16 ต.ค. 2021 เวลา 20:17 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
เบื่อมาดามหรือยังคะที่พูดถึงละครเรื่องเดิมซ้ำๆ ที่จริงมาดามเองก็แอบรู้สึกว่าตัวเองน่ารำคาญเกินไปมั๊ยที่จะชม​ Hometown Cha-Cha-Cha​ มันได้ทุกตอน​ แต่มันดีแบบ.. ดีอ่ะ..
จริงๆ​ ใน​ EP15 นั้นมีหลายจุดดีๆ​ ให้พูดถึง​ ทั้งในงาน production และในเรื่องราวของตัวละครมากมาย​ เช่นเรื่องราวของ​เด็กจากครอบครัวพ่อแม่หย่าร้างที่พยายามเป็นผู้ใหญ่​กว่าตัว ทั้ง​คนที่แอบรักคนอื่น​ ทั้ง​ LGBT ฯลฯ​ แต่สิ่งที่พีคมากสำหรับมาดามคือเรื่องสภาวะจิตใจของคนอยากฆ่าตัวตาย
นี่คือพูดในฐานะผู้ป่วยซึมเศร้าที่​ suicidal เลยนะคะ... ไม่ได้พูดถึงผู้ชาย​หล่อ หรือเรื่องราวความรักหวานแหววนะ... เพราะมันไปไกลกว่านั้นมาก.. มันดีอ่ะ..​ ละครมันมีคุณค่ามากในหลายมิติ..
ในตอนล่าสุดนั้น​ ละครได้เล่าเรื่องหนักหน่วงของคนที่​ suicidal ได้อย่างมีมิติ​ พอดี​ และละมุนละม่อม ไม่ดราม่าเกินจริง​ ไม่ขยี้เรียกน้ำตาเกินเบอร์​ แต่กำลังพอดีและถูกต้อง..
บทถูกเขียนได้อย่างเข้าอกเข้าใจ​ ทั้งเหตุการณ์​ ทั้งสิ่งแวดล้อม​ คำพูด​ และสภาพจิตใจ​ ชัดเจนว่าหาข้อมูลมาอย่างดี​และถ่ายทอดออกมาได้อย่างเรียบง่ายแต่มีชั้นเชิง​
การกำกับก็ทำด้วยความเข้าใจ​ การทำให้องค์ประกอบทุกอย่าง​ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ การแสดงของตัวละครทุกตัว.. ถ่ายทอดได้แบบกำลังพอดี​ พอดีกับมนุษษย์จริงในตอนที่กำลังเผชิญเหตุการณ์​ต่างๆ​ ไม่ว่าจะเป็นคนที่กำลังเจอเรื่องหนักหน่วงหาทางออกไม่เจอ​ หรือคนที่อยู่รอบข้าง
ที่สำคัญกว่าการเอาเรื่องคนที่​ suicidal มาเล่าอย่างชาญฉลาดและอ่อนโยน​ คือการที่ละครยัง​ educate คนดูโดยไม่ให้เสียอรรถรส​ของละครเลย​ ทั้งการบอกว่าคำพูดแบบไหนที่ควรพูด​ผ่านตัวละครของ​คุณหมอฮเยจิน​ การกระทำที่ไร้คำพูดแต่บอกว่าใส่ใจของคุณยายกัม​รี​ การช่วยพยุงคนๆ​ หนึ่งในกลับมารู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าของผู้คนในกงจิน หรือแม้กระทั่งการบอกว่าคนที่ไม่รู้จักเลยก็ยังช่วยเหลือกันได้​ เหมือนที่ฮเยจินเจอคนแปลกหน้าที่ท่าทางดูไม่น่าไว้ใจ​ คือดูป่วย​ หรือดูเหมือนหมดอาลัยตายอยาก​ ก็โทรแจ้งหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้เข้ามาช่วยเหลือ
และแน่นอน​ ทุกอย่างคงจะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างทรงพลังไม่ได้หากขาดการแสดงที่ดี​ ทุกคนเล่นดีจริงๆ​ ทั้งพ่อและแม่ของเด็กที่คาแรคเตแร์ต่างกัน​ ทั้งเพื่อน​ ทั้งพี่น้อง​ ยายหลาน​ และคนรัก... เราชอบที่ฮเยจิน​ซึ่งเป็นนางเอก​นั้นเป็นตัวแทนของคนธรรมดาที่ไม่ได้เริ่มจากความเข้าใจ​ มีรับมือพลาดบ้าง​ แต่ก็มีความเชื่อใจ​ มีความหวัง​ และเป็นคนที่พยายาม​แม้ในตอนที่อาจไม่ได้เข้าใจสิ่งที่ดูชิกกำลังเผชิญทั้งหมด​
ชินมินอาเล่นได้ดีจริงๆ​ สับสน​ อ่อนไหว​ แต่เข้มแข็ง​ อ่อนโยน​ และพยายามเข้าอกเข้าใจ​
แน่นอน... คิมซอนโฮที่เล่นได้.. ถ่ายทอดได้แบบ... แค่เสียงแผดร้องตอนที่สูญเสียคนที่มีคุณค่าต่อชีวิตไป​ก็... หรือฉากที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำอะไรไม่ถูก... หรือฉากที่หมดอาลัยตายอยากจนคิดอยากให้ชีวิตมันจบๆ​ ไป... หรือฉากที่รู้สึกผิดจนไม่รู้จะหาทางชดใช้ยังไง... และฉากที่ใช้คำพูดสร้างกำแพงเพื่อกันพยายามกันคนที่อยากเข้ามาช่วยเหลือออกไปทั้งที่เจ็บปวดแทบตายอยู่ข้างใน...หรือแม้แต่ฉากที่มีคนบอกว่าให้อภัยตัวเองเถอะแต่ยังไม่ค่อย​เชื่อ... เล่นดีมากจริงๆ... จนเรามองข้ามความหล่อไม่หล่อหรืออะไรก็ตามที่เป็นเปลือกนอกไปจนหมด.. เราเฝ้ารอการถ่ายทอดที่ทรงพลัง... แล้วเขาก็สามารถทำได้ยิ่งกว่าที่เราคาดหวัง...
เราไม่เคยมี​ moment แบบนี้​ ไม่เคยได้รับประสบการณ์จากการเสพงานแสดงแบบนี้​ มันโคตรจริงและโคตร​ relatable ไม่มีการแสดง​ แต่ทุกอนู​เต็มไปด้วยของจริง... ในฐานะผู้ป่วยซึมเศร้าที่​ suicidal เหมือน​กัน​ เรา​ "รู้สึก" ​ ทุกอย่างที่ดูชิกรู้สึก​ ในปริมาณเท่านั้น... ในสถานการณ์​แบบนั้น... ความรู้สึกที่เราคุ้นเคย... การเคลื่อนไหวที่คุ้นเคย... แววตาที่ว่างเปล่า... ความไม่มั่นใจ... เสียงกรีดร้องหรือเสียงแหบพร่า... ที่ตีแผ่คนที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่... หรือไม่รู้จะหาทางอยู่ต่อไปอย่างไรได้​ แต่ก็พยายามรั้งให้ตัวเองมีชีวิตอยู่... เหตุผลของการมีชีวิตรอดต่อมาได้ที่อาจเรียบง่ายกว่าที่ใครจะคาดถึง... ได้อย่างไร้ที่ติ... เล่นโคตรดี... โคตรดี...
กระบวนการเยียวยาของคนที่มีปมหนักๆ​ มันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนวิธีมองโลกและยิ้มรับชีวิต​ แต่มันคือการหาคุณค่าของตัวเองให้เจอ​ และในระหว่างการเดินทางนั้น.. ไม่ง่ายเลย.. เพราะมันต้องเผชิญกับบาดแผลที่ทำให้เจ็บปวด... ซึ่งเป็นเรื่องโคตรยาก.. แต่ถ้าเราไม่ยอมมองมัน​ ไม่เผชิญกับมัน.. ชีวิต.. ก็ไปต่อได้ยาก...
แต่ละครไม่ใช่แค่ตีแผ่​เรื่องหนักๆ​ ก็เขาสัญญากับเราว่าจะ​ healing ดังนั้นแม้ในตอนที่ตัวละครกำลังเผชิญความหนักหน่วงทางใจอยู่นั้น​ ก็มีคนรอบข้างที่ยื่นมือเข้ามาด้วยความเรียบง่ายแต่อบอุ่น... ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทั่วไป... ต่างก็ทำได้...
เสียดายที่ละครใกล้เดินทางมาถึงตอนจบ​ เราเคยบอกหลังผ่านไปไม่กี่ตอนว่าละครเรื่องนี้พุ่งทะยาน​ขึ้น​ All-Time Top​ 3 ของมาดามเนอะ... แต่หลังจบตอนที่​ 15​ หลังจากที่ละครได้ตีแผ่เรื่องราวแสนอ่อนไหวที่มีจริงในสังคม​ แต่ไม่ค่อยมีใครกล้าพูดถึง... ​ได้อย่างถ่องแท้แต่อ่อนโยน... เรา... โคตรจะรู้สึก​ว่า... คนทำโคตรเข้าใจ​ และได้สื่อสารสิ่งที่มีคุณค่ามากๆ​ กับสังคมโดยไม่ยัดเยียดและน่าชม... และมันคงจะหาเรื่องไหนที่ทำได้ขนาดนี้ได้ยากจริงๆ
The drama speaks to me. It tells my stories in the most realistic and most sincere way - the way no other work from any mainstream media from any countries have ever done before. (ละครคุยกับฉัน​ มันเล่าเรื่องราวของฉันในแบบที่โคตรสมจริงและโคตรจริงใจ​ ในแบบที่ไม่มีผลงานชิ้นไหนจากสื่อหลักไม่ว่าจะจากประเทศไหนก็ตามเคยทำมาก่อน)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา