14 ต.ค. 2021 เวลา 01:01 • หนังสือ
ไลล่าแสงตะวัน : ไล่ล่าความเป็นตัวเอง
ฉันไล่ล่าหนังสือเล่มนี้จากตลาดหนังสือมือสอง หลังจากได้อ่านรีวิวที่หลายคนพูดถึง
Chasing Daylight หรือ ไล่ล่าแสงตะวันหนังสือเล่มนี้แปลเป็นไทยมาตั้งแต่ปี 2552 หรือ 12 ปีมาแล้ว โดยสำนักพิมพ์แมคกรอ-ฮิล น่าจะเป็นการพิมพ์ครั้งแรกและครั้งเดียว ลองเสิรช์หาก็ไม่มีจำหน่ายแล้ว
เริ่มอ่านได้ 2-3 วันล่ะแต่ไม่ต่อเนื่อง แล้ววันนี้ไปนั่งอ่านจนจบในร้านกาแฟ
ตอนแรกก็รู้สึกเฉยๆ แต่พออ่านใกล้จบน้ำตาเริ่มซึม
ผู้เขียน ยูจีน โอ เคลลี่ เขียนหนังสือเล่มนี้เมื่ออายุ 53 ปี เมื่อเขาใกล้จะตายเพราะเป็นมะเร็งเนื้องอกในสมองระยะสุดท้าย
เขาเป็นซีอีโอดังระดับโลกเคยพบปะกับเหล่าผู้บริหารระดับสูงทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวอร์เรน บัตเฟ็ต ,สแตน โอนีล (เมอร์รีล ลินซ์) และเป็น 1 ใน 50 ซีอีโอที่ได้รับเลือกเข้าประชุมโต๊ะกลมที่ทำเนียบขาวกับประธานาธิบดีบุช เมื่อปี 2005
เขาเป็นคนมุ่งมั่นและทำงานอย่างมีการวางแผนมาโดยตลอด จนเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
ไม่มีอาการเตือนมาก่อนว่าเขาจะเป็นมะเร็ง จนมารู้ตัวเมื่อหมอบอกว่าจะมีชีวิตเหลืออีก 3-6 เดือนเท่านั้น
เมื่อรู้ตัวเขาก็เริ่มวางแผนว่าจะตายอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ เหมือนที่เขาเคยทำธุรกิจประสบความสำเร็จมาแล้ว
เขาลิสต์รายชื่อเพื่อน คนสนิท ผู้ที่เขาอยากบอกลา บางคนก็นัดกินข้าว เดินเล่นด้วยกัน แต่บางคนได้แค่โทรศัพท์หรือเขียนจดหมายบอกลา
ส่วนลูกสาวและภรรยา เขาพาครอบครัวไปเที่ยวทะเลสาป ล่องเรือ ใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากที่สุด เพื่อความทรงจำที่ดีก่อนจะตาย
เหมือนเขากำลังไล่ล่าแสงสุดท้ายของตะวันก่อนที่จะลาจากโลกนี้ไป ในที่สุดยูจีนก็จากไปจริงๆ ถึงแม้จะทำตามแผนที่วางไว้ก่อนตายไม่ครบถ้วน (ไม่ได้พาลูกสาวไปเที่ยวยุโรป)
จะเป็นอย่างไรถ้าเราวางแผนเหมือนยูจีนบ้าง ถ้าเราจะตายอีก 3 เดือน 6 เดือนข้างหน้า เราอยากทำอะไรบ้าง
หลังจากอ่านหนังสือจบ ฉันกลับมาถึงบ้านตอนบ่าย เข้าครัวชงชากุหลาบมาสองแก้ว จัดอินทผลัมลงจาน แล้วถือออกมานั่งดื่มกับพ่อ วัย 99 ปี ซึ่งนั่งอยู่ในรถเข็นวีลแชร์เพราะเดินลำบากจากโรคกระดูกเสื่อมตามวัย ฉันยกแก้วชาชนกับแก้วชาของพ่อ แล้วเล่าเรื่องหนังสือเล่มนี้ให้ฟัง เน้นตอนที่นักเขียนบอกลาแม่ของเขา ซึ่งอายุมากแล้ว เขาพูดกับแม่เขาว่า “ถ้าผมตายไป ผมคงมีโอกาสพบคุณแม่บนสวรรค์ “ ทำให้แม่เขาพอใจ ฉันแอบสังเกตว่าพ่อเข้าใจสิ่งที่ฉันอยากจะสื่อไหม แต่สีหน้าพ่อเฉยๆ ขณะเคี้ยวอาหาร พอกลืนอินทผลัมแล้ว พ่อเอ่ยว่า “อ่านแต่หนังสือไร้สาระ ทำไมไม่อ่านข่าวสารธุรกิจการลงทุนในหุ้นที่มันจะทำให้ได้เงิน “…..แป่ว !!!!
ยูจีนแนะนำว่าคนเราควรมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันตั้งแต่เดี๋ยวนี้ เทคนิคที่เขาทำคือ การยอมรับ ยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิต ยอมรับว่าเขาป่วยเป็นมะเร็ง ใกล้จะตาย ร่างกายอ่อนแอ วิธีนี้ทำให้เขาจิตใจสงบ นิ่ง รู้สึกตัวอยู่กับปัจจุบันขณะ
หนังสือเล่มนี้ให้บทเรียนว่า ขณะที่มีชีวิตอยู่ คนเราควรรื่นรมย์กับสิ่งเล็กๆน้อยๆ ระหว่างทาง ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำ ก่อนที่จะสายเกินไป สูดกลิ่นหอมของกุหลาบเมื่อยังทำได้ ใช้ชีวิตอยู่วันต่อวันให้คุ้มค่า ลงมือทำสิ่งที่มีความหมายกับตัวเองและคนรัก แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่ทำเพราะคิดว่ายังมีเวลาในชีวิตเหลือเฟือ…..
อ้อย นักเขียนวัยอิสระ💋
ชอบอ่าน ชอบเขียน ชอบปลูกกุหลาบ
15/1000 บทความ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา