18 ต.ค. 2021 เวลา 05:16 • หนังสือ
วั่งตี่ : มิกาโดฉบับรัชกาลที่ 6 กับอาถรรพ์การแสดง
วั่งตี่ เป็นพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ทรงแก้ไขมาจากบทละครของเซอร์วิลเลียม ชวงค์ กิลเบิร์ต (W. S. Gilbert)
เรื่องเดิมนั้นใช้ฉากเป็นประเทศญี่ปุ่น แต่ในหลวงวชิราวุธทรงเปลี่ยนใหม่ ด้วยดำริว่าถ้ายังคงใช้ฉากเป็นเมืองญี่ปุ่น จะหาเครื่องแต่งกายยากในเวลาแสดง จึงสมมติประเทศ “ตงฮั้วใต้เชียงก๊ก” ขึ้น
พร้อมสอดคล้องกับชื่อตัวละครที่ทรงใช้ชื่ออาหารจีนต่างๆ มาเป็นนามของตัวละครแต่ละตัว ทั้งในส่วนของเนื้อเรื่อง ก็ปรากฏคำจีนที่พบในสยาม หรือเรื่องราวทำนองจีนที่คนไทยคุ้นเคยดีอีกด้วย
โดยได้เปลี่ยนชื่อแซ่ตัวละครดังต่อไปนี้
(จะขอเปรียบเทียบกับชื่อตัวละครในมิกาทุระของรัชกาลที่ 5)
"มิกาทุระ" ของรัชกาลที่ 5 กับ "วังตี่" ของรัชกาลที่ 6
มิกาโดกรุงญี่ปุ่น = พระเจ้ามิกาทุระ = ปาช่องโก๋วังตี่
(มิกาโด (Mikado) คือตำแหน่งจักรพรรดิของญี่ปุ่น
ส่วนวังตี่ (Wangdi) คือตำแหน่งอ๋องของจีน)
นังกิปู [Nanki-Poo] = นังกิปุระ = เกี้ยมซึ่งตี่
โกโก [Ko-Ko] = อำมาตย์โกโกกะ = แฮกี๊ง
กะติฉะ [Katisha] = นางกติจฉกา = เล่าอะม้วย
ยัมยัม [Yum-Yum] = นางยัมมะยัมมา = ยัมยัม
ปูบา [Pooh-Bah] = ปุรพาหะมหาเสนาบดี = ตะละเปา
ส่วนเรื่องย่อนั้น สามารถเอาฉบับมิกาทุระมาเปรียบเทียบกันได้นะครับ
เรื่องมิกาโดนั้นเผยแพร่มาในไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ต่อมาเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ (ร. 6) ได้รับการแต่งตั้งเป็นสยามมกุฎราชกุมาร ได้ไปศึกษาวิชาการที่ประเทศอังกฤษ และมีโอกาสทอดพระเนตรอุปรากรเรื่องมิกาโด
ด้วยความที่ทรงพระราชหฤทัยเกี่ยวกับการละครอยู่แล้ว
จึงพระราชนิพนธ์บทละครที่ดัดแปลงมาจากเรื่องมิกาโดอีก 2 เรื่อง คือ
1. บทละครสังคีต "มิกาโด" ที่แปลตามเค้าเรื่องในอุปรากร
ชื่อตัวละครใช้ตามของเดิมทุกประการ
2. บทละครสังคีต "วั่งตี่"
ชื่อตัวละครจีนตามของกิน
เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ + กรมขุนเทพทวาราวดี + สยามมกุฎราชกุมาร
กล่าวกันว่าบทละครเรื่องวั่งตี่มีอาถรรพ์ คือหลังจากพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนิพนธ์แล้ว ไม่เคยมีโอกาสแสดงแม้แต่ครั้งเดียว
เช่น เดือนตุลาคม 2453 ข้าหลวงของสยามมกุฎราชกุมารกำลังฝึกซ้อมบทเพื่อออกแสดงที่ทวีปัญญาสโมสร พระราชวังสราญรมย์ แต่ประจวบกับเวลาที่ป๊ะป๋าในหลวงจุฬาลงกรณ์เสด็จสวรรคต
การแสดงจึงถูกงดโดยปริยาย
โรงละครทวีปัญญาสโมสร ณ พระราชอุทยานสราญรมย์
หรือในเดือนมิถุนายน 2463 โปรดให้ฝึกซ้อมบทและเตรียมจัดการแสดงที่พระราชวังบางปะอิน ระหว่างที่เสด็จประทับเพื่อสำราญพระอิริยาบถ
แต่ทรงได้รับข่าวว่ากรมหลวงพิษณุโลกประชานาถเสด็จทิวงคตที่สิงคโปร์
จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับและยกเลิกการแสดงโดยกระทันหัน
กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
แม้ละครสังคีตวั่งตี่เรื่องนี้จะไม่เคยได้จัดทำการแสดงขึ้นเลย
แต่ก็มีการจัดพิมพ์บทละคร และนำบทร้องบางส่วนที่ทรงนำไปใช้ในพระราชนิพนธ์เรื่อง “ปล่อยแก่” ดังต่อไปนี้...
“(จีนน่าเรือ) อันว่าเราเหล่าขุนนางข้างบู๊บุ๋น
ทั้งหมื่นขุนหลวงพระระกะหน้า
ดูท่าทางต่างสะอาดประหลาดตา
ยืนกังก้าฝ่าลมผมเปียปลิว
ดูเอาเถิดดูคล้ายลายในขวด
หรือจะตรวจดูตามพัดด้ามจิ้ว
หัวก็โกนเกลี้ยงเถลิกและเลิกคิ้ว
ทำนองงิ้วตุ้งแช่แน่จริงเอย”
โฆษณา