8 ต.ค. 2021 เวลา 11:37 • ข่าว
ศาลฎีกายกฟ้อง "หมอนิ่ม" จ้างวานฆ่า "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" แม่โดนคุก 25 ปี
ด่วน! ศาลฎีกาจำคุก "แม่หมอนิ่ม" บงการฆ่า "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" มือปืนทีมชาติ เหตุเพราะความขัดแย้งในครอบครัว ประกอบกับทำไปเพราะความเครียด เหลือจำคุก 25 ปี เชื่อเหตุสะสมความแค้นที่ชอบลงมือซ้อมลูกสาว ตีหลาน ส่วนมือปืน คนขี่นำทาง จำคุกตลอดชีวิต
2
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค.64 ที่ผ่านมา ศาลอาญามีนบุรี ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีฆ่า เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติ หมายเลขดำ อ.383/57 ที่อัยการศาลจังหวัดมีนบุรี และนายมานพ นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม บิดามารดา เข้าร่วมเป็นโจทก์ฟ้อง
5
นายจีรศักดิ์ หรือจี กลิ่นคล้าย อายุ 50 ปี มือปืนจำเลย ที่ 1
น.ส.สุรางค์ ดวงจินดา อายุ 79 ปี มารดา พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม จำเลยที่ 2 พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ อายุ 45 ปี จำเลยที่ 3
นายสันติ หรือทนายอิ๊ด ทองเสม อายุ 35 ปี คนติดต่อมือปืนจำเลยที่ 4
นายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 38 ปี คนขี่ จยย. จำเลยที่ 5
9
ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ, จ้างวานฆ่าผู้อื่นฯ พ.ร.บ.อาวุธปืน ขณะที่นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม มารดา เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ได้ยื่นคำร้อง ขอให้พวกจำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 4.4 ล้านบาทด้วย
2
อัยการฟ้องว่า เมื่อระหว่างเดือน ส.ค. - 19 ต.ค.56 จำเลยที่ 2-4 ร่วมกันจ้างวานให้ จำเลย 1 กับพวกที่หลบหนี ใชัอาวุธปืนยี่ห้อลูเกอร์ รุ่นโตโกเรฟ ขนาด 7.62 มม.ฆ่านายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติ ตามร่างกายหลายนัด
ขณะอยู่บนรถยนต์หรูยี่ห้อปอร์เช่ สีดำ ทะเบียน บส 223 กรุงเทพ จนถึงแก่ความตาย บริเวณหน้าวัดบางเพ็งใต้ ซอยรามคำแหง 166 แขวง - เขตมีนบุรี ก่อนพากันหลบหนีไป
โดยชั้นสอบสวนและชั้นศาล พญ.นิธิวดี น.ส.สุรางค์ มารดา และนายสันติ ทนายความ ให้การปฏิเสธ
1
ต่อมาวันที่ 19 ธ.ค.59 ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีมีมูลจากความขัดแย้งในครอบครัวโดยตำรวจจับจำเลยที่ 1 รับว่ารับงานมาจากจำเลยที่ 4 แล้วแบ่งเงินค่าจ้างกับจำเลยที่ 5 คนละหนึ่งแสนบาท
พยานโจทก์มีหลักฐานสัญญาณการใช้โทรศัพท์ติดต่อกันอย่างผิดสังเกตจากกลุ่มจำเลย และเป็นบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ ฟังว่าจำเลยที่ 3 บงการฆ่าผู้ตาย จึงพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 1 กับ 5 ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 แต่ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 3 กับจำเลยที่ 4 และให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3-5 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 2.5 ล้านบาทแก่ผู้ร้องด้วย
4
ต่อมาศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งให้พญ.นิธิวดี ประกันตัว 2.5 ล้านบาท ระหว่างอุทธรณ์ โจทก์ และจำเลยต่างยื่นอุทธรณ์
ต่อมาวันที่ 7 ส.ค. 61 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาว่า พยานให้การว่า หมอนิ่มยังคงมีความรักความผูกพันกับจำเลย และลูก ไม่มีเหตุฟังว่าจำเลยที่ 3 จะบงการฆ่าผู้ตาย แก้ให้ยกฟ้อง พญ.นิธิวดี จำเลยที่ 3 แต่ให้ลงโทษประหารชีวิต น.ส.สุรางค์ (มารดา) ฐานใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้ตาย จำเลยที่ 2
เนื่องจากศาลเห็นว่า น.ส.สุรางค์ ยังโกรธแค้นที่ผู้ตาย ที่มักทำร้ายร่างกาย พญ.นิธิวดี ซึ่งเป็นบุตรสาวคนเดียว และทำร้ายหลานสาวได้รับบาดเจ็บหลายครั้งหลายหน และเชื่อว่า ผู้ตายไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมได้
ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษากลับ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 3 แต่ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 2 แต่คำให้การเป็นประโยชน์คงลดโทษเหลือจำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิต และให้จำเลยที่ 1, 2, 4 (หนี) และ 5 ร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 2.5 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีให้กับโจทก์ร่วมและผู้ร้องด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
2
ต่อมาศาลอนุญาตให้ น.ส.สุรางค์ จำเลยที่ 2 ปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท
อัยการโจทก์ โจทก์ร่วม และนายจิรศักดิ์ หรือจี มือปืนจำเลยที่ 1 และน.ส.สุรางค์ จำเลยที่ 2 เท่านั้นที่ยื่นฎีกา ศาลฎีกา เห็นว่า ฎีกาจำเลยที่ 1 และที่ 2 ที่ต่อสู้ในประเด็นการร่วมจำเลยที่ 4 และที่ 5 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 2.5 ล้านบาท
1
พร้อมดอกเบี้ยจนกว่าจะชำระเสร็จให้กับโจทก์ร่วมและผู้ร้องนั้น ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมชดใช้ตามจำนวนดังกล่าวนั้นชอบด้วยเหตุผลแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย และฎีกาข้ออื่นที่ต่อสู้ประเด็นการรับฟังคำให้การพยานที่มาลงโทษจำเลย ก็ฟังไม่ขึ้น
4
ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 มานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพฤติการณ์การกระทำผิดของน.ส.สุรางค์ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นแม่ยายผู้ตาย
ศาลฎีกาเห็นว่าเกิดจากการที่ผู้ตายกระทำต่อ พญ. นิธิวดี จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรคนเดียวของจำเลยที่ 2 ครั้งแล้วครั้งเล่า และบางครั้งยังกระทำต่อหน้าหลานเล็กๆ ของจำเลยที่ 2 อีกอันเนื่องมาจากปัญหาการควบคุมอารมณ์ของผู้ตาย
1
โดยก่อนเกิดเหตุมีความไม่แน่นอนว่า ผู้ตายซึ่งเป็นนักกีฬายิงปืน มีอาวุธปืนอาจใช้อาวุธปืนของตนกระทำต่อจำเลยที่ 3 และครอบครัวในขณะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ก็เป็นได้เพราะก่อนเกิดเหตุเพียง 2 เดือน ผู้ตายยังใช้อาวุธปืนยิงไปทางคนรับใช้และบุตรคนเล็กจนผู้ตายถูกจับ และถูกควบคุมตัวที่เรือนจำและเพิ่งได้รับการประกันตัวมาไม่นาน
2
การกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 ที่ขณะเกิดเหตุเป็นหญิงมีอายุถึง 72 ปี และบัดนี้มีอายุเกือบ 80 ปีแล้ว และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน จึงเข้าลักษณะของผู้กระทำความผิดที่ตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส
2
มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ที่ศาลอาจลดโทษได้ให้ไม่เกินกึ่งหนึ่ง และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 52 ในการลดโทษประหารชีวิตไม่ว่าจะเป็นการลดมาตราส่วนโทษหรือลดโทษที่จะลง ให้ลดดังต่อไปนี้โดยถ้าจะลดกึ่งหนึ่งให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต
หรือโทษจำคุกตั้งแต่ 25 ปีถึง 50 ปีที่ศาลอุทธรณ์ลดโทษให้ น.ส.สุรางค์ จำเลยที่ 2 เพียงหนึ่งในสามและคงจำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิตด้วยเหตุเพียงคำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ศาลฎีกายังไม่เห็นพ้องด้วย เห็นควรลดโทษให้จำเลยที่ 2 อีก
2
ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้เป็นว่า คำให้การชั้นสอบสวนของน.ส.สุรางค์ จำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา และกระทำความผิดเพราะตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (2) คงลงโทษจำคุกจำเลยไว้ 25 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.
3
โฆษณา