Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Wild Chronicles
•
ติดตาม
29 ต.ค. 2021 เวลา 04:35 • ประวัติศาสตร์
*** เรื่องหลอน ผีอาเซียน! ***
จากบทความก่อนหน้านี้… ผมได้นำเสนอเรื่องราวของ “ผีญี่ปุ่น” ไปแล้ว วันนี้ทาง The Horror Choronicles จะนำผู้อ่านทุกท่านมาชมเรื่องราวลี้ลับจากประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแต่ละชาติล้วนมีเรื่องเหล่าแนวภูติผีที่สอดคล้องกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของตนเอง
บทความนี้ผมจะนำเสนอเรื่องราวของผีปีศาจรวม “8 เรื่อง 8 รส จาก 8 ประเทศ” ของสมาชิกอาเซียน ซึ่งมีตั้งแต่เรื่องเล่ายุคโบราณ ไปจนถึงตำนานเมืองรูปแบบใหม่ พร้อมกันครับ
...เรื่องราวต่อไปนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อความบันเทิง โปรชวนวิจารณญาณมาอ่านเป็นเพื่อนเพื่อความสนุกในการรับชม...
ภาพแนบ: มานานังกัล ผีฟิลิปปินส์ ที่จะกล่าวถึงในบทความนี้
อย่างที่กล่าวไป ผมจะนำเสนอเรื่องราวของผีปีศาจรวม “8 เรื่อง 8 รส จาก 8 ประเทศ” ของสมาชิกอาเซียน
ตั้งแต่เรื่องเล่ายุคโบราณ ไปจนถึงตำนานเมืองรูปแบบใหม่ พร้อมกันครับ
ไปติดตามชมพร้อมกันได้เลยครับ!
ภาพแนบ: รูปวาดของผีมะแพหว่า
*** ประเทศพม่า - ผีมะแพหว่า ***
ประเทศพม่ามีตำนานของผีสาวสุดแสนจะยูนีคนามว่า “มะแพหว่า” ซึ่งเร้นกายอยู่ในสุสานช่วงเวลากลางวัน และปรากฏกายเมื่อท้องฟ้ามืดลงพร้อมแบกโลงศพของตน ไปตามชุมชนเพื่อหาบ้านของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเพื่อกระซวกวิญญาณให้มาอยู่กับเธอ
มีตำนานเล่าว่า “มะเเพหว่าเคยมีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงศ์คองบอง แต่เดิมเธอเป็นน้องสาวของข้ารับใช้เจ้าเมืองที่พยายามก่อกบฏทว่าประสบความล้มเหลว ทำให้สองพี่น้องต้องหลบหนีออกจากเมืองมาใช้ชีวิตยังหมู่บ้านสันโดด คืนหนึ่งเธอพยายามออกไปตามหาพี่ชายที่ยังไม่กลับบ้าน แต่กลับถูกเขาสังหารเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นปีศาจจากความมึนเมา ส่งผลให้หญิงสาวผู้น่าสงสารกลายมาเป็นดวงวิญญาณเร่ร่อนไม่มีที่พำนัก… ก่อนที่ชื่อของเธอจะถูกยกให้เป็นผู้พิทักษ์สุสานในเวลาต่อมา”
ภาพแนบ: มะแพหว่ากลายเป็นไอคอนยอดนิยมที่มีทั้งคนแต่งเป็นเธอและวาดการ์ตูนเพื่อต่อต้านกองทัพพม่า
อย่างไรก็ตามไม่มีการกล่าวถึงรายละเอียดว่า… เหตุใดเมื่อเวลาผ่านไปวิญญาณผู้พิทักษ์จึงกลายมาเป็นผีร้ายที่ไล่รังควานกับชาวบ้าน ถึงขนาดที่เคยมีข่าวลือว่าในช่วงปลายปี 1990 เมื่อผีมะแพหว่าได้เข้าฝันพระเกจิชื่อดังรูปหนึ่งในรัฐกะฉิ่นของประเทศพม่าพร้อมประกาศกร้าวว่าจะมากินเนื้อเด็กๆ ทำให้พระรูปดังกล่าวแนะนำให้นางกินเนื้อสุนัขแทน เมื่อข่าวลือนี้แพร่สะพัดไปชาวบ้านจึงนำป้ายที่เขียนว่า “เนื้อเด็กมีรสขม เนื้อสุนัขมีรสหวานอร่อย” มาตั้งในชุมชนเพื่อป้องกันอันตราย
แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ไม่มีรายงานว่าผู้ใหญ่, เด็ก, สุนัข, หรือหมาคอร์กี้ตนใด ได้รับอันตรายจากเหตุดังกล่าว ในปัจจุบันผีมะแพหว่ากลายเป็นไอคอนยอดนิยมของประเทศพม่า ที่ถูกนำมา บอกเล่าผ่านทั้งตำนานพื้นบ้าน, หนังสือ, และภาพยนตร์หลากหลายเวอร์ชัน เทียบความป๊อบปูล่ากับผีไทย ก็อารมณ์ประมาณแม่นาก
*** ไทย - ผีม้าบ้อง ***
เราคงเคยได้ยินเรื่องราวของผีสุดป๊อบปูล่าอย่าง แม่นากพระโขนง, ปอบ, กระสือ, กระหัง, แม้แต่กลุ่มผียุคใหม่เช่น ผีคุณยายสปีดหรือผีป๊อกๆ ครืด แต่จะมีซักกี่คนรู้ว่า ประเทศของเรามีอสูรในลักษณะของครึ่งมนุษย์ครึ่งม้าคล้ายกับเซนทอร์ของชาติตะวันตก เรียกว่า “ผีม้าบ้อง”
ตำนานเรื่องนี้ถูกเล่าที่มาแตกต่างกันหลายฉบับ โดยบางฉบับบอกว่า ผีม้าบ้องนั้นเกิดจากวิญญาณของชายขี้เหนียวที่ไม่เคยให้ความช่วยเหลือหรือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ใคร จนเมื่อเขาตายไปก็ไม่มีใครให้ความสนใจจนกลายเป็นวิญญาณร้ายที่สามารถแปลงกายเป็นอสูรครึ่งคนครึ่งม้า เพื่อทำร้ายเหยื่อที่เป็นคู่รักหรือกำลังมีความรักด้วยความอิจฉา โดยการดีดให้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
ขณะที่ตำนานอีกฉบับเล่าเรื่องที่เศร้าว่า… แท้จริงแล้วอสูรตนนี้กำเนิดจากม้าตัวหนึ่งที่กำลังเจ็บป่วยอย่างหนัก มันพยายามรอคอยคู่ของมันที่เคยผูกพันธ์แต่เยาว์วัย ทว่าคู่ของมันก็ไม่เคยกลับมาจนเจ้าม้าที่น่าสงสารต้องเสียชีวิตลง แม้กายหยาบจะสูญสลายแต่วิญญาณที่ยังห่วงก็ยังคงออกเดินทางไปตามหมู่บ้านต่างๆ โดยหวังว่าจะเจอคู่ขอมันซักวัน
บางฉบับยังบอกว่าผีม้าบ้องมีรูปเป็นผู้หญิงงามท่อนล่างเป็นม้า จะปรากฏกายออกมาแถวๆ หมู่บ้านคนในยามวิกาลเพื่อหาชายหนุ่มผู้โชคร้ายที่หน้ามืดไม่เห็นท่อนล่าง จากนั้นผีม้าก็จะ “ดีดจนเหยื่อเสียชีวิต!” นั่นเอง
*** กัมพูชา - ผีอ๊าบ ***
กัมพูชาถือเป็นชาติอาเซียนที่มีความเชื่อและตำนานเรื่องผีใกล้เคียงกับประเทศไทยเป็นอย่างมากทั้งผีเปรต, ผีปอบ, และผีกระสือ โดยผีที่เราจะมานำเสนอในวันนี้คือ “ผีอ๊าบ หรือ กระสือแบบฉบับกัมพูชา” นั่นเอง
คำว่า “อ๊าบ” นั้นแปลว่า การจองเวรจองกรรมให้ผู้อื่นได้รับความเจ็บปวด ต้นกำเนิดของกระสือฉบับกัมพูชานั้นเป็นผู้ล้มเหลวในการฝึกวิชาคาถามนต์ดําทำให้ของเหล่านั้นกลับเข้าตัวเอง จึงต้องทนทุกข์ทรมานจนกลายเป็นอ๊าบ
เมื่อยามตะวันลับขอบฟ้า อ๊าบจะถอดหัวและเครื่องในบินออกมาออกมาหาของโสโครกเช่นเลือด, ซากศพ, เนื้อสดของสัตว์และทารกเกิดใหม่
ก่อนจะกลับเข้าร่างเมื่อตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าในเช้าวันถัดมา
นอกจากนี้ตำนานยังกล่าวอีกว่า อ๊าบสามารถสืบทอดผ่านคนในครอบครัวหรือทำการย้ายวิญญาณผ่านพิธีกรรมของแม่หมอที่มีอาคมแก่กล้าจนกลายเป็นวงจรอุบาทว์ไม่รู้จบ… ใครคลอดลูกมีรกให้ระวัง จะมีอ๊าบมาแอบกินให้พยายามป้องกัน โดยกระสือฉบับกัมพูชามีจุดอ่อนสำคัญคือแพ้พวกขวากหนามจากต้นไม้หรือสุนัขเฝ้ายามที่สามารถทำอันตรายต่ออวัยวะของมันได้
เขียนๆ ไปแล้วก็เหมือนกระสือไทยมาก ...เอ หรือผีชนิดนี้จะมีจริงกันนะ?
ภาพแนบ: รูปของผีขายข้าวปุ้นจากหนังสือเกี่ยวกับผีสัญชาติลาวจากปลายปากกาของ ไบรอัน เท้า วอร์รา นักเขียนชาวลาวอเมริกา
*** ลาว - ผีสาวขายข้าวปุ้น ***
เรื่องราวมีอยู่ว่าพ่อค้าขายข้าวปุ้น (อาหารลาวคล้ายขนมจีน) รายหนึ่งตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหาลูกค้ารายใหม่ๆ จนมาพบเข้ากับต้นไทรขนาดใหญ่ตรงบริเวณดังกล่าว ทันใดนั้นเองหูของเขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ มาจากที่ไหนซักแห่ง ทำให้พ่อค้าพยายามมองหาจนพบหญิงสาวคนหนึ่งร้องไห้อยู่ใต้ต้นไทร
เขาพยายามเดินเข้าไปหาหญิงสาวคนนั้น พร้อมกับถามไถ่ความเป็นมาเผื่อจะช่วยอะไรหล่อนได้บ้าง… แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรหญิงสาวรายดังกล่าวก็ไม่มีปฏิกริยาใดๆ จนเขาพูดว่า “ให้เธอรีบกลับบ้านเพราะใกล้มืดค่ำ อาจเจอผีได้” ทันใดนั้นเองเสียงสะเอื้อนที่เคยได้ยินก็เปลี่ยนเป็นความเงียบงันและวังเวง…
ชายหนุ่มตัดสินใจรวบรวมความกล้าและถามไปตรงๆว่า “เธอเป็นผีใช่หรือไม่?” และแน่นอนว่าหญิงสาวคนดังกล่าวก็พยักหน้ารับ… แม้จะเป็นการตอบสนองที่ไม่น่าอภิรมย์นัก แต่เขาก็ไม่หยุดความพยายามที่จะช่วยเหลือเธอพร้อมถามว่าใครเป็นคนทำให้เธอต้องมาวนเวียนอยู่ตรงนี้…
ทว่าคำตอบที่ได้กลับมาคือเสียงอาฆาตแค้นของหญิงสาวที่พูดอย่างชัดเจนว่า “ก็คนขายข้าวปุ้นอย่างพวกแกไงล่ะ!” ชายหนุ่มจึงทิ้งตะกร้าข้าวปุ้นพร้อมเปลี่ยนอาชีพจากพ่อค้าเป็นนักวิ่งเทรลแบบไม่คิดชีวิต… ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็มีเรื่องเล่าว่าวิญญาณของหญิงสาวจะมาปรากฎตัวใต้ต้นไทร พร้อมกับนำตะกร้าข้าวปุ้นที่แฮบจากเจ้าของเก่ามาเสนอขายให้กับผู้สัญจรผ่านทางสามแพร่งในทุกๆ คืนที่พระจันทร์เต็มดวง
…จนบัดนี้เราก็ยังไม่ได้คำตอบว่าเธอมีความแค้นกับคนขายข้าวปุ้นจริงๆ หรือแกล้งหลอกเพื่อเทคโอเวอร์กิจการเท่านั้น…
*** มาเลเซีย - โอรังมีเยาะ ***
เปลี่ยนจากเรื่องผีสางมาดูเรื่องราวเกี่ยวกับชายผู้ทำสัญญากับปีศาจเพื่อได้มาซึ่งความงามทางรูปกายในตอนกลางวัน แต่แลกมาด้วยการที่ตอนกลางคืนต้องกลายเป็นอมนุษย์หัวโล้น ที่มีร่างกายดำทมึนจากน้ำมันที่ถูกชโลมและมีดวงตาเปล่งประกายสีแดง
โอรังมีเยาะมันจะออกล่าเหยื่อซึ่งเป็นหญิงสาวที่กำลังหลับไหลบนเตียงนอน โดยมันจะยืนจ้องจนกว่าหญิงสาวจะตื่นขึ้นเพื่อสะกดจิตให้อยู่ใต้ภวังค์เพื่อไม่สามารถต้านทานมันได้ จากนั้นมันจะข่มขืนจนเสร็จกิจก่อนจะหายตัวไป เมื่อสาวผู้เคราะห์ร้ายตื่นมาเธอจะลืมสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่าง คงเหลือเพียงคราบน้ำมันรอบเตียงไว้เป็นของดูต่างหน้า
ภาพแนบ: โอรังมีเยาะในโลกภาพยนตร์
ต้นกำเนิดของโอรังมีเยาะ เกิดขึ้นจากชายหนุ่มหน้าตาอัปลักษณ์คนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านกัมปุงของมาเลเซีย เขาเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ของชาวบ้านและผู้พบเห็น วันหนึ่งเขาตกหลุมรักสาวงามคนหนึ่ง แต่ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจในความขี้เหร่และมั่นใจว่าหญิงสาวคงไม่มีทางรับรักตนอย่างแน่นอน เขาจึงเริ่มศึกษาวิชามนต์ดำเพื่อทำสัญญากับปีศาจ เพื่อเปลี่ยนให้ตนเป็นชายหนุ่มรูปงามโดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่าตนต้องกลายร่างเป็นโอรังมีเยาะ เพื่อล่าพรหมจรรย์หญิงสาวมาบรรณาการแก่ปีศาจ
*** ตัดเข้าช่วงโฆษณา ***
เมื่อเขียนเรื่องคอมมิวนิสต์ เลยขอโฆษณาว่าหนังสือ "เชือดเช็ดเชเชน" ที่พิมพ์ครั้งก่อนขายหมดจากตลาดไปนานแล้ว มีแผนจะพิมพ์ใหม่ปลายปีนี้นะครับ ตอนนี้เปิดให้จองแล้ว
- หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องประวัติของชนกลุ่มน้อยเชเชน ตลอดจนประวัติศาสตร์รัสเซียยุคหลัง โดยเน้นบทบาทของปูตินในการต่อสู้เพื่อขึ้นครองอำนาจ, ปฏิรูปรัสเซีย, และทำสงครามปราบชาวเชเชน
- หนังสือเล่มนี้มีผู้วิจารณ์มากมายว่า "โหดสัสรัสเซีย"
- ผมตั้งใจจะเพิ่มเนื้อหาให้อัพเดทถึงปัจจุบัน แน่นอนว่ามีความโหดสัสมากขึ้นไปอีก
- พิมพ์เป็นสี่สีแน่นอน
- ปกพิมพ์สีเมทัลลิก ปั้มนูนและปั้มเงินที่ชื่อเหมือนเล่มสุริยันพันธุ์เคิร์ด รับรองว่าสวยมาก เหมาะแก่การสะสม สำนักพิมพ์ The Wild Chronicles 😉
- มีเซ็นลายเซ็นพิเศษประจำเล่มให้ครับ
- ราคาอยู่ที่ 389 บาท สั่งพรีออเดอร์ตอนนี้ลดเหลือ 369 บาท และฟรีค่าส่งในประเทศ (ปกติค่าส่ง 50 บาทครับ ส่วนต่างประเทศก็ตามจริง)
- สนใจชำระและใส่ที่อยู่ที่ link แนบได้เลย อนึ่งระบบนี้จะมีเมลคอนเฟิร์มไปแต่ช้าหน่อยนะครับ
https://www.gbprimepay.com/payment/m/noncart/TWC/591858
See less
นอกจากนี้ ยังขอโฆษณาว่าหนังสือ "ประวัติย่อก่อการร้าย War on Terror" ที่พิมพ์ครั้งก่อนขายหมดจากตลาดไปนานแล้ว มีแผนจะพิมพ์ใหม่ปลายปีนี้นะครับ
ตอนแรกว่าใกล้ๆ เสร็จแล้วค่อยทำโปร แต่เหตุการณ์ในอัฟกานิสถานและรำลึก 9/11 ทำให้มีคนถามมาเยอะเหลือเกิน เลยเปิดให้จองก่อน
- หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องประวัติของขบวนการก่อการร้ายสากลตั้งแต่ยุคอัลเคดามาต่อ ISIS
- ผมตั้งใจจะเพิ่มเนื้อหาให้อัพเดทถึงปัจจุบัน
- พิมพ์เป็นสี่สีแน่นอน
- ปกพิมพ์สีเมทัลลิก ปั้มนูนและปั้มเงินที่ชื่อเหมือนเล่มสุริยันพันธุ์เคิร์ด รับรองว่าสวยมาก เหมาะแก่การสะสม สำนักพิมพ์ The Wild Chronicles เราพิมพ์เองแล้วจะทำอะไรก็ได้ 555
- มีเซ็นลายเซ็นพิเศษประจำเล่มให้ครับ
- ราคาอยู่ที่ 389 บาท สั่งพรีออเดอร์ตอนนี้ลดเหลือ 369 บาท และฟรีค่าส่งในประเทศ (ปกติค่าส่ง 50 บาทครับ ส่วนต่างประเทศก็ตามจริง)
- สนใจชำระและใส่ที่อยู่ที่ link แนบได้เลย อนึ่งระบบนี้จะมีเมลคอนเฟิร์มไปแต่ช้าหน่อยนะครับ
https://www.gbprimepay.com/payment/noncart/TWC/596338
See less
และขอโฆษณาว่าหนังสือ “สุริยันพันธุ์เคิร์ด” หรือหนังสือเล่มใหม่ของผมออกแล้วนะครับ มีรายละเอียดดังนี้...
- เรื่องนี้เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ชาวเคิร์ด ผลงานเล่มล่าสุดในชุด The Wild Chronicles
- พิมพ์เป็นสี่สี!
- ยาวที่สุดเท่าที่พิมพ์มา ยาวกว่าพยัคฆ์ทมิฬสิ้นชาติราว 2 เท่า
- รูปโหดๆ ที่ทำให้เข้าใจสถานการณ์ดีขึ้น จะไม่เซนเซอร์ แต่จะรวมอยู่ท้ายเล่ม และมีคำเตือนก่อน
- มีลายเซ็นทุกเล่ม!
- ราคา 439 บาท รวมค่าส่งแล้ว
ท่านที่ต้องการพรีออเดอร์สามารถชำระ และใส่ที่อยู่ทาง link แนบได้เลย
https://www.gbprimepay.com/payment/m/noncart/TWC/576294
See less
อนึ่งชาวเคิร์ดเป็นชนกลุ่มน้อยในตะวันออกกลาง มีราว 30 ล้านคน หากไม่มีประเทศของตนเอง พวกเขาแตกเป็นหลายส่วนและถูกกดขี่อย่างหนัก แต่การถูกกดขี่เคี่ยวกรำนั้นทำให้พวกเขากลายเป็นนักรบที่เก่งกาจ
หนังสือเล่มนี้เขียนเรื่องราวของชาวเคิร์ดตั้งแต่ยุคตำนานจนถึงประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ซึ่งมีความพีคแล้วพีคอีก ผ่านสงครามใหญ่ๆ มากมาย เช่นสงครามอิรัก - อิหร่าน, สงครามอ่าวเปอร์เซีย, สงครามปราบซัดดัม, สงครามกลางเมืองอิรัก, สงครามปราบกลุ่มก่อการร้าย แต่ละสงครามที่ว่ามานี้มีสเกลใหญ่เป็นรองแค่สงครามโลก
ชาวเคิร์ดมีส่วนร่วมในสงครามเหล่านี้ทั้งหมดในฐานะชนกลุ่มน้อยที่ไม่รวยแต่รบเก่ง พอมีคนมาติดอาวุธให้เลยมักกลายเป็นไพ่โจ๊กเกอร์ที่เปลี่ยนผลชี้ขาดของสงคราม
อย่างไรก็ตามศัตรูอันดับหนึ่งของชาวเคิร์ดคือเผด็จการซัดดัม ฮุสเซนนั้นก็โหดมาก โหดโคตรๆ ใครเคยอ่านพยัคฆ์ทมิฬสิ้นชาติ หรือเชือดเช็ดเชเชน ผมบอกได้ว่าไอ้นี่ก็โหดไม่แพ้กัน หรือเผลอๆ โหดกว่า ดังนั้นการต่อสู้ของชาวเคิร์ดมันจึงเป็นเรื่องที่หลอนและดุเดือดมากๆ
หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์ที่ผมได้ไปเยือนดินแดนเคอร์ดิสถานอิรัก (และหนีมิสไซล์มา) เมื่อต้นปี 2020 เพื่อนชาวเคิร์ดที่ผมสัมภาษณ์ทุกคนเป็นผู้รอดชีวิตจากทุกสงครามข้างต้น ทำให้มีข้อมูล ความเห็น และมุมมองของคนต่างๆ ที่ลึกกว่าในตำรา แน่นอนว่าประสบการณ์ของพวกเขาดาร์คมาก แต่เขาหลายคนไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายขนาดนั้น พวกเขาตีความสิ่งที่พบเจออย่างไร ลองตามอ่านดูนะครับ
"สุริยันพันธุ์เคิร์ด" ตั้งใจพิมพ์เป็นสี่สี เป็นหนังสือที่ยาวที่สุดตั้งแต่ผมเขียนสารคดีชุด The Wild Chronicles มา
อีกครั้งนะครับ ท่านที่ต้องการพรีออเดอร์หนังสืออย่างเดียว สามารถชำระ และใส่ที่อยู่ทาง link นี้ได้เลย 439 บาท รวมค่าส่งแล้ว (ในประเทศ) ถ้าบางท่านอยู่ต่างประเทศมีค่าส่งพิเศษจะแจ้งอีกที
https://www.gbprimepay.com/payment/m/noncart/TWC/576294
See less
สำหรับวิธีการป้องกันโอรังมีเยาะคือ การสวมใส่เสื้อผ้าของผู้ชายเพื่อตบตา, ใช้กิ่งต้นสะตอเพื่อทำให้มันตกใจ, ใช้น้ำฝนชะล้างน้ำมันบนร่างมัน, และเอากระจกส่องสะท้อนพลังจิตของมัน หรือถ้าอยากฆ่ามันก็มีขั้นตอนดังนี้:
1. โรยปลีกล้วยหรือใบบอนรอบๆ ที่นอน ซึ่งจะทำให้มันไม่สามารถขยับตัวได้
2. ใช้ถุงผ้าบาติกครอบหัวมันไว้
3. กัดหรือตัดหัวแม่มือซ้ายของมันออก สิ่งนี้จะทำให้มันเสียชีวิต
เรื่องรางของโอรังมีเยาะเคยถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบภาพยนตร์ถึงสองครั้งด้วยกัน โดยฉบับแรกออกฉายในปี 1956 และฉบับต่อมาในปี 2007 ถือเป็นอมนุษย์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวเป็นอย่างมาก
*** สิงคโปร์ - ผีสาวแห่งหอคอยสื่อสาร ***
เรื่องราวลี้ลับของสิงคโปร์เกือบทั้งหมดนั้น ถูกเล่าออกมาในรูปแบบของตำนานเมืองตามสถานที่ต่างๆ เนื่องจากประเทศแห่งนี้เพิ่งก่อตั้งได้เพียง 56 ปี ทำให้ตำนานโบราณส่วนมากได้รับอิทธิพลจากประเทศใกล้เคียง อย่างไรก็ตามตำนานเมืองซึ่งได้รับการเล่าขานมากที่สุดคือเรื่องราวของ “หอคอยสื่อสารแอมเบอร์ที่ตั้งอยู่บนหาดในอีสท์โคสท์พาร์ค” สถานที่พักผ่อนยอดนิยมของชาวสิงคโปร์
โดยเรื่องมีอยู่ว่า “หนุ่มสาวคู่หนึ่งได้เดินทางมาพักผ่อนอยู่บริเวณบันไดของหอคอย แต่ถูกฆาตกรเข้าจู่โจม ทำให้ฝ่ายหญิงถูกสังหาร ส่วนฝ่ายชายสามารถต่อสู้จนดิ้นรนหนีออกมาได้สำเร็จ
ภาพแนบ: ขั้นบันไดที่ถูกระบุว่ามีคนพบเห็นผีสาว
ภายหลังเหตุสลดดังกล่าว… ก็เกิดข่าวลือแปลกๆ ว่ามีผู้คนเห็นวิญญาณหญิงสาวที่ยังไม่สามารถไปสู่สุขคติปรากฎตัวขึ้นบนหอคอยก่อนจะหายตัวไปต่อหน้าต่อตา หรือได้ยินเสียงร้องไห้, กรีดร้อง, และร้องขอความช่วยเหลือจากบริเวณดังกล่าว…
จนหอคอยแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ผีดุซึ่งดึงดูดผู้คนไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก (ฟังดูย้อนแย้ง หรือไม่ย้อนแย้งดีนะ?)
*** ฟิลิปปินส์ - ปีศาจอัสวัง ***
ปีศาจอัสวังเป็นอีกหนึ่งตำนานของภูติผีระดับโหดสัส! มันมีวิธีการสังหารเหยื่ออันน่าหวาดผวาด้วยการแลบลิ้นกระซวกใส่รูทวารของเหยื่อเพื่อกินอวัยวะภายใน!
ในตอนกลางวันปีศาจตนนี้จะเป็นประมาณแม่มดใจดีที่มักจะให้ความช่วยเหลือในการปรุงยาสมุนไพรและใช้คาถาเพื่อช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากไม่ให้สงสัยในตัวตนที่แท้จริงของมัน
จนเมื่อตะวันลับขอบฟ้าลง… เธอจะเปลี่ยนร่างกลายเป็นปีศาจหน้าตาอัปลักษณ์พร้อมกางปีกขนาดใหญ่ที่สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้อย่างสะดวกชนิดที่กระหังยังอาย! แน่นอนว่าความอลังการงานสร้างแบบเล่นใหญ่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะเราสามารถแบ่งประเภทของปีศาจอัสวังได้ถึง 5 สายพันธุ์ด้วยกัน!
มานานังกัล: อัสวังสายตีบวกที่ล่าเหยื่อด้วยพละกำลัง มันสามารถแยกร่างเหยื่อออกเป็นสองท่อนเพื่อความสะดวกในการกิน อีกทั้งยังสามารถถอดร่างท่อนบนของตัวเองเพื่อเพิ่มความสามารถในการไล่ล่า อย่างไรก็ตามการแยกร่างนั้นทำให้พลังอำนาจและอิทธิฤทธิ์ของมันลดน้อยถอยลงไปด้วย
มันดูรูโก: อัสวังสายสเน่ห์ มักความงามล่อผู้ชายมาหลงรัก จนแต่งงานกัน จากนั้นสามีผู้โชคร้ายก็จะกลายสภาพจากคู่ชีวิตมาเป็นอาหารประเภทกินน้อยๆ แต่ทรมานนานๆ ด้วยการถูกดูดเลือดแบบไม่รู้ตัววันละนิดจนป่วยเสียชีวิตไปในที่สุด เมื่อสำเร็จภารกิจมันก็จะออกเดินทางเผื่อหาผู้เคราะห์ร้ายรายต่อไป
กูกูรัม: หากสายตีบวกมันใช้แรงมากเกินไปและสายสเน่ห์ไม่สามารถทำให้อิ่มท้อง อัสวังตนที่สามคือสายเวทย์ ที่ตอบโจทย์การกินเยอะโดยไม่เหนื่อย โดยใช้ตุ๊กตาสาปแช่งเพื่อเสกเศษแก้ว, แมลง, หรือก้างปลาเข้าสู่ร่างกายจนเหยื่อเสียชีวิต ก่อนจะจัดการกับศพนั้นแบบไม่ต้องออกแรงมาก
อัสวังครึ่งปีศาจ ครึ่งสัตว์: มันคืออัสวังสายแอซแซสซินที่นิยมปลอมตัวเป็นหมาหรือแมวน่ารัก หรือแม้แต่อีกา หรือค้างคาว เพื่อเข้าใกล้เป้าหมายก่อนจะใช้กรงเล็บเข้าปิดจ็อปเหยื่อด้วยความเด็ดขาด! โดยเหยื่อส่วนมากของอัสวังประเภทนี้คือแม่ที่กำลังท้องลูกอ่อน โดยเมื่อเสร็จภารกิจมันจะแปลงกายกลับเป็นสัตว์เพื่อหลบหนีออกจากพื้นที่สังหาร
อัสวังกินศพ: อัสวังประเภทสุดท้ายที่เปรียบเสมือนรุกกี้ผู้เล่นหน้าใหม่ที่กำลังอัพเลเวลกับบ็อตในเกม พวกมันมักจะมองหาศพที่เพิ่งจะเสียชีวิตเพื่อนำมากิน ก่อนจะปลุกเสกต้นกล้วยให้มีลักษณะเหมือนกับศพที่พึ่งรับประทาน เอามาวางหลอกตา ในบางครั้งอัสวังประเภทนี้สามารถปลอมเป็นมนุษย์เพื่อความสะดวกในการหาอาหาร
ภาพแนบ: ภาพจากอนิเมชั่นเรื่อง Trese ของ Netflix ซึ่งรวมเอาตำนานภูติผีมาใช้ดำเนินเรื่อง
สำหรับต้นกำเนิดของอัสวังนั้นถูกเล่าว่าเป็นตำนานที่เริ่มขึ้นในเขตวิซายันตะวันตก ของเกาะปาไนย์ ประเทศฟิลิปปินส์จนถูกขนานนามว่าเป็น “บ้านเกิดของอัสวัง” ขณะที่หลักฐานบางแหล่งระบุว่า ปีศาจตนนี้อาจเป็นผลงานของชาวสเปนที่เข้ามาตั้งรกรากในยุคล่าอาณานิคม
เนื่องจากมันมีลักษณะผสมผสานระหว่าง แวมไพร์, มนุษย์หมาป่า, และแม่มดเข้าไว้ด้วยกัน อย่างไรก็ตามคุณลักษณะและวิธีการล่าเหยื่อแบบโหดสัสของมันก็ทำให้ปีศาจอัสวังกลายเป็น “ผีประจำชาติ ฟิลิปปินส์” ไปอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ
ภาพแนบ: ผีโปจง วิญญาณในร่างศพที่ยังไม่ไปสู่สุขคติ
*** อินโดนีเซีย - ผีโปจง (โพคอง) ***
ผมขอปิดท้ายเรื่องเล่านี้ด้วยเรื่องราวของโปจง (คนไทยเรียกติดปากว่า โพคอง)
โปจงมีเอกลักษณ์และมีความเป็นมาที่น่าเห็นใจกว่าผีตัวอื่นๆ ที่เราหยิบมาเล่า โดยจุดกำเนิดของมันเกิดขึ้นจากศพที่ถูกนำมาห่อร่างด้วยผ้าดิบหรือผ้าลินินสีขาว พร้อมกับมัดสามจุดบนร่างกายได้แก่ ศีรษะ, ลำคอ, และปลายเท้า เพื่อให้วิญญาณยังอยู่ในร่างเป็นเวลา 40 วัน (ไม่อยากให้วิญญานออกจากร่างจนกว่าพิธีทางศาสนาจะเสร็จสิ้น) แต่หากเลยเวลาดังกล่าวร่างที่ถูกทิ้งไม่มีใครแก้มัดจะกลายเป็น “ผีโปจง” ออกอาละวาดสร้างความลำบากให้กับผู้สัญจร หรือปัวจงบางตนสามารถปรากฏกายใกล้กับบ้านของสมาชิกในครอบครัวที่เคยทอดทิ้งตน เพื่อกดดันให้กลับมารับผิดชอบ
ภาพแนบ: การติดตามขอความช่วยเหลือของโปจง (ภาพจาก Pocong the origin)
แม้ว่าเจตนาหลักของโปจงนั้นคือการขอความช่วยเหลือให้ซักสักคนปลอดปล่อยมันไปสู่สุขคติ แต่ด้วยรูปแบบการปรากฏด้วยเทคนิคแบบตุ้งแช่! ที่ไม่ให้ซุ่มให้เสียง พร้อมความสามารถกระโดดสูงกว่า 4 เมตร ย่อมทำให้ผู้พบเห็นต่างหลบหนีไม่คิดชีวิต แต่หากใครกล้าพอจะเข้าไปช่วยปลดเชือกทั้งสามจุดและส่งมันไปสู่สุขคติก็จะได้ความสุขความเจริญประหนึ่งคำโบราณว่า “ผู้ทำดีย่อมได้ดี” อะไรอย่างนั้น…
อย่างไรก็การรวบรวมความกล้าเข้าไปช่วยเหลือปัวจงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะสภาพศพของมันมีความสยดสยองตั้งแต่ ใบหน้าเขียวซีดมีดวงตาลึกกลวงโบ๋พร้อมมีกลิ่นน้ำหนองคละคลุ้งและถ้าหากศพไหนดันมาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุหรือถูกฆาตกรรมแล้วคุณก็จะได้ความสยองขวัญแบบแอดออนเพิ่มเข้าไปอีก
ภาพแนบ: จนท ในชุดโปจง
ในปัจจุบันเรื่องราวของมันถูกนำมาเล่าซ้ำและดัดแปลงเป็นตำนานเมืองเช่น ตำนานโปจงพลาสติกซึ่งระบุว่าเป็นหญิงสาวตั้งครรภ์ที่ถุกแฟนหนุ่มฆาตกรรมแล้วใช้พลาสติดห่ออาหารมามัดกับร่างทำให้หล่อนมักจะปรากฎตัวเพื่อขอให้ผู้กล้าซักคนช่วยปลดปล่อยวิญญาณ หรือโปจงสีแดงซึ่งเป็นวิญญาณอาฆาตที่จะตามไล่ล่าเหยื่อเพื่อสนองความแค้นของมัน
เร็วๆ นี้มีข่าวเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียได้ลงทุนแต่งเป็นโปจงไปดักตามจุดต่างๆ สร้างตำนานหลอกหลอน เพื่อให้คนไม่กล้าฝ่าฝืนเคอร์ฟิวในยามโควิด ซึ่งถ้าหากคุณเป็นชาวอินโดนีเซียผู้โชคร้ายเจอโปจงแบบนี้เข้า เราไม่เเนะนำให้คุณเข้าไปปลดเชือก เพราะนอกจากจะไม่ได้โชคลาภแล้ว… ยังจะถูกดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนมาตราการรักษาความปลอดภัยจากเชื้อโควิด 19 อีกต่างหาก! (แต่ถ้าวิ่งหนี เจ้าหน้าที่ที่มัดตัวเองเป็นโปจงอยู่ อาจจะวิ่งตามคุณไม่ทัน)
*** สรุป ***
เรื่องลี้ลับถือเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์ทุกเชื้อชาติ, ภาษา, และศาสนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลายเรื่องมีการปนเป ผ่านการหยิบยืมตามธรรมดาลักษณะพหุวัฒนธรรมของภูมิภาค
ขณะที่บางประเทศเลือกนำเอาสถานที่หรือความทรงจำทางประวัติศาสตร์มาประกอบเป็นตัวชูโรงในการเล่าเรื่อง จนเกิดเป็นตำนานที่มีเอกลักษณ์
ท้ายที่สุดหากผู้อ่านได้ยินตำนานที่คล้ายคลึง แต่ถูกเล่าตามแบบฉบับที่แตกต่างในแต่ละพื้นที่ก็สามารถนำมาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ
“หากมีคนสนใจตำนานภูติผีตนอื่นๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียน สามารถบอกพวกเราได้ ทาง THC จะนำบทความแบบนี้มาเสนออีกครับ”
แหล่งที่มา:
www (ดอต) blockdit (ดอต) com/posts/600414286ad6f10ce94ecc78
www (ดอต) mmtimes (ดอต) com/lifestyle/17285-the-ghost-guide-6-terrifying-ghouls-of-myanmar (ดอต) html
www (ดอต) amorerana (ดอต) com/articles/detail/Aswang
www (ดอต) amorerana (ดอต) com/articles/detail/singaporehunted
On The Other Side Of The Eye: Ghosts of Laos, or Phi (thaoworra (ดอต) blogspot (ดอต) com)
ผีข้าวปุ้นของประเทศลาว
(taiboeyewear (ดอต) com)
goodyfeed (ดอต) com/pocong-6-scary-things-you-probably-didnt-know-about-this-malaysian-ghost/
mgronline (ดอต) com/onlinesection/detail/9600000095311
en.wikipedia (ดอต) org/wiki/Krasue
www (ดอต) chiangmainews (ดอต) co (ดอต) th/page/archives/911070/
ท่านที่สนใจอ่านเรื่องราวแปลกๆ จากรอบโลกสามารถสมัครเข้ากลุ่ม illumicorgi
อนึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่ม exclusive ผมจะใช้ลงบทความพิเศษ ซึ่งมีเนื้อหาเจาะลึกกว่าที่ลงในเพจ The Wild Chronicles และบทความส่วนใหญ่ในกลุ่มจะเกี่ยวกับธีมของหนังสือที่ผมกำลังเขียน
ผู้ที่ต้องการสมัครเข้ากลุ่มให้ทำดังนี้เลยนะครับ
(1) กดสมัคร Line OA ของ The Wild Chronicles มาทาง link นี้
https://lin.ee/fNEO1jr
(2) กด add เป็นเพื่อน
(3) กด chat
(4) จากนั้น พิมพ์ชื่อที่ท่านใช้ใน Facebook มาทางช่องแชทของ Line OA เพื่อให้ทีมงานบ่งชี้ได้ว่าบัญชีของท่านสมัครมาแล้ว
(5) จากนั้นจะมีแอดมินมาคุยกับท่าน ให้แจ้งประเภทสมาชิกที่ท่านต้องการสมัคร แอดมินจะส่ง link เพื่อชำระค่าสมาชิก และแนะนำวิธีการเข้ากลุ่มต่อไป
::: ::: :::
สนใจอ่านเรื่องประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตาม เพจ The Wild Chronicles ได้เลยนะครับ
https://facebook.com/pongsorn.bhumiwat
และ youtube
https://youtube.com/user/Apotalai
3 บันทึก
1
2
3
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย