16 ต.ค. 2021 เวลา 04:30 • ไลฟ์สไตล์
"รู้แล้วจะตกใจ !! ว่าทุกข์มาจากไหน ???"
" ...​ เช้านี้ก็มีเรื่องสั้น ๆ ที่จะสะกิดใจผู้คนในโลก
อาจจะเป็นความจริงที่จะต้องทำให้
ทุกคนรู้สึกเลยว่า
เรา ... เราเข้าใจผิด
ความทุกข์ที่เกิดขึ้นในทุก ๆ คน
เรามักจะมีความรู้สึกมากกว่า 8-90 %
ว่า มีคนอื่นเป็นคนทำ
ผมยกตัวอย่างให้เราพอจะนึกออก
ผมเชื่อว่าทุกคน ...
ไม่ต้องมัวนั่งฟังธรรม
แต่ให้เอาสิ่งที่ผมกำลังจะพูดนี้
กลับไปดูในชีวิตของพวกเราทุกคน
... ถ้าเราทะเลาะกับใคร
ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์ก็ดี
หรือว่าต่อหน้ากันก็ดี
ทะเลาะกับแฟน ทะเลาะกับลูก ทะเลาะกับพ่อแม่
ทะเลาะกับเจ้านาย ทะเลาะกับลูกค้า
ทะเลาะกับเพื่อน
ใครก็ได้
ไม่ว่าจะเป็นคนที่เรารัก หรือไม่รักก็ตาม
ผมจะชี้ให้เห็นง่าย ๆ ก่อน
ก็คือ หลังจากที่เราทะเลาะกันเสร็จ
หรือทะเลาะ หรือพูดจากันเสร็จ
หรือเค้าว่าเราเสร็จ
จากนั้น ... เค้าไม่ได้ว่าเราแล้ว
แต่ความทุกข์ที่เกิดขึ้นในคนทุกคนทั่ว ๆ ไป
มันจะมีความรู้สึกว่า
เพราะเค้าว่าเรา
จริง ๆ เค้าเลิกว่าเราไปตั้งนานแล้ว
ถ้าเรามาดูความจริง
เราจะเห็นว่า ปัญหาทั้งหมดเกิดที่ใจของเราเอง
ที่วนเวียน เวียนวนกับเสียงของคนอื่น
ที่เค้าพูดจบไปแล้ว
ถ้าท่านเริ่มเห็นความจริงนี้
ท่านจะรู้เลยว่า คนทั้งเจ็ดพันหกร้อยล้านคน
"ทุกข์ผิดที่"
โทษคนผิด
คนที่พูดให้เราเจ็บช้ำน้ำใจ
ไม่ใช่คนทำเรา
แต่กลายเป็นใจของเราเอง
ถ้าท่านเห็นความจริงนี้ขึ้นมาได้
ท่านจะรู้เลยว่าจากนี้
การที่จะปฏิบัติ จะปฏิบัติเพื่ออะไร
เราจะได้รู้ความจริงกันซักทีว่า
ความทุกข์ไม่ได้มาจากคนอื่น
ความทุกข์ มาจากเรากันเองนี่แหละ
มาจาก 'ใจ' ของเรากันเองนี่แหละ
นี่เป็นเรื่องให้เข้าใจง่าย ๆ
เพราะฉะนั้น ที่เรามาฝึกจิตฝึกใจ
มาฝึกรู้ลมหายใจ มีสมาธิ
แล้วจะทำให้ทุกข์หายไปมั้ย
จะทำให้ทุกข์ลดลงมั้ย
: "ฉันก็นั่งสมาธิไม่ค่อยได้"
รับประกันได้เลย ยังไงก็ต้องลด
เพราะมันไม่หลง ที่จะเข้าไปหมุนวน
มากนัก
ต่อให้ท่านยังทำไม่ได้มาก
แต่การหมุนวนในเนื้อเรื่องจะต้องน้อยลง
เพราะการรู้ลมหายใจ
คือการดึงการหมุนวนออกจากระบบ
กลับมาอยู่ที่สติ
กลับมาอยู่ที่สมาธิ
กลับมาอยู่ที่สัมปชัญญะแทน
ถึงวันนี้เราจะได้ไม่ต้องว่าคนอื่น
ไม่ได้ไปโทษคนอื่น
ว่าเค้าเป็นคนทำ
เมื่อท่านเข้าใจในชั้นนี้
หรือใคร ๆ เริ่มเข้าใจในชั้นนี้
ผมจะขยายความให้อีกชั้นนึง
...
แล้วถ้าระหว่างที่เค้ากำลังว่าเราตรง ๆ เลยล่ะ ?
ไม่ใช่เหตุการณ์ที่จบไปแล้ว
ถ้าเหตุการณ์จบไปแล้ว ยังพอนึกออกว่า
ที่เรากำลังทุกข์อยู่
เพราะเรื่องราวที่เราหมุนวนเอาเองในใจ
เพราะฉะนั้น เราต้องฝึกใจของเรา
ให้อย่าหมุนวน
ให้รู้จักปล่อย รู้จักวาง รู้จักหยุด
ใจของเราหยุดไม่เป็น
เพราะตั้งแต่เกิดมา ตั้งแต่เล็กจนโต
พ่อแม่ก็ไม่เคยสอน
พ่อแม่มีแต่เชียร์ มีแต่ชเลีย มีแต่อวยกับลูก
มีแต่ให้
จนกระทั่ง เด็กเริ่มเคยคุ้น เคยชิน
กับสิ่งนี้ขึ้นมา
เพราะฉะนั้น เรื่องนี้เลยต้องมาหายที่ตัวเอง
ซึ่งก็มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ท่านเห็นความจริงหมดแล้ว
สาวกก็นำมาช่วย ให้เท่านั้นเอง
แต่ก็ต้องฝึกเองอยู่ดี
1
เพราะฉะนั้นตอนนี้เราพอจะเห็น
ถ้าเหตุการณ์นั้นจบแล้ว
ทุกข์ที่เกิดขึ้น มาจากใจเราเอง
ทีนี้หยุดโทษคนอื่น
กลับมาสังเกตใจ
แล้วก็เริ่มปฏิบัติภาวนาเอง
แล้วอีกชั้นนึง คืออะไร ?
ถ้าขณะที่เค้ากำลังด่าเราตรง ๆ
กำลังปะทะคารมณ์กันเลยตรง ๆ
แล้วที่เรากำลังโกรธ โมโหอยู่นั่น
เป็นเพราะเค้ามั้ย ?
ผมก็บอกต่อไปเลยว่า ไม่ใช่
มันแค่ดูเหมือนเฉย ๆ
มันดูเหมือนเฉย ๆ
แต่มันไม่ใช่
เพราะขณะที่เสียงที่มากระทบ
ถ้าใจของท่านไม่ปรุงแต่งสั่นไหว
เสียงที่กระทบจะกลายเป็น "สักแต่ได้ยิน" ทันที
อารมณ์จะไม่เกิดเลย
แต่เพราะการปรุงแต่งภายในด้วย "ความไม่รู้"
จึงก่อให้เกิดอารมณ์ขึ้นมา
ในขณะที่เค้ากำลังปะทะ
ขณะที่เกิดการปะทะกัน
มันดูเหมือนสองคนนี้ชนกัน
แต่มันไม่ได้ชนกัน
อยู่ห่าง ๆ กันเล็กน้อย
ฉะนั้นมันมาไม่ถึง
คนที่กำลังด่า เพราะเค้ากำลังโกรธ
เค้ากำลังเป็นฟืนเป็นไฟ
เค้ากำลังตกนรก
คนที่ได้ยินอยู่ ถ้าอยู่ด้วยความเป็นปรกติ
เห็นความจริง ไม่มีการปรุงแต่งขึ้นมา
มันจะเกิดความทุกข์ข้างเดียว
แต่เมื่อเราปรุงแต่งตัวตนขึ้นมา
ว่าเขาด่าเรา เราทนไม่ได้
เราก็จึงเอาเสียงที่กระทบ
มาปรุงแต่งขึ้นมาในใจของเราก่อน
ทีนี้เมื่อมันปรุงแต่งขึ้นมาในใจของเรา
ในขณะที่กำลังปะทะ
มันก็เกิดเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
ไม่ใช่เพราะเค้าทำ
แต่เพราะใจของเรานั่นแหละ
ที่มันไม่รู้จักว่าควรจะวางตัวยังไง
จากนั้นเค้าจากไปแล้ว
อย่างที่ผมบอกเมื่อสักครู่ เค้าจากไปแล้ว
เพราะขณะที่กำลังปะทะ
เราไปสร้างไฟนี้ขึ้นมา 'เอง'
เมื่อเค้าจากไปแล้ว ไฟนี้ไม่ยอมดับ
มันจึงเริ่มหมุนวน
เพราะฉะนั้น ท่านจะเห็นสองภาคละตอนนี้
ภาคแรก โง่ตั้งแต่ตอนปะทะ
ภาคสอง โง่ยิ่งกว่า คือ พ้นจากการปะทะไปแล้ว
ยังเผาตัวเองอยู่ไม่หยุด
ส่วนคนที่เค้าจะไปเผาตัวเองมั้ย ?
ไม่ใช่เรื่องของเรา
เค้าก็คงไม่ได้น้อยกว่าเรา
เพราะฉะนั้น นรกทั้งคู่
งานนี้นรกทั้งคู่ !
เพราะฉะนั้น เราต้องเข้าใจให้ได้แล้วว่า
การปฏิบัติภาวนา เป็นไปเพื่ออะไร
แล้วพ้นทุกข์ได้ยังไง
ผมถึงเคยบอกคนที่รักกัน
คนที่เป็นแฟนกัน คนที่เป็นสามีภรรยากัน
คนที่เป็นแม่ลูกกัน พ่อลูกกัน
ถ้าเกิดมีอะไรที่ไม่พอใจ
แล้วกำลังจะทะเลาะกัน ให้มองหน้ากัน
แล้วบอกว่า "หยุดเถอะ"
อย่าจูงมือกัน แล้วก็ถีบกันลงนรกเลย
นั่นไม่ใช่คนที่รักกันมาก่อน
หยุดเถอะ
แล้วก็ไม่ต้องควานหาเหตุผลใด ๆ อีก
ไม่ต้องมาเคลียร์
ไม่ต้องมาทำอะไรทั้งนั้น
ให้ต่างคนต่างไปสงบ
ออกจากนรก ช่วยกันดึงกันขึ้นมาจากนรก
อย่าถีบกันลงนรก
ช่วยกันดึงมือกันขึ้นมาจากนรก
สบาย ๆ แล้วจะคุยกันก็ได้
หรือ ไม่คุยก็ได้
ถ้ามองหน้ากัน จะเคลียร์ก็เคลียร์
ถ้าไม่เคลียร์ก็ "โอเค เข้าใจละ ช่างมันเถอะ"
ปล่อยไปเลย นะ
อย่างนี้ ... ช่วยกันเดินทาง
เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ
เพราะฉะนั้น อย่าทะเลาะกันเอง
แล้วก็อย่าไปทะเลาะกับคนอื่น
อย่าทะเลาะกันเอง
ถ้าเกิดอะไรขึ้น ให้มองหน้ากัน
แล้วก็ "หยุดกันดีกว่านะ"
คือไม่ต้องควานอะไรกันอีก
ไม่งั้นต่างคนต่างกำลังจะมีตัวตน
หรือมันมีตัวตนไปแล้ว มันจะหยุดไม่ลง
สังเกตมั้ยว่า
ทุกครั้งที่มีการทะเลาะกัน
อีกข้างนึงจะพยายามนึกคำพูด
หรือเรื่องราวที่ทำให้อีกฝ่ายนึงเจ็บปวดสุด ๆ
เอามากรีดให้เจ็บ
ยิ่งถ้าเจ็บจนกระทั่งอีกฝ่ายเงียบลงไปได้
มันจะสะใจ
จำไว้นะ คำว่า สะใจ
คือจิตสัตว์นรกทั้งนั้นนะ
เพราะฉะนั้น ต่างตนต่างสะใจกันเมื่อไร
รับรองได้ลงเหวลึกกันแน่
จูงมือกัน จูงไม่พอ
ลงคนเดียวไม่พอ ถีบพวกลงไปด้วยเลย
นั่นไม่ใช่คนรักกัน
ผมฝากไว้แค่นี้
ดังนั้น หยุดโทษคนอื่น
คนอื่นเค้ามีอะไร เค้าไม่พอใจเรา
เค้าก็ต้องด่าเราอยู่แล้ว
ใครจะด่าผม ผมเข้าใจหมด
เพราะเค้าไม่ชอบผม เค้าก็ต้องด่าผม
ใครชอบผม ก็ชมผม
เพราะฉะนั้นผมไม่ได้สนเรื่องคำชม คำด่า
คำชม บางทีก็เอามาเป็นกำลังใจ
ให้ทีมงาน ให้อะไรได้ทำงานต่อไป
คำด่าก็ฟังเอาไว้ ถ้าถูกก็เปลี่ยน
ถ้าไม่ถูก ก็ไม่มีปัญหาอะไร ๆ
เพราะฉะนั้น ถ้าเราเข้าใจ
อยู่อย่างเข้าใจ
โลกทำอะไรไม่ได้หรอก
เราไม่ได้ทุกข์จากการที่ใครมากระทำ
วันนี้เราทุกข์ จากเราทำเอง
คือจิตใจของเรา ทำเอง
แล้วเมื่อถึงวันนึงข้างหน้า
เมื่อท่านเข้าใจอะไรมากขึ้น
เพราะมี "เรา" ถึงมี "ทุกข์"
หมด "เรา" เมื่อไร หมด "ทุกข์"
เพราะถ้าหมด "เรา"
จะหมดตัณหา
หมด "เรา" ก็หมดอยาก
อยากหมด ก็หมดกัน ... "
.
จากการบรรยาย
คอร์สเกาะพะลวย
ระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๒
ตอน รู้แล้วจะตกใจ ว่าทุกข์มาจากไหน
โดย อ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
ณ สวนยินดีเกาะพะลวย จ.สุราษฏร์ธานี
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา