10 ต.ค. 2021 เวลา 20:22 • ปรัชญา
“โลกุตตรธรรมหลุดพ้นจากกองทุกข์ของไตรภพ”
ธรรมะรุ่งอรุณ ☀️
๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๔
 
การที่พวกเราได้มานับถือพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาของพวกเรา ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก เพราะการนับถือพระพุทธศาสนานี้ ทำให้เราได้มีครูบาอาจารย์ที่เก่งกาจที่มีความรู้ที่ไม่มีใครในโลกนี้รู้กัน ต่อให้ไปเรียนจากมหาวิทยาลัยอันดับ ๑ ของโลก หรือไปศึกษาจากศาสนาอื่นเราก็จะไม่ได้ความรู้ที่เราจะได้จากพระพุทธศาสนา ความรู้ที่พระพุทธศาสนาจะให้กับพวกเรานี้เรียกว่า “โลกุตตรธรรม” หรือ “โลกุตตรวิชา” ส่วนความรู้ที่เราจะได้เรียนรู้จากสถาบันการศึกษาต่างๆ หรือจากศาสนาอื่นๆ เราจะได้ “โลกิยวิชา”
โลกุตตรวิชากับโลกิยวิชาต่างกันอย่างไร โลกิยวิชาเป็นวิชาที่ทำให้เรายังต้องติดอยู่ในไตรภพ อยู่ในการเวียนว่ายตายเกิดของสังสารวัฏ ส่วนโลกุตตรวิชา เป็นวิชาที่จะพาให้เราได้หลุดออกจากโลกของการเวียนว่ายตายเกิดของไตรภพ ของสังสารวัฏนั่นเอง นี่คือข้อแตกต่างระหว่างความรู้หรือวิชาความรู้ที่มีอยู่ในโลกนี้ จะแบ่งไว้เป็น ๒ ระดับด้วยกัน คือระดับโลกิยวิชาและโลกุตตรวิชา “โลกุตตระ” แปลว่าเหนือโลกิยะนั่นเอง สูงกว่าโลกิยะ
โลกิยะนี้ไม่สามารถพาให้ผู้ศึกษาร่ำเรียน หลุดออกจากโลกของการเวียนว่ายตายเกิดได้ โลกของไตรภพคือกามภพ รูปภพ และอรูปภพ เรียกว่าสังสารวัฏ เพราะว่าไม่ว่าจะไปเกิดในภพไหน เกิดแล้วเดี๋ยวก็ต้องมีการสิ้นสุดลง เกิดเป็นมนุษย์เดี๋ยวก็ต้องตาย เกิดเป็นเทวดาก็ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ เกิดเป็นพรหมก็ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ พอเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ก็ต้องมาแก่มาเจ็บมาตายใหม่ ก็จะติดอยู่กับไตรภพ ๓ ภพนี้
กามภพก็คือภพของมนุษย์ ของเทวดา ของผู้ที่เสพกาม รวมไปถึงพวกเดรัจฉาน พวกเปรต พวกอสูรกาย พวกนรกนี้อยู่ในกามภพ ภพที่ยังต้องเสพรูปเสียงกลิ่นรสต่างๆ อยู่ ส่วนรูปภพกับอรูปภพ เป็นภพของผู้ที่เสพรูปฌานกับอรูปฌานคือสมาธิขั้นต่างๆ นั่นเอง พวกนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะหลุดออกจากการติดอยู่ในไตรภพใน ๓ ภพนี้ได้ ไม่ว่าจะได้ภพไหนเดี๋ยวก็ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ พอกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็ต้องมาเจอกับความแก่ ความเจ็บ ความตายของมนุษย์ใหม่
มีผู้ที่ได้ศึกษาโลกุตตรวิชาเท่านั้น ที่จะหลุดออกจากการเวียนว่ายตายเกิดในไตรภพนี้ได้ ผู้ที่จะหลุดออกได้ต้องเป็นผู้ที่ได้ศึกษาจากพระพุทธศาสนา คือจากพระพุทธเจ้า พระธรรม หรือพระสงฆ์นี่เอง พระพุทธเจ้าหรือพระธรรมคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก และพระอริยสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้านี้เป็นครูเป็นอาจารย์ ที่จะให้โลกุตตรวิชาต่อผู้ที่มาศึกษา ถ้าไปศึกษาที่อื่นจะไม่มีโลกุตตรวิชา มีแต่โลกิยวิชา ไม่ว่าจะเป็นวิชาแขนงใดในโลกนี้ ถือว่าเป็นโลกิยวิชาทั้งหมด
เรียนวิทยาศาสตร์ก็เป็นโลกิยวิชา เรียนศึกษาศาสตร์ เรียนอักษรศาสตร์ เรียนบัญชี เรียนพาณิชย์ เรียนธุรกิจ เรียนวิศวกรรม เรียนคณิตศาสตร์ เรียนเคมี วิชาเหล่านี้ไม่สามารถทำให้ผู้ได้เรียนรู้หลุดออกจากโลกของการเวียนว่ายตายเกิดได้ ออกจากไตรภพได้ ต้องไปเรียนโลกุตตรวิชา โลกุตตรวิชานี้เป็นวิชาที่พระพุทธเจ้า เป็นผู้ทรงค้นพบขึ้นมา เรียกว่า “ตรัสรู้” การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าก็คือการตรัสรู้โลกุตตรวิชานี่เอง ได้ทรงค้นพบวิชาความรู้ที่จะทำให้ผู้รู้นี้ สามารถออกจากกองทุกข์แห่งการเวียนว่ายตายเกิดได้
ผู้ที่มานับถือพระพุทธศาสนาก็คือเหมือนกับนักเรียน ที่มาเรียนหนังสือจากพระพุทธพระธรรมหรือพระสงฆ์นั่นเอง ถ้านับถือพระพุทธศาสนา แล้วไม่มาศึกษาพระธรรมคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็ถือว่าเป็นนักเรียนที่หนีเรียน นักเรียนที่หนีเรียนนี้ก็จะเรียนไม่จบ จะไม่ได้รับประโยชน์จากการมานับถือพระพุทธศาสนา ต้องศึกษาพระธรรมคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วนำเอาคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้าไปปฏิบัติ ถึงจะสามารถได้โลกุตตรวิชา ได้ความรู้ที่จะพาให้หลุดออกจากกองทุกข์ของไตรภพได้ หลุดออกจากการเวียนว่ายตายเกิดในไตรภพได้ ก็จะสามารถที่จะหลุดออกจากไตรภพได้
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓
#พระจุลนายก พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
โฆษณา