25 ต.ค. 2021 เวลา 05:30 • ไลฟ์สไตล์
🔥ตำนานความรักกับสถานที่ๆน่าไปเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยว ที่มักมีเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจ ยิ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักล่ะ มีที่ไหนบ้างที่น่าสนใจ น่าไปเที่ยวชม
จะพาไปแวะดูสถานที่ๆ ความรักหลากหลายรูปแบบบังเกิดขึ้นในอดีต มีทั้งเรื่องจริงและเรื่องที่เล่าขานมาตามกาลเวลา
เป็นการต้อนรับบรรยากาศการท่องเที่ยวที่จะมาพร้อมการเปิดประเทศในเร็วๆ นี้ ลองไปดูกันค่ะ
.
.
รู้ไหม การท่องเที่ยวเป็นผลดีกับการหากำลังใจให้สู้ต่อนะคะ การได้นั่งรถไกลๆ ชมวิวทิวทัศน์ ได้โดนลมเป่า โดนแดดเผาผิวบ้าง ก็สุขไปอีกแบบนะคะ 😁
โดยทั้ง 4 ที่ เป็นเรื่องราวความรักที่อยู่เหนือกาลเวลา ตั้งอยู่บนความเชื่อของท้องถิ่น มีเรื่องราวเศร้าใจ เรื่องราวพลิกผัน จนกลายเป็นตำนานเล่าขานมาจนปัจจุบัน มาค่ะ จะเล่าให้ฟังค่ะ
1. เจ้าแม่เขาสามมุข
ขอเริ่มต้นตำนานความเชื่อเรื่องความรักด้วยเรื่องราวของ 'เจ้าแม่เขาสามมุข' ซึ่งเป็นตำนานเก่าแก่ในท้องถิ่นของหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี
ที่นี่เป็นสถานที่ๆ นักท่องเที่ยวมักจะแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนเสมอ ใครที่จบจาก ม.บูรพาคงคุ้นเคยกับที่นี่แน่ๆ ร้อยทั้งร้อยคงมีโอกาสได้ขี่รถเล่นและให้อาหารลิงแถวนี้แน่นอน
ที่นี่เป็นเรื่องราวของครอบครัวยายหลานคู่หนึ่ง หลานสาวมีชื่อว่า มุก เป็นเด็กหญิงกำพร้าที่ยายนำมาเลี้ยงดูหลังพ่อแม่เสียชีวิต
1
วันหนึ่งระหว่างที่มุกไปนั่งเล่นบริเวณเชิงเขาเตี้ยๆ ในอ่างศิลา เธอได้พบว่าวขาดลอยมาและพบว่าเจ้าของว่าวคือนายแสน ซึ่งเป็นลูกของกำนันในตำบลนั้น เรื่องราวก็ดำเนินต่อมาจนนายแสนก็ได้มอบว่าวตัวนั้นให้มุกเป็นของแทนตัว
ทั้งสานต่อความความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง และยังนัดพบกันอีกหลายครั้ง จนก่อเกิดเป็นความรัก และได้ให้คำสัตย์สาบานต่อกันว่าจะรักกันชั่วนิจนิรันดร์ หากผิดคำสาบานจะกระโดดหน้าผาแห่งนี้ตายตามกันไป
แต่ต่อมาเมื่อกำนันผู้เป็นพ่อของนายแสนรู้เรื่องเข้า ก่อเกิดความไม่พอใจและกีดกันความรักของทั้งคู่ จนถึงขนาดจับนายแสนแต่งงานกับลูกสาวคนทำโป๊ะเรือ เมื่อมุกรู้เรื่องเข้าจึงเกิดึวามเสียใจ และกระโดดหน้าผาตายตามคำสาบาน
เมื่อนายแสนทราบเรื่องดังนั้น จึงได้ตัดสินใจกระโดดหน้าผาตายตามกันไป ฝ่ายกำนันที่รู้สึกผิดจึงนำถ้วยชามต่างๆ มาไว้ที่ถ้ำเชิงเขาเพื่อเป็นอนุสรณ์ความรักของทั้งคู่
ภายหลังชาวบ้านจึงเรียกเขาแห่งนี้ว่า เขาสาวมุก และเพี้ยนมาเป็นเขาสามมุกในที่สุด ส่วนหาดที่พบศพของทั้งคู่ก็เรียก หาดบางแสน เพื่อระลึกถึงความรักของทั้งคู่
1
และบริเวณถ้ำที่มีเครื่องถ้วยชามต่างๆ หากมีงานบุญก็สามารถหยิบยืมไปใช้งานได้แต่สมัยที่จอมพลป. พิบูลสงครามสร้างถนนตัดผ่านก็ได้ทำการปิดปากถ้ำไปในที่สุด
ต่อมาเขาสามมุกและหาดบางแสนก็กลายเป็นที่เที่ยวที่ได้รับความนิยม และเรื่องราวของทั้งคู่ก็ยังคงถูกเล่าขานสืบต่อมาถึงปัจจุบัน
หมายเหตุ: ชื่อมุข หรือ มุก ไม่มีหลักฐานว่าอันไหนใช้เรียกในอดีต แต่สถานที่ใช้ มุข
2. ถ้ำผานางคอย
ที่เที่ยวแห่งที่สอง คือ ถ้ำผานางคอย ซึ่งเป็นผาธรรมชาติ มีความสูงชัน ภายในมีหินงอกหินย้อยสวยงามและยังมีหินงอกรูปร่างคล้ายหญิงสาวที่กำลังอุ้มลูกน้อยรอคอยคนรัก เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่ใน อ.ร้องกวาง จ.แพร่
ตำนานพื้นบ้านเล่าขานกันมาว่า เมื่อประมาณ 800 ปีก่อนอาณาจักรแสนหวี มีองค์หญิงองค์หนึ่งซึ่งสิริโฉมงดงามมากนามว่า อรัญญาณี
วันหนึ่งพระนางเสด็จทางชลมารคแต่เรือถูกพายุพัดจนจมลง ข้าราชบริพารล้วนหนีเอาตัวรอดเว้นแต่ นายคะนองเดช ที่เข้ามาช่วยชีวิตพระนางไว้ จนพระนางเกิดความประทับใจกลายเป็นที่มาของความรักในใจทั้งคู่
1
สุดท้ายจึงได้มีสัมพันธ์ต่อกันและทรงตั้งครรภ์ขึ้นมา นายคะนองเดชจึงเสี่ยงพาองค์หญิงหนีไปกับเขา แต่เมื่อถูกไล่ตามมาทันเหล่าทหารจะยิงธนูสังหารคะนองเดช แต่กลับกลายเป็นว่าลูกธนูไปปักที่อุระ (อก) ของพระนาง เขาจึงอุ้มคนรักมาที่ถ้ำแห่งนี้
พระนางบอกให้คะนองเดชหนีไปและกล่าวว่าตนจะรออยู่ที่นี่ไปชั่วนิรันดร์ ตามตำนานกล่าวว่าด้วยแรงอธิษฐานทำให้ร่างของนางกลายเป็นหิน หันไปทิศตะวันตก มือโอบพระโอรสไว้บนตัก กลายเป็นที่มาของชื่อถ้ำพระนางที่มาพร้อมความรักอันแสนเศร้านี้เองใจ
1
3. ถ้ำพระนาง
ต่อด้วยเรื่องที่สาม ถ้ำพระนาง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ ตั้งอยู่บริเวณหาดไร่เลย์
1
เป็นที่ๆ ชาวบ้านและนักเดินทางนิยมมา
กราบไหว้บูชาและขอพร โดยมักนำปลัดขิกมาถวาย เนื่องจากมีความเชื่อว่าที่ถ้ำแห่งนี้มีวิญญาณของหญิงสาวนางหนึ่งสถิตอยู่ รวมถึงมีการตั้งศาลเพียงตาไว้ด้วย
ตำนานเรื่องราวความรักครั้งนี้ เป็นเรื่องราวเก่าแก่ที่เล่าต่อกันมาว่า เมื่อหลายพันปีก่อนมีสามีภรรยาคู่หนึ่งแต่งงานกันมานานแล้ว แต่ทำยังไงก็ยังไม่มีลูกสักที จึงไปขอพรจากพญานาคให้มีลูก โดยทางพญานาคตกลงให้พรพวกเขา แต่มีข้อแม้ว่าจะมอบบุตรสาวให้ แต่เมื่อนางโตขึ้นต้องมาแต่งงานกับบุตรชายของพญานาคซึ่งทั้งคู่ก็ได้ตกลงตามเงื่อนไขนั้น
4
แต่แล้วเมื่อหญิงสาวโตขึ้น เธอกลับไม่ทำตามข้อตกลงและหนีไปแต่งงานกับชายอื่น พญานาคจึงบันดาลโทสะ และได้ไปทำลายงานพิธีแต่งงานครั้งนั้น
เรื่องราวเดือดร้อนถึงพระฤาษีที่บำเพ็ญเพียรอยู่ในถ้ำต้องมาห้ามทั้งสองฝ่าย แต่ก็ไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายพระฤาษีจึงสาปให้ทุกคนกลายเป็นหิน ส่วนเรือนหอของหญิงสาวกลายเป็นถ้ำ
1
ต่อมาเมื่อเวลาผ่านไป มีชาวประมงไปหลบฝนอยู่ในถ้ำนั้นและได้พบเห็นวิญญาณหญิงสาว จึงกลายเป็นที่มาเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และมีการนำศาลเพียงตามาตั้งให้นางในที่สุด
4. สะพานสารสิน
มาถึงอีกหนึ่งตำนานความเชื่อเรื่องความรักที่นับเป็นเรื่องเศร้าและเป็นโศกนาฏกรรมที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือเรื่องของสะพานสารสินที่จังหวัดกระบี่นั่นเอง
1
เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์พ.ศ.2516 พ่อค้าขายไข่เต่าเชิงสะพานได้โทรแจ้งตำรวจว่าพบชายหญิงคู่หนึ่งขึ้นไปยืนกอดกันบนสะพานแล้วกระโดดลงไปในกระแสน้ำเชี่ยว แต่เมื่อตำรวจส่งเจ้าหน้าที่ไปค้นหาก็ไม่พบ คาดว่าเพราะความแรงของน้ำทำให้ร่างทั้งคู่ถูกพัดออกสู่ทะเลไปแล้ว จากการสอบสวนทำให้เราได้รู้ถึงที่มาและเรื่องราวที่นำมาสู่จุดจบแสนเศร้า
1
ชายหญิงคู่นี้คือนายดำ แซ่ลิ้ม อาชีพขับรถสองแถวไม้ และนางสาวกาญจนา แซ่หงอ นักศึกษาปีที่ 2 ของวิทยาลัยครูภูเก็ต นายดำขับรถรับส่งหญิงสาวเป็นประจำจนกลายเป็นความรัก
แต่พ่อแม่ฝ่ายหญิงที่ฐานะดีเมื่อรู้เข้า ก็เกิดความไม่พอใจ โดยได้ลงโทษและกีดกันลูกสาวไม่ให้เจอกับฝ่ายชาย รวมถึงไม่ให้ติดต่อกับฝ่ายชายอีก ถึงขนาดสั่งให้เลิกเรียนแม้จะกำลังเรียนจบ กาญจนาจึงหนีไปอยู่ที่บ้านฝ่ายชายและนายดำก็พาคนรักหนีไปอยู่บ้านของพ่อแม่ในตัวเมือง แต่ทางฝ่ายพ่อแม่นายดำเองก็ไม่พอใจคนรักของลูกชายด้วยเช่นกัน
ภายหลังตำรวจได้พบว่าจดหมายที่นายดำเขียนสั่งความทิ้งไว้ มีความว่า เราทั้งสองรักกันมาก เมื่อเกิดความยุ่งยากคับอกคับใจ เพราะถูกพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายกีดกันความรัก จนความรักไม่มีหนทางไป จึงขอลาตายดีกว่าจะให้แยกจากกัน จดหมายฉบับนี้จึงเป็นหลักฐานยืนยันว่า ทั้งสองมีเจตนาจะฆ่าตัวตาย
โดยยึดเอาทะเลเป็นสุสานรัก สุดท้ายเมื่อตำรวจพบร่างของทั้งคู่ก็ยังพบว่ามีผ้าขาวม้าผูกร่างเอาไว้ไม่ให้แยกจากกันอีกด้วย กลายเป็นเรื่องราวรักที่แสนเศร้าของเมืองภูเก็ต ได้รับการสร้างเป็นภาพยนต์และละคร รวมถึงถูกเล่าขานต่อกันมาอย่างไม่รู้ลืม
2
🍬 นี่ละค่ะ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่เกี่ยวข้องกับความรัก ถึงแม้ว่าความรักจะเป็นสิ่งสวยงาม แต่ความรักก็สามารถสร้างให้ทั้งความสุขและความทุกข์
ดังนั้นเราจึงต้องใช้สติตรองให้มาก ว่าสิ่งใดควร หรือสิ่งใดไม่ควร ทางที่ดีที่สุด ความรักควรต้องส่งเสริมให้ชีวิตดีงามและผาสุขยิ่งขึ้นถึงจะเหมาะสม
และเรื่องราวที่เล่าขานมานี้ ได้อ้างอิงมาจากเรื่องราวต่างสถานที่ต่างกาลเวลา ถ้ามีโอกาสก็น่าแวะไปเยี่ยมชมกันดูนะคะ
1
🦙 ชอบก็กดไลค์ ใช่ก็กดแชร์
ถ้าจะให้รู้ว่าแคร์ ก็คอมเม้นท์มานะคะ
1
• ติดตามและรับฟังผ่านแอป blockdit
• ติดตามและรับฟังผ่านช่องยูทูป
โฆษณา