26 ก.ย. 2021 เวลา 04:55 • อาหาร
“ไม่เพียงแค่ยามรักแต่น้ำต้มผักหวานทุกยาม…จริงๆ นะ”
ผักที่คนนิยมเอามาต้มหรือลวกจิ้มน้ำพริกโดยมากมีความหวานตามธรรมชาติ จะมีก็พวกผักเฉพาะกลุ่มไม่มากชนิดที่รสขม จำพวกสะเดา ใบยอ ขี้เหล็ก และมะระ ซึ่งผักที่ว่าขมมันก็ขมของมันตั้งแต่เกิดและจะตายไปพร้อมกับความขมไม่ว่าจะต้มหรือแกง หรือกินดิบๆ และวัฒนธรรมน้ำพริกผักจิ้มนั่นก็อยู่ในสายเลือดคนไทยชนิดแนบแน่นเป็นเนื้อเดียวกันจนน้ำต้มผักจิ้มน้ำพริกถูกใช้เปรียบเปรยกับความรักที่ว่าหวานแต่โบราณนานมา
ผักต้มในจานรูปหัวใจสีขาวลายใบไผ่สีน้ำเงินคงจะช่วยขับเน้นให้น้ำต้มผักหวานยิ่งขึ้นในความรู้สึกของคนกำลังมีความรัก
สำนวนสุภาษิตไทยที่ว่า “ยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน” บางทีก็มีคนเพิ่มให้อีกว่า “แต่ยามชังน้ำตาลยังว่าขม” หรือ “ครั้นเนิ่นนานน้ำอ้อยก็กร่อยขม” เชื่อว่าคงจะได้เค้าลางมาจากสำนวนกลอนเรื่อง “พระอภัยมณี” ของสุนทรภู่ ซึ่งแต่งขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ที่ว่า
“เขาย่อมเปรียบเทียบความว่ายามรัก
แต่น้ำผักต้มขมชมว่าหวาน
ครั้นรักจางห่างเหินไปเนิ่นนาน
แต่น้ำตาลว่าเปรี้ยวไม่เหลียวแล”
2
แม้จะตักเอาแต่ผักไว้ก็ยังมีน้ำต้มผักติดขึ้นมาด้วยที่สักครู่ก็จะนองเอ่อให้เห็นก้นจาน ใครที่ไม่เชื่อว่าน้ำต้มผักหวานให้ลองชิมดู ชิมทั้งยามมีรักและยามหมดรักจะได้รู้ชัดว่าน้ำต้มผักนั้นหวานจริงจัง
ไม่แค่นั้น “คนรักสุขภาพ” ทุกวันนี้ยังลุกขึ้นมาตั้งคำถามกับสำนวนสุภาษิตไทยโบราณที่ว่านี้ ว่า เป็นการ Bully น้ำต้มผักหรือไม่? เข้าขั้น “ขัดหู”
“รสมันไม่ได้น่าเกลียดจนต้องตกหลุมรักใครก่อนถึงหวานได้สักหน่อย น้ำสต็อกหรือน้ำแกงผักออกจะหวานอร่อย บางทีหวานยิ่งกว่าน้ำสต็อกเนื้อซะอีก แถมไม่คาวด้วย ยิ่งเอาแกนกระหล่ำปลีแครอท หอมหัวใหญ่ และคื่นไช่ไม่พอบวกสาหร่ายคมบุ เร่งอุมามิ หยดโชยุลงไป ปรับรสออกมาแทบไม่ต้องปรุง หวานฉ่ำอร่อยได้สุดๆ ไปเลย ใครกันช่างคิดสำนวนนั่นได้คงทำอาหารไม่เป็นแน่ๆ” (NKL, 2562)
มะเขือเปราะ น้ำเต้า บวบงู และกระต๊าด (กระเจี๊ยบเขียว) ต้ม มีสูตรที่บอกต่อกันมาว่าให้เหยาะเกลือและน้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย เป็นการเคลือบผนังเซลล์หรือผิวผักให้เงามัน เขียวสวยน่ากิน หากต้องการเก็บความเขียวไว้นานๆ หลังผักสุกได้ที่ให้นำลงน๊อคในน้ำเย็นจัดทันที ป้องกันไม่ให้เซลล์ Chloroplast แตกออก ผักจะเขียวสดไ้ด้นาน
จะว่าไปแล้วคนรักสุขภาพแถมมีฝีมือในการทำอาหารก็ไม่ต้องโกรธคนโบราณที่คิดสำนวนสุภาษิตนี้ เขาคงคิดได้ตอนกำลังมีรัก และอาจกำลังกินข้าวขณะสายตาเหม่อลอย แม้สำรับกับข้าวจะมีแค่น้ำพริกผักต้ม ผักสดๆ จากหัวไร่ปลายนาไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางผูกขาดอย่างในซุปเปอร์มาเก็ต (และหาช่องขายวัคซีนตัวเองออกนอกหน้า) นั้นหวานมาก ถึงผักจะหมดเหลือแต่น้ำต้มผักก้นจานก็ยังหวานอยู่ดี…คนมีความรักอะนะ
โฆษณา