18 ต.ค. 2021 เวลา 07:30 • ประวัติศาสตร์
*** ถอดรหัส “แนวคิด 14 ประการ” ของสีจิ้นผิง ที่คนจีนต้องเรียนตั้งแต่ประถม ***
สำหรับนักเรียนจีนตั้งแต่ชั้นระดับ “ประถม” เป็นต้นไป ในภาคการศึกษาใหม่เดือนกันยายนปี 2021 ทางการจีนได้ปรับปรุงหลักสูตรการเรียนเพื่อเสริมสร้างความเป็นชาตินิยมให้มากขึ้น เพื่อให้การศึกษาของประเทศมีมาตรฐานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หลังจากจีนจะสั่งแบนโรงเรียนกวดวิชาและระบบเรียนเสริมออนไลน์
ข้อสำคัญอย่างหนึ่ง คือกระทรวงศึกษาฯ ของจีน ได้เพิ่มวิชา “แนวคิดสี จิ้นผิง” สำหรับชั้นประถมและมัธยมศึกษาลงไปด้วย… แนวคิดนี้มีเนื้อหาอย่างไร? จะนำพาอนาคตของชาติจีนไปในทางไหน? เราจะไปดูด้วยกัน
2
*** แนวคิดของสี จิ้นผิง***
ชุดความคิดนี้มีชื่อเต็มว่า “แนวคิดของ สี จิ้นผิง ว่าด้วยสังคมนิยมกับลักษณะของจีนสำหรับสมัยใหม่” ซึ่งไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นมาสดๆ ร้อนๆ แต่สีพัฒนาแนวคิดนี้มาตั้งแต่ปี 2012 และได้รับการอนุมัติให้บรรจุในรัฐธรรมนูญพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 2017 เพียงแต่เพิ่งเป็นที่พูดถึงกันเพราะถูกบรรจุอยู่ในบทเรียน
ภาพแนบ: คาร์ล มาร์กซ์ เจ้าของแนวคิดมาร์กซิส
ความคิดดังกล่าว มาจากการที่สีมองว่าแนวคิดมาร์กซิส-เลนิน กับ แนวคิดของประธาน เหมา เจ๋อตง คือสิ่งที่ทำให้ชาวจีนออกจากยุคมืดและตั้งเป็นประเทศจีนใหม่ได้ และการที่สหภาพโซเวียตล่มก็เป็นเพราะพรรคไม่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ดังนั้นจีนจะไม่ปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย และวิธีการหนึ่ง ก็คือเร่งสร้างความเชื่อแบบมาร์กซิสให้แก่เด็ก
เว็บไซต์โกลบอลไทมส์ของจีนระบุว่า กระทรวงศึกษาฯ จีน มุ่งให้เด็กเชื่อมั่นในวิถี, ทฤษฎี, ระบบ และวัฒนธรรมของสังคมนิยมแบบจีน
โดยในชั้นประถม จะเน้นปลูกฝังความรักชาติ, รักพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรักสังคมนิยม ส่วนในชั้นมัธยม จะเน้นการบูรณาการประสบการณ์และเสริมสร้างความรู้ ให้นักเรียนมีรากฐานความคิดและการตัดสินใจทางการเมือง จากนั้นในระดับมหาลัย ก็จะเน้นการวางความคิดเชิงทฤษฎี
แนวคิดของสี จิ้นผิง โดยหลักๆ แบ่งออกเป็น 14 ประการ ดังนี้…
1) พรรคคอมมิวนิสต์เป็นผู้นำของงานทุกรูปแบบในจีน
2) พรรคคอมมิวนิสต์จะต้องเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง
3) ดำเนินการปฏิรูปให้ครอบคลุมลึกซึ้งอย่างต่อเนื่อง
4) รับวิสัยทัศน์ใหม่ๆ ที่มีพื้นฐานจากวิทยาศาสตร์ เพื่อ “นวัตกรรม, การร่วมมือ, สิ่งแวดล้อม, การเปิดกว้าง และ การพัฒนาร่วมกัน”
5) ปฏิบัติตนตามหลักสังคมนิยมจีน โดนถือประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ
6) ปกครองจีนด้วยกฎหมาย
7) ทบทวนค่านิยมหลักของสังคมนิยม ทั้งแบบมาร์กซิส, คอมมิวนิสต์, และสังคมนิยมแบบจีน
4
แนวคิด 14 ประการ (ต่อ)
😎 “การพัฒนาความเป็นอยู่และสุขภาพของประชาชนคือเป้าหมายหลักของความก้าวหน้า”
9) อยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ โดยนโยบาย “รักษาพลังงานและปกป้องสิ่งแวดล้อม” กับ “ช่วยรักษาความปลอดภัยแก่ระบบนิเวศวิทยาโลก”
10) เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้หน่วยความมั่นคงแห่งชาติของจีน
11) พรรคคอมมิวนิสต์จีน มีอำนาจควบคุมกองทัพปลดปล่อยประชาชน
12) โปรโมทนโยบาย “หนึ่งประเทศสองระบบ” สำหรับฮ่องกงและมาเก๊า และวางแผนรวมประเทศในอนาคต ตามนโยบายจีนเดียวกับไต้หวัน
13) สนับสนุนการสร้างอนาคตร่วมกันของคนจีนและชุมชนอื่นๆ ทั่วโลกให้มี “บรรยากาศสงบในระดับนานาชาติ”
14) พัฒนาวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์จีนให้เข้มงวด
2
*** เป้าหมายเบื้องหลังแนวคิด ***
สำนักข่าว The New York Times วิเคราะห์ไว้ว่า หากดูในภาพรวม เป้าหมายของแนวคิดนี้มี 3 ใจความหลักๆ คือ...
1) ทำให้จีนกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
ตั้งแต่รับตำแหน่งเลขาพรรคคอมมิวนิสต์ในปี 2012 ประธานสีก็ปฏิญาณตนว่า จะทำให้จีนกลับไปรุ่งเรืองเช่นครั้งอดีต
จริงๆ ในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา จีนก็เติบโตขึ้นเป็นมหาอำนาจทางการค้าและการลงทุนใกล้เคียงกับสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตาม สีคิดว่าแค่โตทางเศรษฐกิจมันไม่พอ การเมืองก็ต้องเข้มแข็งด้วย
ภาพแนบ: แผนโครงการเข็มขัดและเส้นทาง
จีนพัฒนากองทัพของตนให้ใหญ่โต ขจัดขุนพลฉ้อฉลออกจากระบบ และเสริมสร้างความทันสมัย เพื่อขยายแสนยานุภาพทางกำลัง
ขณะเดียวกันก็ลงทุนใน “โครงการเข็มขัดและเส้นทาง” (Belt and Road) หรือที่เรียกว่า “เส้นทางสายไหมใหม่” เพื่อขยายอิทธิพลทางการค้าของตัวเองไปพร้อมกันด้วย
2) เสริมความแข็งแกร่งของพรรค
ความชาตินิยมของประธานสี ทำให้ชาวจีนรู้สึกว่าชาติของตนยิ่งใหญ่ เป็นที่น่าเกรงขาม แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องทำให้คนมองข้ามข้อเสียว่า ตนอยู่ในการปกครองของพรรคเดียว
หลังๆ ผู้คลางแคลงใจในระบบคอมมิวนิสต์เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการเติบโตของอินเตอร์เน็ต และการเปิดประเทศรับคนต่างชาติมาท่องเที่ยวและทำธุรกิจในจีน ทำให้ประชาชนเห็นข้อแตกต่าง
1
หากย้อนกลับไปดูแนวคิดของสี จะพบว่า เขามักเน้นย้ำ ชาติจะแข็งแกร่ง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ ก็เพราะมีพรรคคอมมิวนิสต์เป็นผู้นำเพียงหนึ่งเดียว
เหตุนี้เอง ในช่วงหลังๆ รัฐบาลจีนจึงพยายามควบคุมธุรกิจเอกชนแขนงต่างๆ ทั้งสื่อ, อินเตอร์เน็ต, การบันเทิง, การศึกษา ฯลฯ หรือพูดง่ายๆ คือคุมทุกอย่าง โดยอ้างว่า ธุรกิจเหล่านั้นพยายามผูกขาด หากำไรกับประชาชน
หน่วยข่าวทางการของประเทศจีนมักจะเน้นย้ำเสมอถึงปัญหาของระบอบประชาธิปไตยในตะวันตก ยกตัวอย่างเช่น
“ทำไมต้องตั้งคำถามกับพรรคคอมมิวนิสต์ ในเมื่ออีกทางเลือกหนึ่งมีเพียงความแตกแยกและคอร์รัปชั่น?”
1
3) รักษาอำนาจของทางการเมืองในฐานะผู้นำสูงสุด
การที่จีนเจริญเป็นเพราะนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์ และการที่พรรคคอมมิวนิสต์ยิ่งใหญ่เพราะมีผู้นำที่มีความสามารถ และผู้นำคนนั้น ก็คือเลขาธิการพรรคฯ สี จิ้นผิง นั่นเอง
การบรรรจุแนวคิดของเขาลงไปในบทเรียนตั้งแต่วัยประถมจนมหาลัย ก็เป็นการเน้นย้ำความสำคัญของตัวสีในฐานะผู้นำประเทศ คล้ายกับกับตอนที่ เหมา เจ๋อตง พิมพ์หนังสือปกแดงออกมา
ภาพแนบ: เหมา
นอกจากนี้ สียังให้สื่อเรียกแทนตัวเองว่า “หลิงซิว” ซึ่งเป็นคำยกย่องในภาษาจีน หมายถึง “ท่านผู้นำ” ซึ่งเหมาก็เคยใช้คำนี้เรียกแทนตัวเองมาก่อน แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการรวบอำนาจการบริหารเอาไว้แบบเดียวกัน15. ดังนั้นจะเห็นได้ว่า สี จิ้น ผิง มีความพยายามนำชุดความคิดคอมมิวนิสต์เดิม มาใช้ควบคู่คำสอนโบราณของปราชญ์จีน อย่างเช่นลัทธิขงจื๊อ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกกวาดล้างไปในยุคเหมา
สีมักอ้างถึงคำสอนยุคเก่า และมองว่าตนกับพรรคฯ เป็นผู้อุปถัมภ์ให้อารยธรรมที่มีมาแต่โบราณคงอยู่ต่อไป
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า สี จิ้น ผิง มีความพยายามนำชุดความคิดคอมมิวนิสต์เดิม มาใช้ควบคู่คำสอนโบราณของปราชญ์จีน อย่างเช่นลัทธิขงจื๊อ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกกวาดล้างไปในยุคเหมา
สีมักอ้างถึงคำสอนยุคเก่า และมองว่าตนกับพรรคฯ เป็นผู้อุปถัมภ์ให้อารยธรรมที่มีมาแต่โบราณคงอยู่ต่อไป
*** ปฏิวัติวัฒนธรรม 2.0? ***
จากนโยบายของสี จิ้นผิง ในเวลานี้ มีความคล้ายคลึงกับเหมาในช่วงก่อนปฏิวัติวัฒนธรรม ด้วยการสร้างค่านิยมของชาติที่เข้มแข็งผ่านการปกครองแบบเบ็ดเสร็จจากผู้นำสูงสุด ผ่านกลไกของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นอำนาจรัฐเพียงหนึ่งเดียว
ภาพแนบ: หลิ่ว หยาง นักบินอวกาศหญิงคนแรกของจีน
ทางพรรคควบคุมกองทัพปลดแอกประชาชนและกลุ่มผลประโยชน์อื่นๆ ไปพร้อมกับการพัฒนาค่านิยมยุคสมัยใหม่บางประการเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของชาวจีน
...ทว่าคำถามที่ยังน่าเคลือบแคลงคือการปราบปรามอย่างรุนแรงและเด็ดขาดของรัฐบาลจีน จะตระหนักถึงสิทธิของประชาชนในประเทศมากแค่ไหน?
ภาพแนบ: มหานครเซี่ยงไฮ้
นอกจากนี้เราคงต้องมาติดตามไปด้วยกันว่า สีจะเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของเหมาระหว่างการปฏิวัติวัฒนธรรม แล้วหันมาพัฒนาประเทศให้มีความเจริญทัดเทียมชาติมหาอำนาจตะวันตกซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญได้หรือไม่
หรือสีจะเดินเกมทางการเมืองซ้ำรอยกับเหมา จนเป็นรอยด่างพร้อยของประวัติศาสตร์ทางการเมืองยุคใหม่ของจีนมาจนถึงทุกวันนี้...
::: บทความเกี่ยวกับการปฏิวัติวัฒนธรรมจีน 1.0 และ 2.0 :::
- ปฏิวัติวัฒนธรรม 2.0!? ห้ามหน้าหวาน ห้ามผมยาว ห้ามชอบญี่ปุ่น
- เรื่องราวในยุทธภพของ "สวีเสี่ยวตง"
- การปฏิวัฒนธรรมจีน: เมื่อวัยรุ่นลากคนแก่มาตบหัว
- วันที่ 9 กันยายนนี้ ครบรอบ 45 ปี ที่เหมาเจ๋อตงเสียชีวิตในปี 1976
- เส้นทางพญามังกรสีจิ้นผิง: จากลูกคนทรยศสู่ผู้นำประเทศ
- Social Credit: เมื่อรัฐบาลจีนคุมคนด้วยการให้คะแนน
- รู้หรือไม่? การที่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่หลายๆ คนมีมารยาทแย่นั้น เชื่อว่าเป็นผลกระทบของการปฏิวัติวัฒนธรรม
- จีน-เกาหลี vs. ญี่ปุ่น: เราจะเลิกเกลียดกันได้ไหม?
- ส้วมหน้าบ้าน ใครต้องการลูกสาว? https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/posts/4385756784834330
- สรุปปฏิวัติวัฒนธรรมจีน 1.0 และ 2.0 แบบกระชับ https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/posts/4391871960889479
1
::: อ้างอิง :::
- Xi Jinping Thought Explained: A New Ideology for a New Era nytimes (ดอต) com/2018/02/26/world/asia/xi-jinping-thought-explained-a-new-ideology-for-a-new-era.html
- Xi Jinping thought added into curriculum: Ministry of Education globaltimes (ดอต) cn/page/202108/1232364.shtml
- His own words: The 14 principles of 'Xi Jinping Thought' monitoring (ดอต) bbc (ดอต) co (ดอต) uk/product/c1dmwn4r
- China schools: 'Xi Jinping Thought' introduced into curriculum bbc (ดอต) com/news/world-asia-58301575
- Explainer: what is Mao’s Little Red Book and why is everyone talking about it? theconversation (ดอต) com/explainer-what-is-maos-little-red-book-and-why-is-everyone-talking-about-it-51330
- Xi Jinping Thought to be introduced in China’s classrooms youtu (ดอต) be/xbfI09-wSmo
ท่านที่สนใจอ่านงานเขียนอื่นๆ ของผมมากกว่าเพียงในเพจนี้ สามารถสมัครเข้ากลุ่ม illumicorgi ได้นะครับ
กลุ่ม illumicorgi เป็นกลุ่มสำหรับลง content พิเศษ สมัครสมาชิกตอนนี้ ท่านจะได้รับหนังสือ "สุริยันพันธุ์เคิร์ด" ผลงานเล่มล่าสุดของผมด้วย
1. ผู้สมัครสมาชิกระดับ Corgi Master จะได้:
• ได้เข้าถึงเนื้อหากลุ่ม illumicorgi ที่มีบทความย่อยลงอยู่เสมอ และบทความใหญ่ลงอย่างน้อยอาทิตย์ละตอน
• ส่วนลดในสินค้าของกลุ่ม The Wild Chronicles
• Priority ในการรับข่าวสารและกิจกรรมของ The Wild Chronicles
• ทุกๆ รอบหกเดือนจะได้รับหนังสือเล่มหนึ่ง ส่งให้ถึงบ้านพร้อมลายเซ็นของผม
แบ่งเป็น:
1.1 แบบครึ่งปี "600 บาท" ได้หนังสือสุริยันพันธุ์เคิร์ด 1 เล่ม และเข้ากลุ่มเป็นเวลา 6 เดือน
1.2 แบบหนึ่งปี "1,100 บาท" ได้หนังสือ 2 เล่ม (คือสุริยันพันธุ์เคิร์ด และอีกเล่มที่จะพิมพ์ปลายปี ตั้งใจจะว่าให้เป็นเรื่องชาวเคิร์ดในตุรกีซีเรีย) และเข้ากลุ่มเป็นเวลา 1 ปี
2. ผู้สมัครสมาชิกระดับ illuminated corgi จะได้:
ทุกอย่างที่สมาชิกระดับ Corgi Master แบบ 1 ปี ได้ และได้ของที่ระลึกจากเคอร์ดิสถานอิรัก เป็น artifact ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของแท้ ได้แก่:
1
"อินทรธนูของหน่วยเพชเมอร์กา" ซึ่งเป็นหน่วยรบเคิร์ดที่มีชื่อเสียงเรื่องไม่กลัวตาย คำว่า เพชเมอร์กา แปลว่า "ผู้เผชิญความตาย"
สมาชิกระดับ illuminated corgi นี้มีค่าสมัคร 3,000 บาท
ผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิก ให้ชำระทาง link นี้:
Corgi Master 6 เดือน (หนังสือ 1 เล่ม) 600 บาท
Corgi Master 1 ปี (หนังสือ 2 เล่ม) 1,100 บาท
illuminated corgi 1 ปี (หนังสือ 2 เล่ม ได้ของที่ระลึก) 3,000 บาท
หรือชำระที่:
บัญชี บริษัท เดอะไวลด์โครนิเคิลส์ จำกัด ธนาคารกสิกร 078 3 768 666 สาขาบิ๊กซี อ่อนนุช
เมื่อสมัครแล้วให้ส่งสลิปทาง Line OA ด้วยวิธีนี้
(1) กดสมัคร Line OA ของ The Wild Chronicles มาทาง link https://lin.ee/fNEO1jr
(2) กด add เป็นเพื่อน
(3) กด chat
(4) จากนั้น พิมพ์ชื่อที่ท่านใช้ใน Facebook มาทางช่องแชทของ Line OA เพื่อให้ทีมงานบ่งชี้ได้ว่าบัญชีของท่านสมัครมาแล้ว
(5) ให้ส่งสลิปในช่องแชทไว้ด้วย จะมีแอดมินมาคุยกับท่านเพื่อพาเข้ากลุ่ม
*** อนึ่งท่านที่เป็นสมาชิกอยู่แล้ว สามารถติดต่อทาง Line OA หรือ Inbox เพจ เพื่อชำระเงินเพิ่ม เป็นการอัพเกรดสมาชิกได้นะครับ ***
ขอโฆษณาว่าหนังสือ “สุริยันพันธุ์เคิร์ด” หรือหนังสือเล่มใหม่ของผมออกแล้วนะครับ มีรายละเอียดดังนี้...
- เรื่องนี้เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ชาวเคิร์ด ผลงานเล่มล่าสุดในชุด The Wild Chronicles
- พิมพ์เป็นสี่สี!
- ยาวที่สุดเท่าที่พิมพ์มา ยาวกว่าพยัคฆ์ทมิฬสิ้นชาติราว 2 เท่า
- รูปโหดๆ ที่ทำให้เข้าใจสถานการณ์ดีขึ้น จะไม่เซนเซอร์ แต่จะรวมอยู่ท้ายเล่ม และมีคำเตือนก่อน
- มีลายเซ็นทุกเล่ม!
- ราคา 439 บาท รวมค่าส่งแล้ว
ท่านที่ต้องการพรีออเดอร์สามารถชำระ และใส่ที่อยู่ทาง link แนบได้เลย
(ถ้าเป็นสมาชิกกลุ่ม illumicorgi ระดับ Corgi Master ขึ้นไป จะมีหนังสือส่งให้อยู่แล้วนะครับ)
อนึ่งชาวเคิร์ดเป็นชนกลุ่มน้อยในตะวันออกกลาง มีราว 30 ล้านคน หากไม่มีประเทศของตนเอง พวกเขาแตกเป็นหลายส่วนและถูกกดขี่อย่างหนัก แต่การถูกกดขี่เคี่ยวกรำนั้นทำให้พวกเขากลายเป็นนักรบที่เก่งกาจ
หนังสือเล่มนี้เขียนเรื่องราวของชาวเคิร์ดตั้งแต่ยุคตำนานจนถึงประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ซึ่งมีความพีคแล้วพีคอีก ผ่านสงครามใหญ่ๆ มากมาย เช่นสงครามอิรัก - อิหร่าน, สงครามอ่าวเปอร์เซีย, สงครามปราบซัดดัม, สงครามกลางเมืองอิรัก, สงครามปราบกลุ่มก่อการร้าย แต่ละสงครามที่ว่ามานี้มีสเกลใหญ่เป็นรองแค่สงครามโลก
ชาวเคิร์ดมีส่วนร่วมในสงครามเหล่านี้ทั้งหมดในฐานะชนกลุ่มน้อยที่ไม่รวยแต่รบเก่ง พอมีคนมาติดอาวุธให้เลยมักกลายเป็นไพ่โจ๊กเกอร์ที่เปลี่ยนผลชี้ขาดของสงคราม
อย่างไรก็ตามศัตรูอันดับหนึ่งของชาวเคิร์ดคือเผด็จการซัดดัม ฮุสเซนนั้นก็โหดมาก โหดโคตรๆ ใครเคยอ่านพยัคฆ์ทมิฬสิ้นชาติ หรือเชือดเช็ดเชเชน ผมบอกได้ว่าไอ้นี่ก็โหดไม่แพ้กัน หรือเผลอๆ โหดกว่า ดังนั้นการต่อสู้ของชาวเคิร์ดมันจึงเป็นเรื่องที่หลอนและดุเดือดมากๆ
หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์ที่ผมได้ไปเยือนดินแดนเคอร์ดิสถานอิรัก (และหนีมิสไซล์มา) เมื่อต้นปี 2020 เพื่อนชาวเคิร์ดที่ผมสัมภาษณ์ทุกคนเป็นผู้รอดชีวิตจากทุกสงครามข้างต้น ทำให้มีข้อมูล ความเห็น และมุมมองของคนต่างๆ ที่ลึกกว่าในตำรา แน่นอนว่าประสบการณ์ของพวกเขาดาร์คมาก แต่เขาหลายคนไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายขนาดนั้น พวกเขาตีความสิ่งที่พบเจออย่างไร ลองตามอ่านดูนะครับ
"สุริยันพันธุ์เคิร์ด" ตั้งใจพิมพ์เป็นสี่สี เป็นหนังสือที่ยาวที่สุดตั้งแต่ผมเขียนสารคดีชุด The Wild Chronicles มา
อีกครั้งนะครับ ท่านที่ต้องการพรีออเดอร์หนังสืออย่างเดียว สามารถชำระ และใส่ที่อยู่ทาง link นี้ได้เลย 439 บาท รวมค่าส่งแล้ว (ในประเทศ) ถ้าบางท่านอยู่ต่างประเทศมีค่าส่งพิเศษจะแจ้งอีกที
::: ::: :::
สนใจอ่านเรื่องประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตาม เพจ The Wild Chronicles ได้เลยนะครับ https://facebook.com/pongsorn.bhumiwat
โฆษณา