17 ต.ค. 2021 เวลา 11:31
🖤 I am sick ฉันป่วย 🖤
🌵 ตอนที่ 6 มารู้จักฉันกันเถอะ☺ Is me
สวัสดีค่ะมาพบกันอีกแล้วนะคะ กับบทความที่มีชื่อว่า I am sick ฉันป่วย ในหัวข้อที่มีชื่อว่า Is me
ฉันที่หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างเดินทางมายังเมืองๆหนึ่งของประเทศไทย เมืองที่เมื่อหลายคนได้ยินชื่อแล้วมักจะตราหน้าผู้หญิงที่มาเมืองนี้ว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี
หลายท่านคงรู้แล้วว่าเมืองๆนี้ชื่อว่าอะไร😄และอยู่ที่ไหน
ภาพประกอบจากFB ไม่เกี่ยวกับสถานที่ในบทความ
และหากหลายท่านไม่รู้ฉันก็คงบอกได้แต่เพียงว่าที่นี้อยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพสักเท่าไหร่และติดชายทะเล แต่ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อเมืองออกไปนะคะ ด้วยเหตุผลหลายประการ555
เอาเป็นว่าสาเหตุที่มายังเมืองๆนี้มีอยู่หลายสาเหตุค่ะ เรามีคนรู้จักที่ไม่สนิทอยู่ที่นี่ มาอาศัยเขาก่อนเพราะไม่มีที่ไป😄ไม่มีเงินติดตัว หรือจะพูดให้ถูกคือมีแค่ค่ารถมาเท่านั้น
พี่สาวของฉันตัดสินใจมาหางานที่นี่ ส่วนฉันเขาพาไปไหนฉันก็ต้องไป
ที่นี่คือโลกใบใหม่ของฉัน โลกที่ฉันไม่เคยคิดที่จะมา โลกที่ฉันหวาดกลัวเสมอเมื่อได้ยินว่าที่นี่พูดคุยกันคนละภาษา กินอยู่กันคนละแบบ ผู้คนแปลกหน้ามากมายมารวมกันอยู่ที่นี่
ทุกสิ่งทุกอย่างแปลกและแตกต่างจากบ้านหลังน้อยของฉัน ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ฉันจะตัดสินใจไปทำงานต่างประเทศเพื่อเผชิญโลกใบใหม่ แต่นั้นมันก็เป็นการตัดสินใจที่ทำใจไว้แล้ว มันเป็นการตัดสินใจที่คิดถี่ถ้วนแล้ว
แต่ที่นี่ .. ฉันไม่ได้เตรียมใจไว้เลย
เด็กบ้านนอกคนนึงที่เรียนจบมาแบบไม่ได้ภาษาติดตัวแม้แต่น้อย จบมาแบบครูรำคาญเลยให้จบๆไป พอมาถึงที่นี่ ที่ๆมีแต่คนพูดภาษาอะไรไม่รู้มากมาย ราวกับว่าท้องฟ้าของฉันมันมืดมิดไม่มีแสงดวงจันทร์เลยแม้แต่น้อย
อย่างที่หลายท่านคิด คนจนๆอย่างเราจะทำงานอะไรได้ล่ะ นอกจาก..
ใช่ค่ะ พี่สาวของฉันตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต เธอเสียสละตัวเองหาเงินเลี้ยงครอบครัว เลี้ยงน้องที่ไร้ประโยชน์แบบฉัน แต่ฉัน..
ฉันกลับเป็นคนที่อ่อนแอเสมอ
ฉันที่ไม่กล้าทำงานแบบนั้นได้แต่คอยหลบอยู่ใต้กระโปรงพี่สาว น่าอายยิ่งกว่าคนที่ทำงานแบบนั้นเสียอีก คนที่ดูมีคุณค่ากลับเป็นเธอเสียเองที่ปกป้องดูแล เสียสละเพื่อคนในครอบครัว
ถ้าถามว่าเธออยากทำหรือป่าว ฉันคงตอบได้เพียงว่าไม่มีใครอยากทำแบบนั้นหรอกค่ะ หากคนเรามีทางเลือกมากมาย ใครจะอยากขายศักดิ์ศรีตัวเองจริงไหม
ที่ฉันเอาเรื่องนี้มาเล่า ไม่ใช่ว่าจะเอาพี่สาวตัวเองมาขายให้อายชาวบ้านชาวช่อง เพียงแต่ฉันอยากให้ท่านที่เคยมองผู้หญิงเหล่านั้นในแง่ลบ ได้ฟังเรื่องราวที่แสนเจ็บปวดของพวกเธอบ้าง
เสียงหัวเราะที่ดังสนั่น เครื่องสำอางค์ที่แต่งเติมบนใบหน้าของพวกเธอ คุณเคยรู้ไหมว่ามันไม่ได้บดบังเพียงผิวหนังที่หยาบกร้านเท่านั้น แต่มันยังถูกแต่งแต้มเพื่อบดบังคลาบน้ำตาที่ไหลรินในชีวิตอีกด้วย
คนที่ไม่มีความสุขในชีวิต คนที่มีปัญหาชีวิตมากมาย คนที่ต้องแบกภาระอันหนักหน่วงแต่ต้องฝืนยิ้มและหัวเราะเสมอเมื่อออกไปทำงาน คุณคิดว่าพวกเธอมีความสุขแล้วจริงๆหรือ
ส่วนตัวฉันนั้นเข้าใจดีแล้วจากสิ่งที่ได้เห็นและสัมผัสในทุกๆคราบน้ำตาของพี่สาว ฉันที่อ่อนแอปวกเปียก ได้แต่มองด้วยความเจ็บปวด และโทษตัวเองว่าทำไมถึงใจไม่กล้าพอ ทำไมฉันถึงยังไม่ทำอะไรสักอย่าง
ฉันคิดได้แค่ว่าอาจจะเป็นเพราะสิ่งที่ฉันเคยเจอมาตอนเด็ก ประสบการณ์ร้ายๆที่พบเจอ มันทำให้ฉันกลัวและกล้าพบเจอสิ่งใหม่ๆ และที่สำคัญฉันยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคน
ฉันหลบอยู่หลังพี่สาวเกือบสองอาทิตย์ ใช้เงินที่เธอเอาร่างกายไปแลกมาซื้อข้าวกิน ในทุกๆวันฉันจึงมักจะกินข้าวกับน้ำตาเสมอ
เงินที่ได้มาเพียงน้อยนิดมันพอแค่จะให้ซื้อข้าวกิน แต่ไม่พอที่จะส่งกลับบ้านนอกเลย ความกดดันจึงมาลงตรงที่ฉัน ที่หายใจทิ้งไปวันๆ คนรู้จักต่างพากันชักชวนฉันไปทำงาน ซึ่งงานที่ว่าก็หนีไม่พ้น เรื่องรอบเอว และงานผับบาร์
ฉันในตอนนั้นกลัวโลกใบใหม่ใบนี้จนแทบจะหนีกลับบ้าน โทรหาเพื่อนมากมายเพื่อที่จะไปพักกับเขาชั่วคราวเพื่อหนี
หนีจากสิ่งที่พบเจอ
แต่ฉันก็ยังพอมีสำนึกอยู่บ้าง ไม่กล้าทิ้งพี่สาวไว้ที่นี่คนเดียวไม่อยากเอาตัวรอดคนเดียว
ในอาทิตย์ที่สองที่มาเหยียบที่นี่ ฉันได้ตัดสินใจเด็ดขาดว่าหากฉันหางานแบบปกติไม่ได้ฉันจะไปทำงานบาร์กับคนรู้จักในวันถัดไปทันที
งานผับบาร์ไม่ใช่ไม่ดี งานทุกงานที่ทำแล้วได้เงินดีหมด เพียงแต่ตัวฉันในตอนนั้นกลัวสิ่งใหม่ๆมาแต่จำความได้ กลัวคนแปลกหน้า ไม่เคยมีสังคม เป็นคนโลกแคบแต่ไหนแต่ไร มันจึงยากมากสำหรับฉัน
555 แต่คุณคะที่เมืองนี้ก็เหมือนกับเมืองอื่นๆในประเทศไทยมีงานอย่างอื่นมากมายให้ทำ มีความเป็นอยู่ธรรมดาของคนทั่วไป สิ่งที่หลายคนคิดว่าที่นี่เป็นแบบไหน นั่นก็คือสิ่งที่ฉันคิดในตอนนั้น
ที่นี่ราวกับว่าไม่มีกลางวันกลางคืน ไม่รู้พวกเขานอนกันตอนไหน รู้แต่ว่ามีผู้คนมากมายเดินรายล้อมไปทั่วทุกทิศทาง
ฉันขอให้พี่สาวพาเดินหางานตั้งแต่เช้า จนดึกดื่น ฟางเส้นสุดท้ายของฉันเหมือนจะขาดสะบั้นลงตรงหน้า หากว่าวันนี้ฉันไม่ได้งาน
จนเวลาราว 23:00 น. พี่สาวฉันเริ่มท้อและบอกกับฉันว่า "เรามาถึงจุดนี้แล้ว เราเลือกอะไรไม่ได้มากนักหรอก ถ้าจำเป็นต้องทำมันก็ต้องทำนะ"
ฉันรู้ว่าฉันดื้อมากและเธอคงจะเหนื่อยกับฉันมากแล้ว แต่ฉันก็ดื้อต่อ ฉันขอเธอเดินไปสักหน่อยให้ได้ลองสมัคดูอีกสักร้านสองร้านแล้วค่อยว่ากัน
จนในที่สุด ฉันก็ได้งานในร้านสุดท้ายพอดี
เหมือนกับว่าสวรรค์ไม่ได้ใจร้ายกับฉันเกินไป และยังพอมีน้ำใจกับฉันอยู่บ้าง อย่างน้อยๆฉันก็ไม่ต้องทำในสิ่งที่ฉันกลัวแล้ว
ขอบคุณผู้จัดการร้านคนนั้นที่รับฉันในทันที ทุกวันนี้ฉันยังขอบคุณเขาอยู่เลย ถ้าเขาไม่รับฉันในวันนั้นฉันก็คงต้องทำงานอย่างว่าไปแล้ว
ฉันในสภาพที่ร้องไห้จนตาบวมเขารับทำงานก็บุญเท่าไหร่แล้ว555 แถมภาษาอังกฤษยังแย่อีก ถ้าไม่เรียกว่าบุญก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว555
...
...
...
👉แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้านะคะ
Cr.Small world🌍
me. ถนนสายเก่า
Thankyou❤

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา