3 ต.ค. 2021 เวลา 13:48 • ปรัชญา
คนที่เชื่อหมอดู มีหลายแบบ
คนมีสติปัญญาหลายระดับต่างกันไป
มีทั้งเชื่อแบบมีสติ มีปัญญาความฉลาด และแบบหลงงมงาย ไม่มีเหตุผล
คนฉลาดไม่ดูแคลนศาสตร์ความเชื่อ เพราะเปรียบเสมือนเราอยู่ในที่มืด หากเรามีแสงตะเกียงให้เห็นอะไรบ้างก็คงจะดีกว่าไม่มี !
ชีวิตคนเรานั้น กรรมได้กำหนดไว้หมดแล้ว
สังเกตดูได้คนจะรวยหรือจะซวยมันจะมีเหตุ เหตุปัจจัยมันมาและมันก็ส่งผล ครรลองชีวิตแต่ละคนจึงผันแปรกันไป
กรรมเก่าก็ส่วนหนึ่งลิขิตมาที่เหลืออันเป็นปัจจุบันกรรม คือการกระทำที่เราเลือกเอง จะถีบตัวเองให้ดีกว่าเดิมหรือจะงอมืองอเท้าหมดอาลัยตายอยาก
ดวงชะตาเป็นเพียงแผนที่ คร่าวๆให้เห็นครรลองชีวิตแต่ละคน ดูวาสนา ดูปัญหา ให้รู้ว่า ตัวเองควรระวังเรื่องอะไร จะได้มีสติกับเรื่องนั้นๆเพื่อให้ปัญหาไม่เกิดหรือเกิดน้อยลง
ช่วงเวลานี้ ปีนี้ มีความเสี่ยงไหม จะได้ไม่ประมาทหลงเชื่อข้อมูล หรือข้อมูลอาจผิดพลาด มีเกณฑ์ป่วยไข้ จะได้โฟกัสโภชนาการ สุขภาพให้เป็นพิเศษ
ดวงตก เตือนให้ระวังการลงทุนร่วมหุ้น เป็นต้น
ล้วนมีประโยชน์ที่เราจะได้ไม่ประมาทในเรื่องนั้นๆ ศาสตร์แห่งโหร ไม่ว่าศาสตร์ใด เป็นเครื่องมือในการวางกลยุทธ์ ในการใช้ชีวิต ในแต่ละช่วงปี หรือวัย ให้เสียหายน้อยหรือไม่เกิดได้ถ้าเข้าใจ
เปรียบเหมือนตะเกียงดวงน้อย ที่ทำให้เราพอเห็นทางข้างหน้าที่จะเดินไป ว่ามีเหว มีบ่อ หรือมีสัตว์ร้าย หรือไม่ เพื่อจะระมัดระวัง และเตรียมรับสถานการณ์ นี่คือประโยชน์ !
คนระดับกลางถึงสูง ทั่วโลกไม่ดูแคลนหรือมองข้ามศาสตร์พวกนี้ หลายคนได้ใช้จังหวะดวงดาว หรือฟังโหรเพื่อเลี่ยงวิกฤติ ลดความเสียหาย
ถ้ามีเพื่อนมีที่ปรึกษาเป็นโหรหรือหมอดูก็ดีเหมือนกัน ความเห็นจากโหรไม่ว่าศาสตร์ไหนล้วนมีประโยชน์
เราก็สามารถใช้สติมีปัญญาที่จะคิดวิเคราะห์สิ่งเขาแนะนำให้เข้ากับบริบทของเราได้
ไม่จำเป็นต้องเชื่อทุกเรื่อง เลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่เป็นประโยชน์
สิ่งที่โหร หรือหมอดูบอกอาจไม่ตรงหรือคลาดเคลื่อน ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถ้าบางเรื่องนั้นเราโอเค
อาจไม่ใช่ ได้ไม่ได้ หรือขาวดำชัด เพราะแนวคิด หรือจุดที่หมอดูบอก ถ้าเราเชื่อมโยงเข้ากับรายละเอียดในชีวิตเราได้ก็มีประโยชน์ไม่น้อยแล้ว
หากเราเป็นคนเชื่อและสนใจศาสตร์แห่งโหร เราย่อมได้เจอโหร หมอดู ไม่มากก็น้อย และแน่นอนว่า เมื่อท่านมีการศึกษา มีสติปัญญา
โหร หมอดูที่จะเป็นที่ปรึกษาท่านได้ ย่อมต้องมีลักษณะเดียวกันคือมีความรู้มีสติปัญญาเช่นกัน เพราะโหร หรือหมอดู ที่มีลักษณะอื่นก็อาจเหมาะกับคนแบบอื่น
ทุกวงการล้วนมีคนเก่งรู้จริงไม่มาก
ศึกษามามาก อาจเป็นถึงครูบาอาจารย์ เก่งไหมไม่รู้.....
คนเก่ง มีความจริงใจ มีคุณธรรมไหมไม่รู้....
สรุป
คนศึกษามีมาก รู้จริงอิงประสบการณ์มีมากไหม.....
โหรหรือหมอดู โดยมากมักถูกดูแคลนเพราะโหรหรือหมอดูส่วนหนึ่งขาดคุณธรรม จริยธรรม มุ่งลาภสักการะเงินทองมากไป
บางทีก็ชี้นำให้ผู้มาขอคำปรึกษาหลงผิด เสียหายทั้งทรัพย์สินเงินทอง
ทำให้โหรหมอดูน้ำดีเสียหายไปด้วยอันเป็นธรรมดาของสังคม
แต่...ทองแท้ย่อมเป็นทองอยู่นั่นเอง เพราะคนที่มาดูมาปรึกษาย่อมรับรู้ได้ และบอกต่อ โหรหมอดูกลุ่มนี้จึงมักอยู่อย่างสงบและเก็บตัว
ไม่มีความจำเป็นต้องเปิดตัวสร้างภาพอะไรมาก เพราะมักจะไม่ค่อยว่างจากคนมาดูอยู่แล้ว นั่นเอง
หมอดู..อีกกลุ่มที่ไม่อาจมองข้าม คือโหรหรือหมอดูที่มีวิชา มีความรักในศาสตร์แห่งโหร มุ่งศึกษาด้วยความจริงใจ อาจเจอครูดีไม่ดี รู้จริงไม่จริงบ้าง พวกเขาก็นับถือเป็นครูหมดเพราะถือว่าให้ความรู้
เขาเหล่านี้ก็ถือว่ามีวิชาที่ไม่อาจมองข้ามได้ เพราะที่ไหนมีครูดีวิชาดีเขาก็จะพากันไปศึกษาหาความรู้แต่...ใครจะได้วิชาลึกและนำไปใช้ได้แค่ไหนก็แล้วแต่บุญวาสนา
กลุ่มนี้ถือว่ามีองค์ความรู้ เพียงแต่จะมีจริตนิสัยเหมาะที่จะเป็นโหรหรือเป็นโจรในคราบโหร ไม่มีใครรู้ ต้องดูจากพฤติกรรมและการกระทำของเขา
ไม่ช้าก็เร็ว คนพวกนี้ก็จะอยู่ไม่ได้เองตามกลไกตลาด และเวรกรรมก็จะตัดรอนครรลองชีวิตของพวกเขาในที่สุด
สิ่งหนึ่งที่คนดูหมอไม่รู้ และอาจไม่คิดจะรับรู้ แต่ก็น่าจะรู้สักหน่อย เพราะโหรหรือหมอดูค่อนข้างจะน่าเห็นใจในแง่อาชีพไม่น้อยเช่นกัน
สำหรับโหรหรือหมอดูไม่ว่าศาสตร์ไหน ล้วนต้องมีใจรัก และมักจะทุ่มเทศึกษาไม่ว่าตำราหนังสือที่แพง แค่ไหนก็มักจะแสวงหาซื้อมาเก็บไว้ศึกษาค้นคว้า
เวลาที่หมดไปกับการอ่านศึกษาค้นคว้า การเดินทางไปศึกษาตามสมาคมฯ หรือตามบ้านครูอาจารย์ที่คาดหวัง
เหล่านี้เท่าที่รู้ มีต้นทุนทั้งเงิน เวลา ไม่น้อย หลายคนเสียเวลาอยู่หลายปี สุดท้ายต้องเลิกไปก็มาก
ค่าครูหรือค่าดูหมอ เป็นอะไรที่ลำบากใจ เพราะคนดูก็รู้สึกว่า ก็แค่คุยๆถามๆตอบๆ ไม่นานทำไมต้องให้ค่าดูแพงๆ
โหรหรือหมอดูก็มีค่าใช้จ่ายมีต้นทุน ไปหาครูบาอาจารย์ย่อมต้องดูแล ที่มีตัวตนและไม่มีตัวตน ต้องหมั่นใส่บาตรทำบุญให้ครูสม่ำเสมอ
เพราะเป็นวิชาที่มีครูมีอาถรรพ์ ไม่ใช่ธรรมดา เป็นวิชาที่เป็นทั้งวิทยาศาสตร์ ศิลปศาสคร์ จิตตศาสตร์ และสัมพันธ์ถึงจิตวิญญาณ หรือเซ้นส์
โหรหมอดูบางท่าน ก็มีหลักแนวคิดทั้งพุทธศาสตร์ ปรัชญา ที่น่าสนใจ .....คนที่สนใจศาสตร์แห่งโหรส่วนมากมักสนใจศาสตร์เหล่านี้ เรื่องความเชื่อจึงมีทั้งสัมมาทิฐิและมิจฉาทิฐิ จึงต้องตัดสินที่มีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์
บางคนก็ล้มป่วยต้องรักษาตัวเพราะไปเปิดกรรมไปช่วยแนะนู้นนี่ เจ้ากรรมนายเวรเขาหันมาเล่นงานเลย เหมือนไปช่วยลูกหนี้ ก็มีให้เห็น ทั้งที่ไม่น่าเชื่อ ...
เจ้าหนี้เลยหันมาเก็บดอกเบี้ยกับหมอเสียเลย โหรหรือหมอดูถ้าไม่หมั่นทำบุญให้ครูหรือเทวดาประจำตัวลูกค้า มักมีปัญหาชีวิตแบบนี้
ไม่ต้องพูดถึงโหรหมอดูในคราบโจรว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง เหมือนไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา !
ส่วนโหรหรือหมอดูที่มีวิชา ก็ไม่ใช่ว่าจะลำบากใจกับค่าครูจนเกินไป ผู้มาดู มาขอคำปรึกษาไม่น้อย ที่ได้ประโยชน์และศรัทธาโหรหรือหมอดูท่านนั้นๆ
มักมีน้ำใจอุปถ้มป์ช่วยเหลือเองไม่ว่าเรื่องเงิน หรืออื่นๆ อันนี้น่าจะเป็นเพราะมีบุญสัมพันธ์ต่อกันก็มีให้เห็น
จะว่าไปแล้วหากคนดูเขาประทับใจเขาก็มีน้ำใจให้มากน้อยตามกำลังศรัทธาเขาอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่เขาถือว่าได้ร่วมทำบุญ และอยากช่วยเหลือค่าใช้จ่าย
บางคนยังคิดเลยว่า โหรหรือหมอดูอาจแบ่งเคราะห์กรรมเขาไปบางส่วนแล้วด้วย .... คนกลุ่มนี้มักเข้าใจโหรหรือหมอดูดี บางทีใส่ซองให้มากกว่าค่าครูหลายเท่า (ถ้าเขาศรัทธาเชื่อถือ)
ระหว่างหมอดู กับคนดูหมอ ไม่ใช่หมอดูจะรอดสายตาคนดูไปได้ องค์ความรู้พฤติกรรมนิสัย ช้าเร็วคนดูก็รู้....และถ้ารู้สึกไม่น่าสนใจก็จะไม่กลับมาอีก
สรุป ศาสตร์แห่งโหรมีประโยชน์แน่ถ้าเข้าใจและใช้เป็น ตัดสินที่เจอโหรหรือหมอดูที่ดีหรือไม่เท่านั้นเองไม่ว่าจะเป็นศาสตร์ไหนเช่น.....
โหราศาสตร์ต่างๆที่ใช้ดาวโคจร เพราะดาวมีอิทธิพลต่อเจ้าชะตาแน่นอน (เขารู้กันในระดับสากลไม่ใช่เรื่องงมงาย) ในช่วงเวลานั้นๆ ลดความเสี่ยงได้มาก ไม่ว่าการลงทุน เดินทาง สุขภาพ
ลายมือที่ดูแค่รูปมือ นิ้วมือ ก็พอจะรู้ไม่น้อย ท่านเจ้าคุณ นรรัตน์ แห่งวัดเทพศิรินทร์
ท่านเก่งเรื่องนี้มาก การเลือกพระอุปปัจฌาย์ของท่านอาศัยจังหวะการยกประเคนของ ท่านก็รู้แล้วว่าท่านจะบวชที่วัดเทพศิรินทร์
โหงวเฮ้ง ถ้าเข้าใจและหมั่นสังเกตก็จะเข้าใจคนแต่ละคนได้ง่ายขึ้น ว่าที่เขามีนิสัย พฤติกรรม วาสนาแบบนี้เพราะรูปลักษณ์ หน้าตาการเดินเขาเป็นแบบนี้
งานลักษณะนี้ต้องคนโหงวเฮ้งแบบนี้ เหล่านี้มีหลักวิชามีสถิติ มีประโยชน์ ถ้าคนเข้าใจ....
โฆษณา