22 ต.ค. 2021 เวลา 11:25 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกเสี่ยงต้องหยุดผลิต หลังจีนสั่งปิดโรงถลุงแมกนีเซียมหลายแห่ง ทำให้อะลูมิเนียมขาดแคลน
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกกำลังมีความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญกับการขาดแคลนอะลูมิเนียม หลังปัญหาวิกฤตพลังงานในจีนส่งผลให้การผลิตแมกนีแซม ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตอะลูมิเนียมอัลลอยปรับตัวลดลง
1
ปัจจุบันราว 85% ของแมกนีเซียมในตลาดโลกถูกผลิตในจีน โดยแหล่งผลิตใหญ่อยู่ในเมืองหยูหลินในมณฑลส่านซี โดยในเดือนที่ผ่านมารัฐบาลท้องถิ่นของมณฑลดังกล่าวได้ออกคำสั่งให้โรงถลุงแมกนีเซียม 35 จาก 50 แห่งหยุดการผลิตเป็นการชั่วคราวจนถึงสิ้นปีนี้
1
ขณะที่โรงถลุงที่ยังอนุญาตให้เปิดก็ต้องลดกำลังการผลิตลง 50% เพื่อลดปริมาณการใช้พลังงานให้เป็นไปตามเป้าหมายของทางการ เนื่องจากการผลิตแมกนีเซียม 1 ตันจะต้องใช้พลังงานมากถึง 35-40 เมกะวัตต์ชั่วโมง ขณะที่การผลิตอะลูมิเนียมจะใช้พลังงานราว 16 เมกะวัตต์ชั่วโมง
3
การลดกำลังการผลิตแมกนีเซียมของผู้ผลิตรายใหญ่อย่างจีน ส่งผลให้ปริมาณแมกนีเซียมที่ถูกสต๊อกไว้ทั่วยุโรปกำลังลดต่ำลงจนใกล้เข้าขั้นวิกฤต
1
“ยังไม่มีวัตถุดิบใดที่สามารถทดแทนแมกนีเซียมในการผลิตอะลูมิเนียมแผ่นและแท่งได้ โดย 35% ของแมกนีเซียมที่ผลิตในโลกถูกนำมาใช้ผลิตอะลูมิเนียมในอุตสาหกรรมยานยนต์ ถ้าไม่มีแมกนีเซียมอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งหมดก็อาจต้องหยุดการผลิตลง” Amos Fletcher นักวิเคราะห์ของธนาคาร Barclays กล่าว
3
เมื่อเร็วๆ นี้ Matalco บริษัทผู้ผลิตโลหะในแคนาดา ได้แจ้งลูกค้าของตัวเองว่า แมกนีเซียมกำลังจะขาดแคลน และถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อเนื่อง บริษัทอาจจะต้องลดการผลิตอะลูมิเนียมแท่งในปีหน้าลง
คำเตือนของ Matalco สะท้อนว่า ปัญหาวิกฤตพลังงานในจีนกำลังส่งผลต่อซัพพลายเชนในโลก และทำให้ราคาของวัตถุดิบในการผลิตภาคอุตสาหกรรมพุ่งสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังภาวะเงินเฟ้อ
ในช่วงที่ผ่านมาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ถือเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ในปีนี้ แต่ดูเหมือนว่าการขาดแคลนแมกนีเซียมกำลังจะเป็นความเสี่ยงที่พุ่งแรงแซงขึ้นมา
1
“การขาดแคลนแมกนีเซียมจะส่งผลให้เกิดการขาดแคลนอะลูมิเนียม ซึ่งจะกระทบต่อภาพรวมการผลิตรถยนต์ ปัญหานี้เพิ่งจะเริ่มถูกพูดถึง และบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการแจ้งเตือน” นักวิเคราะห์จาก BofA Securities ระบุ
2
นักวิเคราะห์ประเมินว่า แมกนีเซียมในสต๊อกทั่วโลกจะลดต่ำลงถึงจุดวิกฤตก่อนสิ้นปีนี้ หากจีนไม่ยอมเพิ่มกำลังการผลิต ความกังวลที่เกิดขึ้นส่งผลให้ราคาแมกนีเซียมที่นำเข้ามายังยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น 75% ขึ้นไปทำสถิติที่ 9,000 ดอลลาร์ต่อตันในเดือนที่ผ่านมา
WV Metalle สมาคมการค้าโลหะที่ไม่ใช่เหล็กของเยอรมนี ออกมาประเมินว่า ปริมาณแมกนีเซียมที่ถูกสำรองไว้ในเยอรมนีและยุโรปจะหมดลงภายใน เดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการผลิตทางอุตสาหกรรมอย่างมหาศาล โดย WV Metalle เรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนีเร่งเจรจาให้ทางจีนเพิ่มกำลังการผลิตแมกนีเซียม
ขณะที่กลุ่ม European Aluminium ซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วย Norsk Hydro, Rio Tinto และ Alcoa เรียกร้องให้สหภาพยุโรปเจรจากับทางการจีน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเช่นกัน
“ปัญหาขาดแคลนแมกนีเซียมที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงในการพึ่งพาการนำเข้าจากจีนมากเกินไป สหภาพยุโรปควรมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากแมกนีเซียมถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญตามลิสต์ของ EU” European Aluminium ระบุในแถลงการณ์
ในอดีต Norsk Hydro เคยเป็นผู้ผลิตแมกนีเซียมในยุโรป แต่หยุดทำธุรกิจดังกล่าวไป เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันด้านต้นทุนกับผู้ผลิตจากจีนได้
อ้างอิง:
เรื่อง: ดำรงเกียรติ มาลา
โฆษณา