24 ต.ค. 2021 เวลา 07:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
GLOCON มั่นใจธุรกิจขาขึ้น
หลังลุยแตกไลน์สินค้าเพื่อสร้างการเติบโต
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบริษัทฯที่กลับมาสร้างความเคลื่อนไหวกับเป้าหมายใหม่อันค่อนข้าง Agressive เลยทีเดียวครับสำหรับ GLOCON (บมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์)
หรือชื่อเดิมคือ NPPG บริษัทแพ็คเกจจิ้งที่เพิ่งจะมาเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อปัจจุบันและเบนเข็มธุรกิจมาที่ธุรกิจอาหารเป็นหลัก
หลังจากที่มีข่าวออกมาว่าบิ๊กใหญ่ของ GLOCON คือคุณ “หลุยส์ เตชะอุบล” ได้ซื้อหุ้นของบริษัทฯไปเป็นจำนวนกว่า30 ล้านหุ้น รวมไปถึงข่าวการเข้าซื้อ “ลูกชิ้นทิพย์” ซึ่งเป็นผู้ผลิต & จำหน่ายลูกชิ้นอัน 1 ในประเทศไทย อีกด้วยนั่นเอง
ทำให้วันนี้พวกเรา หุ้นพอร์ทระเบิด จะลองนำเอาบทสัมภาษณ์ที่คุณ “นพพร ภัทรรุจี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้เปิดเผยไว้กับสื่อต่างๆเกี่ยวกับกลยุทธ์ของ GLOCON ในอนาคตกัน
เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับ
ซึ่งปัจจุบัน GLOCON นั้นก็มีสัดส่วนพอร์ตธุรกิจหลักอยู่ในธุรกิจอาหารที่ 61% แพ็คเกจจิ้ง 32% ร้านอาหาร 4% และเทรดดิ้งอีก 3%
ธุรกิจอาหาร
สำหรับธุรกิจอาหารแบ่งเป็น 2 ส่วนได้แก่อาหารแช่แข็งซึ่งเป็นการผลิต OEM ให้แบรนด์ “EZYGO”
1
ส่วนที่สองได้แก่ธุรกิจเทรดดิ้งภายใต้แบรนด์ตัวเองชื่อว่า “Kitchen Plus” ที่มีทั้งอาหาร Plant Based, อาหารไทยยอดนิยม และเมนูคลาสสิคที่ทำจากอาหารทะเล
โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของธุรกิจอาหารก็คือการเข้าซื้อบจ. พงษ์-ศรา แมนูแฟคเจอริ่ง (PSM) และบจ. พงษ์-ศราดิสทริบิวชั่น (PSD) ผู้ผลิตและจำหน่ายลูกชิ้นภายใต้แบรนด์ “ลูกชิ้นทิพย์” ในสัดส่วน 70%
ซึ่งคาดว่าการ Synergy กับลูกชิ้นทิพย์จะทำให้ GLOCON มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะตลาดภายในประเทศทั้งแบบ Traditional trade และ Modern Trade เพื่อช่วยยขยายฐานการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค
 
ในขณะที่ GLOCON ก็จะเข้าไปพัฒนาในส่วนธุรกิจการส่งออก ไลน์สินค้าไส้กรอก และธุรกิจซอสของ ลูกชิ้นทิพย์ ซึ่งถือว่ามีโอกาสให้เติบโตได้อีกมาก
3
ธุรกิจร้านอาหาร
สำหรับการแก้ปัญหาการขาดทุนของร้านอาหาร A&W ทางบริษัทฯก็ได้ปิดสาขาขนาด Full format ที่ขาดทุนและเลือกเปิดเป็น A&W Express ซึ่งประหยัดค่าเช่ากว่า ค่าบริหารจัดการน้อยกว่า และประหยัดต้นทุนในส่วนของอาหารกว่าแบบ Full format
นอกจากนี้ยังมีการปล่อย Food truck เพื่อแก้ปัญหาในช่วงห้างสรรพสินค้าปิดและทดสอบ Traffic ของแต่ละพื้นที่เพื่อพิจารณาไปสู่การเปิด A&W Express อีกด้วยถ้าหากว่ามียอดขายดี
รวมไปถึงการเริ่มนำ Waffle ของ A&W ไปขายในเซเว่น-อีเลฟเว่นบางสาขา
ธุรกิจแพ็คเกจจิ้ง
ธุรกิจแพ็คเกจจิ้งเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ค่อนข้างดีเนื่องจากการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและฐานลูกค้าใหญ่ & ที่มั่นคงเช่น TKN, CPRAM และแบรนด์ Lobo เป็นต้น
ธุรกิจเทรดดิ้ง
ปัจจุบันธุรกิจเทรดดิ้งประกอบด้วย 3 ตัวคือแบรนด์ “Kitchen Plus” ซึ่งเป็นอาหารพร้อมทาน และ GLOCON INTERNATIONAL ที่ปลายปีนี้จะมีโปรเจ็คใหญ่คือการส่งออกให้กับลูกค้าต่างประเทศซึ่งมี Secured order จากลูกค้ามารอเรียบร้อยแล้ว
ส่วนแผนในอนาคต GLOCON ก็มีแผนที่จะมุ่งเน้นการทำ M&A กับธุรกิจอาหารที่มีขนาดใหญ่พอสมควร และทำกำไรดีอยู่แล้วต่อไปอีกราวๆปีละดีลจนถึงปี 2025 (รวม 4 ดีล)
โดยสนใจธุรกิจซอสเป็นพิเศษเนื่องจากมองว่ามีศักยภาพการเติบโตสูงกับมูลค่าตลาดซอสปัจจุบันที่ราวๆ 41,000 ล้านบาทซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง
1
และทั้งหมดนี้เองครับที่เป็นกลยุทธ์ในการเติบโตที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ GLOCON อย่างคุณ “นพพร ภัทรรุจี” ได้เปิดเผยและชี้แจงไว้
1
ส่วนพวกเรา หุ้นพอร์ทระเบิด & เพื่อนๆนักลงทุนทุกท่านก็คงจะต้องไปให้กำลังใจและเฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวของ GLOCON กันต่อไปว่าจะทำได้สำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ ?
สำหรับในวันนี้ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ...
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดบัญชี ค่าคอมหุ้น 0.05%
TFEX สัญญาละ 18-20
กับโบรคเกอร์
แนะนำหุ้นโดยที่ผู้แนะนำการลงทุนที่มีใบอนุญาต
แจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรทาง INBOX ได้เลยครับ
โฆษณา