26 ต.ค. 2021 เวลา 11:30 • สุขภาพ
เปิดภาพนักท่องเที่ยวโดน "ทากกัด" พยาธิไชเข้าเท้า นักวิจัยแนะวิธีรักษา
นักท่องเที่ยวไปเดินป่า โดน "ทากกัด" พบพยาธิไชเข้าเท้า นักวิจัยแนะวิธีการรักษา พร้อมเตือนช่วงหน้าฝนจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
จากกรณี ศูนย์วิจัยโรคปรสิตสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เผยภาพผู้ป่วยรายหนึ่งมีรอยคดเคี้ยวเกิดขึ้นบริเวณหลังเท้า โดยมีลักษณะรอยเป็นเส้นนูนบวมแดง ซึ่งผู้ป่วยมีประวัติว่าโดนทากกัดจากการที่ไปเที่ยวป่าเขาที่ชื้นแฉะ
วันที่ 25 ต.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ศูนย์วิจัยโรคปรสิตสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มทส. เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริงจากกรณีดังกล่าว กับ ผศ.ดร.ณัธคพัชฬ รัตนพิทูลย์ นักวิจัยศูนย์วิจัยโรคปรสิต สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มทส. ได้เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยรายหนึ่งได้ส่งภาพเพื่อสอบถามอาการและวิธีการรักษา หลังจากถูกทากกัดจากที่ไปเที่ยวป่าเขา (ซึ่งไม่ได้ระบุสถานที่)
ทั้งนี้ จากลักษณะรอยนูนบวมแดง เป็นเส้นคดเคี้ยว มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดจากการไชของตัวอ่อนของพยาธิ หรือหนอนพยาธิ ที่พบได้บ่อยคือพยาธิปากขอ พยาธิเส้นด้ายของสัตว์จำพวกสุนัข แมว เรียกว่า โรคพยาธิชอนไชผิวหนัง (Cutaneous larva migrans) ในกรณีที่ถ้าถูกกัดแล้วติดเชื้อพยาธิยังไม่พบบ่อยนัก ซึ่งการติดต่อโดยการไชผ่านผิวหนังของตัวอ่อนพยาธิเวลาสัมผัสกับดิน น้ำ บริเวณที่มีมูลสัตว์ที่มีพยาธิปากขอ รวมถึงผ่านทางแผล พยาธิจะไชผ่านผิวหนัง ยิ่งถ้ามีแผลยิ่งเข้าได้ง่ายขึ้น จะเคลื่อนที่ได้ 2-3 มิลลิเมตร/วัน ทำให้เกิดผื่น เส้นนูน แดง หรือตุ่มน้ำใส รอยคดเคี้ยวประมาณ 3-20 มิลลิเมตร เกิดหลังจากติดเชื้อ 1-5 วัน ปกติแล้วพยาธิไม่สามารถเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยในร่างกายในคนเราได้ จะตายไปเอง 1-2 สัปดาห์ แต่ก็พบว่าสามารถคงอยู่ได้นาน 2-14 สัปดาห์ บางรายอาจจะนานเป็นปี
1
สำหรับการรักษา ให้ยาอัลเบนดาโซล ขนาด 400 มิลลิกรัม/วัน ติดต่อกัน 3 วัน ส่วนการป้องกันทำได้ง่ายๆ โดยสวมใส่รองเท้า ถุงมือ ให้มิดชิดเวลาสัมผัสดินที่ชื้นแฉะ หรือเดินป่าเขาที่ชื้น และหากมีบาดแผลพยาธิชนิดนี้ยิ่งจะสามารถชอนไชเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย จำเป็นต้องทำความสะอาดและปิดบาดแผลให้มิดชิดเพื่อป้องกัน โดยเฉพาะเกษตรกรที่ต้องสัมผัสกับดิน หรือตามที่ชื้นแฉะ ควรสวมถุงมือ และหากลุยน้ำก็ควรสวมรองเท้าบูทป้องกันให้พยาธิไขเข้าร่างกาย กลุ่มผู้ที่เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสุนัขและแมวซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของพยาธิชนิดนี้ หากต้องสัมผัสกับมูลสัตว์จะต้องสวมถุงมือเพื่อป้องกัน พร้อมทั้งพาหมาและแมวไปรักษาพยาธิกับสัตวแพทย์เป็นประจำ และกลุ่มที่สำคัญคือเด็กที่ชอบเล่นตามพื้นดิน ไม่ควรให้เด็กเล่นดินที่ชื้นแฉะ
ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวทะเล ชอบไปเดินหรือนอนตามพื้นทรายก็อาจจะมีพยาธิไชเข้าร่างกายได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมต้องระมัดระวังในการสัมผัสน้ำ ควรสวมถุงมือ สวมรองเท้า เพื่อป้องกันพยาธิชนิดนี้อีกด้วย.
โฆษณา