14 ต.ค. 2021 เวลา 04:20 • หนังสือ
เหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของคุณผู้อ่านคืออะไร .............
บางคนอาจบอกว่า อยู่เพื่อทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองและครอบครัว
บางคนอาจจะบอกว่าอยู่เพื่อคนรัก เพื่อทำประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติ ฯลฯ
วิคเตอร์ แฟรงกิล จิตแพทย์ผู้เขียนหนังสือ “ ชีวิตไม่ไร้ความหมาย “ซึ่งเป็นผู้ที่เคยใช้ชีวิตในค่ายมรณะเอาชวิทซ์ของนาซี บอกไว้ในหนังสือเล่มนี้ว่า เหตุผลที่เขาพยายามมีชีวิตอยู่ในตอนนั้น เพราะอยากเห็นหน้าภรรยาที่พลัดหลงกันในสงคราม ทำให้ชีวิตเขามีเป้าหมาย จนในที่สุดเขาก็ได้พบภรรยาจริง ๆ
บางคนมีชีวิตอยู่เพื่อการทำงาน เวลาเกษียณแล้วจึงไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ ทำให้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ไม่รู้จะทำอะไรให้ชีวิตผ่านไปได้ในแต่ละวัน
เอาเข้าจริง ๆ บางคนก็ไม่เคยคิดเรื่องนี้มัวแต่หมกมุ่นอยู่กับชีวิตประจำวัน ตื่นเช้าต้องรีบไปทำงาน เย็นลงต้องไปรับลูกที่โรงเรียน กลับบ้านทานอาหาร เวลานอนหัวถึงหมอนก็หลับ แต่ละวันวนเวียนไปเช่นนี้
หนังสือที่นำมารีวิววันนี้ชื่อ Reasons to stay alive แปลแบบตรงตัวคือ “ เหตุผลในการมีชีวิตอยู่ “ แต่ชื่อหนังสือภาษาไทยกลับตั้งชื่อว่า “แด่ผู้แหลกสลาย” ซึ่งไม่ใช่การแปลแบบตรงไปตรงมา แต่คงเป็นความตั้งใจที่อยากจะเชื่อมโยงกับเนื้อหาในหนังสือ
หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องชีวิตผู้ชายคนหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งก็คือตัวนักเขียนเอง เขาเล่าว่าไม่ได้ป่วยด้วยโรคนี้ตั้งแต่เด็ก แต่เริ่มเป็นเมื่ออายุ 24 ปี ไม่มีสาเหตุ ครอบครัวก็อบอุ่น พอเป็นหนุ่มก็มีแฟนที่รักและเข้าใจ เขาจมอยู่แต่กับตัวเอง ไม่กล้าแม้กระทั่งจะเดินคนเดียวออกไปซื้อของที่ร้านค้าใกล้บ้าน เขาบอกว่าในระยะแรกคนที่ป่วยโรคนี้ อาจจะไม่รู้สึกตัว บางทีรู้สึกเหนื่อยล้าตลอดเวลาโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน การคิดและเคลื่อนไหวช้าลง เบื่ออาหาร หงุดหงิดง่าย ไม่สามารถเพลิดเพลินกับอะไรก็ตาม เก็บตัวกะทันหัน ฯลฯ
แต่เขารู้ตัวเอง จึงทำการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล สาเหตุ วิธีการรักษา สำหรับเขา การรักษาด้วยยาไม่หาย เพราะโรคซึมเศร้าไม่ได้เกิดจากสารเคมีในสมองผิดปกติแต่อย่างเดียว ยาใช้ไม่ได้ผลกับเขา เขาอยากยอมแพ้ จนถึงขั้นจะไปกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย แต่พอเวลาผ่านไป เขาเรียนรู้วิธีที่จะเยียวยารักษาตัวเอง ด้วยการวิ่ง การเขียนหนังสือ มีครอบครัวเป็นของตัวเอง การมีสติอยู่เสมอ การทำอาหาร วิธีเหล่านี้ทำให้เขาอาการดีขึ้น เขาบอกว่าโรคนี้สำหรับเขาคงจะไม่หาย แต่เขาพร้อมที่จะเรียนรู้ในการใช้ชีวิตและอยู่กับมัน วิธีใช้ชีวิตที่เขาแนะนำ
1 ยินดีกับความสุขขณะที่ยังมีมันอยู่
2 ใจดีกับตัวเอง ทำงานให้น้อยลง นอนให้มากขึ้น
3 การอ่านและการเขียน ทำให้มีสมาธิบำรุงจิตใจได้ดีที่สุด
4 ฟังมากกว่าพูด
5 อาบน้ำก่อนเที่ยง
ฯลฯ
1
มีตอนหนึ่งที่ฉันชอบ นักเขียนบอกว่า “เวลา”สร้างความเดือดร้อนให้เรา คนเรากังวลกับการใช้เวลา คนเราพยายามทำหลายสิ่งหลายอย่างให้สำเร็จก่อนที่จะสายเกินไป ทั้งการเก็บออม เลื่อนฐานะ แต่งงาน มีลูก พยายามให้ได้เลื่อนขั้น และหาเงินเพิ่ม วนเวียนเช่นนี้ไม่รู้จักจบสิ้น การเปลี่ยนชีวิตให้เป็นการวิ่งขาแทบขวิดเพื่อให้ได้ซึ่งสิ่งต่าง ๆ นั้น รังแต่จะทำให้ชีวิตสั้นลง ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุทำให้คนทุกวันนี้เป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้น
พออ่านหนังสือเล่มนี้จบ ฉันนึกอยากจะป่วยเป็นโรคนี้บ้าง ถ้าหากคนป่วยเป็นโรคนี้แล้วสามารถเขียนหนังสือได้ดีขนาดนี้ วิเคราะห์โรค เข้าใจอาการป่วยของตัวเอง แล้วเขียนออกมาได้อย่างละเอียดละออลึกซึ้งแบบนี้ ก็น่าจะคุ้มค่า
ฉันเองเกษียณมาจวนจะครบหนึ่งปีแล้ว รู้สึกเวลาผ่านไปเร็วมาก เพราะมีอะไรให้ทำมากมาย หรือ มีเหตุผลในการมีชีวิตอยู่อยากจะตื่นขึ้นมาทำในแต่ละวัน ดังนี้
🤙 ดูแลพ่อผู้ชราในวัย 99 ปี
🤙 เฝ้าคอยดูการเจริญเติบโตของกุหลาบ 40 ต้นที่ปลูกไว้รอบบ้าน
🤙 ดูแลลัคกี้ หมาน้อยธรรมดาของฉัน
🤙 อ่านหนังสือที่กองไว้เป็นตั้ง
🤙 ดูหนัง Netflix ให้คุ้มค่าเงินที่จ่ายแต่ละเดือน
🤙ใช้เงินทำในสิ่งที่ชอบ (จัดสวน จัดบ้าน ท่องเที่ยว)
1
อ้อ ! ขอเพิ่มมาอีกข้อ เหตุผลที่มีชีวิตอยู่เพื่อเขียนบทความให้ครบ 1,000 ตอน
อ้อย
Sugar Cane
นัก(อยาก)เขียนวัยเกษียณ
ผู้ที่ชอบปลูกกุหลาบและอ่านหนังสือ
บทความที่ 4/1000 ภายใน 365 วัน
คอร์ส Basic Writing

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา