2 ต.ค. 2021 เวลา 01:55 • ปรัชญา
ชีวิตคนเรา ก่อนมาเกิด ก็ต้องไปแจ้งเกิดเหมือนกัน ต้องเข้าไปที่ศูนย์ เหมือนขึ้นศาลนั้นแหละ ซึ่งเราก็เคยได้ยินคำว่า ยมทูต เทวทูต มารับคนที่หมดอายุขัย ยมทูตก็มีหลายทีม ผู้ที่เป็นหัวหน้าสวมหมวก พวกที่โหดๆ ก็เจอแบบโหดๆ คนที่ดีๆเค้าก็มาแบบดีๆ ส่วนพวกที่มีกรรมตัดรอน สิ้นชีวิตก่อนอายุขัย ก็ด้วยตอนก่อนที่เกิดมา เค้าก็บอกให้ว่า เกิดมาเป็นมนุษย์ ต้องไปเจอะเจออะไร ต้องไปชดใช้กรรม อย่างไร เจอะเจออะไร เค้าอ่านให้ฟัง แล้วก็ยังบอกให้ทำความดีแก้ไขตัวเอง โดยบอกว่า แสดงให้ดูเป็นวงวัฏฏะ มีเส้นสีเหลืองพาดผ่าน วงวัฏฏะหมายถึงเรื่องของกรรมที่หมุนเวียนไปตามกรรม เส้นสีเหลืองหมายถึงเรื่องราวที่จะแก้ไข คือ การสร้างบุญกุศลบารมีประพฤติปฏิบัติธรรม ในรอยแก้ไขตนเยี่ยงอย่างคนดี อ่านให้ฟังเสร็จก็ปิด ด้วยการให้ดื่มน้ำลืม
ที่เค้าให้ลืม ก็เพราะว่า กรรมที่เคยพยาบาท อาฆาตแค้นเคือง ทำร้ายซึ่งกันและกันมา เค้าให้มาชดใช้แก้ไข ให้เป็นอโหสิกรรม ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ เค้าก็กำหนดลงไปละเอียดมาก วันนั้น ปีนั้น เดือนนั้น วินาทีนั้นจะต้องเกิดอะไร จะหลีกเลี่ยง บรรเทา ก็มีแต่สร้างบุญสร้างกุศลสร้างบารมี หนีกรรม
เพราะเหตุที่คนเราเกิด มาเริ่มต้นใหม่ เราไม่รู้ว่า ชีวิตนั้นจะต้องเจอะเจออะไรบ้าง บางพวกเกิดมาเค้าก็ ชี้มาให้เป็นหมอดู คอยอุปโลกน์ ว่าข้านี้รู้ อาศัยผีบ้างพรายกระซิบ อาศัยเวทมนตร์บ้าง ดำเนินตนหากิน หล่อเลี้ยงสังขารตน แล้วมันก็มีผู้ที่ดำเนินชีวิต ไม่รู้ว่าจะเจอะเจออะไร จะได้สิ่งที่สมหวัง ไม่สมหวัง จะดำเนินธุรกิจดีหรือไม่ดี จะเจอเนื้อคู่ คู่สร้างคู่สม คู่เวรกรรม คู่ผ่าน คู่ล้างคู่ผลาญ คู่อาฆาตพยาบาท
ชีวิตเป็นทุกขัง อนิจจัง อนัตตา มันไม่ได้มีอะไรแน่นอน ก็คือ เราไม่รู้ว่า วันเดือนปีผ่านไป จะเจออะไร ชีวิตที่ดำเนินไปด้วยความไม่รู้ ว่าวันหน้า เดือนหน้า ปีหน้าจะเจออะไร พวกที่จิตอ่อนหนอนไช คือมีความโลภ ความโลภความอยากได้อย่างนั้นอย่างนี้ พอได้ยินว่าคนนี้ทำนายทายทักดี คนนี้แก้ไขบ้านช่องให้มีโชคมีลาภ ความโลภความอยากของตัวเองก็นำพาไป เดินไปหาเค้า ให้เค้าดู เค้าว่าดีก็ชื่นอกชื่นใจ เค้าว่าไม่ดีก็วิตกกังวล กับอารมณ์ของตัวเอง ที่น่ากลัวไปเจอพวกที่แฝงไปดูผี ที่พวกนี้เลี้ยงไว้ ซึ่งคนสมัยนี้ก็นิยมงมงาย กับเรื่องพวกนี้ จึงมีเรื่องตุ๊กตาเยอะแยะไปหมด ตุ๊กตาเทพก็มี ลูกแก้วยังมีเทพไปอยู่ คนก็ยังเชื่อ เป็นเทพอะไรไปอยู่ในลูกแก้วอยู่ในตุ๊กตา พวกผีอุปโลกน์แอบอ้างทั้งนั้น แม้แต่ผีเร่รอนก็ยังไม่รู้จักเทพจริงๆเค้าเป็นอย่างไร พวกนี้ก็ไปแอบอ้าง เหมือนพวกสิบแปดมงกุฎ หลอกคนเรานั้นแหละ มันหลายเรื่องราว
เรื่องราว พวกนี้มันซับซ้อน ซ่อนเงื่อนให้เราไปหลงใหล ที่จริงแล้วทุกคนมีบุญ อย่างพวกที่มีบุญมา ไปหาพวกนี้ พวกผีมันเห็น มันก็รู้ว่าคนนี้มีบุญ มันก็ทำนายได้ คนที่ได้โชคก็้เชื่อผีไป อย่างเช่น เค้าว่าตรงนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปได้โชคลาภ แล้วมันมีกี่คนที่ได้ คนที่ได้ก็ร่ำลือกัน เสริมแต่ง อุปโลกน์อะไรมากมาย ส่งคนที่ไม่ได้มีเท่าไหร่ ทำไมไม่ได้ไม่พูดถึง ที่จริงเค้าหลอกให้หลง จมอยู่อย่างงั้นแหละ ให้วุ่นวาย ให้ยึดให้จมอยู่ในเรื่องราวเหล่านี้ บางทีไปจิตอ่อนกระทบพวกเรื่องราวเหล่านี้ ก็ทำให้เหมือนเป็นซึมเศร้าก็มีมากมาย บางพวกก็ก้าวร้าว แข็งกระด้าง นิสัยที่เคยดีก็เปลี่ยนไป ในแนวไม่กลัวใคร ยิ่งใหญ่ อวดเก่ง อวดดี เบื้องหลังเค้า เหมือนมาร ส่งเสริม เค้าให้อวดเก่งต่อกรรม มันจะได้ตกนรกลึกๆ ไม่ต้องกลับมาหาร่างมนุษย์อีกแล้ว ซึ่งเราก็คงเคยได้เห็นมาบ้าง ถ้าระลึกได้ ก็ลองเรียบเรียงเหตุและผลดู จับมันหงายขึ้นมาดู
เพราะชีวิตที่ไม่รู้ ด้วยอวิชชาที่ปิดบังอยู่ ไม่เรียน ว่าชีวิตที่ประกอบขึ้นมาด้วยบุญด้วยกุศลที่เคยทำ ไม่ศึกษาอยู่ กระทำอยู่ในรอยเส้นสีเหลืองที่พาดผ่านวงวัฏฏะ บุญไม่สร้าง กุศลไม่สร้าง พบศาสนา พบพระ พบรอยคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ปฏิเสธเสียแล้ว มันก็ต้องไปอยู่กับสิ่งที่ไม่รู้ จักการสร้างบุญกุศลบารมี แต่ก็อีกนั่น บางครั้งก็น่าสงสาร จะเค้าวัด ก็เจอนักบวชเป็นหมอดูเสียเอง ที่จะหาผู้ที่สอนธรรม ชี้แจงอะไรดีให้ฟัง เหตุผลของโลก เหตุผลของธรรม ก็หาอยาก มีแต่ขอให้รวยโยมนะ แล้วเมื่อไหร่โยมจะหมดกรรมเสียที ต้องไปเหนื่อยหามันอีก ถ้าเป็นผู้ที่เลี้ยงเป็ดเลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลา กว่าจะรวยต้องเบียดเยียดเค้าอีกเท่าไหร่ แล้วกรรมที่ทำ มันก็อยู่กับคนทำ ถึงเวลาไอ้โม่งมาก็เจ็บป่วยตายเท่านั้นเอง ได้แต่กรรมไปด้วย ไปกับจิตเป็นเครื่องหมายกรรม
มีแต่เพียรทำอยู่ในเส้นทางสีเหลือง คือ สร้างบุญกุศลบารมี ให้ตัวเองรู้จักบุญหนุนนำอะรไให้แก่ตน บารมีหนุนนำอะไรให้แก่จิต เท่านั้นแหละ จึงจะบรรเทา เบาบางเรื่องราว ของเวรกรรมได้
เดินผิดทาง ก็ทุกข์อยากลำบาก ผ่านวันเดือนปี มีแต่กรรม กรรมเค้ามาทวง ทวงวัดถุปัจจัยสิ่งของที่หามาด้วยความอยากลำบาก เราก็เสียอกเสียใจ ถ้าเค้าทวงที่กาย เราก็ต้องเดือดร้อนไปตามสภาพสังขารที่ถูกกระทำ เราก็ควรหาสิ่งดี ทำดีสร้างสิ่งดี ให้เกิดที่กายวาจาใจของเรา เราจะได้เบาบางจากเรื่องเวรกรรม แล้วยังต่อเนืองไป ถึง อนาคต ที่เราต้องจากโลกนี้ ก็ยังมีบุญกุศลหล่อเลี้ยงจิต จิตที่มีบุญนั้นเบา ก็ลอยสู่ที่สูง ถ้าจิตมันหนักมันก็จมสู่อบายภูมิไป ทุกข์ร้อนกันไปนานเป็นหมื่นๆปี แสนๆปี ทำเป็นแบบหนังจีน ขอให้ท่านอายุยืนเป็นหมื่นๆปี นั่นมันจะให้ลงนรกชัดๆ ข้าไม่ไปยินดีด้วยหรอก แก่แล้วมันก็แบกสังขารไม่ไหว ไปดีกว่า ไปกับสิ่งที่เราทำดีเป็นกุศลติดตามไป ไอ้คำสรรเสริญเยินยอต่างๆ มันก็อยู่กับพวกนี้ คอยหลอกเราเหมือนกัน
ฉะนั้น เราต้องช่วยเหลือจิตของเรา อย่าให้ตกไปแบบนั้นเลย มันน่าสงสาร น่าสมเพช ยิ่งกว่าตอนเป็นคนเสียอีก พวกที่เป็นเปรตอสุรกายเห็นใครมีบุญก็มาขอ (หากรับสัมผัสได้ รับความทุกข์ร้อนของเค้าได้) ทีตอนเป็นคนไม่ทำ พอสู่โลกวิญญาณก็หิวโหยไปกับสังขารกรรมในรูปเปรตอสุรกาย บางพวกที่ตอนเป็นคน ชอบเครืองรางของขลัง พอเห็นเค้าทำพิธีอะไร ให้ตุ๊กตา ก็ชอบอกชอบใจ ก็ของมันเคยชอบ ก็เค้าติดกับดัก เช่น ไปอยู่กับตุ๊กตา ที่เค้าล่ามจิตของตนด้วยคาถาอาคม ก็ไปไหนไม่ได้ มีแต่ร้อนรุ่มไป เป็นผีเฝ้าตุ๊กตาให้คนนิยมชมชอบ แล้วมันดีสำหรับจิตดวงนั้นมั้ย มีน้ำเขียวน้ำแดง เส้นไหว้ เป็นค่าจ้างค่าตอบแทน ที่เค้าใช้ให้ช่วยค้าขาย เรียกลูกค้าเข้าร้าน ถึงเวลากรรมมา ไอ้คนเลี้ยงมันหมกมุ่นอยู่กับกรรมทำมาหากิน ถึงเวลาเค้าทำลาย ก็หมดเนื้อหมดตัว ที่จริงแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่มีมีบุญกุศลมาหนุนนำชีวิต ชีวิตมันมีแต่กรรมๆ มันก็ต้องเป็นอย่างงั้น
เกิดมาทั้งที่ พบรอยคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่พยายามศึกษา ทำความเข้าใจให้ชัดเจน ไม่เห็นคุณค่าว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ก็เราไม่ศึกษา ไม่สร้างขึ้นมา ไม่ทำ ไม่ปฏิบัติ แล้วจะรู้ได้อย่างไร มันเป็นเรื่องที่ใช้จิต เราไปเรียนรู้ ไปสัมผัส ทั้งดีและไม่ดี แล้วเราเอง นั้นแหละ จะเป็นผู้ที่ที่จะตัดสิน ด้วยความมั่งคง มั่นใจ มีความสุขที่ได้ สร้างบุญกุศลบารมี
ปล. ในคำว่าจิตวิทยา ที่เรียนตามตำราฝรั่ง นั้นเค้าไม่รู้จักคำว่า ทาน บุญ กุศล บารมี มันไม่มีในวัฒนธรรมของเค้า รากเหง้าที่ดีๆ ของเราก็สูญหายไป เพราะถูกจับถูกเรียนตามฝรั่ง ยกเว้น ก.ไก่ ข.ไข่…ไปคิดเอาเองก็แล้วกันนะ ขอให้โชคดี แต่ไม่บอกให้รวย รวยเวรรกรรมเราไม่เอา ถ้ารวยกุศลบารมี จงรีบเอาเถิด
โฆษณา