28 ก.ย. 2021 เวลา 14:05 • ครอบครัว & เด็ก
“ไม่อยากชมเยอะ เดี๋ยวลูกเหลิง”
1) มีค่านิยมเก่า ในการเลี้ยงลูกแบบไม่ชื่นชม เน้นดุด่า ใช้อำนาจนิยมกับเด็ก ซึ่งความคิดนี้เกิดขึ้นด้วยเหตุผล กลัวสปอยล์ลูกเกินเหตุ กลัวลูกจะเหลิงได้ใจ และควบคุมยาก
2) การชม หรือการดุ ทุกอย่างมันมีเหตุผลของมัน แต่ผู้ใหญ่หลายบ้าน มักชอบชมลูกคนอื่นให้ลูกตัวเองเห็น ว่าลูกบ้านอื่นเขาดีขนาดไหน พ่อแม่ชอบเขาขนาดไหน แล้วลูกกลับมาเปรียบเทียบกับตัวเองว่า เราไม่ดีตรงไหน ทำไมพ่อแม่ไม่เคยชมเราเลย?
3) การที่เด็กถูกลดคุณค่า และไม่มีความภูมิใจในตัวเอง หรือทำอะไรก็รู้สึกผิดไปหมด จนเติบโตมาเป็นเด็กที่สูญเสียความมั่นใจ ไม่กล้าตัดสินใจ กลัวผิด ส่วนหนึ่งก็มาจากครอบครัวที่ไม่ได้ให้ความเชื่อมั่นในตัวเด็ก สุดท้ายเราได้เด็กที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวเองหนึ่งคน เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เสียตัวตนไป เพราะไม่รู้ว่า "พ่อแม่ภูมิใจอะไรในตัวฉันบ้าง"
4) การชมเป็นกำลังใจ เป็นแรงเสริมทางบวกเสมอ (Positive Reinforcement) เด็กจะรู้ว่าทำแบบนี้แล้วดี ผู้ใหญ่ชอบ ทุกคนสนับสนุนมีแต่เสียงทางบวก ควรทำอีก เด็กจะมองออกว่า ฉันเก่งเรื่องนี้ ถนัดเรื่องนี้ ทำกี่ครั้งก็ถูกชม จะเป็นแรงกระตุ้นสู่พฤติกรรมที่พึงปรารถนา ในทางตรงกันข้ามการดุหรือการตำหนิก็คือ Negative Reinforcement แสดงแรงเสริมทางลบเพื่อทำให้รู้ว่าไม่โอเค อย่าทำอีก นี่คือสิ่งที่ผู้ใหญ่ไม่ปลื้ม
1
5) บางบ้าน ผู้ปกครองเลือก "ด่าตลอดเวลา" เรียนเก่งก็ไม่ชม บอกว่าทำได้แค่นี้เหรอ? กะว่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้เด็กพยายามให้สุดๆ เพื่อให้เด็กสู้ แต่หารู้ไม่ว่า กลายเป็นว่าเด็กไม่รู้เลยว่าอะไรบ้างที่เขาทำแล้ว "ผู้ใหญ่เห็นคุณค่า" เพราะโดนด่าจนกลายเป็นว่า social bullying ที่พ่อแม่ผลักมาให้ ทำร้ายจนสูญเสียกำลังใจไปหมด
6) ทั้งการชม และการตำหนิ เป็นคุณค่าได้หมด ชมให้รู้ว่าทำได้ดี ส่วนตำหนิให้รู้ว่าต้องปรับปรุงพัฒนา ตำหนิไม่ใช่การด่าทอ ไม่ใช่ hate speech ตำหนิคือการบอกให้รู้ว่า พฤติกรรมใดอย่าทำ พฤติกรรมที่ควรทำคืออะไร และที่สำคัญคือ "ผู้ใหญ่ต้องให้เหตุผลในการตำหนิได้เสมอ" อย่าตำหนิด้วยอารมณ์ แต่ตำหนิแล้วบอกได้ว่า เพราะอะไรถึงไม่ถูกต้อง ที่ถูกต้องคืออะไร ไม่งั้นไม่สามารถสร้างความเข้าใจ และนำไปสู่ความก้าวร้าว และการใช้อารมณ์เลียนแบบผู้ปกครอง
7) เด็กไม่ได้ต้องการให้ตัวเองถูกเปรียบเทียบให้ด้อยค่ากว่าเพื่อนข้างบ้าน จงชื่นชมเขาในคุณค่าของเขา โดยที่ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร ไม่ต้องคอยกดคุณค่าเด็กไว้ ไม่ต้องกลัวเขาเหลิง หรือเสียคนเพราะการชม แต่ให้คำชมไม่ใช่การอวยยศ ทำดีทำชั่วก็ชมหมด การชมก็มีเหตุผลของมันเช่นกัน เป็นการกำหนดกรอบพฤติกรรมบวก สร้างสุขภาพจิตที่ดีให้เด็ก และทำให้เขามีกำลังใจทำดี ภาคภูมิใจกับการทำดีต่อไป
ชมให้เป็น อย่าดุด่าเด็ก เพียงเพราะจะทำให้กลัวจะได้เชื่อฟัง คิดแบบนั้นคือการสร้างเด็กที่เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ใจพัง ไปสร้างความพังต่อยังสังคม บ่มเพาะลูกหลานผิดๆต่อไปอีก
#ThinkTalkLoud
“ไม่อยากชมเยอะ เดี๋ยวลูกเหลิง”
โฆษณา