังงั้น เอาเป็นเอาว่างั้น เราจึงเห็นกันง่ายในการใช้กำลังตัดสินกัน
หน้าไว้หลังหลอก พูดให้หล่อหน่อยก็ควรพูดว่า อยู่เป็น รู้ทิศทางลม ไม่จมกับปัญหา
มีสติปัญญารู้ว่าการขัดคอขัดใจกัน ไม่มีประโยชน์นอกจากจริงใจหวังดี เตือนสติ การแสดงความรู้สึกต่อหน้าตรงๆมันจะมาซึ่งการทะเลาะ
เลี่ยงไปด่านินทาเลื่อยขาทีหลังดีกว่า บ้างก็ว่า รู้จักใช้กุศโลบายล่อหลอกคน เมื่อตายใจหลงเชื่อก็แทงข้างหลัง แสร้งทำเป็นมิตรแล้วเอาเขาไปขาย
ไม่สร้างสรรค์ไม่ทำลายแต่ลับลวงพรางมุ่งเอาเครดิตเอาประโยชน์ใส่ตนเป็นสำคัญ.... เอวังด้วยประการฉะนี้
ถ้าเชื่อในทฤษฎีกฎแห่งกรรม สิ่งที่ทำ ก็คงแค่อยู่เป็นไม่สร้างศัตรู ไม่ต้องแสดงให้ใครรู้ว่าเรารู้สึกอย่างไรกะใครจะปลอดภัยกว่า
ใครๆเขาก็มีกรรมมีวิบากต้องชดใช้ ของเขาเอง หากเจตนาเราดีมีหรือคนจะไม่รู้เทวดาจะไม่รับทราบ
วาสนาถึงเวลามาเอง บางช่วงเวลาท่านก็กำหนดให้เราได้เรียนรู้อะไรต่ออะไรบ้าง การรู้โลกเข้าใจชีวิตเป็นนิมิตรของผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้าครับ
โฆษณา